หริณะนั่งตรงเบาะด้านหลังรถมาเซราติ เลอวานเต้สีดำสุดหรูแล้วชะเง้อชะแง้แลดูตัวเองในกระจกมองหลังพลางทำสีหน้าเป็นกังวลไปด้วย
“บันนี่เป็นอะไรครับ? มองอะไร?” วาฬที่ทำหน้าที่ขับรถถามน้องน้อยที่นั่งไม่เป็นสุขอยู่ด้านหลัง
วาฬขับรถไปตามจีพีเอสตรงไปยังที่อยู่ของหริณะที่สาวน้อยบอกส่วนไอ้ขาลก็ถูกเขาลากมานั่งข้างหน้าคู่กัน ปล่อยให้หริณะนั่งอยู่ตรงเบาะหลังเพียงคนเดียว
“กูบอกมึงแล้วว่าน้องต้องการเพื่อนนั่งไปด้วย กูจะไปนั่งกับน้อง” ขาลทำเสียงฮึดฮัดขัดใจ
“ไอ้เชี่ยขาล ขืนมึงไปนั่งกับน้องน้องได้กรี๊ดตลอดทางแน่ มึงนั่งหน้ากับกูน่ะถูกแล้ว ว่ายังไงครับบัน? หนูเป็นอะไรมองกระจกอยู่นั่นแหละ” วาฬปรามเพื่อนแล้วเหลือบมองสาวน้อยผ่านกระจกมองหลัง เขายังเห็นเธอทำหน้าบึ้งตึงอยู่
“ก็พี่ ๆ ทิ้งรอยดูดไว้บนหน้าอกหนู ตรงคอหนูด้วย แม่เห็นแม่ด่าตาย หนูพกมาแต่แป้งพัฟ ไม่มีรองพื้นติดมาด้วย กลบรอยไม่มิดเลยเนี่ย... บ้าจริงเชียว” สาวน้อยชี้ให้พี่ ๆ ดูร่องรอยแดงจ้ำตรงซอกคอและเนินอกของเธอ
“ทำเป็นบ่นไปได้ ก็บอกแม่ไปสิว่าแพ้แดด แพ้ยา แพ้ลม อะไรก็ว่าไป” ขาลยักไหล่แล้วพูดอย่างไม่ไยดี
“แม่หนูเคยมีผัวมาก่อนนะคะพี่ ขนาดหนูไม่เคยมีผัวแค่ดูยังรู้เลยว่าเป็นรอยดูด ทำอะไรไม่คิดถึงภาพลักษณ์หนูเลย แล้วไม่ต้องขับไปส่งถึงบ้านนะคะ ไปส่งแค่ปากซอยก็พอ หนูบอกแม่ว่าเอมจะไปส่ง ขืนแม่เห็นมีผู้ชายไปส่งซักหนูยาวแน่” หริณะทำเสียงดุใส่ขาลก่อนจะสั่งวาฬตามที่เธอวางแผนไว้แล้วในใจ
เดี๋ยวพอไปถึงบ้านจะวิ่งเข้าห้องก่อนเลย เอารองพื้นกลบรอยดูดให้เนียนแล้วค่อยออกไปบอกแม่ว่ากลับบ้านมาแล้ว
“ไม่ครับ เดี๋ยวพวกพี่จะไปส่งให้ถึงบ้านเลย พวกพี่มีเรื่องต้องจัดการให้หนูด้วย”
อ้าว! พี่วาฬดับฝันแผนของหนูเสียแล้ว
“เรื่องอะไรคะ? ไม่เห็นมีอะไรต้องจัดการเลย” สาวน้อยทำหน้าร้อนรน ไม่อยากให้แม่เจอพี่ ๆ เดี๋ยวแม่จะรู้ว่าไปค้างบ้านผู้ชาย
วาฬหันไปสบตาขาล สองหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่ขาลจะเริ่มต้นพูดขึ้นมาเหมือนซักประวัติเธอ
“พ่อของเธออยู่ด้วยหรือเปล่า? ที่บ้านมีพี่น้องไหม? ตอนอยู่ที่บ้านมีอะไรแปลก ๆ หรือเปล่า? เคยเจอผีไหม?”
“พ่อหนูเป็นปลัดอำเภอ เสียไปหลายปีแล้วค่ะ เป็นมะเร็ง หนูอยู่กับแม่แค่สองคนค่ะ แม่เคยเป็นคุณนายปลัดแต่พอไม่มีพ่อก็หอบหนูมาอยู่กรุงเทพฯ แล้วเปิดร้านอาหารตามสั่ง พอมีเงินเลี้ยงหนูได้ ถึงไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ส่วนเรื่องผี... เกิดมาเพิ่งเคยเจอกุมารของพวกพี่นี่แหละค่ะ สำหรับเรื่องแปลก ๆ ก็ไม่มีนะคะ ถามทำไมอะ? เล่นมาถามกันรัว ๆ แบบนี้เดี๋ยวถามกลับบ้างหรอก” สาวน้อยตอบทุกคำถามแล้วทำเป็นแซวกลับบ้าง
“บันนี่อยากรู้อะไรก็ถามมาสิครับ ถ้าตอบได้พวกพี่จะตอบ” วาฬบอกเธอแล้วยิ้มน้อย ๆ เอ็นดูในความช่างเจรจาของเธอ
“อืม... พวกพี่คบกันมานานแล้วเหรอคะ? ทำไมมีรอยสักเหมือนกันที่อกซ้ายด้วยอะ? แล้วพ่อแม่พี่ ๆ อยู่ไหนกันคะ? ทำไมหนูเห็นแต่ลุงชัย”
คำถามของสาวน้อยเล่นเอาสองหนุ่มมองหน้ากันแล้วคิดก่อนตอบ
“พ่อไอ้ขาลเสียไปตั้งแต่มันยังเด็กแล้วครับ แม่ไอ้ขาลเพิ่งเสียเมื่อปีกลาย ส่วนพ่อแม่พี่ก็ตายเพราะอุบัติเหตุตั้งนานแล้ว พี่โตมากับคุณทวด ตอนพี่เกิดคุณทวดพี่ก็อายุเกือบร้อยปีแล้วครับ แม่ไอ้ขาลช่วยดูแลพี่ตั้งแต่พี่อายุสี่ขวบ...” วาฬเล่าแค่นั้นหริณะก็ทำหน้าสลดขึ้นมาทันที
“พวกพี่น่าสงสารจัง หนูยังมีแม่ พวกพี่ไม่เหลือใครเลย”
“ไม่ต้องสงสารพวกพี่หรอก พวกพี่มีกันสองคนตั้งแต่เด็กและจะมีกันไปจนวันตายด้วย... รูปเสือที่อยู่บนอกไอ้วาฬกับอกพี่เป็นสัญลักษณ์ว่าพวกเราจะมีหัวใจดวงเดียวกัน... พวกเราผูกดวงจิตไว้ด้วยกัน” ขาลเล่าต่อแล้วรอดูปฏิกิริยาของสาวน้อย
“อ้อ... เหรอคะ”
แค่นี้น่ะนะ? แค่ ‘อ้อ... เหรอคะ’ ยัยบันนี่ไม่ได้ตกใจเลยเหรอ? คนผูกดวงจิตไม่ได้มีมากนักนะ ทำไมยัยนิ่มทำเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดา?
ขาลมองหน้าวาฬเหมือนจะปรึกษาเพื่อน
“เออ... บันนี่เข้าใจคำว่า ‘ผูกดวงจิต’ ไหมครับ?” วาฬถามขึ้นมาเพราะเห็นสาวน้อยทำท่าทางไม่สะทกสะท้าน
“หือ? ก็เหมือน สัญญาว่าจะรักกันไปจนวันตายอะไรงี้หรือเปล่าคะ?”
เฮ้อ! กูว่าละ... ยัยปัญญานิ่มไม่รู้เรื่องรู้ราว
“ไว้พี่จะอธิบายให้เธอฟังอีกทีก็แล้วกัน อธิบายไปตอนนี้เธอก็ไม่เข้าใจ” ขาลตัดบทเพราะเห็นว่าวาฬขับรถมาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว
สองหนุ่มมองไปที่บ้านไม้สองชั้นหลังน้อยที่พวกเขามั่นใจว่าเป็นบ้านของหริณะ หลังจากเพ่งมองได้ครู่หนึ่งพวกเขาก็สบตาแล้วพยักหน้าให้กันเป็นสัญญาณเริ่มแผนการที่เตรียมไว้
“ถึงบ้านบันนี่แล้ว แต่อย่าเพิ่งลงรถ หนูมาใกล้ ๆ พี่ก่อนครับ พี่มีของจะให้” วาฬดับเครื่องยนต์แล้วกวักมือเรียกน้องมาใกล้ ๆ
หริณะทำหน้างุนงงสงสัยแต่ก็ขยับร่างเข้าไปใกล้เขาตามคำบอก เมื่อเธอเข้าไปใกล้จนแขนของวาฬเอื้อมถึงแล้วหมอเวทรูปหล่อก็โน้มคอสาวน้อยลงมาประกบปากจูบแลกลิ้นทันที
หริณะตกใจแต่ความรู้สึกหวามไหวก็จู่โจมอย่างรุนแรงเมื่อลิ้นสากของพี่วาฬดันผ่านริมฝีปากอิ่มของเธอเข้ามาแล้วไล่ลากลิ้นน้อยของเธอออกมาดูดดุนจนสาวน้อยเคลิบเคลิ้ม
หญิงสาวเหมือนล่องลอยอยู่ในความฝันพลันหน้าอกก็เกิดเสียวซ่านเมื่อรู้สึกได้ว่ามือสากของพี่ขาลล้วงเข้าไปใต้เสื้อนักศึกษาตัวเล็กของเธอจากด้านล่างแล้วบีบเฟ้นอกนิ่ม ก่อนที่สาวน้อยจะดิ้นรนออกจากมือใหญ่ทั้งสี่ที่ทั้งเกาะกุมกอดเกี่ยวร่างเล็กและบีบเฟ้นเปะปะไปทั่วพี่ขาลก็ปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาสองเม็ดบนของเธอออกแล้วล้วงเต้าอิ่มสวยข้างหนึ่งออกมาจากชุดชั้นในจากนั้นจึงประกบปากร้อนลงดึงดูดหัวนมสีหวานอย่างเอาแต่ใจ
หริณะทั้งตกใจทั้งตื่นกลัว พี่ ๆ รุกเธอเร็วและแรงอย่างที่ไม่คาดคิด ในใจนึกจะดิ้นรนขัดขืนแต่สัมผัสจากพวกเขาทำให้สาวน้อยตัวอ่อนระทวย จิตใจล่องลอย
“อื้อออ... อ๊ะ... อ๊า...” หริณะครางอยู่ในลำคอเพราะความเสียวครั้งแรกของวัยสาวมันจู่โจมจนสาวน้อยแทบทนไม่ไหว
“อืม... จูบหนูหวานมากเลยครับบันนี่” วาฬยิ้มร้ายแล้วบอกเธอเสียงเบาหลังจากถอนจูบออก
“นมเธอก็หวาน แบบนี้ถึงเรียกว่าดูดนม จ๊วบ! วันหลังถ้าพี่ทำแบบนี้เธอถึงจะหาว่าพี่ดูดนมได้ นอกเหนือจากนี้อย่ามาใส่ร้ายกัน” ขาลยอมละปากจากจุกนมสีชมพูหวานแต่หัวแม่มือยังคลึงวนหัวนมที่เปียกฉ่ำด้วยน้ำลายจนมันแข็งชูชัน
เวลาที่ขาลดูดหัวนม... มันแข็งจริง ๆ ด้วย โอ๊ย! ยัยบ้ากามนี่! ยอมให้พวกเขาทั้งจูบทั้งดูดได้ยังไงเนี่ย? หน้าไม่อาย! อยู่หน้าบ้านตัวเองแท้ ๆ โชคดีที่ฟิล์มกระจกมืดนะเนี่ย
หริณะคิดแล้วอยากจะตบหน้าตัวเองสักฉาดที่ใจง่ายให้พวกเขารุกล้ำได้ปานนี้ แต่ก่อนที่เธอจะตบหน้าตัวเอง รถมาเซราติคันโก้ก็สั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว
กึก! กึก! กึก!
เสียงรถเหมือนถูกบางอย่างทุบแรง ๆ รอบ ๆ รถ
“มันมาแล้วไอ้ขาล! มึงติดกระดุมให้น้องก่อนสิวะ แล้วเอายันต์กันวิญญาณให้น้องด้วย!” วาฬสั่งเพื่อนรักเสียงเข้ม
ขาลรีบจัดเสื้อผ้าของหริณะให้เข้าที่เรียบร้อยก่อนจะยื่นยันต์สีเหลืองที่มีอักษรสีแดงกำกับอยู่ส่งให้เธอ
“บันรออยู่ในรถ เดี๋ยวพวกพี่จะกลับมา เธอห้ามขยับไปไหนเด็ดขาด เข้าใจไหม? นี่ยันต์ถือเอาไว้” ขาลสั่งน้องเสียงเข้มแล้วยัดยันต์ใส่มือน้องก่อนจะก้มลงหอมแก้มเนียนแรง ๆ ฟอดหนึ่ง
“บันนี่ครับ ถ้าเห็นหรือได้ยินอะไรบันนี่อย่ากลัวนะครับ พวกพี่จะจัดการทุกอย่างเองนะคนดี นี่... เบี้ยแก้ ทำมาจากหอยจั่น พี่ปลุกเสกมาเป็นอย่างดี ขลังมาก ป้องกันภูตผีปิศาจได้ หนูห้อยไว้แล้วรอพวกพี่ เป็นเด็กดีอยู่บนรถนะครับ” วาฬบอกสาวน้อยเสียงจริงจัง
หมอเวทหน้าคมคล้องจี้แก้วที่บรรจุเบี้ยไว้บนลำคอระหงของหริณะแล้วก้มลงหอมแก้มน้องเหมือนที่เพื่อนรักทำ
สองหนุ่มพุ่งตัวลงจากรถแล้วปิดประตูปล่อยให้หริณะนั่งงงอยู่บนรถคันหรู เธอเกาะกระจกดูพี่ ๆ ทั้งสองที่ในมือถือมีดหมอคนละด้ามยืนจังก้าเผชิญหน้ากับบางสิ่ง...
บางสิ่งที่เป็นกลุ่มควันสีดำกลุ่มใหญ่คล้ายเงาร่างชายฉกรรจ์... บางสิ่งที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต... นอกจากในฝัน!