ดิสกับตรีชาติ… พวกเขาทั้งสองคนวิวาทกันในห้องนั้น จนเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ต้องเข้ามาแยกพวกเขาออกจากกันและยุติสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งคู่ถูกพามาอยู่กันคนละที่เพื่อให้สงบสติลง
หลังจากนั้นไม่นานราชาวดีและแทนก็โผล่มาที่สำนักงาน ใช่แล้ว พวกเขาก็โดนหมายเรียกเช่นกันเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง
แต่ทั้งสองคนไม่ได้ถูกพามากะทันหันแบบดิส เลยมีบางอย่างที่แตกต่างออกไป
‘พวกเขามาพร้อมกับทนาย’
และเธอก็พบเข้ากับดิสโดยบังเอิญ ในขณะนั้น
ไม่นานหลังจากนั้น ที่โรงจอดรถ
ดิสยืนกอดอกพิงรถของกิลด์เทวะ ขณะที่ราชาวดีกำลังเรียกวงเวทย์ขึ้นมาเพื่อฮีลรอยฟกช้ำของอีกฝ่าย
“ไม่ผิดกฎหมายเหรอแบบนี้?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นราชาวดีก็ส่ายหน้า “นิดเดียวเอง ไม่เป็นไรหรอก”
เหตุผลทั้งคู่ออกมาจากสำนักงานได้ ต้องขอบคุณทนายที่มากับตัวแทนกิลด์เทวะทั้งสองคน
เขาเข้าไปคุยอะไรสักอย่างกับพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงแปบเดียว ดิสและมิกส์ก็โดนปล่อยออกมาอย่างง่ายดาย นี่คงเป็นเพราะเรื่องที่ดิสเล่าให้ฟังว่ามีการซ้อมผู้ต้องหาระหว่างสอบสวนด้วยล่ะมั้ง
ในตอนนี้เรื่องที่น่าหงุดหงิดที่สุด ก็คือสิ่งที่เขาเพิ่งได้รับรู้…
สถานที่ตั้งของสำนักงานควบคุมปราบปรามผู้มีพรสวรรค์ไม่ได้เป็นความลับ แต่สาเหตุที่ตนและมิกส์โดนปิดตาเป็นเพราะว่าอีกฝ่ายแค่อยากจะแกล้งเพียงเท่านั้น
อ้าาา….
ดิสหัวจะปวด ทำไมไอ้เจ้าหน้าที่นั่น มันดูจงเกลียดจงชังเขา ไม่สิ ผู้มีพรสวรรค์นักนะ เห็นจากตอนตะคอกด่า ความแค้นที่มีนั้นถูกปลดปล่อยมาทางคำพูดคำจาแบบจัดเต็มไม่มียั้งเลย
แต่นั่นแหละ เขาก็ไปอวดดีใส่อีกฝ่ายเช่นกันนี่ ช่วยไม่ได้
ดิสยกมือขึ้นนวดขมับเบาๆ ในขณะที่ราชาวดีนั้นฮีลจนเสร็จแล้ว
เขากล่าวขอบคุณก่อนจะยิ้มให้หญิงสาว วันนี้ดิสต้องขอบคุณเธอจริงๆ ที่มาให้ความช่วยเหลือ
ดิสต้องคิดหลายเรื่องในเวลาเดียวกัน พ่อแม่ก็กำลังเดินทางจากต่างประเทศมาหาเพราะเรื่องนี้
เฮ้ออ…
ดิสถอนหายใจอ่อน ก่อนจะหันไปมองทางบอดี้การ์ดที่เพิ่งออกจากห้องน้ำมา
มิกส์โบกมือทักทายก่อนจะเดินมารวมกลุ่มกับทั้งสองคน
“เข้าห้องน้ำนานจังเลย”
มิกส์หันไปทางนายจ้างตน ก่อนจะทำท่ากระซิกเรียกคะแนนดราม่า “ผมโดนไล่ออก ทางบริษัทจะส่งบอดี้การ์ดคนใหม่มาให้คุณ”
ดิสเลิกคิ้วสูงด้วยความตกใจ อีกฝ่ายชอบล้อเล่น เขาควรเชื่อที่บอดี้การ์ดของตนพูดดีมั้ย?
“เอาจริงดิ?”
มิกส์ยิ้มแห้งก่อนจะเปิดหน้าจอมือถือ ที่เพื่อนร่วมงานส่งข้อความมาบอกว่าเขากำลังถูกส่งจดหมายแจ้งให้พักงานไม่มีกำหนดให้ดิสดู
คราวนี้กับเป็นฝ่ายดิสเองที่ยิ้มแห้ง แล้วยกมือไหว้ “ผมขอโทษจริงๆ เป็นเพราะผมแท้ๆ เลย”
มิกส์ทำสายตาล่องลอย ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นพลางกับหัวเราะแห้ง “ไม่เป็นไรครับ ผมสะเพร่าเองแหละ…”
ดิสนิ่งไป ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ กับความผิดนี้ แต่ในใจเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะโทษระบบเช่นกัน
“แล้วจะมีใครรับคนเครดิตเสียแบบเราเข้าทำงานมั้ยเนี่ย…”
ดิสย่อตัวลงตบที่ไหล่มิกส์เบาๆ “เดี๋ยวผมจะลองช่วย”
เอาจริงๆ บอดี้การ์ดหนุ่มก็แอบเคือนายจ้างอยู่บ้างแหละ แต่ก็ช่วยไม่ได้ ทุกอย่างเขาเป็นคนตัดสินใจเอง
ในขณะที่สองหนุ่มกำลังปลอบใจกัน ราชาวดีที่เงียบมองอยู่นานก็พูดขึ้นมา
“จริงๆ มีทางออกหนึ่งที่จะช่วยทั้งสองคนได้อยู่”
ดิสและมิกส์หันคขวับไปมองราชาวดีเป็นตาเดียว เมื่อหญิงสาวเห็นแบบนั้นก็ยกมือขึ้นเกาแก้มตัวเองด้วยความประหม่าเล็กน้อย
“ทั้งสองคนทำผิดกฏหมายพรานทมิฬ โดยการเข้าแทรกแซรงการปิดดันเจี้ยนที่รับผิดชอบโดยกิลด์เทวะ”
เมื่อราชาวดีกล่าว ทั้งคู่ก็เงียบตั้งใจฟังไม่พูดแทรกอะไร หญิงสวมแว่นผมสีชมพูจึงพูดต่อ
“ดิสและคุณบอดี้การ์ดอาจจะต้องถูกปรับ 50,000 ถึง 500,000 บาท และถูกจำคุกไม่ต่ำกว่า 5 ปีไม่มีการให้ประกันตัว แล้วแต่ระดับของดันเจี้ยน”
ดิสและมิกส์อึ้งไปกับสิ่งที่ได้ยิน ราชาวดีที่เห็นแบบนั้นก็กำลังจะบอกทางออกเพื่อให้ทั้งสองเบาใจลง แต่ในขณะนั้นเองก็มีบางอย่างมาขัดไว้
แทนเดินมาพร้อมกับทนาย บัดนี้เขาคุยกับคนข้างในเสร็จแล้ว และเขารู้สึกว่าสิ่งที่ราชาวดีกำลังจะพูดนั้น ตนควรพูดมากกว่า
“คุณทั้งสองต้องเข้าร่วมกับกิลด์เทวะของเรา”
เมื่อดิสได้ยินพรานทมิฬคลาส S พูดแบบนั้นก็หันไปมองพร้อมกับเลิกคิ้ว
“คุณหมายความว่ายังไง?”
ราชาวดีชะงักไปเล็กน้อย เธอไม่ต้องการจะให้ดิสเข้าใจเธอผิดอีก หญิงสาวจึงคิดว่าตนควรรีบอธิบายเหตุผลของข้อเสนอนั้น
แทนยกมือขึ้นปรามหญิงสาว เหตุผลนี้เขาควรเป็นคนพูดมากกว่า
หัวหน้ากิลด์เสยผมสีฟ้าของตนก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย
“ถ้าคุณเข้าร่วมกับกิลด์ของเรา คดีนี้อาจจะจบได้โดยง่าย”
ดิสลุกขึ้นยืนพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอก เป็นพรานเหรอ? เหอะ ตอนนี้พ่อแม่กำลังเตรียมเฉ่งเขาอยู่นะ
แทนหรี่ตามองดิสก่อนจะกล่าวต่อ “อย่างที่รู้กันดีว่ากิลด์เทวะรับผิดชอบการปิดดันเจี้ยนที่แตก ทางเรามีส่วนผิดด้วยที่ปล่อยให้คุณเข้าไปทำตามอำเภอใจ ดังนั้นเราก็ต้องโดยค่าปรับเป็นเงินมหาศาลเช่นกันเว้นแต่…”
แทนหรี่ตาก่อนจะยื่นมือไปทางดิส “เว้นแต่คุณจะเข้าร่วมกับกิลด์เทวะ แล้วให้การกับศาลว่านั้นเป็นการฝึกก่อนจะรับคุณเข้ากิลด์ในฐานะพรานทมิฬอย่างเป็นทางการ”
ดิสขมวดคิ้วมองหลังได้ฟังข้อเสนอ “คุณต้องการให้ผมโกหก?”
แทนพยักหน้า “การที่เราทำแบบนี้จะเป็นผลดีต่อเราทั้งสอง ถึงโทษจะไม่หาย แต่มันก็ลดลงจนคุณไม่จำเป็นจะต้องไปติดคุกหัวโต”
พอว่าจบแทนก็ยิ้มหวานออกมา ตอนนี้เขาถือไพ่เหนือกว่าดิสทุกอย่าง
“ว่าไง คุณจะยอมรับข้อเสนอของเรารึเปล่า?”
พอว่าจบแทนก็หันมองไปทางมิกส์ “คุณด้วยนะครับ ถ้าเป็นเพื่อนคุณดิส ผมยินดีต้อนรับเสมอ”
ดิสถอนหายใจออกมา การเสนออะไรแบบนี้ไม่แตกต่างจากวันแรกที่เจอกันเลย นี้มันการบังคับชัดๆ
‘ไอ้เวรนี่…’
To be continued →