ดิสเพ่งสายตามองไปยังหัวหน้ากิลด์เทวะ ด้วยความโมโห เขาตอบโต้อะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย
แรงกดดันมหาศาลกดทับร่างของเขาไว้ แทนยังไม่ได้โจมตีดิสเลยด้วยซ้ำ อีกฝ่ายเพียงแค่ใช้สายตาจับมอง ดิสก็รู้สึกราวถูกโซ่ตรวนหลายร้อยเส้นรัดแน่น
‘นี่สินะ ความต่างชั้นของพลังของเรากับคลาส S’
ดิสกัดฟันแน่น เขาทำอะไรไม่ได้ แม้แต่พูดเขายังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
แทนไม่ได้ต้องการจะทำร้ายเขา เพียงแต่ว่าสิ่งที่ดิสทำไว้ก่อนหน้านั้นไม่ต่างจากการฉีกหน้าเขาต่อสมาชิกกิลด์เลย
เขามองว่าดิสนั้นอวดดี ที่เขาทำแบบนี้ก็เพียงแค่อยากจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้รู้สำนึกเท่านั้น ว่าดิสและเขานั้นมันคนละระดับกัน
ราชาวดีที่เห็นแบบนั้นก็ตบโต๊ะอย่างไม่พอใจ เธอไม่ชอบนักที่แทนทำอะไรไม่เห็นหัวเธอแบบนี้
หัวหน้ากิลด์สะดุ้งเล็กน้อย นั่นทำให้ดิสกลับมาขยับตัวได้อีกครั้ง
แฮ่ก…
ดิสหอบหายใจ เขายกมือขึ้นมากุมอกตัวเอง ตอนนี้ความหนักอึ้งมันหายไปแล้ว…
ราชาวดีหันมองไปทางหัวหน้ากิลด์เทวะก่อนจะกล่าวออกมาอย่างไม่พอใจ
“คุณไม่เห็นบอกฉันเลย ว่าคุณจะบังคับเขาเข้ากิลด์แบบนี้”
เมื่อแทนได้ยินแบบนั้นก็หันมามองทางเธออย่างไม่ทุกข์ร้อน “แต่คุณก็บอกไม่ใช่เหรอ ว่าอยากให้เขาเข้าร่วมกับกิลด์เทวะ อยากให้เราปกป้องเขา?”
ราชาวดีกำหมัดแน่น
“แต่ฉันไม่ได้เห็นด้วยกับการบังคับเขาแบบนี้”
ชายผมฟ้าได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจ “แต่จุดประสงค์ก็ไม่ได้ต่างกัน แต่ถ้าคุณไม่สบายใจที่ผมทำแบบนี้ ผมจะไม่บังคับเขาแล้วก็ได้”
แทนว่าก่อนจะหันไปทางดิส ซึ่งตอนนี้กำลังนอนฟุ่บอยู่กับโต๊ะตัวสั่น
“แต่เขาต้องเอาชีวิตรอดจากครุฑนั่นให้ได้ด้วยตัวเอง”
ราชาวดีหันไปพยุงดิสเงยหน้าขึ้นด้วยความเป็นห่วง เธอผิดหวังในตัวแทนไม่น้อย
ก่อนหน้านี้เธอไว้ใจแทนในฐานะหัวหน้ากิลด์เทวะมาโดยตลอด เพราะในช่วงเวลาหลายปีที่เธอทำงานร่วมกันมานั้น แทนมีความเป็นผู้นำสูงพอๆ กับอีโก้ของเขา ชอบตัดสินใจหลายอย่างโดยไม่ปรึกษาใคร แต่ก็ดูแลบริหารทุกอย่างในกิลด์ได้ดี
ตอนแรกเธอจึงวางใจที่จะไหว้วานให้ช่วยเหลือดิสประสานกับสำนักงานพรานทมิฬ หลังจากนั้นค่อยหว่านล้อมให้เข้ากิลด์เทวะ
เพราะชื่อเสียงและตำแหน่งใหญ่โตของพรานทมิฬคลาส S เลยไม่มีใครกล้าปฏิเสธข้อเสนอของเขา ราชาวดีจึงไม่รู้เลยว่าจุดเดือดของแทนจะต่ำแบบนี้
เธอลูบไปมาที่หลังดิส รู้สึกผิดมากที่พาเขามาเจออะไรแบบนี้ ราชาวดีต้องการจะพาดิสออกไปจากที่นี่เพื่อขอโทษและปรับความเข้าใจ
แต่มันก็สายเกินไปแล้ว เธอเพิ่งสังเกตเห็นแววตาของดิสที่เปลี่ยนไป นัยน์ตาหดเล็กลงและส่องประกายสีทองอร่ามพร้อมกัดฟันแน่น
เลือดในกายของดิสมันร้อนระอุ สายตาชายหนุ่มจับจ้องไปยังหัวหน้ากิลด์เทวะ สัญชาตญาณความบ้าคลั่งปะทุดังจนแทบจะกลบเสียงทุกอย่างในหูตัวเอง
ดิสผลักร่างราชาวดีโดยไม่ทันตั้งตัว จนเธอตกจากเก้าอี้กลิ้งไปกับพื้น
แทนที่เห็นแบบนั้นก็หรี่ตามอง “หืม… โกรธเหรอครับ?”
ดิสไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายพูดเลยแม้แต่นิด เขาพุ่งเข้าง้างหมัดชกไปที่หน้าของอีกฝ่าย
แต่ก่อนที่หมัดพุ่งไปถึงนั้นก็ต้องชะงัก เพียงสายตานั้นจ้องมากลับสร้างความกดดันทวีคูณจนหยุดการโจมตีได้
ออร่าสีขาวจากชายตรงหน้าบ่งบอกถึงความอันตรายที่ไม่อาจประเมินเป็นตัวเลข ดิสตัวแข็งทื่อ
‘ระดับ ม.. มันห่างกันเกินไป’
ดิสกัดฟันแน่น อีกฝ่ายยังไม่ทันได้ใช่พรสวรรค์เลยด้วยซ้ำ
สายตาดิสเริ่มพร่ามัว….
ก่อนทุกอย่างจะค่อยๆ มืดไป
อึ่กกก!
ดิสลืมตาขึ้นมาอีกครั้งขณะนั่งอยู่บนเบาะหลังรถแท็กซี่ เขามีอาการสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็รีบตั้งสติมองรอบๆ
คนที่นั่งอยู่ข้างๆ เขานั้นคือมิกส์ บอดี้การ์ดของเขาที่สวมเผือกแขน
“ตื่นแล้วเหรอครับ?”
มิกส์กล่าวพร้อมกับมองหน้าเขา
ดิสยกมือขึ้นนวดขมับตนเล็กน้อย มันค่อนจะปวดแต่ไม่มากนัก “คุณพาผมออกมาเหรอ…”
มิกส์พยักหน้า “ใช่น่ะสิ ผมเห็น รปภ. หลายคนรีบขึ้นไปชั้นบน เลยสงสัยว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้นรึเปล่า และผมก็เดาถูก พวกรปภ.ไปเพื่อแบกคุณที่หมดสติออกมาจากห้อง ผมเลยพาคุณออกมานี่แหละ”
ดิสที่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจ “หมั่นไส้ไอ้บ้านั่นชิบหายเลย…”
มิกส์เลิกคิ้วเล็กน้อย “ไอ้หัวหน้ากิลด์นั่นอัดคุณเหรอ?”
ดิสส่ายหน้าเป็นคำตอบ “ผมแพ้โดยที่หมอนั่นยังไม่ได้แตะตัวผมเลยด้วยซ้ำ”
ระหว่างที่กำลังจมกับความรู้สึกแค้นเคือง ระบบก็แจ้งเตือนขึ้นมาตรงหน้าเขา
เควส : ผ่าน!
ดิสเลิกคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ “อะไรวะเนี่ย?”
มิกส์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นดิสมองเบาะหน้ารถแล้วอุทานออกมา
“คุณสมองกระทบกระเทือนรึเปล่า?”
ดิสหันไปมองบอดี้การ์ดตน “ไม่ ไม่ใช่”
ว่าจบเขาก็หันมามองหน้าต่างระบบอีกครั้ง
[เนื่องจากเควส ‘ชิงเบี้ยบน’ สำเร็จ]
[อัปเดตสถานะใหม่ ‘ความอัจฉริยะ’]
ชื่อ : ดิส
พลังโจมตี : + 40
ความเร็ว : + 40
ความทนทาน : + 40
ความอัจฉริยะ : ปกติ
ดิสเลิกคิ้วมองอย่างสงสัยและไม่เข้าใจ
‘ไปชนะตอนไหนวะเนี่ย? ’
To be continued →