ตอนที่ 8 ชื่อตอน มาม่าบลู

1450 คำ
พริกไทยตั้งชื่อลูกชายว่าน้องภาวี น้องภาวีตัวน้อยๆเลี้ยงง่ายน่ารัก มีคุณย่าคุณย่ามาผลัดกันเอาไปนอนด้วยแทบทุกวัน คุณปู่วัฒนาติดหลานมาก ถึงขนาดขอเลี้ยงหลานเองแล้วให้สองคนนั้นรีบมีลูกใหม่มาอีกคน “เดี๋ยวพ่อเลี้ยงหลานให้ หนูไม่ต้องเลี้ยงเองหรอก เดี๋ยวพอเลิกกินนมแม่แล้ว พ่อจะออกค่านมค่าแพมเพิร์สให้เอง แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพ่อจะเก็บเงินค่าโรงเรียนอนุบาลเอาไว้เยอะๆ ไปส่งเรียนแถวบ้าน พอถึงตอนเย็นพ่อก็ไปรับส่งให้ดีไหมล่ะ ” “โถ่ คุณพ่อ ลูกผมเพิ่งจะยังไม่ถึงเดือนเลย พ่ออย่าเพิ่งวางแผนเองซิครับ ” ปองปัญญ์แย้งออกไปและทำตาปรือขึ้นมา เพราะไอ้เจ้าปีศาจน้อยตัวนี้ มันร้องดังลั่นบ้านทุกสามชั่วโมงเลย ปองปัญญ์แทบจะบ้า ต้องไปมุดหัวนอนไกลๆเพื่อที่จะตื่นไปทำงานให้ได้ทัน ปองปัญญ์ยิ่งขยันมากขึ้นไปอีก ทำงานกลับมาจนดึกดื่น พอกลับดึกก็หมดแรงรีบหนีไปนอนมุดหัวไปในผ้าห่ม อุดหูด้วยปลั๊กอุดหูไปซะเลย พริกไทยที่รอปองมาทั้งวันก็หน้างอ เธออุตส่าห์ทำกับข้าวรอตาปองก็ไม่กิน พอลูกร้องเธอก็เร่งไปดูลูก นอนกอดลูกอย่างโมโหที่ปองปัญญ์กลับมาดึกๆแล้วไม่สนใจเธอ “หรือพอคนเรามีลูก จะไม่น่ามองอีกแล้วนะ ” พริกไทยมีอาการน้อยใจเพราะฮอร์โมนกับความกังวลเรื่องรูปร่าง เธอบวมอืดไปทั้งตัว ร่างกายไม่เหมือนเดิมเลยในตอนนี้ เธอต้องดื่มนมและอาหารบำรุงร่างกายจนแขนขาก็ใหญ่ขึ้น พริกไทยร้องไห้ออกมาในที่สุด เธอร้องไห้ไปเกือบสิบนาที ก่อนที่ลูกจะร้องดังขึ้นมาแล้วพริกไทยก็แทบจะเป็นบ้าไปอีกครั้ง “เธอรักแม่ขึ้นมาแล้วจริงๆ เพราะความลำบากหลังคลอดนี่มันโครตจะทรมานมากๆเลย ” พริกไทยไม่ได้ปรึกษาแม่แต่ว่าเธอพยายามอดทนให้มากเพื่อเจ้าอ้วนน้อยๆในอกเธอ ปองปัญญ์เริ่มมาโหมงานยุ่ง พริกไทยจึงต้องตื่นมาอุ้มลูกพาไปตลาด แล้วซื้อกับข้าวเข้ามาในทุกเช้า เธอจะตื่นก่อนลูก มาซักผ้าอ้อมและเสื้อผ้าของปองปัญญ์ในทุกๆวัน ก่อนที่น้องภาวีจะตื่นขึ้นมาร้องกินนมแล้วหลับไป พอลูกหลับเธอก็ไปทำงานบ้าน ถูบ้านกวาดบ้าน พอลูกตื่นก็ชงนมแล้วพาไปตลาดด้วยกัน ถือของกลับมาก็เร่งทำกับข้าวใส่ห่อไว้ ปองปัญญ์ไม่ชอบขนมปังแต่ชอบข้าวสวยในตอนเช้า พริกไทยเลยจะเหนื่อยหน่อยในตอนเช้า พอปองปัญญ์ตื่นมาเจอลูกร้องก็ทำหน้ายุ่ง คว้ากล่องข้าวได้ก็หายไปทำงาน พริกไทยออกมาจากอาบน้ำก็ไม่พบปองปัญญ์แล้ว “ฮรือ พอฉันมีลูกก็ไม่สวยแล้วใช่ไหมนะ ” พริกไทยร้องไห้ขึ้นมา ที่ตาปองนั้นหายไปไม่สนใจเธอ จะโทรหาก็ไม่ค่อยจะรับสายเลย พริกไทยนอนร้องไห้จนลูกร้องขึ้นมาปลุกสติของเธอ พริกไทยเร่งไปกอดลูกให้นมลูกแล้วเขย่าลูกนอนไปทั้งวัน จนคุณแม่ของปองปัญญ์มาหานั่นล่ะ คุณแม่สังเกตุได้จึงถามเธอขึ้นมา ”หนูไม่สบายใจหรือเปล่าลูก หน้าตาดูไม่ดีเลย ผู้ชายหน่ะจะไม่ค่อยชอบเด็กๆร้อง ยิ่งทำงานเหนื่อยก็จะหนีไปนอนคนเดียว ปล่อยให้เราคิดมาก หนูต้องอดทนนะลูก วันไหนไม่ไหวก็เอาไปส่งไว้กับแม่ ส่วนเจ้าปองหน่ะชอบทำตัวเป็นเด็ก หนูต้องถามให้เข้าใจว่าเหนื่อยหรือเป็นอะไรไหม เพราะผู้ชายเวลาเมียมีลูกอ่อน จะหงุดหงิดเพราะทำอะไรกับเราไม่ได้ แล้วลูกก็ยังร้องบ่อยๆอีก หนูต้องอดทนนะลูก “ ”ค่ะแม่ ไม่มีอะไรหรอกค่ะแม่ “ พริกไทยไม่เล่าอะไรให้แม่สามีฟังมาก เพราะสุดท้ายแม่สามีก็ไม่ใช่แม่เธอ แม่สามีอาจจะรักหลานแต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่รักคนอื่นที่ปองปัญญ์รัก ดังนั้น เธอจะเล่าอะไรออกไปมากก็ไม่ดี พริกไทยแสร้งทำตัวแสนสดชื่น แต่ในใจเหมือนมีพายุฝนฟ้าคะนอง เมฆมืดครึ้มคลุมจิตใจของเธอจนล้นไปหมด ”ยัยพริก เธออยู่ไหนนี่ ฉันอยู่หน้าคอนโดแกแล้ว “ มินตราเพื่อนสมัยเด็กของพริกไทยโทรมาหาในตอนบ่าย พริกไทยดีใจมากจึงโทรไปให้ลุงยามช่วยเปิดประตูที่ด้านล่างตึกให้มินตรานั้นขึ้นมา มินตราโผล่หน้าเข้ามาได้ก็ชื่นชมออกมาเยอะ พริกไทยยิ้มจางๆและไปหยิบน้ำมาให้เพื่อน มินตราเดินไปรอบๆและชื่นชมห้องของเธอไปทุกจุด ทดลองนอนในโซฟานอนในห้องแล้วชมออกมาไม่หยุด ”โอ๊ย โซฟานอนสบายจังเลยพริก ที่นอนแกก็นุ่ม แกหาผัวมาจากที่ไหนอ่ะ หาให้ฉันซักคนได้รึเปล่านะ ” “บ้า ใครจะไปช่วยใครหาผัวได้ แกอย่าพูดอะไรแบบนี้อีกนะมิน ” พริกไทยห้ามปราบมินตราลงไป มินตราตาสว่างวาบขึ้นมาอยู่นิดนึง แล้วนั่งกินซูชิ ที่ปองปัญญ์สั่งให้ร้านเดลิเวอร์รี่มาส่ง มินตรารู้สึกชอบใจมาก มองไปที่รูปปองปัญญ์ก็จำได้ว่าคือรุ่นน้องหน้าใสคนนั้นเอง คนที่เธอเคยแอบมองอยู่บ่อยๆ พอถึงจังหวะที่พริกไทยเผลอ มินตราก็ขโมยรูปและนามบัตรของปองปัญญ์ใส่ลงกระเป๋าไป โดยที่พริกไทยนั้นไม่รู้ตัวเลยซักนิด พอพริกไทยออกมาจากห้องน้ำ มินตราก็ชวนคุยเรื่องตลกๆสมัยเด็กๆ พริกไทยผ่อนคลายมากหัวเราะออกมาในที่สุด เธอผ่อนคลายมาก พอนึกขึ้นได้ว่าแม่กับแม่สามีมีของฝากมาให้เธอเยอะแยะ เธอเลยแบ่งให้มินตราไป ก่อนที่มินตราจะขอกระถางต้นไม้ใบหนึ่ง ที่มีลายสวยๆที่เพื่อนของปองปัญญ์นั้นให้มา พริกไทยเห็นว่ามันมีหลายชุดเลยให้เพื่อนไปคู่นึง มินตรายิ้มร่า ให้พริกไทยโทรลงไปด้านล่างให้เรียกลุงยามมาช่วยยกของลงไป พริกไทยยิ้มและเรียกลุงยามขึ้นมาให้ และรู้สึกดีใจที่ได้คุยเรื่องสมัยเด็กๆ ผ่อนคลายความเครียดบ้างในตอนนี้ พอตอนเย็นปองปัญญ์กลับมาก็ถามเธอว่าซูชิอร่อยไหม พริกไทยพยักหน้าขึ้นมา ปองปัญญ์ดึงจมูกเธอเบาๆแลกอดเธอแน่นๆถามเธอออกไป “เหงาเหรอ ช่วงนี้ปองยุ่งมากเลย มีงานสัมมนาและออกงานแสดงสินค้าเยอะ ” “อรืม วันนี้เพื่อนพริกมาหาด้วย ชื่อมินตราหน่ะ ได้คุยด้วยก็คลายเครียดลงไปเยอะ ไม่เหงาแล้ว อ้อ มินเค้าขอต้นไม้ไปนะ พริกเห็นมีหลายคู่เลยยกที่มีหลายอันให้ไปคู่หนึ่ง ไม่กล้าให้อันที่มีลายเดียวไป เพื่อนมาบ้านพริกไม่รู้จะให้อะไรเลยเอาของเพื่อนปองให้ไปนะ ” “อรืม ไม่เป็นไร แต่อย่าให้ของที่มีคู่เดียวหรือชิ้นเดียวไปนะ เดี๋ยวเพื่อนปองมาไม่เจอแล้วเค้าโกรธเอาได้ ” “อรื้ม พริกรู้แล้ว ” ปองปัญญ์กอดพริกแล้วจับกดจูบลงไปหนักๆและร้องครางขึ้นมา “ให้ตายเถอะ ปองอยากหนีไปไกลๆ เมื่อไหร่พริกจะหายดีนะ ปองนอนหนาวทุกคืนเลย ไอ้อ้วนน้อยก็ร้องดังทุกคืน รำคาญมาก เมื่อไหร่จะโตนะ ปองจะบ้าตายอยู่แล้วเนี่ย ” “บ้า ลูกเราทั้งคนเลยนะปอง จะให้โตเร็วๆเดี๋ยวพอโตแล้วก็อยากให้ลูกเป็นเด็กไปอีกนะ ” “อรืม ผู้ชายแบบปองไม่ค่อยสนใจลูกหรอก สนใจแต่เมีย ปองจะรีบหาเงินไปซื้อบ้านเดี่ยว คอนโดนี้มันแคบเกินไปแล้ว ไอ้อ้วนน้อยไม่มีที่เล่น ” “จริงๆเหรอปอง พริกดีใจจังเลยอ่ะ ” “อรืม ก็มีหนี้เพิ่มไปอีก ” “อรืม เดี๋ยวหมดลาคลอด พริกจะช่วยปองอีกแรงนะ ปองไม่ต้องกลัว ” “อรื้อ ไม่อยากให้พริกไปทำงานเลย พอทำงานแต่งตัวสวยแล้วปองหวง หวงพริกมากๆเลยนะ ”บ้า มีแต่พริกล่ะที่หวงปอง “
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม