ตอนที่ 1-2

1451 คำ
ห้องประชุมใหญ่ “อัญ ทำไมถึงมาสายนักล่ะ” “ทะเลาะกับคนบ้านิดหน่อยน่ะริษา” อัญญาดาตอบคำถามของเพื่อนรักคนสวยอย่างอริสรา ที่ถามขึ้นมาทันทีที่เห็นเธอเดินเข้ามาในห้องประชุม ทั้งๆที่ผู้บริหารและพนักงานที่เกี่ยวข้องก็อยู่กันครบหมดแล้ว จะเหลือก็แต่หัวโต๊ะสำหรับประธานบริหารเท่านั้นที่ยังว่างอยู่ หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกอย่างน้อยเธอก็ไม่ได้มาสายเพราะยังมีคนที่สายกว่าเธออีก คิดแล้วก็แอบเซงไม่ได้ นี่เธอรีบจนขาแทบจะพันกันเพื่อจัดการกับเสื้อผ้าหน้าผมที่กระเซอะกระเซิงให้เข้าที่และเปลี่ยนรองเท้าคู่ใหม่ที่เก็บสำรองไว้ที่โต๊ะทำงาน โชคดีไม่น้อยที่เธอเป็นคนรอบคอบในระดับหนึ่ง ไม่อย่างนั้นคงได้เดินเท้าเปล่าเข้าห้องประชุมเป็นแน่ “นี่ท่านประธานคนใหม่ยังไม่มาอีกเหรอริษา” อัญญาดาหันไปกระซิบถามเพื่อนสาวเสียงเบา เมื่อยังไม่เห็นแม้แต่เงาของท่านประธานที่ใครๆต่างก็อยากเจอ และหนึ่งในนั้นต้องไม่ใช่เธอแน่ ก็มันเรื่องอะไรที่เธอจะต้องอยากเจอคนของ เลิศไพศาลกูล!! “ยังเลยอัญ ท่านคงติดภารกิจอย่างอื่นอยู่น่ะ” “อาจจะตื่นสายก็ได้นะอัญว่า” สิ้นเสียงพูดทีเล่นทีจริงของอัญญาดาทั้งสองสาวเพื่อนซี้ก็แอบหัวเราะคิกคักกันอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะชะงักลงเมื่อประตูใหญ่ของห้องประชุมถูกเปิดออก เผยให้เห็นชายหนุ่มน่าตาดีสองคนเดินเข้ามา พร้อมกับอัญญาดาที่มองผู้มาใหม่ตาไม่กระพริบ ...ตาบ้านั่น!!... หญิงสาวเบ้หน้า ก่อนจะพินิจมององหนุ่มที่ก้าวเดินตรงไปยังหน้าห้องประชุมอย่างมั่นคง ใบหน้าของพวกเขาทั้งคู่เรียบเฉยแววตาเด็ดเดี่ยวยากที่จะคาดเดา อายุอานามของทั้งสองคนดูๆแล้วไม่น่าจะเกินสามสิบเสียด้วยซ้ำ แต่การแต่งตัวของพวกเขากลับดูภูมิฐานและน่าเชื่อถือ แม้ว่าการแต่งตัวของไอ้บ้าคนนั้น เอ่อ หมายถึง ผู้ชายคนแรกจะมีดีไซด์ที่แปลกตาราวกับไม่ใช่สูททางการที่เหมาะแก่การใส่เข้าประชุมเท่าไหร่นัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ชุดของเขาดูดีไม่หยอกเลยทีเดียว ...นี่ก็แอบไปเปลี่ยนชุดใหม่มาแล้วด้วยสินะ เหอะ!หมั่นไส้ชะมัด!... สองหนุ่มหยุดยืนอยู่ที่หัวโต๊ะประจำตำแหน่งของประธานบริหาร ทำให้อัญญาดาที่มองตามอยู่ถึงกับตากระตุก รับรู้ได้ถึงรางสังหรณ์บางอย่างที่เริ่มคืบคานเข้ามา ซึ่งผู้ชายคนนั้นก็หันมาสบตากับเธอชั่วครู่ก่อนที่เขาจะแสยะยิ้มออกมา ยิ่งเพิ่มให้ใบหน้าหล่อเหลานั่นดูเย็นชาขึ้นมาอีกไม่น้อย ต่างจากใบหน้าเซ็งโลกของเขาเมื่อตอนที่เจอกันก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง “นี่คือคุณกฤตยชญ์ เลิศไพศาลกูล ประธานบริษัทคนใหม่ของแพรพรรณดีไซด์กรุ๊ปครับ” เสียงเข้มเรียบนิ่งของหนุ่มหล่อข้างกายของกฤตยชญ์พูดขึ้นเพื่อแนะนำเจ้านายคนใหม่ให้ทุคนให้ที่ประชุมได้รู้จัก ก่อนที่เจ้าตัวจะเอ่ยทักทายอีกรอบครั้งด้วยใบหน้านิ่งเฉย ดูน่าเกรงขามอยู่ในที “ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน ก่อนอื่นผมต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ทุกท่านต้องรอ ทั้งที่วันนี้เป็นวันแรกของผมแต่กลับมีเหตุการณ์ให้ต้องมาสายอย่างเลี่ยงไม่ได้” กฤตยชญ์พูดเสียงนิ่งไม่ต่างจากแววตาที่เรียบเฉยดุดัน ชายหนุ่มกวาดสายตามองทุกคนที่กำลังมองมายังเขาเป็นตาเดียว ก่อนที่สายตาคมจะปะทะเข้ากับดวงตากลมโตที่ยิ่งโตเข้าไปอีกเมื่อสาวเจ้ากำลังเบิกตากว้างด้วยท่าทางตะลึงงัน หึ! อยู่ใกล้ตัวแบบนี้ก็ดี จะได้เรียกร้องให้สะใจกันไปข้าง! “หลังจากที่ทุกคนต้องรอผมในวันนี้ หลายคนก็คงไม่ชอบ เพราะมันก็ทำให้เราเสียเวลาที่มีค่าโดยใช่เหตุ ฉะนั้นคนคนเดียวไม่ควรทำให้ใครหลายๆคนต้องเสียเวลา การตรงต่อเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญ เข้าใจไหมครับ!” อัญญาดาหน้าเสียคิ้วสวยขมวดเป็นปมแน่น เมื่อกฤตยชญ์จงใจเน้นย้ำพร้อมทั้งมองมาทางเธอ แม้ว่าชายหนุ่มจะทำเหมือนกับว่ากวาดตามองไปทั่วแต่เธอก็ไม่ได้โง่ถึงขั้นที่จะดูไม่ออกว่าเขากำลังแอบจิกกัดเธออยู่! “ผู้ชายอะไร คิดเล็กคิดน้อยชะมัด” หญิงสาวบ่นพึมพำ แต่เพื่อนสาวอย่างอริสรากลับยื่นหน้าเข้ามาถามเมื่อคิดว่าเธอกำลังพูดด้วย “อัญว่าไงนะ...” “อ๋อ...เปล่าจ้ะ! อัญก็บ่นนั่นนี่ไปเรื่อยอ่ะ อย่าสนใจเลย” สิ้นเสียงของอัญญาดาอริสราก็พยักหน้ารับงึกงักอย่างน่ารักก่อนจะหันไปฟังเจ้านายคนใหม่ที่ยังคงพูดอยู่ ในขณะที่อัญญาดานั้นได้แต่นั่งตีหน้ามึน ฟังเข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวา “เพื่อเป็นการไถ่โทษที่วันนี้ผมทำให้ทุกคนต้องรอ กลางวันนี้ผมก็เลยสั่งอาหารจากภัตตาคารมาให้ได้ทานร่วมกัน และสุดท้ายนี้ผมสัญญาว่าจะบริหารแพรพรรณดีไซด์กรุ๊ปให้ดีที่สุด พนักงานทุกคนคือครอบครัว เราจะเดินไปด้วยกันอย่างช้าๆ แต่มั่นคง ขอบคุณครับ” กฤตยชญ์โค้งตัวลงเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมทั้งเสียงปรบมือดังระงมที่ดังไล่หลังมาไม่ขาดสาย พนักงานทุกคนต่างโห่ร้องอย่างสดใสในความเป็นกันเองก็เจ้านายคนใหม่ที่เป็นกันเองและไม่ถือตัวแม้ว่าในบางครั้งสีหน้าท่าทางของเขาจะดูดุดันและเย็นชาไปบ้างก็ตาม โดยเฉพาะพนักงานสาวๆที่ดูจะกรี๊ดกร๊าดและตื่นเต้นเป็นพิเศษ ก็นานๆทีจะมีอาหารตามาให้ได้แทะโลมถึงที่ขนาดนี้นี่นา จะมีก็แค่หญิงสาวหน้าสวยสุดเซ็กซี่ที่มีดีกรีเป็นถึงนักดีไซเนอร์หน้าใหม่ไฟแรงพ่วงท้ายด้วยตำแหน่งเจ้าแม่แฟชั่นแห่งแพรพรรณ อย่างอัญญาดาเท่านั้นที่นั่งทำหน้าเบื่อโลกท่ามกลางเสียงเฮฮารอบกาย “กรี๊ดดด พ่อเทพบุตรของเจ้ คนอะไร ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งเก่ง ใจดีอีกต่างหาก เอาใจไปเลยแบบนี้!!” เกศรินทร์ หรือ เก๋ ผู้ช่วยดีไซเนอร์กรี๊ดกร๊าดขึ้นพลางทำหน้าฝันหวาน มองตามประตูที่ปิดลงไปแล้วตาเยิ้ม จนอริสราที่นั่งข้างถึงกับหลุดขำออกมาในท่าทางของหญิงสาวรุ่นพี่ “อะไรจะขนาดนั้นคะพี่เก๋” “โธ่! ริษา บริษัทเราร้างหนุ่มหล่อแบบนี้มานานแล้วนะ ให้พี่ได้เพ้อกับเขาบ้างเถอะ” “เทพบุตรเหรอ มารชัด หมอนั่นมันลวงโลก!” เสียงอัญญาดาดังแทรกขึ้นก่อนที่ร่างบางจะลุกพรวดออกจากเก้าอี้ด้วยหน้าตาไม่สบอารมณ์แล้วเดินออกจากห้องประชุมไปโดยมีอริสราและเกศรินทร์มองตามอย่างงงๆ “อ้าว แม่คนนี้ เป็นอะไรของเขารอบเดือนขาดรึไงกัน!” “เอ่อ...เรื่องนี้ริษาก็ไม่ทราบนะคะ” อริสรากระพริบตาปริบๆอย่างเด๋อด๋า ไม่เข้าใจอารมณ์ที่แปรปรวนของเพื่อสาวคนสนิทเหมือนกัน ก่อนที่จะหันไปชักชวนเกศรินทร์ให้ออกจากห้องประชุมตามอัญญาดาไปบ้าง ห้องผู้บริหารแพรพรรณดีไซด์กรุ๊ป “เรื่องที่นายให้ผมตามสืบเมื่ออาทิตย์ก่อนได้แล้วนะครับ นี่เป็นประวัติและรูปถ่ายครับ” ธันวา หนุ่มหล่อมาดเข้มเลขาคนสนิทของกฤตยชญ์พูดขึ้นพร้อมทั้งวางซองเอกสารสีน้ำตาลที่พึ่งได้มาลงบนโต๊ะทำงานของเจ้านาย “ขอบใจ นายมีอะไรก็ไปทำเถอะ” “ครับ” ธันวาโค้งตัวให้เจ้านายเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งไว้เพียงกฤตยชญ์ที่นั่งมองซองเอกสารที่อยู่ตรงหน้านิ่งงัน ...ต้นเหตุแห่งความร้าวฉานและความเจ็บปวด อยากจะรู้จริงๆว่าคนประเภทนี้มันหน้าตาเป็นยังไง!!... ไวเท่าความคิด มือหนาคว้าซองเอกสารมาเปิดออกก่อนจะหยิบรูปถ่ายหลายสิบใบออกมา ดวงตาคมนิ่งมองรูปถ่ายทีละใบทีใบอย่างช้าๆ ก่อนที่ริมฝีปากหยักสวยจะแสยะยิ้มเลือดเย็นออกมา แววตาพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างที่ใครๆได้เห็นเป็นต้องหนาวเหน็บไปจนสุดขั้วหัวใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม