นาฬิกาเรือนใหญ่ประจำบริษัทแพรพรรณดีไซน์กรุ๊ปบอกเวลาห้าโมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาเลิกงานของพนักงานทุกคน อัญญาดาที่กำลังเดินลงบันไดทรงพีระมิดอย่างอารมณ์ดีเพราะเมื่อสักครู่เธอพึ่งได้รับข้อความเตือนจากโทรศัพท์มือถือ ว่ามียอดเงินโอนเข้าบัญชีจำนวนห้าแสนบาท
เสียงฮัมเพลงเบาๆของอัญญาดาต้องหยุดชะงักลงเมื่อพบกับกฤตยชญ์ที่ยืนพิงรถยนต์คันหรูของเขาอยู่หน้าบริษัท โดยไร้เงาเลขาส่วนตัวอย่างธันวา หญิงสาวแสร้งทำเป็นไม่เห็นก่อนจะเลี่ยงเดินไปอีกทาง แต่ชายหนุ่มกลับเดินตามมา
“นี่คุณจะตามฉันมาทำไมคะ?”
“ฉันก็ตามเมียกลับบ้านไง...” กฤตยชญ์ตอบหน้าตาย
“เมีย?”
“ใช่! เมีย...”
“ใครเมียคุณไม่ทราบ!” หญิงสาวย้อนกลับทันควัน
“ก็เธอไง...”
คำพูดของชายหนุ่มทำให้อัญญาดาแม้มปากแน่นก่อนจะตรอกกลับชัดถ้อยชัดคำ
“ฉันไม่ใช่เมียคุณ!”
“อ่อ...ฉันก็ลืมไปเธอไม่ใช่เมีย แต่เป็นนางบำเรอนี่นะ”
พูดจบก็รีบยกมือขึ้นรับกับฝ่ามือเรียวที่ตั้งท่าจะฟาดลงมาที่ใบหน้าคมคายของตนทันที
“เงินก้อนแรกฉันโอนให้เธอไปแล้ววันนี้ เพราะฉะนั้นหน้าที่นางบำเรอของเธอก็ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นวันแรกเหมือนกัน ฉันยุติธรรมดีไหมล่ะ?”
“คุณมันหน้าเลือด!”
“ไปขึ้นรถ...อย่าให้ฉันต้องพูดมาก”
หญิงสาวจ้องตาเขาเขม่งพลางมองไปรอบๆ ก่อนจะตัดสินใจสะบัดแขนออกจากมือหนาและเดินไปขึ้นรถตามคำสั่งของชายหนุ่ม เมื่อเห็นว่าพนักงานหลายคนเริ่มทยอยออกมาจากบริษัทแล้ว เธอแค่ไม่อยากเป็นขี้ปากชาวบ้านเท่านั้น
“นี่คุณจะพาฉันไปไหน?”
คำถามแรกถูกถามขึ้นทันทีที่กฤตยชญ์เข้ามานั่งในรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว
“คอนโดฯของเธอไง”
“ไปคอนโดฯฉันทำไม นั่นมันพื้นที่ส่วนตัวของฉัน”
“แต่มันก็เคยเป็นรังรักเก่าของเรานะ เผื่อว่าเธอจะจำไม่ได้...” ชายหนุ่มยียวนอย่างอารมณ์ดี เริ่มชะลอความเร็วลงเปลี่ยนเป็นขับเรื่อยๆไม่รีบร้อน
“ทุเรศ!”
“อ้อ...ลืมบอกอีกเรื่อง ฉันจะย้ายเข้าไปอยู่กับเธอด้วยเพื่อความสะดวกสบายในการบริการของเธอ”
“ไม่ได้นะ!!” หญิงสาวตกใจตะโกนร้องห้าม เขาจะมาอยู่กับเธอได้อย่างไรถ้าเกิดพี่อัฐของเธอมาหาละ จะทำยังไง?
“ทำไม? กลัวไอ้อัฐพลสุดที่รักสุดสวาทของเธอมันมาเห็นรึไง”
“ใช่!!”
กฤตยชญ์แค่แกล้งถามดูแต่คำตอบมาดมั่นของหญิงสาวทำให้เขาเลือดขึ้นหน้าอย่างบอกไม่ถูก เผลอสะบัดมือตบพวงมาลัยไปแรงๆทีหนึ่ง
“ดี!! ให้มันมาเห็นแล้วอกแตกตายไปเลย...”
“ถ้าพี่อัฐตายพี่สาวของคุณก็คงจะอกแตกตายเหมือนกันนั่นแหละ”
“อย่ามาลามปรามพี่สาวฉัน!!”
“งั้นคุณก็ไม่ควรคิดอะไรตื้นๆอย่างเช่นการย้ายไปอยู่กับฉัน...”
“นั่นเป็นเรื่องที่ฉันคิดมาดีแล้ว”
อัญญาดาหน้าตึงเมื่อได้ฟังคำตอบจากชายหนุ่ม เขาช่างดื้อด้านเสียจริง ในเมื่อห้ามเขาไม่ได้เธอก็คงต้องหาวิธีการอื่นเพื่อขัดขวางแทน คงไม่ปล่อยให้เขาได้ทำอย่างที่พูดแน่
คอนโดฯระดับกลางใจกลางเมือง
“จะว่าไปห้องเธอก็ใหญ่โตดีอยู่นะ คงจะแพงน่าดู” กฤตยชญ์มองไปรอบๆเมื่อเข้ามาภายในคอนโดฯของอัญญาดา ก่อนจะเดินสำรวจไปทั่วเพราะวันนั้นชายหนุ่มแทบไม่ทันได้มองอะไรเอาแต่จดจ่ออยู่การลงทัณฑ์หญิงสาวจอมดื้อ
“จะถูกจะแพงแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ” หญิงสาวว่าพร้อมกับเดินเข้าไปในครัวก่อนจะเทน้ำเย็นใส่แก้วดื่มแก้กระหาย
“ไหนน้ำฉันล่ะ?” ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นหญิงสาวเดินออกมามือเปล่า
“อยากกินก็ไปรินเอาเองสิ มือง่อยรึไง”
“เหอะ!” กฤตยชญ์ทำเสียงเหอะหะอย่างไม่ถือสา คนปากดีคอยดูเถอะจะทำให้อ่อนระทวยเลยทีเดียว
กฤตยชญ์ยังคงง่วนอยู่กับการจับนั่นดูนี่จนเพลิน กระทั่งเหลือบไปเห็นรูปถ่ายของอัญญาดาที่กำลังยิ้มหวานให้กล้องใส่กรอบสีชมพูน่ารักตั้งอยู่ใกล้โซฟาที่หญิงสาวนั่งอยู่จึงถือวิสาสะหยิบขึ้นมาดู
“ทำเป็นแอ๊ปนะ คิดว่าสวยเหรอ?” ชายหนุ่มพูดกับรูปถ่ายเบาๆ ก่อนที่กรอบรูปจะถูกแย่งไปโดยหญิงสาวเจ้าของรูปนั่น
“อย่ายุ่งกับของๆฉัน!!” หญิงสาวพูดเสียงเข้มน่าตาตื่น ราวกับตกใจอะไรบางอย่างที่สามารถทำให้เธอจิตหลุดได้ขนาดนี้ ก่อนจะรีบเดินเข้าห้องนอนไปพร้อมทั้งกรอบรูปปริศนานั่นที่กฤตยชญ์มองอย่างไรมันคือรูปถ่ายธรรมดา
“หรือมันมีอะไรมากกว่านั้น!”