สอน (ให้) รัก

9. ที่ระบายอารมณ์

Akira Part

"แล้วเมื่อคืน คินอยู่กับไอทั้งคืนเลยเหรอคะ" คำถามของเจด้าทำให้ผมหยุดชะงักเล็กน้อย แต่ผมก็ยังขับรถไปเรื่อยๆ ไม่ได้ตอบคำถามเธอหรือมีสีหน้าตกใจที่เธอรู้เรื่อง

"คิน" เจด้าถามผมอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่พอใจ เพื่อต้องการเอาคำตอบจากผมให้ได้

"เจด้าต้องการอะไร คำตอบ หรือ ความรู้สึกผิดจากคิน" ผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเกือบเย็นชากับคนที่นั่งอยู่บนรถ

"เจ..." เจด้าพูดออกมาได้เพียงแค่ชื่อแล้วก็เงียบไป

"คินอยู่กับไอทั้งคืน เจด้าได้ยินแบบนี้แล้วโอเคกับคำตอบมั้ยครับ" ผมหันหน้าไปถามขณะที่รถติดไฟแดง โดยสีหน้าของเธอตอนนี้ดูเสียใจมากพอสมควร

ผมไม่ชอบผู้หญิงที่เซ้าซี้วุ่นวาย อยากได้คำตอบผมก็จัดให้ ผมอาจจะชินกับการอยู่กับไอหละมั้ง เลยทำให้เวลาที่ผมอยู่กับผู้หญิงคนไหน พวกเธอจะต้องเป็นแบบไอ ซึ่งแบบไอ คือ ไม่เคยเซ้าซี้ถ้าหากผมไม่ต้องการจะบอกอะไร แต่เธอมีวิธีการที่จะเอาคำตอบจากผมด้วยวิธีอื่นๆ โดยไม่มีการมาย้ำถามอะไรแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะเราสองคนอยู่ด้วยกันมานานจึงทำให้รู้นิสัยกันและกัน และพยายามทำให้อีกฝ่ายไม่อึดอัดเวลาอยู่ด้วย

ซึ่งเหมือนกับเจด้าในช่วงแรกๆ เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก ไม่เคยเซ้าซี้หรือถามอะไร ผมทำให้เธอได้แค่ไหนเธอก็รับแค่ไหน แต่ช่วงหลังๆ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราสองคน ทำให้เธอดูเป็นผู้หญิงที่น่าเบื่อ ช่างประชด และถามมากมายโดยเฉพาะกับเรื่องไอ ซึ่งระหว่างไอกับเจด้านั้น สองคนนี้เจอกันไม่บ่อยหรอกครับ มีทักทายกันบ้างที่มหาลัย และกินข้าวด้วยกันแบบนัดทั้งกลุ่ม เพราะที่คอนโดของผมนั้นห้ามใครไปเหยียบ แม้กระทั่งเพื่อนรักของผมสามคนยังไม่เคยไปที่นั่น ถ้าจะเจอกันกับเจด้าผมจะนัดเจอตามสถานที่ต่างๆ เช่น ห้าง ร้านอาหาร หรือถ้าไม่อยากไปไหน ผมก็ไปคลุกอยู่ที่บ้านของเธอ มีหลายครั้งที่เจด้าอยากไปที่บ้านของผม ผมก็พาเธอไปที่บ้านใหญ่แทน บ้านที่พ่อแม่ผมสร้างไว้เหมือนบ้านพักต่างอากาศซะมากกว่า เพราะพวกท่านทั้งสองอยู่ต่างประเทศซะส่วนใหญ่ ส่วนผมนั้นนานๆ ทีผมจะกลับไปที่นั่น เมื่อคนรับใช้ที่บ้านใหญ่เห็นหน้าผมมักจะถามถึงไอต่อหน้าเจด้าอยู่หลายครั้งจนเธอน้อยใจ ผมจึงต้องสั่งห้ามคนในบ้านใหญ่อย่าพูดถึงไอเด็ดขาดเวลาที่ผมพาเจด้ามาบ้าน แต่สำหรับที่คอนโดนั้นเหมือนเป็นที่ต้องห้ามสำหรับทุกคน แม้แต่ชื่อผมก็ไม่ให้ใครรู้ นอกจากเพื่อนรักสามคมเท่านั้นที่ทราบ แต่พวกมันก็ไม่เคยไปที่นั่น เพราะพวกมันรู้ว่าผมอยู่กับใคร

"เจด้ายังอยากไปทานอาหารอยู่มั้ย ถ้าไม่อยากไปแล้ว คินจะได้ไปส่งที่บ้าน" ผมถามเจด้าด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างไม่เคยทำแบบนี้กับเธอมาก่อน ทำให้เธอมีสีหน้าเศร้าพร้อมกับน้ำในตาที่ไหลลงแก้ม

"ถ้าคินไม่อยากพาเจไป คินไปส่งเจที่บ้านก็ได้ค่ะ" น้ำเสียงกึ่งประชดที่เปล่งออกมา ทำให้ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างเหนื่อยใจกับการกระทำของเธอ

"คินยังไงก็ได้นะ อยู่ที่เจด้ามากกว่า ว่าอยากไปทานข้าว หรืออยากกลับไปร้องไห้ต่อที่บ้าน" ผมบอกเธอออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง พยายามไม่อารมณ์เสียใส่เธอ และทำให้บรรยากาศในรถไม่แย่ลงไปมากกว่านี้

"คิน เคยแคร์ เจ บ้างมั้ย" เจด้าน้ำตาคลอหันหน้ามาถามผมที่กำลังขับรถอยู่

"แคร์สิ ตอนนี้ก็ยังแคร์อยู่ ถ้าไม่แคร์ คินคงไม่มาถามเจด้าแบบนี้หรอก" ผมตอบเจด้ากลับไปอย่างใจเย็นและพยายามไม่เหวี่ยงใส่เธอ

"เลิกร้องได้แล้ว เดี๋ยวพาไปทานข้าว" เมื่อรถจอดมาถึงที่หมาย ผมโน้มตัวลงมาใกล้เธอแล้วเอานิ้วโป้งเช็ดน้ำตาที่ไหลลงแก้มเะออก พร้อมกับจูบที่ปากของเธออย่างอ่อนโยน เมื่อเธอเปิดปากออกผมจึงแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเธอ ลิ้นของเราตวัดรัดเล่นกัน ทำให้มือของผมยกขึ้นมาบีบที่หน้าอกเธอเบาๆ

"อื้อ...อ่าส์" เสียงครางในลำคอของเจด้าทำให้ผมยิ่งบดขยี้จูบอย่างเร่าร้อนมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนเธอก็ปล่อยให้ผมตักตวงความหวานจากปากของเธออย่างตามอำเภอใจ

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด (เสียงมือถืออคิราห์)

เสียงโทรศัพท์ที่โทรเขามาทำเอาผมต้องหยุดอารมณ์ที่กำลังจะเตลิดไปมาสนใจเสียงที่ดังไม่หยุดแทน

(ทำอะไรอยู่วะกว่าจะรับสาย ยังไม่ตื่นหรือไงวะ) เสียงไอ้กรพูดขึ้นมาทันทีโดยไม่รอให้ผมได้ทักไปก่อน

"มีอะไร" ผมถามมันด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก

(จะถามเมิงว่าคืนนี้จะมาที่ผับไอ้ธรรึเปล่า เมื่อคืนเมิงก็เบี้ยวหนีกลับไปก่อนนะ ทั้งที่เมื่อคืนงานวันเกิดกู น่าน้อยใจชิบหาย) น้ำเสียงไอ้กรที่แกล้งทำใส่ผม ฟังแล้วน่าจะกระทืบจริงๆ มันทำผมหมดอารมณ์ไม่พอ ยังมาทำน้ำเสียงน่าขนลุกใส่ผมอีก

"เออ แล้วเจอกัน" ผมตอบกลับสั้นๆ แล้ววางสายมันทันที โดยไม่เปิดโอกาสให้มันถามอะไรผมต่อ

"คินจะไปผับธรเหรอคะ" เจด้าที่ตอนนี้สีหน้าของเธอจากที่เศร้าบวกน้อยใจ เป็นหน้าแดงก่ำจากการจูบกับผมเมื่อสักครู่ จนอารมณ์น้อยใจและเศร้าของเธอหายไปปลิดทิ้ง

"ครับ เราเข้าไปในร้านกันเถอะ" ผมเปิดประตูลงจากรถ และเดินอ้อมไปเปิดประตูรถให้คนที่นั่งข้างคนขับ

@ร้านอาหารริมน้ำ

"สวัสดีค่ะ สองที่นะคะ เชิญด้านนี้ค่ะ" พนักงานร้านพาเราสองคนไปยังโต๊ะอาหาร

"เมนูค่ะ วันนี้มีเมนูแนะนำ คือ กุ้งแชบ๊วย ปลากะพงทอดน้ำปลา เดี๋ยวอีก 5 นาที จะมารับออร์เดอร์นะคะ" พนักงานร้านยื่นเมนูแล้วก็เดินออกไปปล่อยให้เรานั่งดูเมนูอ่านตามลำพัง

"อยากทานอะไรครับ" ผมถามเจด้าอย่างเอาใจ จนเธอหน้าแดงขึ้นมากขึ้นกว่าเดิม จากแดงอยู่แล้วก็แดงหนักขึ้น จนผมอดอมยิ้มกับท่าทีของเธอไม่ได้

"แล้วแต่คินสั่งให้ดีกว่า เจทานอะไรก็ได้ค่ะ" เจด้าตอบผมอย่างเขินอาย คงเป็นเพราะจูบบนรถเมื่อสักครู่ที่ทำเอาเธอเขินขนาดนี้

"ทานคินแทนมั้ย" ผมถามทีเล่นทีจริงกับเธอ ยิ่งทำให้เธอเขินหน้าแดง จนเบือนหน้าหนีไม่สบตากับผม

จากนั้นผมจึงสั่งอาหารเองทั้งหมดตามที่เจด้าต้องการให้ผมทำ เธออยากรู้ว่าผมจะใส่ใจเธอมากแค่ไหน โดยอาหารทั้งหมดที่ผมสั่งมานั้นเป็นเมนูโปรดของเธอทั้งหมด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผมไม่ได้รู้จากการถามเธอ แต่รู้มาจากไอที่ไปหาข้อมูลให้ผมทั้งหมด โดยที่เจด้าเองก็ไม่รู้ว่าผมรู้ได้เรื่องของเธอจากที่ไหน เมื่ออาหารเริ่มทยอยมาวางบนโต๊ะอาหารทีละอย่าง ยิ่งทำให้เธอรู้สึกประทับใจในตัวผมมากขึ้น ดูจากสีหน้าและแววตาที่เธอส่งมายังผม

เวลา 15.30 น. @บ้านเจลกา

"คินเข้าไปในบ้านก่อนมั้ยคะ" เจด้าเอ่ยชวนผมเมื่อรถมาจอดถึงหน้าบ้านของเธอ

"เอาไว้วันหลังนะครับ" ผมบอกกับเจด้า แล้วโน้มตัวลงไปจูบที่ปากของเธอ

เราสองคนจูบกันดูดดื่มอีกครั้งเหมือนมันค้างจากที่ร้านอาหารอยู่แล้ว พอเริ่มใหม่อีกครั้งเลยจุดติดได้ง่าย ผมเอามือข้างหนึ่งดันแผ่นหลังของเธอให้เข้ามาใกล้ผมมากขึ้น ลิ้นก็สอดเข้าไปในโพรงปากของเธออย่างเร่าร้อนและเรียกร้องเอาแต่ใจ ส่วนมืออีกข้างก็ยกขึ้นมาบีบหน้าอกเธออย่างหนักหน่วง

"อ่าส์...คิน" เสียงครางที่ดังออกมาเมื่อผมปล่อยปากเธอพร้อมกับลากเลื้อยปากลงไปที่ซอกคอขาวเนียน แต่ไม่ได้ทิ้งรอยไว้เหมือนทำกับไอ

ผมเมกเลิฟกับผู้หญิงมาหลายคน ทุกคนผมไม่เคยทิ้งรอยไว้เลยสักคน มีเพียงไอคนเดียวเท่านั้นที่ผมเกิดอารมณ์อยากทีไร ตามตัวของเธอจะมีรอยรักจากผมเต็มไปหมด

"แล้วเจอกันวันจันทร์นะครับ" ผมหยุดอารมณ์รักระหว่างเราสองคนลง พร้อมกับกล่าวคำลากับเธอ ทำเอาเจด้าทำหน้างงใส่ผมพร้อมกับอารมณ์ที่ยังคงคั่งค้างอยู่ไม่ต่างจากผม แต่ก็ยอมลงจากรถไปอย่างว่าง่าย

เวลาต่อมา @คอนโดอคิราห์

"ตื่นแล้วเหรอ กินอะไรรึยัง ได้เอาอาหารที่เราทำไว้อุ่นมาทานรึเปล่า" ผมเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับถามคนที่นั่งดูหนังตรงโซฟา

วันนี้เธอใส่ชุดเสื้อกล้ามสีดำที่ไร้บรา เพราะผมเห็นยอดอกเธอเด่นชัดมาก และกางเกงผ้าขาสั้นแทบจะเห็นแก้มก้น เห็นชุดเธอที่ใส่แล้วทำให้อารมณ์อยากของผมก่อตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากเพิ่งสงบลงไปในระหว่างที่ขับรถกลับมาจากบ้านเจด้ามาถึงคอนโด

"ว่าไง กินข้าวหรือยัง" ผมเดินมานั่งลงโซฟาข้างไอที่นั่งดูหนังไม่สนใจผม จนผมอดที่จะหมั่นไส้อาการของเธอไม่ได้ เธองอนผมที่ไปไม่ยอมบอกเธอ แล้วคงงอนหนักตรงที่ผมไปหาแฟนด้วย แต่เธอก็ทำอาการแค่นั้นแหละ เงียบ ไม่สนใจ หรือซักถามอะไรผมเลยเมื่อเจอหน้ากัน ทำเหมือนผมไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น

"อื้อ...คิน" ไอร้องออกมาในลำคอเมื่อโดนผมแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเธออย่างไม่ทันตั้งตัว

"คะ...คิน...ยะ...หยุด" ผมบดขยี้ริมฝีปากของเธอด้วยริมฝีปากของผม แม้คนตัวบางจะประท้วงอู้อี้ แต่ความวาบหวามจากความแนบชิดของเนื้อตัวเป็นราวกับเปลวไฟที่ค่อยๆ แผดเผาเธอทีละน้อยๆ ยิ่งผมบดคลึงหน้าอกทั้งสองข้างด้วยมืออันช่ำชองจนยอดอกของเธอแข็งเป็นไตทั้งสองข้าง

"อ่าส์...คะ...คิน" ไอพยายามประท้วงและขัดขืนผม ที่ตอนนี้เราสองคนนอนราบลงบนโซฟาใหญ่ โดยมือของผมได้จัดการกับเสื้อกล้ามสีดำของเธอให้รูดลงมาจนเห็นเนินอกที่มีรอยรักของผมฝากทิ้งไว้เต็มไปหมด ยอดอกสีชมพูระเรื่อเด่นชัดจนผมอดที่จะก้มลงไปดูดชิมมันไม่ได้เลย

"อ๊ะ...อ่าส์" เสียงครางที่ดังออกมา แต่ยังคงดิ้นรนขัดขืนไม่ยอมให้ผมทำ แต่อาการที่เธอทำลงไปยิ่งเสียดสีร่างกายระหว่างเรามากขึ้น ทำให้ส่วนนั้นของผมที่อยู่ภายใต้กางเกงยีนส์พองตัวขึ้นมาจนอึดอัดและรอการปลดปล่อย

"ขอนะ ไม่ไหวแล้ว" ผมบอกเธอเพียงแค่นั้นก็ลุกขึ้นจัดการเสื้อผ้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว แล้วเอามือไปดึงกางเกงขาสั้นของไอออกไปจากร่างกายทันที

ผมโน้มตัวลงไปทาบทับคนตัวเล็กที่อยู่ด้านล่างที่นอนรอผมอย่างใจจดจ่อ ถึงเธอจะห้ามผมมากแค่ไหน สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถต้านทานแรงปรารถนาที่ผมปรนเปรอให้เธอไม่ได้ เพราะผมรู้ดีว่าควรทำอย่างไรให้ไอยอมให้ผม ผมซุกไซ้จมูกและริมฝีปากตามลำคอของเธอ แล้ววกมาที่ริมฝีปากอิ่มที่เผยอรับจุมพิตจากผมเป็นเวลานานพอสมควร และมือของผมเริ่มสัมผัสไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายไอ ทำให้เธอสั่นสะท้านด้วยความปรารถนาที่ผมมอบให้

"อ๊ะ...อื้อ" ผมก้มลงไปดูดกลืนยอดอกสีชมพูระเรื่ออีกครั้ง พร้อมกับมือบีบเคล้นสองเต้าเต่งตึงพร้อมกับที่ลิ้นอุ่นๆ ตวัดเลียไปมาทั้งสองข้าง จนไอตัวสั่นและเกร็งไปหมดจนผมรู้สึกได้ หญิงสาวยกสะโพกรับผมเมื่อผมจับขาสองข้างของเธอกางออกจากกัน พร้อมกับแทรกตัวเองเข้าไปตรงใจกลางเธอ

"อ่าส์...ไอ" การกระทำของไอทำให้ผมถึงกับครางเบาๆ ผมไม่รู้หรอกนะว่าผู้หญิงคนอื่นจะสามารถทำให้ผมตื่นเต้นและเร่าร้อนมากได้ขนาดนี้ไหม เพราะไอคือคนแรกและคนเดียวที่ผมได้ทำกิจกรรมแบบนี้ร่วมด้วย ส่วนผู้หญิงคนอื่นๆ นั้น ผมทำได้มากที่สุดก็แค่จูบ

เป็นเวลานานที่ผมและไอผสานกายเป็นหนึ่งเดียวกัน กระทั่งใกล้ถึงปลายทางของความพิศวาส ผมจับขาของไอแยกออกกว้างเพื่อพาตัวเองเข้าหาแบบเน้นๆ จนไอครางกระเส่า รู้สึกราวกับว่าร่างกายเริ่มจะลอยละล่องแตะขอบสวรรค์

พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ! ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

ผมกระแทกสะโพกแรงขึ้นจนเธอสั่นไหว ผมทั้งกระแทกและบดกายเป็นวงกลม สร้างความรู้สึกเสียวซ่านเพิ่มให้กับเธอมากขึ้น ผมทำได้สักพักจึงพลิกตัวเธอให้นอนคว่ำก่อนจะยกสะโพกขึ้นมาแล้วกระแทกแก่นกายเข้าไปในตัวเธออีกครั้ง

"อ๊ะ..อื้อ / อ๊า..ไอ" เสียงครางของเราทั้งสองคนดังลั่นทั่วห้อง เหงื่อในตัวเริ่มไหลออกมาจนซึมไปทั่วไรผม แม้จะมีแอร์ที่เย็นฉ่ำแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร

ไอเอามือกำหมอนที่วางอยู่บนโซฟาอย่างระบายอารมณ์ ผมกระแทกแก่นกายหนักขึ้นเสียงจนเธอสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว ผมกระแทกเข้าออกจนกระทั่งปล่อยน้ำรักออกมาจนหมดสิ้น

"กรี๊ด / อ่าส์...อะ...ไอ" เสียงครางผมออกมาเมื่อได้ปลดปล่อยจนหมดตัว ผมดันตัวเธอให้นอนลงและค่อยๆ ถอดถอนแก่นกายออกมา

"พอใจรึยัง" เสียงคนที่นอนข้างผมดังขึ้นมาอย่างไม่พอใจ แต่ก็ยังคงปล่อยให้ผมโอบกอดไว้ไม่ได้ลุกหนีผมไปไหน

"ก็ดีขึ้นนะ ยังสุดยอดเหมือนเดิมเลย" ผมพูดจบก็โน้มตัวไปหอมแก้มเธอฟอดใหญ่สองข้างแก้มเธออย่างเอ็นดู แล้วเธอก็พูดประโยคหนึ่งขึ้นมาอย่างสาวไม่แคร์โลกจนผมไม่รู้ว่ามันคือคำประชดหรือเธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆ แต่คำพูดนั้นมันกระตุกหัวใจผมพอสมควรอย่างไม่รู้สาเหตุ

"ช่างเถอะ เราสองคนก็แค่ที่ระบายอารมณ์กันและกันเท่านั้นแหละ"