เอมิกานั่งจ้องหน้าอาจารย์วาฬตลอดพิธีการบริกรรมคาถาให้เขาลงยันต์สาลิกาลิ้นทองตรงปลายลิ้น
ในใจของสาวน้อยมันเต้นตึกตักไม่หยุด ใช่ว่าจะตื่นเต้นกับการสักสาลิกาลิ้นทองครั้งแรกในชีวิตแต่เพราะหมอเวทที่อยู่เบื้องหน้าเธอหน้าตาหล่อลากดินแบบที่เธอไม่เคยคิดเคยฝันต่างหาก
อาจารย์วาฬ มหาเสกข์โด่งดังเรื่องเครื่องรางของขลัง คนเขาลือกันว่าอาจารย์หน้าตาดีแต่ตัวเอมิกาเองไม่เคยคิดว่าจะดีขนาดนี้ ตาสีเข้มมีประกายคมเหมือนตาเสือ ผิวสีแทนสวยกำลังดี จมูกโด่งเป็นสัน รูปร่างสูงใหญ่กำยำ ที่สำคัญ เขาไม่ได้แต่งชุดพราหมณ์หรือชุดขาวเหมือนพ่อมดหมอผี
หนุ่มหล่อใส่สูทสีดำ สวมแว่นสายตาดูเคร่งขรึม หล่อวัวตายควายล้มเหมือนพวกนักธุรกิจหรือคุณหมอตามโรงพยาบาลมากกว่าหมอผี ผมถูกหวีเซ็ตทรงอย่างดี ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนหมอเวทเลยสักนิด แล้วเก้าอี้ที่เอมิกานั่งอยู่ตอนนี้ก็ไม่เหมือนคนนั่งให้เขาลงยันต์สักเท่าไหร่ มันเป็นเหมือนเก้าอี้คนไข้ที่นั่งให้หมอฟันตรวจฟันเสียมากกว่า เก้าอี้สามารถปรับจากนั่งให้เป็นนอนได้ ส่วนอาจารย์วาฬนั่งอยู่บนเก้าอี้อีกตัวด้านข้าง
วาฬบริกรรมคาถาจนเสร็จแล้วจึงแจ้งให้สาวสวยทราบว่าพิธีกรรมเรียบร้อยแล้ว
“เสร็จแล้วครับ นี่ตลับสีผึ้ง ด้านในมีตะกรุดสาลิกาอยู่ คุณใช้สีผึ้งทาปากได้ตามสมควร มันจะช่วยเพิ่มคนนิยมชมชอบ พูดจาติดต่อซื้อขายราบรื่น” วาฬบอกแล้วส่งตลับสีผึ้งใส ด้านในมีไม้สลักรูปนกสาลิกาและมีตะกรุดแผ่นทองม้วนอยู่ด้านล่างตัวนกส่งให้ลูกค้าสาว
“เออ... อาจารย์คะ เอมขอเบอร์โทรอาจารย์ด้วยได้ไหมคะ? ไม่ใช่เบอร์เลขานะคะ เบอร์ส่วนตัวของอาจารย์น่ะค่ะ” เอมิกาถามเสียงหวาน
“ไม่ได้ครับ มีอะไรติดต่อผ่านเลขาผมได้ครับ ผมไม่รับสายส่วนตัว” วาฬตอบสั้น ๆ
“งั้น... อาจารย์ลงนะหน้าทองให้เอมต่อได้ไหมคะ?” สาวน้อยถามต่อ
วาฬนิ่งคิดอยู่ครู่เดียวแต่สักพักก็ทำท่าสะดุ้งน้อย ๆ เหมือนเขาโดนไฟช็อก เมื่อเอมิกาเห็นเขาสะดุ้งจึงเอ่ยปากถาม
“อาจารย์เป็นอะไรคะ? ทำไมจู่ ๆ สะดุ้ง?”
“เฮ้อ! ไอ้ขาล... ทำเรื่องอีกแล้ว...” หนุ่มหน้าคมพูดเหมือนบ่นกับตัวเองแล้วส่ายหน้าไปมา
“วันนี้ผมทำพิธีอื่นต่อให้คุณเอมไม่ได้แล้วครับ เดี๋ยวผมต้องขอตัวลงไปดูเพื่อนผมหน่อย เหมือนมันจะกลับมาถึงบ้านแล้ว นี่เป็นคู่มือการใช้สาลิกาลิ้นทองพร้อมคาถาบูชานกสาลิกานะครับ ศึกษาดูก่อนได้ อีกสักครู่ผมจะให้ลุงชัย พ่อบ้านมารับคุณเดินกลับไปที่ห้องรับแขก” วาฬพูดพร้อมส่งหนังสือเล่มเล็ก ๆ บาง ๆ ให้สาวสวยก่อนจะเดินออกจากห้องไป
เอมิกามองตามหลังคนร่างสูงไปอย่างงุนงง เขาพูดจาแปลก ๆ ท่าทางก็ไม่เหมือนพ่อมดหมอผีทั่วไป ที่สำคัญ... หล่อลากดิน มิน่าเล่าจองคิวยากนักยากหนา บางคนเสียเงินหลักแสนหลักล้านเพียงเพื่อที่จะได้เข้าทำพิธีกับขาสักครั้ง
ในใจสาวน้อยอยากจะวิ่งตามเขาออกไปแต่ก็กลัวหลงเพราะบ้านหลังนี้ใหญ่โตมากจริง ๆ หญิงสาวจึงได้แต่รอคุณพ่อบ้านให้มารับเดินกลับออกไป
วาฬที่เดินออกจากห้องทำงานแล้วปิดประตูตะโกนเรียกหาลุงชัยเสียงดัง พอพ่อบ้านสูงวัยเดินมาหาวาฬจึงออกคำสั่ง
“อีกสักสิบนาทีค่อยพาลูกค้ากลับลงไปที่ห้องรับแขกนะลุง ผมขอลงไปจัดการไอ้ขาลก่อน มันกลับมาแล้ว น่าจะหิ้วผู้หญิงกลับมาด้วย บอกตั้งไม่รู้กี่ครั้งว่าห้ามพาผู้หญิงมานอนที่บ้านมันก็รู้อยู่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เงินมีตั้งมากมาย ให้ไปเปิดโรงแรมนอนก็ไม่ไป ชอบขัดใจผมนักเชียว” วาฬพูดเชิงบ่น
“ครับนายใหญ่” ลุงชัยโน้มตัวรับคำนายแล้วยืนรอลูกค้าอยู่หน้าห้องตามคำสั่ง
วาฬเดินไปตามหนทาง เลี้ยวซ้ายบ้าง ขวาบ้างอย่างชำนาญก่อนจะเดินลงบันไดกว้างเพื่อมุ่งตรงไปยังห้องที่เขารู้แน่ว่ามีขาลอยู่ด้านใน
“พ่อใหญ่! พ่อเล็กกลับมาแล้ว” เสียงเด็กชายตัวน้อยดังขึ้น จากนั้นเบื้องหน้าของวาฬก็มีกลุ่มควันจาง ๆ ปรากฏขึ้นมาพร้อมร่างกุมารและกุมารีในชุดไทยสองคน ทั้งสองกุมารแต่งชุดไทยโจงกระเบน ไว้จุกกลางหัวตัวอ้วนกลม แก้มแดง ดูน่ารัก
“เออ กูรู้ มึงก็รู้ว่าดวงจิตกูผูกอยู่กับมัน พอมันมาใกล้ ๆ กูก็รู้อยู่แล้วว่ามันมา มึงจะมารายงานกูเพื่ออะไร? ทีเวลาพวกผู้หญิงแอบย่องเข้าบ้านมาเสือกไม่รายงาน พอพ่อเล็กของพวกมึงกลับถึงบ้านเสือกมารายงาน กูล่ะงงกับพวกมึงจริง ๆ เลี้ยงเสียของถวายหรือเปล่าวะพวกมึงเนี่ย?” วาฬพูดเหมือนจะดุกุมารทั้งคู่แต่ในน้ำเสียงมีแววเอ็นดูเจืออยู่ทำให้สองกุมารน้อยรู้แน่ว่าพ่อใหญ่พูดหยอกเล่น
“พวกหนูไม่ได้มาบอกพ่อใหญ่เรื่องพ่อเล็กกลับบ้านอย่างเดียว วันนี้พวกหนูเจอพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง น่ารักมากเลย แบบที่พ่อใหญ่ชอบ... เหมาะมาเป็นแม่พวกหนูมาก” กุมารีแก้วพูดขึ้นมาบ้าง
วาฬขมวดคิ้วหนาขึ้นมาทันทีแล้วเอ่ยปากถามกุมารน้อยทั้งสองของเขา
“พวกมึงรู้ได้ยังไงว่ากูชอบผู้หญิงแบบไหนวะ? แล้วไปเจอผู้หญิงแบบที่กูชอบที่ไหน?”
“แหม... พวกหนูอยู่กับพ่อมาเป็นสิบ ๆ ปี ทำไมจะไม่รู้ล่ะจ๊ะ พ่อใหญ่ชอบแบบ น่ารัก ๆ แบบตาโต ๆ แก้มแดง ๆ ตัวเล็ก ๆ ส่วนพ่อเล็กเน้นพวกนมโต ปากแดง ๆ กัดปากพ่อเล็กเก่ง ๆ” กุมารทองพูดขึ้นมาบ้าง
“แน่ะ! พวกมึงนี่รู้ดีจริง สรุปไปเจอผู้หญิงที่ว่าที่ไหน? อย่าบอกนะว่าพวกมึงออกไปเล่นนอกเขตบ้านมหาเสกข์? หรือว่า... พวกมึงหมายถึงผู้หญิงที่ไอ้ขาลมันหิ้วมานอนด้วย? กูไม่แย่งผู้หญิงกับมันหรอกนะ กูขี้เกียจปวดหัว” วาฬบอกกุมารทั้งสองแล้วส่ายหน้าไปมา
เขาว่าแล้วเชียว ความรู้สึกแปลก ๆ ที่ทำให้หัวใจเขาเกิดหวามไหวเมื่อครู่น่าจะมาจากไอ้ขาลที่หิ้วสาวมาเย่อที่บ้าน รู้ทั้งรู้ว่าดวงจิตของเขากับมันผูกกันอยู่ ไอ้ขาลก็ยังฝ่าฝืนคำสั่ง ดันทุรังพาสาวมานอนที่บ้านอยู่ได้
“ไม่ใช่นะจ๊ะพ่อใหญ่ ผู้หญิงที่พ่อเล็กหิ้วมาเพิ่งกลับไปเมื่อกี้นี้เอง คนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงของพ่อเล็ก พ่อใหญ่ไปดูได้ หนูเห็นเขานอนอยู่ในห้องรับแขกส่วนตัวของพ่อเล็ก” แก้วโต้แย้งพ่อใหญ่ทันที
“หือ? ห้องรับแขกของไอ้ขาลเนี่ยนะ? นอนในห้องรับแขกของไอ้ขาลแต่ไม่ใช่ผู้หญิงของไอ้ขาลเหรอ?” วาฬเลิกคิ้วขึ้นสูงเป็นเชิงถาม
สองกุมารส่ายหน้าพร้อมกัน
“ไม่ใช่จ้ะพ่อ!” กุมารน้อยทั้งสองยิ้มแป้นแล้วตอบเป็นเสียงเดียวกัน
แล้วผู้หญิงแบบที่เขาชอบเข้ามาในบ้านนี้ได้อย่างไร? แล้วเข้าไปทำอะไรในห้องรับแขกของไอ้ขาล? แล้ว...
ก่อนที่จะคิดถึงคำถามต่อไปหนุ่มหล่อหน้าคมก็เดินมาถึงห้องรับแขกของขาลเสียแล้ว เขาผลักประตูเข้าไปทันที
ภาพที่เขาเห็นทำให้ใจเขาเต้นตึกตักแบบไม่ทันตั้งตัว เหมือนที่ไอ้สองกุมารมันแอบมาบอก ผู้หญิงตัวน้อย ๆ ที่นั่งบนโซฟาเบดและกำลังติดกระดุมเสื้อให้ไอ้ขาลเป็นแบบที่เขาชอบจริง ๆ
ตัวเล็ก ๆ หน้าตาสดใส ปากนิดจมูกหน่อย ผมยาวถึงกลางหลัง ตาโต ๆ น่ากอดเหมือนกระต่ายขนปุยตัวน้อย ๆ
สองกุมารคงรู้ดีว่าพ่อใหญ่ของมันชอบผู้หญิงแบบไหน เพราะแฟนเก่าของเขาแต่ละคนล้วนมีลักษณะคล้าย ๆ กัน
“เห็นไหมพ่อใหญ่ เป็นไงล่ะ? ตาค้างเลย หนูบอกแล้วว่าสเปคพ่อ” กุมารทองสะกิดขาพ่ออยู่ยิก ๆ แล้วถาม
“เออ พวกมึงเก่งไอ้ทอง นังแก้ว” วาฬบอกสองกุมารแล้วคลี่ยิ้มออกมา
จะว่ารักแรกพบก็ไม่ผิดนัก แค่เห็นเธอเขาก็อยากรับเลี้ยงกระต่ายตัวเล็ก ๆ ในร่างคนที่นั่งอยู่กับไอ้ขาลเสียแล้ว
ขาลที่ถูกจับติดกระดุมเสื้อรู้สึกถึงความหวิววาบในใจและเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ร่วมใช้ดวงจิตของเขาได้มาถึงแล้ว... ไอ้วาฬ
หนุ่มหล่อหน้าใสหันไปมองคนที่ปกติเคร่งขรึมแต่บัดนี้กลับคลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นหน้าแม่กระต่ายน้อย ถ้าบวกเข้ากับหัวใจของเขาเองที่เต้นตึกตักโดยไม่รู้สาเหตุแค่นี้ก็พอเดาได้แล้วว่าไอ้วาฬต้องชอบแม่สาวน้อยในชุดนักศึกษาคนนี้ตั้งแต่แรกเห็น
“สวัสดีครับคุณผู้หญิง คุณเป็นแขกของขาลเหรอครับ?” หนุ่มหล่อใส่แว่นถามขึ้นมา
หริณะหันไปมองผู้มาเยือนแล้วมีอันต้องนิ่งงันไปครู่หนึ่ง
ทำไมบ้านนี้มีแต่คนหล่อ ๆ ? นี่มันบ้านหมอดูหรือเอเจนซี่ดารานายแบบกันเนี่ย?
“ไม่ใช่แขกฉัน แขกฉันกลับไปโน่นแล้ว” ขาลตอบแทนเด็กสาว
“เออ... คือ... หนูมาส่งเพื่อนน่ะค่ะ เพื่อนของหนูชื่อเอมิกา มาปรึกษาปัญหากับอาจารย์ที่ชื่อปลาวาฬ” หริณะตอบไม่เต็มเสียง รู้สึกประหม่าทันทีเมื่ออยู่ต่อหน้าหนุ่มหล่อสองคนที่จ้องเธอแบบแปลก ๆ ทั้งคู่
“ฮ่า ๆ ๆ ! ไอ้วาฬมึงชื่อปลาวาฬตั้งแต่เมื่อไหร่วะ? น่ารักเชียวมึง อาจารย์ปลาวาฬ” ขาลแซวเพื่อนขึ้นมาทันที
“หุบปากไอ้เชี่ยขาล! ผมไม่ได้ชื่อปลาวาฬครับ ผมชื่อ วาฬ ออกเสียงว่า ‘วา-ละ’ ชื่อเล่นออกเสียงว่า ‘วาน’ แปลว่าสัตว์ร้าย พวกเสือ สิงโตครับ ผมเป็นสัตว์บก ไม่ใช่สัตว์น้ำ” วาฬพยายามอธิบายให้สาวน้อยฟัง
“อ้อ... ค่ะ งั้นคุณคืออาจารย์วาฬเหรอคะ? ทำไม... คุณดูไม่เหมือนหมอดูเลย” หริณะรับคำอย่างงง ๆ แล้วถามเขาต่อทันที
คราวนี้ขาลระเบิดเสียงหัวเราะดังกว่าเดิม
“ฮ่า ๆ ๆ! มึงเป็นหมอดูด้วยไอ้วาฬ!”
“กูบอกให้มึง หุบ-ปาก เชี่ยขาล! เออ... แล้วผมไม่ใช่หมอดูครับ ผมเป็นหมอเวท” วาฬย้ำเพื่อนทีละคำด้วยความรำคาญก่อนจะหันไปแก้ความเข้าใจผิดของหริณะ
“เออ... สรุปเอมเสร็จธุระแล้วใช่ไหมคะ? หนูจะได้กลับไปหาเอม” สาวน้อยถามแล้วลุกขึ้นยืนเตรียมตัวจะเดินออกจากห้อง แต่สายตาของสาวน้อยก็ปะทะเข้ากับร่างเล็ก ๆ สองร่างด้านหลังของวาฬเสียก่อน
“อุ๊ย! น้องสองคนที่เข้ามาเล่นในห้องตอนพี่หลับหรือเปล่าคะ? แต่งตัวน่ารักจัง แต่งให้เข้ากับธีมของบ้านเหรอคะ? แบบ... บ้านหมอผี ต้องมีกุมาร” หริณะดูท่าทางจะเอ็นดูกุมารน้อยทั้งสองเป็นพิเศษ
เด็กน้อยแก้มแดงทั้งชายหญิงฉีกยิ้มกว้างทันทีในขณะที่สองหนุ่มหล่อจ้องตากันเองด้วยความตื่นเต้นแกมพิศวงแล้วหันไปมองหริณะที่เริ่มย่อตัวเตรียมยื่นมือไปจับแก้มยุ้ยของกุมารี
“คุณเห็นแก้วกับทองเหรอ?” ขาลถามขึ้นมาก่อน
“หือ? ถามอะไรแปลก ๆ ในเมื่อคุณเห็นแล้วหนูจะไม่เห็นได้ยังไง?” หริณะตอบเมื่อเอื้อมมือไปถึงแก้มเนียนแล้วสัมผัสมันลงไป...
...และเจอกับความว่างเปล่า!
มือน้อยของเด็กสาวสั่นเบา ๆ ความเย็นพุ่งจากสันหลังวาบไปยังหัวสมอง
เธอเห็นเด็กน้อยสองคน... แต่เด็กน้อยไม่มีตัวตน เป็นเพียงอากาศธาตุ!
“กรี๊ด!” หริณะกรีดร้องขึ้นมาแล้วสลบทันที โชคดีที่วาฬอยู่ใกล้ ๆ เขาทรุดตัวลงแล้วกระหวัดร่างน้อยมาแนบอกก่อนที่ร่างของเด็กสาวจะล้มลงกระแทกพื้น
“พ่อจ๋า พี่เขาเห็นพวกหนูด้วย” แก้วบอกพ่อทั้งสองของเธอแล้วยิ้มอย่างดีใจ
วาฬมองใบหน้าซีดเผือดของสาวน้อยที่สลบไสลในวงแขนแล้วใช้มือใหญ่ยกขึ้นมาไล้ไปตามกรอบหน้าน้อยของหริณะเบา ๆ
“อย่าเรียกเขาว่าพี่... ต่อไปนี้พวกมึงเรียกเขาว่าแม่ได้เลยไอ้ลูกรัก!”