อยากทดสอบพลัง

1320 คำ
สำนักงานกิลด์เทวะ สาขา 2 ดิสย่างเท้าไปตามทางเดินของตึกสำนักงานกิลด์เทวะ เขาเพิ่งจะคุยกับแทนเสร็จเรื่องการเข้าร่วม อีกฝ่ายบอกว่าหลังจากจบการไต่สวน ดิสจะเข้ารับการวัดพลังจากสำนักงานพรานทมิฬแห่งประเทศไทย และเข้าร่วมกับกิลด์อย่างเป็นทางการ ดิสถอนหายใจอ่อน เขาไม่อยู่นานหรอก สัญญาจ้างที่คุยกันไว้คือ 1 ปี แน่นอนว่าเขาจะไม่ต่อสัญญา เขามีทางเดินของตัวเอง ตอนนี้มันเป็นเพียงความจำเป็นเท่านั้น แต่… ‘ไอ้หัวหน้ากิลด์บ้านั่นก็อาจจะมีลูกไม้อะไรมาอีกก็ได้ในอนาคต’ ดิสหยุดเดินขณะมองประตูห้องๆ หนึ่งระหว่างทางอย่างสนอกสนใจ มันมีป้ายเขียนติดหน้าห้องว่า [ห้องซ้อม] ดิสหรี่ตามองเล็กน้อย ‘น่าสนใจแฮะ’ นี่น่ะเหรอสถานที่ ที่พรานทมิฬสังกัดกิลด์เทวะใช้ซ้อมเพื่อจะปิดดันเจี้ยน เขาสงสัยจริงๆ ว่ามันจะเป็นไง เขาเตรียมตัวกันยังไงกันนะพวกพรานทมิฬ ดิสค่อยๆ เอื้อมมือเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าห้องนี้นั้นกว้างมาก มันโล่งโจ้งราวกับว่ามีไว้ปลดปล่อยพลังโดยเฉพาะ พรานทมิฬในห้องนี้มีราวๆ 4 ถึง 5 คน พวกนั้นพากันมองมายังดิสเป็นตาเดียว แต่ในขณะนั้นมิกส์อดีตบอดี้การ์ดของเขาก็เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำตรงมุมห้องพอดี มิกส์โบกมือทักทายตอนนี้มิกส์ก็มีชะตากรรมเดียวกับเขา เพื่อหาเลี้ยงชีพอดีตบอดี้การ์ดต้องเข้าร่วมกับกิลด์เทวะเช่นกัน แต่เขาก็ต้องสมัครใหม่พร้อมกับดิส ต่างกันก็แค่… มิกส์ไม่จำเป็นต้องวัดระดับเช่นเขา มิกส์เดินตรงมาหาอดีตนายจ้าง พร้อมกับรอยยิ้มที่คุ้นเคย “ว่าไง บอดี้การ์ดคนใหม่เป็นไงบ้าง?” ดิสส่ายหน้าตอบ “ผมยกเลิกสัญญาไปแล้วล่ะ” เมื่อมิกส์ได้ยินแบบนั้นก็เลิกคิ้ว “ไหงงั้นล่ะคุณ?” เมื่อดิสได้ยินแบบนั้นก็ยกมือขึ้นกอดอก “ตอนนี้เรียกว่าดิสเฉยๆ เถอะ คุณไม่ได้เป็นบอดี้การ์ดผมแล้วนะ” เมื่อมิกส์ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า “ได้สิดิส” ดิสรู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย ดูเหมือนอดีตบอดี้การ์ดแสนยียวนคนนี้จะปรับตัวได้เร็วมากทีเดียว ดิสยักไหล่ ดูเหมือนเขาต้องปรับตัวตามบ้างแล้ว “หวังว่าจะไม่โกรธนะที่ฉันทำนายตกงาน” มิกส์ยกมือขึ้นมากอดอกเช่นกัน “ก็โกรธแหละ แต่ทำไงได้ล่ะ ฉันเป็นคนตัดสินใจเอง” ดิสพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขารู้สึกผิดมาก แต่พอเห็นอีกฝ่ายปรับตัวได้เร็วเช่นนี้ก็เบาใจไปได้ไม่น้อย ดิสมองข้ามหัวไหล่ชายตรงหน้า ภาพที่เห็นทำเขาตื่นเต้นพอสมควร พรานทมิฬที่อยู่ในห้องนี้ซ้อมต่อสู้กันด้วยพรสวรรค์ที่มี นี่น่ะเหรอคือการซ้อมของผู้มีพรสวรรค์ ดิสยิ้มมุมปากเล็กๆ ก่อนจะหันไปทางอดีตบอดี้การ์ด “คุณก็ ไม่สิ นายก็มาซ้อมกับคนพวกนี้เหรอ?” มิกส์หันมองไปทางด้านหลัง เขายิ้มนิดหน่อยเพราะเห็นดิสยังไม่ชินกับการพูดเป็นกันเองกับตน “ใช่… มาซ้อม แต่ก็ไม่ค่อยมีคนอยากซ้อมด้วยหรอก” เมื่อดิสเห็นแบบนั้นก็เลิกคิ้ว “ทำไมล่ะ?” มิกส์หัวเราะเบาๆ “ถ้ากิลด์นี้เป็นโรงเรียน เราก็เหมือนหมาหัวเน่าเลยล่ะ พวกนั้นเกลียดขี้หน้าเราเพราะมองว่าฉันกับนายเป็นเด็กเส้น” ดิสพยักหน้าเข้าใจได้ในทันที จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นผนวกกับเรื่องราวทั้งหมด ดิสไม่แปลกใจหรอกที่คนพวกนี้จะเหม็นหน้าเพราะกิลด์ใหม่มาทาบทามให้พวกเขาเข้าร่วม ‘อิจฉาแหละดูออก…’ แต่… ดิสมองมองมิกส์ก่อนจะคลี่ยิ้มบาง อดีตบอดี้การ์ดที่เป็นเพื่อนเขาดูไม่ได้แคร์เลยสักนิด ดูจะออกไปทางตลกซะด้วยซ้ำ ‘ถึงจะเป็นคนกวนส้น แต่มีความเป็นผู้ใหญ่จริงๆ ’ ดิสคิดแบบนั้นก่อนจะเดินผ่านหัวไหล่ชายตรงหน้า ‘แต่เราไม่ได้มีความเป็นผู้ใหญ่ขนาดเขาสักหน่อย’ มิกส์เอื้อมไปแตะหัวไหล่อดีตนายจ้างตนไว้ ทำดิสชะงัก “จะทำอะไรน่ะ?” ดิสหันมามองอีกฝ่ายก่อนจะฉีกยิ้ม เขาตื่นเต้นจากพลังใหม่ที่ได้รับ ตอนนี้ถือว่าเป็นโอกาสประจวบเหมาะที่จะได้ลองใช้ของใหม่ในการต่อสู้พอดีเลย ดิสหันไปทางกลุ่มพรานก่อนตะโกนเรียกให้ทุกคนหันมาสนใจเขา “มีใครอยากจับคู่ซ้อมกับผมมั้ย!?” เป็นตามจุดประสงค์ ทุกคนหันมามองที่ดิสเป็นตาเดียว จะว่าเขาเป็นพวกอวดดีก็ได้ แต่จะมีโอกาสไหนดีกว่าตอนนี้ซะอีก มีอย่างหนึ่งที่ดิสสงสัยแต่ยังไม่ได้เอ่ยถาม เขาหันไปมองมิกส์ “เขาห้ามใช้พลังนอกดันเจี้ยนไม่ใช่เหรอ?” เมื่อมิกส์ได้ยินแบบนั้นก็ชี้นิ้วไปที่ผนัง มันมีกระดาษใบหนึ่งแปะไว้ “มันคือใบอนุญาตให้ใช้พรสวรรค์ ห้องนี้ถูกอนุญาตอย่างถูกกฏหมายเพื่อใช้ในการฝึกซ้อม” เมื่อได้ยินอดีตบอดี้การ์ดตอบแบบนั้น ดิสก็หันไปมองทางกลุ่มพรานทมิฬ และยกมือขึ้นถูกันไปมา “งั้นก็เจ๋ง” กลุ่นพรานทมิฬทั้ง 5 มองเขม่นมายังดิส เขาอดไม่ได้เลยจริงๆ ที่จะส่งยิ้มยียวนให้ มิกส์เลิกคิ้วสูง “เฮ้ คงไม่ได้คิดอะไรบ้าๆ หรอกใช่มั้ยพวก?” ดิสพยักหน้า “อะไรสนุกๆ ต่างหาก” พอกล่าวตอบคำถามจบ เขาก็หันไปทางกลุ่มพรานทมิฬอีกครั้ง “พวกคุณเหม็นขี้เราอยู่ไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้คือโอกาสที่จะได้ตั้นหน้าพวกผมอย่างถูกกฏหมายแล้วนะ อย่าปล่อยโอกาสหลุดลอยสิ” เมื่อได้ยินคำพูดยียวนแบบนั้น พรานทมิฬทั้ง 5 ก็เลือดขึ้นหน้าไปตามๆ กัน ซึ่งมีพรานทมิฬคนหนึ่งที่ทนต่อโทสะของตนไม่ไหว เดินตรงมาหาดิสทันที มิกส์ทำท่าทางเลิ่กลั่ก เขารีบตรงไปผลักอกพรานคนนั้นที่พุ่งเข้ามาจนผละถอย “ใจเย็นพ่อหนุ่ม” มิกส์ว่าพร้อมกับมองกลุ่มพรานที่ตอนนี้เขม่นพวกเขาหนักซะยิ่งกว่าเก่า อดีตบอดี้การ์ดที่เห็นแบบนั้นถอนหายใจ เขาหันมองไปดิสเล็กน้อย “นายก็ห่ามไป” ขณะมิกส์กำลังพยายามยุติความขัดแย้ง ก็มีพรานทมิฬคนหนึ่งพูดขึ้น “ฉันจองไอ้ลูกกระจ๊อกนั่น!” มิกส์กระตุกคิ้วเล็กน้อย ไม่ต้องตีความไรให้มาก เขารู้ได้เลยว่าไอ้ลูกกระจ๊อกที่ว่าหมายถึงเขา มิกส์เลิกแขนเสื้อขึ้นสูงก่อนจะหันไปมองกลุ่มพราน เส้นเลือดปูดตรงขมับแสดงได้ถึงความไม่พอใจที่มี พอกันทีกับการทำตัวเป็นผู้ใหญ่ ตอนนี้เขาของขึ้นแล้ว มาด่าว่าเป็นลูกกระจ๊อกแบบนี้มันยอมไม่ได้ เขาไม่ใช่ตัวประกอบนะเฮ้ย! มิกส์ตะคอกเสียงดังใส่กลุ่มพราน “ไม่ทราบว่าหมาตัวไหนพูดครับ เดี๋ยวจะบริการถอนฟันฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายให้” ดิสยกมือปิดปากกลั้นขำ ตอนนี้ความเป็นผู้ใหญ่ของอดีตบอดี้การ์ดหายไหนแล้วเนี่ย? ‘ดูเหมือนความเป็นผู้ใหญ่จะควรใช้กับแค่คนบางคนสินะ’ ดิสยิ้มมองไปทางกลุ่มพรานเช่นกัน “ถ้าพวกคุณชนะเราจะยอมเป็นเบ๊ให้ แต่ถ้าเราชนะทุกคนต้องกลายเป็นคนติดตามของเราสองคน” พรานทมิฬกลุ่มนั้นหัวร้อนกันยกใหญ่ ไอ้เด็กใหม่นี่มันอวดดีเกินไปแล้ว พรานทมิฬที่อยู่ตรงนี้ทุกคนเป็นคลาส A กันทั้งนั้น To be continued →
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม