“หยุดยิ้มได้แล้ว มากินข้าว” เห็นบิดายืนตระหง่านถมึงทึงมือหนึ่งถือกระบวยตักข้าว เพ่ยหนิงจึงยอมลุกจากแปลงดอกไม้ เดินเข้าเรือนพลางบ่นพึมพำ “ท่านหิวข้าวคนเดียวแต่อยากให้ข้านั่งกินเป็นเพื่อนก็บอกมา” “ไอ่หยา รู้ทันยิ่ง” หานตงกดบ่าเล็กของเพ่ยหนิงให้นั่งลงตรงโต๊ะกินข้าว เอ่ยอย่างอารมณ์ดีว่า “อีกไม่นานเจ้าก็ต้องแต่งงานกับว่าที่ลูกเขย ไหนเลยจะกินข้าวกับข้าได้บ่อยๆ” เพ่ยหนิงพยักหน้าแย้มยิ้ม ยอมรับเต็มปากเต็มคำว่า “นอกจากต้องกินข้าวด้วยกันทุกมื้อยังต้องคิดถึงเขาตลอดเวลา” หานตงส่ายหน้า สุ้มเสียงดุดัน “กินข้าวไม่พูด!” อาหารมื้อเช้าของวันนี้ผ่านไปอย่างชื่นมื่น หลังจากนั้นเพ่ยหนิงก็กลับเข้าห้องเพื่อนั่งเย็บถุงหอมมอบให้เฉินเฟิง สาวน้อยใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายกับงานของสตรีหลังเรือน ตกเย็น หานตงรีบไปขุดเหล้าที่ฝังเอาไว้บริเวณแปลงผักขึ้นมา ในขณะที่เพ่ยหนิงจัดเตรียมสำรับอาหารและกับแกล้มพร้อมสรรพ เฉินเฟิงม