ตอนที่ 2 /1 (NC 20+)

3354 คำ
**มีฉากร่วมรักกันของตัวละครในสถานการณ์กึ่งจำยอมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ไม่ควรลอกเลียนแบบ หลิวรุ่ยหลินถูกหวงอี่หลินจับไปแปลงโฉมขนานใหญ่ ใบหน้าของเธอถูกจับแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางสีอ่อนเพื่อช่วยเพิ่มความสดใส จนมันดูงดงามขึ้นจับตาอย่างเป็นธรรมชาติด้วยฝีมือของช่างแต่งหน้าทำผมระดับมืออาชีพ เส้นผมสีน้ำตาลที่ไม่เคยผ่านการปรุงแต่งมาก่อนของเธอนั้นถูกเซ็ทเป็นทรงใหม่อย่างดีด้วยการดัดลอนเบาๆ เพื่อให้รับกับใบหน้าหวานนั้น จนดูสวยงามขึ้นราวกับว่าเป็นคนละคนกับหลิวรุ่ยหลินคนเก่า จนหลิวรุ่ยหลินที่มองตัวเองในกระจกนั้นยังแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง ก่อนที่ครู่ต่อมาเธอจะถูกหวงอี่หลินพาไปลองชุดมากมายหลังจากนั้น สุดท้ายก็ได้เดรสสีแดงเบอร์กันดีสายเดี่ยวกระโปรงทรงสอบที่ยาวระพื้นขนาดพอดีตัวชุดหนึ่ง ที่เธอออกจะมองว่ามันดูยั่วยวนเกินไปเสียด้วยซ้ำ เพราะคอเสื้อที่เธอคิดว่ามันทั้งลึกและกว้างเสียจนแทบจะเห็นอะไรต่อมิอะไรไปจนหมด ขนาดดูตัวเองในกระจกตอนนี้ยังรู้สึกว่าดูเซ็กซี่ขึ้นมากจนคาดไม่ถึงเลย ไหนจะรอยผ่าแยกกระโปรงด้านข้างนั่นอีกที่ทำให้เห็นโคนขาอ่อนวับแวมยามก้าวเดิน เรียกได้ว่ามันชวนมองและส่งให้ดูรูปร่างดีมากว่าเดิมจนเธอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ทรงชุดที่กระชับสัดส่วนจนทำให้เห็นส่วนโค้งเว้าของเรือนร่างงดงามนั้นชัดเจนเสียจนหลิวรุ่ยหลินคิดว่าขนาดเธอดูตัวเองในกระจกตอนนี้ยังรู้สึกว่าตัวเองดูเซ็กซี่ขึ้นมาเป็นกองแบบที่ไม่เคยคิดมาก่อนเลย “ชุดนี้มันไม่โป๊ไปหน่อยเหรอ” “ไม่หรอกนี่เธอรู้ตัวไหมว่าเธอสวยมากนะ ชุดนี้น่ะดีแล้วเธอต้องไปยั่วยวนเขา ฉันสืบมาแล้วว่าเขาชอบแบบนี้ เชื่อว่าหากเขาได้เห็นเธอเขาต้องมองเธอจนตาค้างไปเลยล่ะ” “แต่... คือฉันว่านี่มันเปิดไหล่มากไปหรือเปล่า” เธอรู้สึกขัดเขินอยู่ไม่น้อยเพราะไม่เคยต้องแต่งตัวเปิดเผยเนื้อตัวสัดส่วนมากขนาดนี้ มาก่อน ปกติแล้วเธอมักแต่งตัวเพียงสวมเสื้อเชิ้ตหรือเสื้อยืดสบายๆ กับกางเกงขายาวสักตัวเท่านั้น ยิ่งมองในกระจกหลิวรุ่ยหลินก็ยิ่งประหม่าและเริ่มไม่มั่นใจตัวเอง “ไม่หรอกน่ารุ่ยหลินท่องไว้เพื่อเงิน” “อืม” สุดท้ายเธอก็จำใจยอมทำตามที่หวงอี่หลินบอก แน่นอนว่าแม้จะหนักใจแต่เมื่อต้องทำเพื่อเงินสุดท้ายเวลานี้เธอจึงก้าวเข้ามาในคลับแห่งนี้แล้ว ทันทีที่เธอก้าวเข้ามาถึงก็มีสายตามากมายพากันจับจ้องและมองเธอกันอย่างไม่วางตาจนหลิวรุ่ยหลินรู้สึกได้ว่าเธอกลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนอย่างสมบูรณ์ หลิวรุ่ยหลินทำใจกล้าเดินอย่างเฉิดฉายตรงไปยังมุมสงบมุมหนึ่งของร้านตามแผน ทันทีที่เธอนั่งลงกลับมีชายหนุ่มที่ดูหล่อมากคนหนึ่งกำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอ แน่นอนว่าคนคนนั้นคือเป้าหมายที่เธอต้องการ ซ่งเหว่ยหนานเป็นหนุ่มนักรักคนหนึ่งตามประสาผู้ชายที่รูปหล่อและประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังอายุน้อย เขาเป็นถึงรองประธานบริษัทที่กำลังจะก้าวขึ้นเป็นประธานบริษัทในเร็วๆ นี้ แน่นอนว่าเมื่อมีหญิงสาวที่น่าสนใจจนเรียกสายตาของทุกคนในที่นี้ได้ย่อมต้องเด่นสะดุดตาจนเข้าตาเขาเช่นกัน แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ชอบหาความสำราญอยู่บ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนใครคือความช่างเลือกของเจ้าตัว ซ่งเหว่ยหนานมักจะมองหาหญิงที่ดูสวยมีเสน่ห์น่าค้นหามากกว่าจะทุ่มเทความสนใจไปให้ผู้หญิงที่ตั้งใจวิ่งเข้าหาเขา แม้ว่าผู้หญิงเหล่านั้นจะมีฐานะที่เท่าเทียมกันแค่ไหนแต่หากวิ่งเข้าหาเขาก่อนมันจะทำให้ความรู้สึกน่าสนใจของพวกเธอลดลงไปทันที เพราะเขาเกิดมาเพื่อเป็นนักล่าไม่ใช่ถูกล่า ดังนั้นหลิวรุ่ยหลินที่เด่นสะดุดตาในคืนนี้จึงกำลังตกเป็นเป้าหมายของเขา “ขอโทษนะคะดิฉันต้องการนั่งคนเดียว” หลิวรุ่ยหลินเอ่ยขึ้นเมื่อเขาไม่ถามไถ่หรือพูดอะไรกับเธอสักคำนอกจากจ้องมองเธอด้วยสายตาและรอยยิ้มที่ดูมั่นใจก่อนจะนั่งลงตรงหน้าเธอโดยไม่ขออนุญาตราวกับว่าเขาและเธอนัดเจอกันในสถานที่แห่งนี้ “คุณคะได้ยินที่ฉันพูดหรือเปล่า นี่คุณจะจ้องฉันอีกนานไหม” หญิงสาวรู้สึกกระอักกระอ่วนใจแปลก ๆ กับท่าทางของคนตรงหน้า คนคนนี้มันปกติดีหรือเปล่า หรือจะเป็นพวกคุณชายโรคจิตกันแน่หลิวรุ่ยหลินก็ชักไม่แน่ใจบางทีเธอคงทำผิดไปแล้วจริงๆ ที่ไปเผลอรับงานนี้เข้า “ก็คุณสวยขนาดนี้แต่งตัวแบบนี้ต้องการให้คนมองไม่ใช่เหรอ” เขาตอบอย่างถือดีก่อนใช้สายตาคมมองสำรวจเธออย่างอุกอาจ จนอาจเรียกได้ว่าดูไร้มารยาท ซ่งเหว่ยหนานถือดีว่าตัวเองนั้นทั้งรูปหล่อ พ่อรวยแน่นอนว่ายังเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่เป็นที่หมายปองของหญิงสาวมากมายเสียอีกดังนั้นเขาจึงมีดีให้อวดและสามารถโอหังกับผู้หญิงทุกคนที่เขาให้ความสนใจได้อย่างมั่นหน้า “นี่คุณ” หลิวรุ่ยหลินแทบจะด่าคนตรงหน้าออกไปแล้วหากไม่นึกได้ก่อนว่านี่คืองานของเธอท่าทางคุกคามแบบนี้คืออะไรกัน ผู้ชายคนนี้ทั้งเจ้าชู้ทั้งไร้มารยาทอย่างบัดซบ คิดว่าตัวเองมีเงินจะทำกับผู้หญิงอย่างไรก็ได้ราวกับว่าเห็นเธอเป็นเพียงของเล่น แม้จะดูหล่อเหลาอย่างมากแต่นิสัยกลับแย่เสียจนไม่เหมาะสมกับหน้าตา ดูแล้วคนคนนี้คงจะเลวจริงอย่างที่เพื่อนเธอว่า “ผมสนใจคุณมื้อนี้ผมเลี้ยงเอง” เขากล่าวอย่างอารมณ์ดีด้วยความมั่นใจ คนระดับคุณชายซ่งแน่นอนว่าเป็นคนดังที่คงไม่มีใครไม่รู้จัก เขาได้ลงนิตยสารหนุ่มพราวเสน่ห์ระดับประเทศด้วยคะแนนอันดับหนึ่งถึงสามปีซ้อนและเชื่อว่าผู้หญิงในประเทศนี้ทุกคนต้องรู้จักตัวเองเป็นอย่างดีดังนั้นเขาจึงยื่นข้อเสนอนี้ต่อเธอ แน่นอนว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาคุยด้วยล้วนไม่เคยปฏิเสธ แต่ไม่ใช่กับเธอ “ไม่ค่ะฉันไม่ต้องการ แล้วกรุณาลุกไปค่ะดิฉันต้องการความเป็นส่วนตัว” หลิวรุ่ยหลินเลือกที่จะปฎิเสธเขาอย่างไร้เยื่อใย ก่อนจะหันหน้าไปมองทางอื่นด้วยท่าทางรำคาญ นี่มันท่าทางอะไรกันยัยคนนี้มาจากไหนถึงไม่รู้จักคนแบบเขา “อะไรนะ นี่เธอ หึ เธอไม่รู้เหรอว่ากำลังคุยอยู่กับใคร” ซ่งเหว่ยหนานเอ่ยกลั้วหัวเราะอย่างนึกขันผู้หญิงตรงหน้าที่สวยขนาดนี้ไปอยู่ที่ไหนมาถึงไม่รู้จักคนดังแบบเขาหรือเธอเพียงแกล้งทำเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขากันแน่และแน่นอนว่าหากเป็นเช่นนั้นเธอคนนี้ก็ทำสำเร็จแล้วล่ะ “ค่ะ ก็คุณไม่ได้แนะนำตัว แล้วฉันจำเป็นต้องรู้จักคุณด้วยงั้นเหรอ” หลิวรุ่ยหลินตอบกลับอย่างไม่สนใจเท่าไหร่นัก สีหน้าท่าทางของเธอนั้นราวกับว่าไม่รู้จักเขาจริงๆ ที่จริงเธอก็ไม่รู้จักเขาจริงๆ นั้นแหละหากไม่ได้รู้จักเขาผ่านหวงอี่หลินที่เล่าเรื่องต่างๆ ของเขาให้ฟังและนำรูปของเขามาให้ดูก่อนหน้านี้ วันๆ เธอทำแต่งานงกๆ จนไม่มีเวลามาให้ความสนใจกับเรื่องไร้สาระมากกว่าทำงานหาเงินได้ หญิงสาวหยิบเมนูอาหารมาเปิดดูอย่างใจเย็นเพราะไม่อยากให้ความสนใจคนตรงหน้าต่อ “คงต้องการเรียกคะแนนสนใจจากผมสินะคุณทำสำเร็จแล้วล่ะ ยินดีด้วย ผมสนใจคุณมากๆ นะ คืนนี้เราไปต่อที่เพนเฮาส์ของผมดีไหม” เขากล่าวด้วยรอยยิ้มยั่วยวนจนคนมองอย่างหลิวรุ่ยหลินเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่นไหวไปกับคำเชิญชวนที่ทรงเสน่ห์นี้ ยอมรับว่าคุณซ่งคนนี้หล่อและมีเสน่ห์อย่างมากจริงๆ เพียงแต่ท่าทางหยิ่งยโสนั่นทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไรนัก หลิวรุ่ยหลินยิ้มให้เขาหนึ่งทีก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างไม่ไว้หน้ากันอีกครั้ง “ถ้าคุณยังทำแบบนี้ฉันไม่คุยด้วยจะดีกว่าขอตัวค่ะ” เธอพูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินผ่านเขาไปในทันทีราวกับซ่งเหว่ยหนานเป็นอากาศธาตุ “เดี๋ยว” ซ่งเหว่ยหนานเกลียดการถูกปฏิเสธคนแบบเขาหากคิดจะเลือกใครแล้วคนคนนั้นย่อมไม่มีทางหนีพ้น เขาใช้มือรั้งเธอที่กำลังเดินผ่านไปไว้ก่อนจะฉุดเธอจนร่างหมุนคว้างกลางอากาศแล้วล้มลงมานั่งบนตัก “ว้าย!!!” หลิวรุ่ยหลินตกใจจริงๆ เพราะคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะบ้ามากขนาดนี้ เธอพอรู้เรื่องนิสัยของเขามาบ้างจากคำบอกเล่าของหวงอี่หลินที่บอกให้เธอปฏิเสธเขาทุกทางแล้วเขาจะสนใจเธอเอง แต่นี่มันดูจะเกินไปหน่อยไหม “ขอโทษครับที่เสียมารยาทผมซ่งเหว่ยหนานรองประธานซีกรุ๊ปคราวนี้คุณจะยอมเสียเวลาคุยกับผมสักหน่อยได้ไหมครับ” เขากล่าวด้วยท่าทีที่ดูสุภาพราวกับสุภาพบุรุษผู้แสนดีใบหน้าหล่อเหลานั้นแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มน้อยๆ อย่างเป็นมิตรดูพราวเสน่ห์จนพาให้เธอเผลอใจไปชั่วขณะ หลิวรุ่ยหลินรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวราวกับจับไข้ ก่อนจะหลบสายตาคมเข้มของเขาที่จ้องมองกันเข้ามาในแววตาอย่างลึกซึ้งด้วยความรู้สึกเขินอายเสียจนไม่กล้าสู้สายตาเขา ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาแล้วใช้เรียวนิ้วเกลี่ยบนแก้มนวลของเธอก่อนจะปัดเส้นผมที่ละลงมาข้างแก้มไปเหน็บไว้กับใบหูให้อย่างอ่อนโยนเพื่อให้เห็นใบหน้าสะสวยของเธอชัดเจนขึ้นท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายในร้านที่กำลังจ้องมองทั้งสองอย่างสนใจ “ผมว่าเราไปคุยในโซนวีไอพีดีกว่าผมอยากรู้จักคุณมากว่านี้” เขากล่าวอย่างสุภาพก่อนจะช้อนร่างเธอขึ้นในวงแขน หลิวรุ่ยหลินเพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองถูกอีกฝ่ายอุ้มขึ้นจึงพยายามดิ้นหนี “ปะปล่อยฉันลงค่ะคนมองหมดแล้ว” “ได้ครับถ้าคุณจะยอมไปคุยกับผมดีๆ” น้ำเสียงนุ่มทุ่มอันทรงเสน่ห์ของเขาและท่าทีที่ดูสุภาพทำให้เธอไม่อาจปฏิเสธเขาได้อีกต่อไป “ค..ค่ะ”เธอรับคำอย่างอายๆ เมื่อถูกวางลงหญิงสาวก็รีบคว้ากระเป๋าตัวเองที่เมื่อครู่นี้เธอเกือบลืมขึ้นมาถือในมือท่าทีราวกับจะหนีกันของเธอทำให้ซ่งเหว่ยหนานพึงพอใจและแอบกระตุกยิ้มก่อนจะรีบคว้าข้อมือเรียวของเธอเอาไว้ในมือแล้วออกแรงดึงให้เธอเดินตามเขาไป ทางเดินที่ทอดยาวพร้อมแสงไฟสลัวที่ทั้งสองก้าวเดินมาด้วยกัน ด้วยความรู้สึกที่ต่างกันออกไปหลิวรุ่ยหลินกำลังประหม่าและทำอะไรไม่ถูกอย่างมากหากเป็นเวลาปกติแล้วเธอคงจะวิ่งหนีไปจากตรงนี้แต่ในตอนนี้ทุกอย่างกำลังเข้าสู่แผนการที่วางไว้ดังนั้นแม้ว่าจะกลัวแค่ไหนแต่เธอก็ไม่อาจละทิ้งงานตรงหน้าไปได้ หากเธอหลอกเขาสำเร็จในคืนนี้พรุ่งนี้พ่อของเธอก็จะได้เข้าผ่าตัดแล้วหลิวรุ่ยหลินจึงจำต้องทำใจดีสู้เสือร้ายตรงหน้าที่กำลังจูงมือเธอก้าวเดินไปตามทางอย่างใจเย็นพวกเขาเข้ามาในห้องวีไอพีด้วยกันตามลำพังหลังจากพนักงานเข้าไปเปิดและจัดเตรียมห้องให้หลิวรุ่ยหลินมองสำรวจบรรยากาศรอบห้องด้วยท่าทางที่ดูค่อนข้างจะระวังตัวนั่นทำให้ซ่งเหว่ยหนานที่คอยแอบลอบมองเธอยิ่งชอบใจ ในห้องนี้ค่อนข้างเป็นส่วนตัวอย่างมากแม้ว่าจะเป็นห้องที่แยกออกมาแต่บรรยากาศก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลิวรุ่ยหลินคิดกลัวไปในตอนแรก ในห้องกว้างนี้มีโซฟาตัวใหญ่ที่โต๊ะกลางโซฟามีอาหารทานเล่นวางอยู่สองสามอย่างตรงนั้นคิดว่าคงเป็นพนักงานที่เพิ่งออกไปก่อนหน้านี้ตอนที่เธอและซ่งเหว่ยหนานเดินมาถึง ซ่งเหว่ยหนานมีท่าทีที่สุภาพกับเธออย่างมากกว่าคราวแรกเขาเชิญเธอให้นั่งลงก่อนจะสั่งเครื่องดื่มให้เธอและตัวเองเขาชวนเธอดื่มและพูดคุยเรื่องราวต่างๆ ด้วยหลายอย่างตอนแรกเธอก็รู้สึกเกร็งและแปลกอยู่มากเมื่อต้องมาอยู่ด้วยกันสองต่อสองกับชายแปลกหน้าที่เพิ่งได้รู้จักกันเพียงไม่นาน หลิวรุ่ยหลินไม่เคยมีแฟนและไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายที่ไหนมากเท่านี้มาก่อนจึงได้รู้สึกประหม่างานที่ต้องมาตีสนิทผู้ชายคนนี้และยั่วยวนอีกฝ่ายให้ติดกับกลายเป็นเรื่องที่เธอรู้สึกว่ายากเสียเหลือเกินแล้วแต่เมื่อพูดคุยกันไปสักพักเธอจึงได้พบว่าเขาและเธอสามารถพูดคุยกันได้อย่างถูกคอเพราะมีอะไรหลายอย่างที่ชอบเหมือนกันและมีความเห็นที่ไปในทิศทางเดียวกันหลายๆ เรื่องระหว่างที่เธอดื่มและพูดคุยกับเขา ที่จริงเพราะซ่งเหว่ยหนานเป็นคนฉลาดและรู้ว่าจะทำอย่างไรให้หญิงสาวพอใจ เขาจึงใช้ทุกทางเพื่อสร้างความประทับใจให้อีกฝ่ายเพราะรู้สึกว่าเธอคนนี้น่าสนใจอย่างมาก อย่างแรกเธอคือหญิงสาวที่สวยสะดุดตารูปร่างบอบบางน่าทะนุถนอมคราวแรกเขาทำเพื่อเพียงจะลองใจเท่านั้นหากเป็นผู้หญิงทั่วไปคงรีบทอดกายทอดใจให้เขาโดยไม่คิดแต่ผู้หญิงคนนี้กลับดูตกใจและประหม่าท่าทีเขินอายตลอดการสนทนาของเธอเป็นธรรมชาติไม่ใกล้เคียงกับคำว่าเสแสร้งเลยแม้แต่น้อยจึงยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าเธอน่าสนใจกว่าทุกคน อย่างที่สองที่ได้ค้นพบหลังผ่านการสนทนากันมาครู่ใหญ่ซ่งเหว่ยหนานจึงพบว่าเธอนั้นนอกจากสุภาพแล้วยังเป็นผู้หญิงที่มีทัศนคติดีคนหนึ่ง เธอน่าค้นหาและมีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อยามเมื่อได้พูดคุยกันทำให้เขารู้สึกราวกับว่าคุ้นเคยกับเธอคนนี้มาเนิ่นนานจนซ่งเหว่ยหนานอดไม่ได้ที่จะคิดว่าเธออาจเป็นสิ่งที่ใครหลายคนเรียกว่ารักแรกพบ หวงอี่หลินและเกาเทียนเจี๋ยกำลังแอบดูผลงานด้วยความพึงพอใจซ่งเหว่ยหนานกำลังติดกับที่พวกเขาวางเอาไว้และเวลานี้เขาได้ใส่ยาลงไปในแก้วเครื่องดื่มที่ทั้งสองคนสั่งเข้ามาครั้งล่าสุดหวงอี่หลินปลอมตัวเป็นพนักงานเสิร์ฟโดยที่ซ่งเหว่ยหนานไม่ทันได้สังเกตจึงไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยเพราะเขากำลังสนใจเพียงหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น แก้วไวน์สองแก้วล่าสุดที่ถูกยกเข้ามาเวลานี้ใส่ยาปลุกเซ็กส์อย่างแรงลงไป พวกเขาไม่คิดจะจัดฉากลวกๆ อย่างที่เคยบอกกับหลิวรุ่ยหลินเพราะรู้ดีว่าคนแบบซ่งเหว่ยหนานฉลาดแค่ไหน หากครั้งนี้พลาดพวกเขาคงยากจะลงมือได้อีก หวงอี่หลินและเกาเทียนเจี๋ยจึงวางแผนไว้แต่ต้นแล้วว่าจะส่งหลิวรุ่ยหลินขึ้นเตียงกับซ่งเหว่ยหนานจริงๆ เพื่อให้คลิปที่ออกมานั้นสมบูรณ์ พวกเขาเตรียมห้องในโรงแรมแห่งหนึ่งไว้แล้วพร้อมกับกล้องบันทึกภาพหลายตัวที่มั่นใจว่าจะสามารถถ่ายคลิปออกมาได้อย่างชัดเจนทุกมุม รอยยิ้มมุมปากแอบปรากฏขึ้นทันทีที่ทั้งสองเห็นว่าซ่งเหว่ยหนานและหลิวรุ่ยหลินกำลังสนทนากันโดยไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าตนเองกำลังถูกวางยา ทั้งสองพูดคุยกันอย่างเพลิดเพลินและดื่มไวน์แก้วนั้นจนหมดโดยที่ต่างก็ไม่รู้ตัวเลยสักนิด ซ่งเหว่ยหนานและหลิวรุ่ยหลินเริ่มประคองสติไม่อยู่ทั้งคู่ก่อนที่พวกเขาจะถูกทำให้หลับเพื่อง่ายแก่การพาตัวออกไปเมื่อยาเริ่มออกฤทธิ์เกาเทียนเจี๋ยและหวงอี่หลินช่วยกันประคองทั้งสองคนออกไปทางหลังร้านและพาไปยังจุดหมายอย่างง่ายดายเพราะเวลาที่ซ่งเหว่ยหนานมาเที่ยวคลับนี้เขาจะไม่นำคนติดตามมาด้วยดังนั้นมันจึงกลายเป็นช่องโหว่ให้พวกเขาลงมือได้โดยง่าย ทั้งสองถูกนำตัวไปไว้บนเตียงกว้างของห้องพักหรูในโรงแรมแห่งหนึ่งที่ถูกจัดเตรียมไว้หวงอี่หลินและเกาเทียนเจี๋ยขังทั้งคู่ไว้ด้วยกันและแอบดูทั้งสองผ่านกล้องจากห้องที่อยู่ข้างๆเวลาผ่านไปเพียงครู่เดียวทั้งสองคนก็เริ่มรู้สึกตัวหลิวรุ่ยหลินยังรู้สึกมึนงงเป็นอย่างมากเพราะเครื่องดื่มก่อนหน้านี้และยาที่ถูกวางจึงทำให้เธอมีสติไม่เต็มร้อยก่อนที่ครู่ต่อมาเธอจะรู้สึกร้อนวูบวาบตามร่างกายอย่างไม่เคยเป็น ความรู้สึกประหลาดตีรวนเข้ามาจนทำให้เธอรู้สึกทรมานอย่างมากแต่สติที่มีก็น้อยเกินกว่าจะพาตัวเองหนีออกไปจากตรงนี้ ซ่งเหว่ยหนานที่รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกับความต้องการทางร่างกายและสติที่ไม่เต็มร้อยสายตาคมมองเห็นเรือนร่างงดงามที่นอนทอดกายอยู่ด้านข้างมือหนาก็เริ่มส่งมือเข้าไปลูบคลำเธออย่างไม่อาจห้ามใจฤทธิ์ของยาแรงมากจนทำให้เขามึนเมาไปกับมันจนไม่อาจควบคุมตนเองได้เลย เขาปลดเสื้อผ้าตัวเองออกก่อนจะกักตัวสาวสวยข้างกายเอาไว้ใต้ร่างลมหายใจที่ติดขัดถูกพรูออกมาอย่างหนักหน่วงด้วยความรู้สึกตื่นเต้นระคนความสนุกสนานเพราะอานุภาพของยาที่เขาได้รับเข้าไปในร่างกาย ร่างหนาก้มลงไปจูบใบหน้างดงามของคนเบื้องล่างที่ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกตัวแล้วเช่นกัน หลิวรุ่ยหลินเองก็กำลังมึนเมาราวกับอยู่ในความฝันและไม่เป็นตัวของตัวเองพร้อมกับความต้องการที่พลุ่งพล่าน ริมฝีปากร้ายฉกชิงลมหายใจของร่างบางอย่างหนักหน่วงด้วยรสจูบอันแสนร้อนแรงนั้นทำให้ทั้งเขาและเธอรู้สึกวูบวาบมากขึ้นตามแรงอารมณ์ที่ลุกโหม มือหนาของเขาสัมผัสเรือนร่างงดงามของเธอลูบคลำมันไปจนทั่วอย่างเอาแต่ใจ ส่วนหลิวรุ่ยหลินที่กำลังเมายาจนไม่เหลือสตินั้นก็กลับไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ เธอรู้เพียงว่าร่างกายของเธอร้อนรุ่มและกำลังมีความต้องการบางอย่างตีรวนจนแทบคลั่ง ดังนั้นเธอจึงตอบรับทุกสัมผัสร้อนแรงของคนบนร่างโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวเพียงเพราะรู้สึกดีทุกครั้งที่ถูกคนบนร่างสัมผัสร่างกาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม