ความอัจฉริยะ

991 คำ
ดิสเพ่งสายตามองไปยังหัวหน้ากิลด์เทวะ ด้วยความโมโห เขาตอบโต้อะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย แรงกดดันมหาศาลกดทับร่างของเขาไว้ แทนยังไม่ได้โจมตีดิสเลยด้วยซ้ำ อีกฝ่ายเพียงแค่ใช้สายตาจับมอง ดิสก็รู้สึกราวถูกโซ่ตรวนหลายร้อยเส้นรัดแน่น ‘นี่สินะ ความต่างชั้นของพลังของเรากับคลาส S’ ดิสกัดฟันแน่น เขาทำอะไรไม่ได้ แม้แต่พูดเขายังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แทนไม่ได้ต้องการจะทำร้ายเขา เพียงแต่ว่าสิ่งที่ดิสทำไว้ก่อนหน้านั้นไม่ต่างจากการฉีกหน้าเขาต่อสมาชิกกิลด์เลย เขามองว่าดิสนั้นอวดดี ที่เขาทำแบบนี้ก็เพียงแค่อยากจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้รู้สำนึกเท่านั้น ว่าดิสและเขานั้นมันคนละระดับกัน ราชาวดีที่เห็นแบบนั้นก็ตบโต๊ะอย่างไม่พอใจ เธอไม่ชอบนักที่แทนทำอะไรไม่เห็นหัวเธอแบบนี้ หัวหน้ากิลด์สะดุ้งเล็กน้อย นั่นทำให้ดิสกลับมาขยับตัวได้อีกครั้ง แฮ่ก… ดิสหอบหายใจ เขายกมือขึ้นมากุมอกตัวเอง ตอนนี้ความหนักอึ้งมันหายไปแล้ว… ราชาวดีหันมองไปทางหัวหน้ากิลด์เทวะก่อนจะกล่าวออกมาอย่างไม่พอใจ “คุณไม่เห็นบอกฉันเลย ว่าคุณจะบังคับเขาเข้ากิลด์แบบนี้” เมื่อแทนได้ยินแบบนั้นก็หันมามองทางเธออย่างไม่ทุกข์ร้อน “แต่คุณก็บอกไม่ใช่เหรอ ว่าอยากให้เขาเข้าร่วมกับกิลด์เทวะ อยากให้เราปกป้องเขา?” ราชาวดีกำหมัดแน่น “แต่ฉันไม่ได้เห็นด้วยกับการบังคับเขาแบบนี้” ชายผมฟ้าได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจ “แต่จุดประสงค์ก็ไม่ได้ต่างกัน แต่ถ้าคุณไม่สบายใจที่ผมทำแบบนี้ ผมจะไม่บังคับเขาแล้วก็ได้” แทนว่าก่อนจะหันไปทางดิส ซึ่งตอนนี้กำลังนอนฟุ่บอยู่กับโต๊ะตัวสั่น “แต่เขาต้องเอาชีวิตรอดจากครุฑนั่นให้ได้ด้วยตัวเอง” ราชาวดีหันไปพยุงดิสเงยหน้าขึ้นด้วยความเป็นห่วง เธอผิดหวังในตัวแทนไม่น้อย ก่อนหน้านี้เธอไว้ใจแทนในฐานะหัวหน้ากิลด์เทวะมาโดยตลอด เพราะในช่วงเวลาหลายปีที่เธอทำงานร่วมกันมานั้น แทนมีความเป็นผู้นำสูงพอๆ กับอีโก้ของเขา ชอบตัดสินใจหลายอย่างโดยไม่ปรึกษาใคร แต่ก็ดูแลบริหารทุกอย่างในกิลด์ได้ดี ตอนแรกเธอจึงวางใจที่จะไหว้วานให้ช่วยเหลือดิสประสานกับสำนักงานพรานทมิฬ หลังจากนั้นค่อยหว่านล้อมให้เข้ากิลด์เทวะ เพราะชื่อเสียงและตำแหน่งใหญ่โตของพรานทมิฬคลาส S เลยไม่มีใครกล้าปฏิเสธข้อเสนอของเขา ราชาวดีจึงไม่รู้เลยว่าจุดเดือดของแทนจะต่ำแบบนี้ เธอลูบไปมาที่หลังดิส รู้สึกผิดมากที่พาเขามาเจออะไรแบบนี้ ราชาวดีต้องการจะพาดิสออกไปจากที่นี่เพื่อขอโทษและปรับความเข้าใจ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว เธอเพิ่งสังเกตเห็นแววตาของดิสที่เปลี่ยนไป นัยน์ตาหดเล็กลงและส่องประกายสีทองอร่ามพร้อมกัดฟันแน่น เลือดในกายของดิสมันร้อนระอุ สายตาชายหนุ่มจับจ้องไปยังหัวหน้ากิลด์เทวะ สัญชาตญาณความบ้าคลั่งปะทุดังจนแทบจะกลบเสียงทุกอย่างในหูตัวเอง ดิสผลักร่างราชาวดีโดยไม่ทันตั้งตัว จนเธอตกจากเก้าอี้กลิ้งไปกับพื้น แทนที่เห็นแบบนั้นก็หรี่ตามอง “หืม… โกรธเหรอครับ?” ดิสไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายพูดเลยแม้แต่นิด เขาพุ่งเข้าง้างหมัดชกไปที่หน้าของอีกฝ่าย แต่ก่อนที่หมัดพุ่งไปถึงนั้นก็ต้องชะงัก เพียงสายตานั้นจ้องมากลับสร้างความกดดันทวีคูณจนหยุดการโจมตีได้ ออร่าสีขาวจากชายตรงหน้าบ่งบอกถึงความอันตรายที่ไม่อาจประเมินเป็นตัวเลข ดิสตัวแข็งทื่อ ‘ระดับ ม.. มันห่างกันเกินไป’ ดิสกัดฟันแน่น อีกฝ่ายยังไม่ทันได้ใช่พรสวรรค์เลยด้วยซ้ำ สายตาดิสเริ่มพร่ามัว…. ก่อนทุกอย่างจะค่อยๆ มืดไป อึ่กกก! ดิสลืมตาขึ้นมาอีกครั้งขณะนั่งอยู่บนเบาะหลังรถแท็กซี่ เขามีอาการสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็รีบตั้งสติมองรอบๆ คนที่นั่งอยู่ข้างๆ เขานั้นคือมิกส์ บอดี้การ์ดของเขาที่สวมเผือกแขน “ตื่นแล้วเหรอครับ?” มิกส์กล่าวพร้อมกับมองหน้าเขา ดิสยกมือขึ้นนวดขมับตนเล็กน้อย มันค่อนจะปวดแต่ไม่มากนัก “คุณพาผมออกมาเหรอ…” มิกส์พยักหน้า “ใช่น่ะสิ ผมเห็น รปภ. หลายคนรีบขึ้นไปชั้นบน เลยสงสัยว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้นรึเปล่า และผมก็เดาถูก พวกรปภ.ไปเพื่อแบกคุณที่หมดสติออกมาจากห้อง ผมเลยพาคุณออกมานี่แหละ” ดิสที่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจ “หมั่นไส้ไอ้บ้านั่นชิบหายเลย…” มิกส์เลิกคิ้วเล็กน้อย “ไอ้หัวหน้ากิลด์นั่นอัดคุณเหรอ?” ดิสส่ายหน้าเป็นคำตอบ “ผมแพ้โดยที่หมอนั่นยังไม่ได้แตะตัวผมเลยด้วยซ้ำ” ระหว่างที่กำลังจมกับความรู้สึกแค้นเคือง ระบบก็แจ้งเตือนขึ้นมาตรงหน้าเขา เควส : ผ่าน! ดิสเลิกคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ “อะไรวะเนี่ย?” มิกส์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นดิสมองเบาะหน้ารถแล้วอุทานออกมา “คุณสมองกระทบกระเทือนรึเปล่า?” ดิสหันไปมองบอดี้การ์ดตน “ไม่ ไม่ใช่” ว่าจบเขาก็หันมามองหน้าต่างระบบอีกครั้ง [เนื่องจากเควส ‘ชิงเบี้ยบน’ สำเร็จ] [อัปเดตสถานะใหม่ ‘ความอัจฉริยะ’] ชื่อ : ดิส พลังโจมตี : + 40 ความเร็ว : + 40 ความทนทาน : + 40 ความอัจฉริยะ : ปกติ ดิสเลิกคิ้วมองอย่างสงสัยและไม่เข้าใจ ‘ไปชนะตอนไหนวะเนี่ย? ’ To be continued → 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม