ข่าวจากแดนเหนือ

2239 คำ
"กงซานเจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าไม่เคยคิดจะเลิกเป็นทหารเลยข้าอยากจะเป็นนักรบมาตั้งแต่เด็กพอโตขึ้นข้าจึงขออุทิศตนให้กับกองทัพ ตลอดมาข้าไม่เคยคิดหวั่นเกรงต่อความตายเลยสักครั้งจนมาถึงตอนนี้ข้ากลับอยากมีชีวิตอยู่รอดเพื่อคนที่รัก ข้าอยากมีชีวิตเรียบง่ายอยู่กับครอบครัวทุกวันมีอิงอินอยู่ข้างกายและได้มองลูก ๆ วิ่งเล่นรอบบ้าน" นานแค่ไหนแล้วที่หยางเล่อไม่เคยคิดทำสิ่งใดเพื่อตัวเองเลย ตั้งแต่เด็กจนโตเขาก็ทำเพื่อบิดาและพี่ชายมาตลอดครั้งนี้เขาอยากจะทำอะไรเพื่อตัวเองและลูกเมียบ้าง..เพียงออกจากอู่ซานมาไม่ถึงวันเขาก็เริ่มคิดถึงนางแล้ว ภารกิจปราบกองโจรครั้งนี้เขาจะต้องจัดการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วเพื่อจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวเสียที "เมื่อปราบกลุ่มโจรครั้งนี้สำเร็จเจ้าก็ขอกับฝ่าบาทสิ ไม่ต้องห่วงเรื่องกองทัพยังมีข้าอยู่ทั้งคน หากแต่งงานแล้วข้าจะพาภรรยาทั้งสองไปอยู่แดนเหนือด้วยหวังว่าพวกนางจะเต็มใจไปอยู่กับข้านะ" "ขอบใจนะสหาย เจ้าคิดว่าหากข้าไม่ได้เป็นแม่ทัพแล้วฝ่าบาทจะเลิกใช้งานข้าอย่างนั้นหรือ" "ก็ยังดีกว่าให้เจ้าไปประจำอยู่แดนเหนือนั่นแหละน่า" "หึ ๆ นั่นสินะ" มีแค่เวลาพักม้าเท่านั้นที่บุรุษทั้งสองพอจะสนทนากันได้ พอหมดเวลาพักก็พากันก็เร่งฝีเท้าม้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ระหว่างอู่ซานกับแดนเหนือพวกเขาต้องใช้เวลาอย่างเร็วก็สิบวันนั่นคือเต็มที่แล้วกับระยะทางที่ยาวไกลและยังมีภูเขาน้อยใหญ่ขวางกั้นอยู่มาก มายทั้งเส้นทางก็แสนหฤโหด แต่หากเข้าสู่เขตแดนเหนือได้แล้วพวกเขาก็จะเจอกับสวรรค์ดี ๆ นี่เอง ต่อให้มีหิมะและอากาศหนาวเหน็บแต่ก็ไม่ได้หนาวตลอดทั้งปีเหมาะยิ่งที่จะใช้พื้นในหุบเขาไว้เป็นที่ซ่องสุมและสร้างฐานทัพ คงจะเป็นอย่างนี้สินะกลุ่มโจรน้อยใหญ่ถึงได้รวมตัวกันเพื่อหวังจะยึดครองแดนเหนือให้ได้ ศึกคราวนี้คงจะไม่ง่ายเพราะกลุ่มโจรเหล่านั้นก็คุ้นเคยกับพื้นที่เป็นอย่างดี หยางเล่อไม่ได้กังวลว่าตัวเองจะแพ้เพราะมันเป็นไปไม่ได้ แต่เขากังวลเรื่องของเวลามากกว่าเขาไม่อยากสู้รบนานเป็นปีเดี๋ยวลูก ๆ ก็จำหน้าเขาไม่ได้กันพอดี จวนสกุลอิง... "ฮูหยินอิง ระหว่างท่านกับท่านอ๋องนี่มันยังไงนะ" เมื่อทั้งสี่สาวได้มารวมตัวกันและนั่งจิบน้ำชาอย่างสบายอารมณ์ที่ศาลาพักด้านหลังของจวน อิงอินก็ถูกตั้งคำถามจากเหลียนอ้ายทันทีวันนี้พวกนางว่างมาก ถึงได้มีเวลามานั่งจิบชาเพื่อสนทนาปัญหาชีวิตกัน เด็ก ๆ ก็มีคนคอยดูแลเป็นหูเป็นตาให้มากมายอิงอินจึงไม่ได้ห่วงเรื่องของพวกเขาเท่าใดนัก อู่ซานเหมือนเป็นถิ่นฐานของเด็กแฝดไปแล้ว ตอนนี้จวนสกุลอิงได้ขยายกว้างออกไปอีกโดยฝีมือของพี่มั่วชง แทนที่จะเป็นจวนของสกุลฮัวที่สร้างขึ้นมาใหม่แต่คุณชายฮัวกลับยินดีที่จะได้อยู่ร่วมกับสกุลอิงเสียมากกว่า และหลังจากที่กลับมาถึงอู่ซานพี่สาวเหลียนทั้งสองก็ถูกยกสถานะขึ้นไปอีกขั้นซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างจากปกติเท่าใดนัก เพราะปกติอิงอินเองก็นับถือพวกนางดุจพี่สาวอยู่แล้ว ก็มีแต่พี่สาวเหลียนทั้งสองที่ยังคงปฏิบัติตัวเช่นเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง "พวกเจ้ารู้อยู่แล้วยังจะมาถามนางอีก ว่าแต่น้องสาวของพี่ทำไมถึงยอมใจอ่อนให้เขาง่าย ๆ ล่ะหื้ม" อิงปินกระแซะถามอย่างใคร่รู้ ก็อิงอินขี้อายปานนั้นนี่นามันยากที่จะเชื่อใช่ไหมล่ะ "มันน่าอายใช่ไหมเจ้าคะที่ข้าใจง่ายเกินไป" "พี่แค่เย้าแหย่เจ้าเล่นเรื่องของหัวใจมีสิ่งใดต้องอายกันเล่า เจ้าไปแย่งของคนอื่นมาหรือก็ไม่ใช่ หรือจะคอยให้บุรุษตามเกี้ยวพาเจ้าอยู่ฝ่ายเดียวล่ะ ใจของเราหากไม่ได้กระทำผิดต่อคนอื่นก็จงทำตามใจเราเถิด" อิงปินพูดในสิ่งที่นางเห็นว่าใช่ สิ่งที่น้องสาวตัดสินใจทำลงไปนางก็ไม่เห็นว่ามันจะผิดตรงไหนท่านอ๋องก็สามีของนาง[อดีตสามี]ทั้งยังเป็นพ่อของลูกอีก มันจะใจง่ายและน่าอายตรงไหนกัน "พูดมาแล้วก็ช่างโชคดีนะเจ้าคะที่เราไม่ได้เกิดในตระกูลสูงส่ง คุณหนูในห้องหอเหล่านั้นพวกนางจะมีความสุขจริงหรือไม่เจ้าคะ" เหลียนอวี่ถามขึ้นบ้าง "เจ้าต้องถามอาอินแล้วล่ะ แน่ะอาอินนั่งเหม่ออะไรอยู่หรือ ดูเจ้าตอนนี้สิเหมือนคนถูกสามีทิ้งไม่มีผิด เขาเพิ่งจะไปไม่กี่วันเองนะ" "ข้าเป็นเช่นนั้นหรือเจ้าคะ" อิงอินหลบสายตาของพี่สาว เหมือนกลัวว่าจะถูกจับได้กับเรื่องที่กำลังคิดอยู่ภายในใจ จะบอกเล่าให้พี่สาวฟังก็คงจะน่าอาย หลังจากค่ำคืนนั้นนางก็โหยหาอ้อมกอดของเขาอยู่ทุกค่ำคืนและยังคิดถึงรสรักที่เขามอบให้อีกด้วย ความคิดเช่นนี้ช่างวิปลาสนัก 'เฮ้อ..นางต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ' "เจ้าเป็นเช่นนั้นแหละแต่ไม่ต้องอายหรอก ท่านอ๋องก็รูปงามปานนั้นจะไม่ให้น้องสาวของพี่ลุ่มหลงได้อย่างไร ว่าแต่เจ้าไม่ได้ใช้ยาห้ามครรภ์ใช่หรือไม่" "ไม่เจ้าค่ะข้าตั้งใจที่จะมีเขา แต่มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นท่านอ๋องก็อายุมากแล้วนะเจ้าคะ" "คิก ๆ กล้าว่าท่านอ๋องแก่หรือ แล้วเจ้าจะหน้าแดงไปทำไมล่ะ" "อ่า.." 'หมดกัน นางจะคิดอะไรไปพี่ปินก็รู้หมดเลยหรือนี่' อิงอินพูดอะไรก็ไม่ออกเพราะพี่สาวเหมือนจะรู้ใจนางไปเสียหมดทุกเรื่อง ฮ่า ๆ ๆ ๆ ทั้งสี่สาวใช้เวลาในช่วงจิบน้ำชาอย่างสนุกสนาน ในการนินทาสามีวัยฉกรรจ์ของพวกนาง ทำให้ผู้ที่บังเอิญผ่านมาได้ยินอย่างฮัวมั่วชงถึงกับขนลุกซู่ หึ ๆ ภรรยาของพวกเขาช่างเก่งกล้า 'คืนนี้เจ้าคงไม่พ้นโดนพี่ลงโทษแน่นอนอิงปิน' หลายวันผ่านพ้นจนเข้าเดือนที่สองและสามข่าวคราวจากแดนเหนือก็ยังคงเงียบเชียบ มันเงียบเกินไปทั้งที่มั่วชงก็ส่งสายลับขึ้นไปสืบหาข่าวอยู่หลายคนแต่จนป่านนี้ก็ยังไม่มีวี่แวว มั่วชงยังคงอยู่ในห้องหนังสือและมีอิงอินคอยมาเฝ้าอยู่ตลอดเวลา เขารู้ว่านางตั้งตารอฟังข่าวของชินอ๋องซึ่งก็ไม่ได้ต่างจากเขาเลย "พี่มั่วชงยังไม่มีข่าวจากท่านอ๋องเลยหรือเจ้าคะ" "อืม..ยังไม่มี ที่ไม่มีคงเป็นเพราะไม่มีเหตุร้ายเจ้าอย่าได้กังวลไปเลย ไปพักผ่อนเถิดสงสารเจ้าตัวน้อยบ้าง" มั่วชงรีบบอกให้นางไปพักเมื่อรับรู้ถึงสัญญาณบางอย่างที่ดูจะไม่ดีเอาเสียเลย "เจ้าค่ะ" อิงอินยอมไปอย่างว่าง่ายเพราะต้องถนอมครรภ์ให้ดีท้องบุตรครั้งนี้นางถูกประคบประหงมจนแทบจะกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ ทั้งยังมีหมอหญิงที่ถูกส่งมาจากวังหลวงให้มาคอยดูแลนางอย่างใกล้ชิดและครั้งนี้นางก็ท้องลูกแฝดอีกแล้ว ข่าวของนางกับท่านอ๋องที่ได้คืนความสัมพันธ์อันดีต่อกันก็ได้ล่วงรู้ไปถึงวังหลวงอย่างรวดเร็ว หากไม่ใช่พี่มั่วชงก็คงจะเป็นท่านอ๋องเองที่จัดการเรื่องนี้ อิงอินไม่ไต่ถามหาความเพราะนางก็ไม่คิดจะปิดบังใครจึงเป็นสาเหตุให้ทางวังหลวงรู้ความเป็นไปของนางอยู่ตลอดเวลา กระทั่งเรื่องที่นางตั้งครรภ์ครั้งนี้หมอหลวงใหญ่ถึงกับต้องมาตรวจครรภ์ด้วยตัวเองถึงได้รู้ว่านางกำลังท้องลูกแฝด ป่านนี้องค์จักรพรรดิคงได้มีพระราชโองการบางอย่างไว้ให้นางกับท่านอ๋องแล้วอย่างแน่นอน "ว่ามา" เมื่อเห็นว่าอิงอินไปแน่แล้วมั่วชงถึงได้เรียกคนของเขาออกมา "พิราบสื่อสารมาถึงแล้วขอรับ หลังจากที่ต่อสู้กับกลุ่มโจรมานับตั้งแต่วันนั้นเหมือนว่าฝ่ายเราจะชนะ ท่านอ๋องจึงไม่ได้ระวังตัวและทำให้พลาดพลั้งจนตกลงไปในหุบเหวลึกยังหาตัวไม่เจอเลยขอรับ และตอนนี้ท่านรองแม่ทัพต้องรับศึกกับกองโจรที่คิดว่าหมดไปแล้วแต่ไม่ใช่ ทั้งยังต้องแบ่งทหารลงไปตามหาตัวท่านอ๋องอีกนายท่าน.." "ข้ารู้แล้วเรียกคนของเราทั้งหมดที่มีหากจะรอคนจากเมืองหลวงคงจะไม่ทันการ ข้าไปด้วยไม่ได้แต่เจ้ารู้ว่าควรทำเช่นไร ข้าไว้ใจเจ้าอาฮวน นำตัวชินอ๋องกลับมาให้ได้หากทางโน้นหาตัวเจอแล้วพวกเจ้าจะต้องพาชินอ๋องกลับมาที่นี่ทันที ส่งจดหมายนี้ไปกับพิราบสื่อสารให้กับรองแม่ทัพกงซาน" มั่วชงยื่นจดหมายในมือให้กับมือขวาคนเก่งของเขาและสั่งงานอย่างกระชับก่อนที่พวกเขาจะรีบออกเดินทาง คนของเขาทั้งหมดไม่ได้เป็นแค่หน่วยคุ้มกันธรรมดา ทั้งหมดได้ฝึกฝนเหมือนกับเหล่าองครักษ์เงาทุกประการ เขาจึงไว้วางใจแม้จะไม่ได้เดินทางไปด้วยก็ตาม ครืดดดด "อาอิน! เจ้า.." มั่วชงไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อเห็นอิงอินยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่หน้าประตู เขาพลาดเองที่คิดว่านางกลับเรือนนอนไปแล้ว "ฮึก ๆ ฮึก ๆ ฮืออ เขาจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมเจ้าคะเขาจะทิ้งข้ากับลูกไปอีกไม่ได้ข้าไม่ยอมนะ" อิงอินร้องไห้ปานจะขาดใจเมื่อคิดถึงสามีและลูก ๆ ทั้งสี่คนโชคชะตาฟ้าดินก็ช่างกลั่นแกล้งนัก หรือสวรรค์จะไม่ให้นางได้สมหวัง หรือว่าสวรรค์จะไม่ยอมให้นางนั้นได้มีรักกันแน่ "อาอินเจ้าสบายใจเถิด ชินอ๋องดวงแข็งทั้งยังมีเจ้าและลูกรออยู่เขาไม่ยอมเป็นอะไรไปแน่" มั่วชงคงปลอบนางได้แค่นี้เพราะเขาก็ไม่รู้ชะตาของชินอ๋องเหมือนกัน เสียงพูดคุยของพวกเขาไม่ได้เบาเท่าใดนักจนอิงปินต้องออกมาตามเสียงนั้น นางถึงได้เห็นน้องสาวกำลังร้องไห้อย่างน่าสงสาร "ท่านพี่เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ" "อาปินพาอาอินไปพัก แล้วอยู่เป็นเพื่อนนางด้วย" "เจ้าค่ะ" คงเป็นเรื่องของชินอ๋องสินะน้องสาวของนางถึงได้เป็นแบบนี้ อิงปินรีบไปพยุงตัวน้องสาวเพื่อจะพากลับเรือนก่อนที่นางจะเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน "พี่ปินข้าไม่เป็นไรแล้ว" เมื่อตั้งสติได้อิงอินก็ทำเหมือนว่าตัวเองนั้นเข้มแข็งเต็มประดา จนพี่สาวรู้สึกหมั่นไส้ "เจ้าน่ะจะเก่งก็ให้รู้เวลาเสียบ้างคืนนี้พี่จะนอนด้วยให้แน่ใจว่าเจ้าจะไม่แอบร้องไห้ มันจะทำให้อาเล่ยและอาเอินตกใจรู้ไหม และเจ้าตัวเล็กในท้องนั่นอีก" "ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ" อิงอินลูบคลำท้องนูนน้อยอย่างปลอบขวัญ นางจะต้องเข้มแข็งเพื่อลูก ๆ ให้ได้ท่านอ๋องจะต้องไม่เป็นอะไรเขาสัญญากับนางแล้วว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย ค่ายทหารแดนเหนือ... "ท่านรองแม่ทัพกง จุดที่ท่านแม่ทัพตกลงไปมันลึกมากนะขอรับ" "ก็เพราะมันลึกเราถึงต้องรีบค้นหา ภายในสามวันต้องหาตัวของท่านแม่ทัพให้เจอ" สหายของเขาคนนี้ต่อให้เก่งกาจสักเพียงใดก็เป็นเพียงแค่มนุษย์หาใช่เทพเซียน ตกลงไปในเหวลึกขนาดนั้นเขาคิดว่าชินอ๋องจะต้องบาดเจ็บหนักแน่ ๆ หากทิ้งไว้เกินสามวันเกรงว่าสหายรักอาจจะไม่รอด "แล้วกลุ่มโจรที่เหลือและเชลยที่จับได้ล่ะขอรับ" "พวกโจรที่เหลือข้ายังรับไหวส่วนเชลยพวกนั้นจัดการพวกมันให้หมด อย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว" จะว่าเขาโหดไม่ได้ เขาไม่คิดจะไว้ชีวิตให้พวกมันมีโอกาสกลับมาแก้แค้นพวกเขาหรอกนะ "ขอรับท่านรองแม่ทัพ" กลุ่มโจรเหล่านั้นช่างไม่รู้จักสองพยัคฆ์แห่งเดนเหนือแต่สำหรับท่านแม่ทัพครั้งนี้เหมือนกับว่าใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวถึงได้พลาดพลั้งไปอย่างไม่น่าเชื่อ…

อ่านด้วยแอป

ดาวโหลดโดยการสแกนรหัส QR เพื่ออ่านเรื่องราวมากมายฟรี และหนังสือที่ได้รับการอัปเดตทุกวัน

อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม