Chapter 2

1410 คำ
นี่ก็เป็นเวลาสองทุ่มกว่าที่ทั้งสองคนแสดงความรักด้วยกันอยู่นานเป็นชั่วโมง จากนั้นภูมิก็ปล่อยให้หญิงสาวนอนพักส่วนเขาก็มาทำงานให้คนรักอยู่ตรงโซฟา ไม่นานนักเธอก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับมองหาชายหนุ่มก่อนจะรีบลุกขึ้นสวมเสื้อคลุมแล้วเดินออกมาตามหาเขา “พี่ภูมิอยู่ที่ไหนคะ” “พี่อยู่นี่ค่ะ” ข้าวเดินออกมาก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นึกว่าเขากลับไปซะแล้วปกติก็ไม่ชอบปลุกเธอตื่น จะปล่อยให้นอนพักบางทีก็ออกไปทำงานเลยไม่บอกกันด้วย “นึกว่ากลับไปแล้ว” “กลับอะไรกันคะก็บอกอยู่จะมานอนด้วย แต่พรุ่งนี้ไม่ได้นะต้องกลับไปนอนที่บ้าน” หญิงสาวเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆชายหนุ่มก่อนจะสวมกอดเอวซบในหน้าลงกับอกแกร่ง เขาลูบแผ่นหลังเธออย่างแผ่วเบาก้มมองคนรักอย่างหวงแหน “ค่ะ” “ไปค้างที่บ้านด้วยกันมั้ย ทุกวันนี้มีแต่คนถามว่าเมื่อไหร่จะมีแฟนซักที น้องสาวพี่แต่งงานมีลูกไปแล้วนะจะให้น้องหน้าน้ำมนต์หรือไง” ข้าวเงยหน้ามองสบตาชายหนุ่ม เธอแค่รู้สึกว่าทุกอย่างมันยังไม่ลงตัวและเธอกับเขายังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยสถานะในตอนนี้ “ข้าวว่า…” “ข้าว… เราสองคนคบกันมานานมากแล้วนะ ไม่ได้เพิ่งคบกันเดือนสองเดือนแต่นี่มันแปดปีแล้วนะ พี่ต้องรอถึงเมื่อไหร่ข้าวถึงจะพร้อมบอกใครต่อใครเกี่ยวกับเรื่องของเรา” ข้าวกุมมือชายหนุ่มไว้ใช้ใบหน้าถูไถไปมาอย่างออดอ้อน ใครจะเป็นคนกำหนดเวลาว่าตอนไหนถึงจะเหมาะสมกัน เธอแค่อยากมีหน้าที่การงานที่ดีมีผลงานให้คนอื่นชื่นชมและนั้นคงเป็นเวลาอันเหมาะสมของเธอ “ครอบครัวของพี่ภูมิไม่ใช่คนธรรมดานะคะ คุณพ่อเป็นถึงท่านนายกรัฐมนตรีของประเทศ แล้วครอบครัวของข้าวเป็นแค่คนธรรมดาที่หาเงินใช้ไปวันๆ เราต่างกันมากนะคะ ข้าวแค่กลัวว่าถ้าคุณพ่อของพี่รู้ตอนนี้มันอาจจะ…” “พี่เชื่อว่าคุณพ่อไม่ห้ามเรื่องของเรา ท่านใจดีมากและที่สำคัญที่สุดท่านมองคนเท่ากัน ไม่ได้วัดค่าคนจากตัวเงิน เอาแบบนี้แล้วกันพี่จะลองคุยกับท่านดูเอาแบบเกริ่นๆดูก่อนว่าท่านจะว่ายังไง แต่ถ้าท่านโอเครับได้หนูต้องรับปากว่าจะไปเจอครอบครัวของพี่” ข้าวมองชายหนุ่มอย่างลังเลก่อนจะพยักหน้ายิ้มๆ เพื่อความสบายใจของเขาเธอจะไปถ้าเกิดว่าครอบครัวของเขารับได้ในสิ่งที่เธอเป็น เธอรู้ว่าระยะเวลาที่เราสองคนคบกันมันนานมาก ถ้าจะต้องปล่อยให้เขาหรือเธอไปมีชีวิตใหม่ก็คงจะเป็นการเห็นแก่ตัวจนเกินไป “ก็ได้ค่ะเอาแบบนั้นก็ได้” “น่ารักที่สุดเลยเราเนี่ย อ่อ เมียใหม่คุณพ่อคุณน้าน้ำผิงที่พี่เคยเล่าให้ฟัง ข้าวจำได้มั้ย” “จำได้ค่ะ ทำไมเหรอคะ” เธอมองชายหนุ่มอย่างสงสัย เขายิ้มกว้างออกมาลูบผมหญิงสาวอย่างเอ็นดู น้าน้ำผิงก็ไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยมาจากไหนคุณพ่อก็รักเหมือนกัน เขาไม่เคยน้อยใจเรื่องผู้หญิงอีกคนของพ่อ เพราะจากที่ฟังคุณแม่เล่าน้าน้ำผิงคือผู้หญิงที่เข้มแข็งและเด็ดขาดคนหนึ่ง เธอไม่ยอมยุ่งเกี่ยวกับคุณพ่อตั้งแต่ที่รู้จนแม่เขาสิ้นลมหายใจเพราะไม่อยากให้คุณแม่เสียใจ ยอมที่จะอยู่อย่างลำบากเพื่อให้ครอบครัวของเขาพร้อมหน้าพร้อมตากัน ก่อนแม่จะเสียท่านบอกกับเขาว่า น้าน้ำผิงไม่ใช่เมียน้อยของพ่อ เธอไม่เคยรับรู้เรื่องนี้มาก่อน แต่คนที่น่าสงสารคือน้องสาวต่างแม่ของเขา เธอต้องอยู่อย่างลำบากในขณะที่เขาใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย “ครอบครัวน้าน้ำผิงก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรค่ะ คุณพ่อยังไม่มองเรื่องฐานะเลย” “แปลกดีนะคะที่พี่ภูมิไม่โกรธภรรยาใหม่ของพ่อแถมยังรักน้องอีก” “ไม่รู้สิน้าน้ำผิงไม่เหมือนคนอื่น ขนาดที่พ่อตามง้อให้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เธอยังแคร์ความรู้สึกของพี่กลัวว่าพี่จะน้อยใจที่พ่อพาผู้หญิงและลูกอีกคนเข้าไปอยู่ด้วย” ข้าวนั่งฟังก็ยิ้มออกมาทันที เป็นคนที่จิตใจดีมากจริงๆเธอชักอยากจะเห็นหน้าซักครั้งเสียแล้วสิ “เธอน่าจะเป็นคนดีมากเลยนะคะ คุณพ่อถึงได้ยังนึกถึงเสมอ” “อืม คุณแม่บอกว่าเป็นคนดีมาก เชื่อพี่สิว่าคุณพ่อท่านจะไม่ว่าอะไรเรื่องของเรา ท่านไม่เคยยุ่งเรื่องส่วนตัวของพี่เวลาถามเรื่องแฟนก็มีแนะนำคนนั้นคนนี้ให้บ้างตามประสา แต่สุดท้ายท่านบอกว่าพี่ต้องเป็นคนเลือกเอง” ข้าวยิ้มออกมาสวมกอดชายหนุ่มอย่างหาที่พักพิง ในชีวิตพี่ภูมิคือความโชคดีที่สุดของเธอ เขาให้ทุกอย่างที่เธอไม่สามารถหาได้ในชีวิตนี้ แถมยังดูแลดีมากที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ เธอไม่อยากเสียเขาไปจึงไม่อยากให้เขาต้องอายเวลาต้องบอกใครต่อใครว่ามีเธอเป็นคนรัก “ข้าวรักพี่ภูมิที่สุดเลย” “พี่ก็รักข้าว งานเสร็จแล้วนะไปกินข้าวกันดีกว่าเย็นหมดแล้วมั่งเนี่ย” เขาเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง ข้าวผละออกก่อนจะลุกขึ้นทันที “งั้นเดี๋ยวข้าวอุ่นกับข้าวก่อนนะคะ พี่ภูมินั่งเล่นตรงนี้ก่อนเสร็จแล้วจะเรียกค่ะ” “ช่วยกันดีกว่าจะได้เสร็จไวๆ” เขาลุกขึ้นกุมมือหญิงสาวเดินเข้าไปในห้องครัว คอนโดที่นี่เขาเป็นคนเลือกให้เธอเอง จริงๆแล้วเขาต้องการให้เธอไปอยู่คอนโดที่หรูและดีที่สุดแต่เธอให้เหตุผลว่าเป็นแค่พนักงานอยู่คอนโดหรูได้โดนนินทาว่าเสี่ยเลี้ยงนะสิ แล้วทุกวันนี้ต่างตรงไหน เขาก็เป็นเสี่ยเลี้ยงเธออยู่นะ… หลังจากช่วยกันจนเสร็จทั้งสองคนก็นั่งทานข้าวด้วยกันอย่างมีความสุข ตักนั่นนี่ให้กันถ้าใครมาเห็นคงพากันอิจฉาชีวิตของข้าวคนนี้ ใครจะคิดว่าผู้หญิงธรรมดาคนนี้จะโชคดีมีเจ้าชายมารักและดูแลแบบนี้ ของโปรดหนูเลยนะอันนี้” “ขอบคุณค่ะ” วันต่อมา… ข้าวมาทำงานแต่เช้าเธอเอางานมาปริ้นใส่แฟ้มไว้หัวหน้าแผนกจะได้เอาไปเสนอให้ท่านประธานในที่ประชุมเช้าวันนี้ “นี่เป็นรายละเอียดงานเปิดตัวรถเดือนหน้าค่ะ หัวหน้าลองตรวจอีกทีนะคะว่าแบบนี้โอเคมั้ย” หัวหน้าแผนกเปิดอ่านดูก่อนนะนิ่วหน้าอย่างแปลกใจ เธออ่านจนจบก่อนจะเงยหน้ามองข้าวแล้วถามในสิ่งที่อยากรู้ “ทำไมถึงไม่โปรโมทของแถมไปด้วยเยอะๆล่ะ คนจะได้อ่านแล้วอยากมาจองรถในงานวันนั้น” “อ่อคือแบบนี้ค่ะ ทะ.. เอ่อหมายถึงว่าข้าวคิดว่าเราอย่าพึงเปิดเผยของแถมให้ลูกค้ารู้ค่ะ บอกแค่ว่ามีของแถมมากมายก็พอจากนั้นให้เซลเอาของแถมไปใช้ในการดึงดูดลูกค้าซื้อเอาดีกว่า ข้าวแค่คิดว่าแบบนี้ดีกว่าค่ะ” “ดีตรงไหน พี่ว่าบอกรายละเอียดของแถมแต่ละรุ่นไปเลยลูกค้าเห็นก็จะได้อยากมาซื้อ ช่วยแก้หน่อยนะพี่จะได้เอาไปเสนอบอสเช้านี้ มีเวลาแก้อีกหนึ่งชั่วโมงทำให้หน่อย” ผู้จัดการคืนแฟ้มเอกสารให้เธอก่อนจะหันไปตรวจอย่างอื่นต่อ เธอถือแฟ้มกลับมาก่อนจะเดินออกมานั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองมองรายละเอียดงานในแฟ้มก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ‘คนที่ทำรายละเอียดนี้คือท่านประธานนะ แล้วผู้จัดการให้แก้ไขแบบนี้พี่ภูมิจะว่ายังไงเนี่ย…เฮ้อ!’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม