หลังจากผ่านพ้นงานแต่งงานไปได้สองอาทิตย์ชีวิตรักของเธอก็ไม่ค่อยเป็นดั่งใจเธอสักเท่าไหร่แต่ใช่ว่าเธอจะแคร์เพราะการที่ได้ครอบครองเขาก็พอใจมากแล้ว
"ไปไหนคะ?" เธอเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าผู้เป็นสามีกำลังเดินออกไปจากบ้านแต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะเสียงของเธอ
"ผมจำเป็นต้องบอกคุณ?" เขาเลิกคิ้วสูงเบื่อหน่ายเมียที่บ้านยิ่งกว่าอะไรเสียอีก
"พี่อคินณ์คะ" เสียงเล็กๆ ของมัลลิการ์น้องสาวต่างมารดาของเธอเดินเข้ามาในบ้านอย่างไร้มารยาทไม่เกรงใจเธอแม้แต่น้อย
"เลขาอะไรมาหาเจ้านายถึงที่บ้าน คงไม่ใช่เลขาธรรมดาแล้วหล่ะมั้ง" เธอพูดขึ้นโดยไม่สนใจว่าผู้หญิงตรงหน้าจะรู้สึกยังไง
"เปล่าค่ะลิการ์ไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นกับสามีพี่สาวตัวเองหรอกค่ะ" มัลลิการ์ก้มหน้าเศร้าจนทำให้อคิราถอนหายใจหนักๆ อย่างเบื่อหน่ายกันอาการหึงหวงของภรรยาสาวถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้เขาจะไม่มีทางพลาดไปมีอะไรกับเธอแน่นอน
แต่ก็พลาดเพียงเพราะเธอวางยาเขาในงานเลี้ยง
"น้อยไปน่ะสิ ทุกคนเขารู้สันดานเธอหมดนั่นแหละว่าเป็นคนยังไง เขาลืมหูลืมตากันหมดแล้วมีแต่คนโง่แบบคุณนั่นแหละที่โง่ดักดานอยู่แบบนี้" เธอต่อว่าสามีอย่างเหลืออดเพราะเขาโง่บรมเพราะมารยาของมัลลิการ์
"พอได้แล้วนิการ์พูดอะไรออกมาก็หัดเกรงใจคนอื่นบ้าง อย่างน้อยลิการ์ก็เป็นน้องสาวในสายเลือดของเธอเหมือนกัน" ชายหนุ่มต่อว่าเธอแต่ยังไงหล่ะนางร้ายอย่างเธอไม่สะทกสะท้านอยู่แล้ว
"รักกันจังเลยนะคะ กลัวไม่ได้ปีนต้นงิ้วหรอกหรอคะ ผู้หญิงนี่ก็อะไรรู้ว่าเขามีเมียอยู่แล้วก็ยังร่านมาหาถึงที่บ้าน" ยิ่งเห็นผู้หญิงตีหน้าซื่อเธอยิ่งหงุดหงิด
"ผมบอกคุณกี่ทีแล้วว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับลิการ์ และไม่มีวันที่จะคิดเป็นอย่างอื่นมีหวังคนอื่นเอาไปนินทาว่าชอบน้องเมีย" เขาพูดไม่ทันจบแต่เธอก็แทรกขึ้นเสียก่อน
"เอ้า ก็รู้อยู่แล้วนิคะว่ามันไม่สมควรแล้วทำไมยังไปมาหาสู่กันอยู่ เลขามีตั้งเยอะแยะทำไมไม่ไปหาคนอื่นแต่ก็มาเอาน้องเมีย" มัลลิการ์แอบกำหมัดแน่นเพราะคำพูดของเขาแต่ก็ต้องแสร้งตีหน้าเศร้าต่อไปเพื่อเรียกคะแนนความสงสาร เพราะยังไงการที่ทำให้อคิรามองผู้หญิงคนนี้เป็นนางร้ายในสายตามันก็ดีมากพอแล้ว
รอให้หย่ากันก่อนเถอะ เวนิการ์จะต้องร้องไห้เสียใจที่เสียผัวให้เธอจนแทบขาดใจตายไปเลย
"งั้นลิการ์ขอโทษนะคะที่เข้ามาวุ่นวายกับคุณอคินณ์" เธอตีหน้าเศร้าก่อนจะค่อยๆ เดินออกไปเพราะรู้ดีว่ายังไงอคิราจะต้องรั้งเธอเอาไว้
และมันก็ใช่ อคิรารั้งเธอไว้จริงๆ
"ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละลิการ์เธอไม่ได้ผิดอะไร คนที่ผิดคือพี่สาวเธอ" เขาเอื้อมมือไปจับมือเล็กๆ ของลิการ์ขึ้นมากุมเอาไว้แนบแน่นก่อนจะเดินออกไปโดยไม่สนใจว่าภรรยาจะรู้สึกยังไง
"สงสารคุณนิการ์เนอะป้า คุณอคิรานี่ก็คิดอะไรอยู่มีของดีอยู่ในมือแต่กลับไปคว้าเอาอะไรก็ไม่รู้ขึ้นมาเชยชมตั้งนานสองนาน คอยดูเถอะว่าสักวันคุณอคิราจะไม่เหลือใคร" ทุกคนที่นี่รู้ดีว่าใครเป็นยังไงก็มีแต่อคิรานี่แหละที่ไปหลงเชื่อมารยาของมัลลิการ์
"ฮึก" เธอหลุดเสียงสะอึ้นเบาๆ ดวงตากลมโตมองตามแผ่นหลังสามีหนุ่มที่ก้าวเท้าขึ้นรถขับออกไปด้วยกันกับมัลลิการ์ด้วยหัวใจที่เจ็บปวด
เธอไม่รู้ว่าเธอผิดอะไร การที่เธอนอนกับเขาคืนนั้นมันไม่ใช่แค่เขาคนเดียวสักหน่อยที่ถูกวางยาแม้พูดไปเขาก็ไม่มีทางจะเชื่อเธออยู่ดีเพราะดูท่าแล้วคนที่เขารักคงเป็นมัลลิการ์ไม่ใช่เวนิการ์
เมื่อลับสายตาจากผู้เป็นภรรยามาสักพักชายหนุ่มก็ผละมือออกเพราะไม่อยากให้ดูไม่ดีที่ทำตัวสนิทสนมกับน้องเมียมากเท่าไหร่เพราะแค่ลำพังที่ลิการ์มาเป๋นเลขาก็ถูกคนในบริษัทนินทาไม่น้อย
เพราะใครๆ ต่างรู้ดีว่าสองพี่น้องไม่ได้มีใครด้อยไปกว่าใครเพราะแต่ละคนก็มีความรู้ความสามารถไม่ต่างกันสักเท่าไหร่แต่ที่ถูกนินทาก็เพราะว่าแทนที่คนจะเป็นเลขาควรเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายหาใช่น้องเมียอย่างมัลลิการ์
มัลลิการ์ที่แอบไม่พอใจไม่น้อยที่เขาผละมือออกจากเธอเพียงเพราะต้องการประชดประชันภรรยาเธอจึงแกล้งทำตัวน่าสงสารให้เขาเห็นใจ
"ขอบคุณนะคะที่ไม่รังเกียจลูกเมียน้อยอย่างลิการ์" หญิงสาวตรงหน้าเศร้าเพื่อเรียกคะแนนความสงสารจากอคิราและมันก็ได้ผลเพราะเขาหันมาปลอบใจเธอ
"เฮ้อ เมื่อไหร่จะเลิกคิดว่าตัวเองเป็นลูกเมียน้อยสักทีอีกอย่างเรื่องนี้ก็ผ่านไปนานแล้วคุณน้า เอมอร ก็ไม่ได้อะไรแล้วลิการ์เลิกคิดมากสักทีเถอะ" เขาเองก็เริ่มจะงงแล้วหละว่าเธอเป็นยังไงเพราะแต่ละครั้งที่ทะเลาะกันกับภรรยาลิการ์จะชอบบอกว่าตัวเองเป็นลูกเมียน้อยมาโดยตลอดจนบางครั้งเขาก็แอบรำคาญไม่น้อยเหมือนกัน
ใครบ้างล่ะจะอยากประกาศตัวว่าฉันเป็นลูกเมียน้อยที่ทำให้ครอบครัวคนอื่นเขาแตกแยกน่ะ
เธอคิดอะไรอยู่กันแน่
อีกด้านของเวนิการ์เธอแอบร้องไห้นานสองนานจนมารดาอย่าง วิชุดา ต้องเข้ามาคุยด้วย
"แม่มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ" เธอเช็ดน้ำตาออกจากหางตาเพราะไม่อยากให้มารดาเห็นความอ่อนแอของตัวเองทั้งที่พยายามแล้วแต่มันก็ไม่ไหวเหมือนกัน
"แม่เห็นว่าหนูไม่ค่อยกลับบ้านน่ะ แม่ก็เลยแวะมาเยี่ยมคุณย่าคิดถึงทำไมไม่กลับบ้านเราหละลูก" เธอมาอยู่เรือนหอของ
"ฮรึก ทำไมพี่คินณ์ต้องเกลียดหนูด้วยคะ หนูทำอะไรผิดเรื่องคืนนั้นหนูไม่ได้วางยาพี่เค้าจริงๆ นะคะ แต่พูดไม่พี่เขาก็ไม่เคยเชื่อ" เธอสะอึ้นเบาๆ สวมกอดมารดาด้วยความเสียใจ
"อย่าร้องเลยลูก สักวันพี่เขาก็ต้องตาสว่าง แต่ถ้าหนูรอไม่ไหวจะหย่าแม่ก็ไม่ว่าอะไร" วิชุดาก็สงสารลูกสาวไม่น้อยที่ต้องมีชีวิตคล้ายกับเธอเพียงเพราะเรื่องมือที่สาม