บทที่ 6 แรงดึงดูด

1865 คำ
บทที่ 6 แรงดึงดูด NAMWHAN'S PART : ครืด...ครืด... “ว่าไงมิริน” ฉันกดรับสายมิรินพร้อมกับเอ่ยทักทาย (วันนี้หวานว่างรึเปล่า ฉันเหงาอ่า) “ว่าแล้วเชียว...เหงาเก่งจังนะ” ฉันอดขำกับน้ำเสียงออดอ้อนของมิรินแทบไม่ได้ เธอเหงาเก่งชอบชวนไปเที่ยวบ่อย (ออกไปข้างนอกกันน้า ฉันไม่อยากอยู่บ้าน) อันที่จริงเธอก็เคยเล่าเรื่องภายในครอบครัวของเธอให้ฉันฟังมาบ้างแล้วล่ะ สาเหตุที่เธอไม่ชอบอยู่บ้านก็เพราะว่าเธออยู่กับพ่อแล้วก็แม่เลี้ยง มิรินเล่าว่าเธอชอบมีปัญหากับแม่เลี้ยงด้วยเรื่องที่มีปากเสียงทั่วๆ ไปตามประสา เลยทำให้เธอเลี่ยงที่จะเจอกับเธออยู่ตลอด “ก็ดีเหมือนกัน ฉันเหงาอยู่พอดีเลย” (งั้นอีกครึ่งชั่วโมงฉันไปรับที่คอนโดนะ) “โอเคจ้า เจอกันนะ” ฉันวางสายไปก่อนจะลุกขึ้นไปเปลี่ยนชุดทันที ดีเหมือนกันเพราะฉันอยู่คนเดียวก็เบื่อๆ ออกไปข้างนอกบ้างก็ดีอุดอู้อยู่แต่ในห้องมาหลายวันแล้ว อ้อ...ส่วนเรื่องคุณต้นเขาก็มาหาฉันบ้างแต่ฉันก็ได้ข่าวมาว่าเขายุ่งๆ เรื่องที่คลับแล้วก็เรื่องผู้หญิงบ้างตามประสาผู้ชาย เพราะเวลาเขาพาฉันไปที่คลับฉันก็เห็นว่าเขาพาพวกสาวๆ มาไม่ซ้ำหน้าสักครั้ง แต่มันก็ดีแล้วล่ะเพราะฉันรู้สึกว่าเขาเริ่มทำตัวแปลกไป แล้วอีกอย่างเขาก็เป็นผู้ชายที่เจ้าชู้เขาชอบมองฉันด้วยสายตาที่ไม่น่าไว้ใจ คือฉันไม่ได้จะบอกว่าเขาชอบฉันหรอกนะ เวลาที่ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ใกล้กันบ่อยๆ มันจะเกิดแรงดึงดูดบางอย่างซึ่งไม่ใช่แต่ฉันแต่ฉันเชื่อว่าถ้าเขาอยู่ใกล้กับผู้หญิงคนอื่นๆ ก็เป็นเหมือนกัน นี่ก็เป็นเวลาสองเดือนแล้วที่ฉันมาอยู่ในการดูแลของเขาฉันก็ยังทำหน้าที่เป็นเด็กในการปกครองของเขาอยู่เช่นเดิมถึงฉันกับเขาจะไม่ค่อยได้คุยอะไรกับมากแต่เขาก็ยังคอยโอนเงินและฝากของมากับลูกน้องเขาเสมอ ติ๊ง! Mirinn : ฉันรออยู่ที่ล็อบบี้นะ NWH : จ้า ฉันกำลังลงไป ฉันพิมพ์ตอบมิรินกลับไปก่อนจะรีบลงลิฟต์ไปยังล็อบบี้ทันที @K-Store ฉันกับมิรินเรามาเดินห้างและมาหาอะไรทานด้วยกันที่ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดมากนัก “เราไปไหนกันต่อดี” มิรินถามขึ้นหลังจากเดินออกจากร้านเสื้อผ้าซึ่งเธอซื้อมาเยอะจนเต็มทั้งสองมือแล้ว “มิรินเธอจะซื้อหมดทั้งห้างไม่ได้นะ” ฉันรีบเอ่ยห้ามทันที เพราะตอนนี้ข้าวของมากมายอยู่ในมือของเพื่อจนกลัวว่าแขนจะหักเข้าสักวัน ฐานะทางบ้านมิรินงดีมากเลยล่ะ พ่อของเธอเป็นเจ้าของบริษัทส่งออกเครื่องดื่มรายใหญ่ของประเทศ ไม่แปลกที่เธอจะช้อปเก่งขนาดนี้ “ก็ฉันอยากได้นี่ เห็นแล้วอยากได้ไปหมดเลย” “ฉันล่ะอิจฉาเธอจริงๆ เลยมิริน” ฉันพูดไปตามตรง นึกสะท้อนใจนิด ๆ กับโชคชะตาของตัวเอง “อย่าคิดแบบนั้นสิหวาน ชีวิตฉันเป็นยังไงเธอก็รู้นี่มันก็แค่ความสุขภายนอกเท่านั้นแหละ” “เลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่า เห็นบอกว่าอยากได้รองเท้าไม่ใช่เหรอ ไปดูร้านนั้นกัน” ฉันรีบเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา ก่อนจะจับจูงมือของเพื่อนไปยังร้านรองเท้าที่มิรินเคยพูดให้ฟังอยู่บ่อย ๆ “จริงด้วย ลดอยู่พอดีเลย” เมื่อมาถึงที่ร้านรองเท้าเจ้าตัวก็เดินไปดูรองเท้าที่ตั้งโชว์อยู่ที่ชั้นด้วยความสนใจ ฉันที่มองการกระทำนั้นก็อดที่จะยิ้มตามออกมาไม่ได้ความสุข “สวยจัง...แต่...แพงมาก” ฉันหยิบรองเท้าคู่หนึ่งขึ้นมาดูซึ่งเป็นรองเท้าแตะรัดส้นตกแต่งด้วยวัสดุรูปเพชร แต่ไม่นานก็ต้องรีบวางกลับที่เดิมเพราะราคาป้ายที่ติดอยู่นั้นห้าหลักปลาย ๆ เลยทีเดียว “ไม่ยอมรับโทรศัพท์ที่แท้ก็แอบหนีเที่ยวนี่เอง” ทว่าเสียงเข้มอันคุ้นเคยเอ่ยขึ้นทำให้เงยหน้าขึ้นไปมองกระทั่งเกิดความตกใจเมื่อพบว่าคนคนนั้นคือคุณต้นที่กำลังหยุดยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมกันนั้นก็มีผู้หญิงหน้าตาสะสวยที่กำลังยืนกอดแขนเขาอย่างสนิทสนม “คะ...คุณต้น!” “ตกใจมากเหรอ” เขายังทำหน้ากวนฉันไม่เลิก “เอ่อ สวัสดีค่ะ...คุณต้นมาซื้อของเหรอคะ” “อืม แล้วทำไมไม่รับสายฉัน” “หนูปิดเสียงไว้เลยไม่ได้ยินค่ะ ขอโทษนะคะ” ฉันตอบเสียงแผ่วอย่างรู้สึกผิด “พี่ต้นขา คู่นี้สวยจังเลยค่ะ” คนข้างกายของคุณต้นชี้ไปที่รองเท้าคู่ที่ฉันหยิบมาดูเมื่อกี้ด้วยความสนใจ ซึ่งมันเป็นคู่ที่ฉันเพิ่งจังวางไปเมื่อครู่ “ไม่เห็นสวยเลย ไปดูคู่อื่นเถอะ” คุณต้นบอกแบบนั้นก่อนที่เธอจะเดินไปเลือกรองเท้าคู่อื่น พลันทำให้ฉันรีบวกสายตากลับมาเพราะเพิ่งรู้ตัวว่าให้ความสนใจกับพวกเขามากเกินไปแล้ว “หวานคู่นี้สวยมั้ย” เสียงมิรินถามพร้อมกับวิ่งมาหาฉัน “สวยดีนะ” “อ้าว...สวัสดีค่ะอาต้น มาซื้อของเหรอคะ” “อ่า...ใช่ครับ” คุณต้นชะงักไปชั่วขณะ แต่แล้วเขาก็ตอบรับกลับมาแต่ไม่วายส่งสายตาคาดโดทษมาให้ฉัน “งั้นตามสบายนะคะ หวานฉันเลือกไม่ถูกเลยอะว่าจะเอาคู่ไหนดี” “ฉันชอบคู่นี้นะ ฉันว่ามันใส่ได้กับทุกชุด” “จริงด้วย งั้นฉันเอาคู่นี้แหละ ฉันไปจ่ายเงินก่อนนะ” มินรินเดินจากไปพร้อมกับรองเท้าคู่ที่เลือก “หนูขอตัวก่อนนะคะ” ฉันหันกลับมายังคุณต้นที่ยังยืนอยู่ นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันที่เขายังไม่ไปกับคนควงของเขาสักที แถมสีหน้าและท่าทางก็ดูเหมือนว่าเขากำลังมีเรื่องจะถามกันอีกด้วย “เดี๋ยว” “คะ...” “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย งั้นคืนนี้ฉันไปหานะ” “ได้ค่ะ” ฉันตอบรับทันที ใบหน้าก็พยักรับหงึก ๆ “เอ๊ย! ไม่ดีกว่า...” “ทำไมคะ?” “ฉันโทรไปดีกว่า มันน่าจะดีกว่า” “...” ฉันนิ่งมองหน้าเขาด้วยความแปลกใจ “ฉันว่ามันคงไม่ดีเท่าไหร่ที่ฉันไปหาเธอบ่อยๆ เธอเป็นผู้หญิง” “อะไรนะคะ?” “หูตึงหรือไง” “ไม่เห็นต้องสนใจเลยนี่คะ นั่นมันเป็นห้องของคุณ” “เอาเถอะ ฉันไม่อยากให้คนอื่นมองเธอไม่ดี” “ขอบคุณนะคะ คุณเองก็มีมุมแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย น่ารักดี อ๊ะ...” ฉันรีบยกมือปิดปาก รู้ตัวว่าเมื่อครู่นี้เผลอพลั้งพูดคำที่ไม่ควรออกไป บ้าจริง...เมื่อกี้ฉันบอกว่าเขาน่ารักงั้นเหรอ? แล้วคุณต้นเขาจะคิดยังไงล่ะเนี่ย!? “หวาน ฉันซื้อเสร็จเรียบร้อย” แต่ก็เหมือนว่าดชคจะเข้าข้าง มิรินเดินเข้ามาหาพร้อมกับคล้องแขนทำให้ฉันละสายตาไปมอง เช่นเดียวกับคุณต้นที่ปรับเปลี่ยนสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนที่จะฉันเอ่ยลาและเดินจากไป “เอ่อ หนูขอตัวก่อนนะคะคุณต้นสวัสดีค่ะ” “มิขอตัวนะคะสวัสดีค่ะอาต้น” ให้ตาย...ฉันพูดอะไรออกไป ดูท่าแล้วคุณเองก็น่าจะตกใจกับคำพูดของฉันมากด้วย - NAMWHAN’S PART ; END - TON'S PART : @ZXCLUB หลังจากที่ผมไปซื้อของที่ห้างเสร็จผมก็กลับมาที่คลับทันที ผมไม่คิดว่าจะเจอยัยเด็กน้ำหวานที่นั่นมันเป็นเรื่องบังเอิญมากๆ แล้วก่อนหน้านั้นผมก็โทรหาเธอ เธอก็ไม่รับสายเพราะออกมาเที่ยวโดยที่ไม่บอกผมนั่นแหละ ช่วงนี้ผมค่อนข้างห่างกับเธอไม่ค่อยได้ไปหาเธอเหมือนช่วงแรก อาจจะมีโทรหาบ้างแต่ก็นานๆ ที คือจริงๆ มันก็ควรเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วล่ะเพราะเธอก็ไม่ได้เป็นอะไร ผมไปหาเธอบ่อยๆ คนอื่นจะคิดไม่ดีเข้าน่ะสิ แล้วก็อีกอย่างคือผมไม่อยากอยู่ใกล้เธอมากเท่าไหร่ เพราะทฤษฎีแรงดึงดูดระหว่างชายหญิงซึ่งผมไม่เคยเชื่อเลยแต่เมื่อมาอยู่กับเธอทำให้ผมรู้แปลกๆ ซึ่งเป็นธรรมดาที่เวลาผมอยู่ใกล้ผู้หญิงมันก็เกิดพลังงานบางอย่างที่ทำให้ผมอยากเข้าไปค้นหา ผมก็เลยกลัวว่าเกิดอยู่ใกล้ชิดกับเธอนานๆ เข้ามันจะไม่เป็นแค่แรงดึงดูดน่ะสิ… ผมหยิบโทรศัพท์กดโทรหาปลายสายซึ่งก็คือยัยเด็กน้ำหวานนั่นแหละเพราะผมมีเรื่องที่จะให้เธอช่วยนิดหน่อย (สวัสดีค่ะคุณต้น) เธอรับสายก่อนจะเอ่ยเสียงใสตอบรับ “ทำอะไรอยู่ จะนอนรึยัง” ผมถามกลับ เพราะนี่มันก็ตีหนึ่งกว่าแล้วกลัวจะรบกวนเวลานอนของเธอ (ยังค่ะ หนูรอคุณต้นอยู่นี่แหละมีธุระอะไรรึเปล่าคะ) “ฉันมีเรื่องให้เธอช่วย” (เรื่องอะไรคะ บอกมาได้เลยค่ะหนูยินดีช่วยคุณต้นอยู่แล้ว) “ที่คลับฉันขาดคนดูแลเพราะคนที่ทำหน้าที่นี้เขาลาออกไป ฉันเลยยังหาคนแทนไม่ได้” (อย่างนี้ก็แย่เลยนะคะ) “ฉันอยากให้เธอมาทำหน้าที่นี้แทนสักระยะหนึ่ง” (แล้วหนูต้องทำอะไรบ้างคะ) “เธอก็แค่ทำตามคำสั่งฉัน หน้าที่หลักๆ ก็คือคอยเช็กสต๊อกของว่าขาดเหลืออะไรบ้างในแต่ละวัน” (...) “เธอต้องคอยเช็กว่าเครื่องดื่มชนิดไหนที่หมดหรือชนิดไหนที่เหลือเยอะแล้วสรุปยอดมาให้ฉัน” (...) “แล้วก็พวกอุปกรณ์ต่างๆ ว่ามีอะไรที่ชำรุดหรือพังก็เช็กจำนวนและสรุปยอดทำการสั่งซื้อใหม่” (ได้ค่ะ สบายมาก) “ฉันอยากให้เธอมาเริ่มงานพรุ่งนี้เลย เธอสะดวกมั้ย” (ได้ค่ะสะดวกค่ะ หนูเลิกเรียนแล้วจะรีบไปนะคะ) “เธอมาเองได้ใช่มั้ยพอดีฉันไม่ว่างไปรับ” (ได้ค่ะ แค่นี้เองหนูไปได้อยู่แล้ว) “อืมฉันจะรออยู่ที่คลับนะ ฉันไม่รบกวนเวลานอนเธอแล้ว นอนเถอะ” (ค่ะ ฝันดีนะคะคุณต้น) “อืม...ฝันดีเช่นกันนะ” ผมกดวางสายพร้อมกับความรู้สึกที่นิ่งเงียบ คือที่เงียบไม่ใช่เพราะอะไรนะ ผมกำลังสับสนว่าผมกำลังเป็นอะไรอยู่กันแน่ ก่อนจะวางสายผมเผลออมยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว นี่แรงดึงดูดมันติดต่อกันทางโทรศัพท์ได้ด้วยเหรอวะเนี่ย... - TON’S PART ; END -
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม