CHAPTER 6 หนี หนีให้ไกล 1
“แน่วะคันโปรดของมึงซะด้วย คนทำคงไม่เหลือ”
“เออ”ผมตอบไอ้เทลไปแบบส่งๆ อย่างอารมณ์เสียคิดแล้วมันน่าโมโหมากขนาดไหนยิ่งตอนที่มาเห็นสภาพรถคันโปรดของผมในตอนแรกมันพังย่อยยับไม่เหลือชิ้นดีเลย มีแต่รอยของลูกกระสุนปืนรอบๆ ของตัวรถทั้งๆ ที่ผมพึ่งได้มันมาแท้ๆ เพียงไม่กี่วันก่อนหน้านี้อีกทั้งยังเป็นรถที่ออกมารุ่นใหม่ล่าสุดมีเพียงไม่กี่คันเท่านั้น น่าโมโหนัก “ลมอะไรหอบมึงมาถึงที่นี่วะ?”
“ได้ยินว่ามึงมีเรื่อง?”
“เออวะข่าวไวจริงก็แค่แก๊งกระจอกกูจัดการไปทัวร์นรกแล้ว”
ผมบอกไอ้เทลไปตามความจริง
“แล้วเรื่องที่ TEL MISCREANT CASINO มึงเป็นไงบ้างวะ ยังมีคนเข้ามายุ่งหรือป่าว”
ผมถามมันกลับบ้างเพราะที่นั่นก็เป็นที่โปรดของผมเหมือนกัน
“ไม่สงสัยจะกลัวจนหัวหดไม่กล้าเข้ามาอีก”
“เก่งจริงแล้วไอ้พวกนั่นหายหัวไปไหนหมดวะ ไม่เห็นหน้าพวกมันเลยทั้งอาทิตย์”
ผมถามมันด้วยความสงสัยตั้งแต่อาทิตย์ก่อนที่พวกเราเจอกันแบบครบองค์ประชุมที่ตึก MISCREANT
มันเป็นสถานที่ใครไม่กล้าเข้าไปยุ่งเป็นสถานที่ส่วนตัวแบบรวมของพวกเราเองเพราะจัดการกับเรื่องใหญ่ ผมก็ยังไม่เห็นพวกมันอีกเลยแม้แต่เสียงในโทรศัพท์
“พวกมันไปช่วยไอ้แวนทดลองอาวุธใหม่ กูมาที่นี้เพื่อบอกมึงเรื่องนี้แหละอย่าลืมเข้าไปแจมด้วยวะ”
“เออ แน่นอน”
“กูกลับล่ะ มีธุระต่อ”
“เออ ว่างๆ กูจะไปเสี่ยงที่ TEL MISCREANT CASINO มึง”
ไอ้เทลกลับไปแล้ว ผมก็นั่งกระดกเหล้าต่ออีกสักพักก่อนจะขับรถคันใหม่ออกจากคลับกลับคอนโดผมเอง
เมื่อย่างก้าวเข้ามาในห้องก็ตรงไปที่เตียงนอนทันทีเหลือบเห็นร่างบางนอนอยู่บนเตียงยังอยู่จึงเลี้ยวตัวกลับมานั่งโซฟาที่ระเบียง แล้วยกบุหรี่ขึ้นมาสูบพร้อมกับมองวิวตอนกลางคืนจากชั้นที่ 28 จากนั้นสมองก็พลางคิดเรื่อง
ยัยนั่น....
เธอยังไม่ตายหรอก...
เสียงปืนที่ดังขึ้นไม่ใช่เสียงปืนที่เธอยิงเธอลั่นไกรจริงแต่มันไม่มีลูกกระสุน กระสุนมันหมดตั้งแต่เธอรั่วยิงใส่ลูกน้องผมแล้วเสียงปืนนั่นเสียงปืนผมเอง ผมยิงปืนของยัยนั่นที่เธอถืออยู่จ่อขมับตัวเองปืนนั้นร่วงลงพื้นพร้อมๆ กับสติและตัวของเธอ
ยัยนั่นคงตกใจถึงขนาดเป็นลมหมดสติร่วงลงกับพื้นผมจึงอุ้มร่างที่เบาดั่งนุ่นขึ้นรถมาไว้ที่คอนโดตัวเองและก่อนจะออกไปผมก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์จากกระเป๋าสะพายใบเล็กของเธอ ผมจึงรับ
Rrrr……
“…”
[ยัยลีเมย์แกอยู่ไหนวะ? ไหนว่าแกถึงห้องพักแล้วจะรีบโทรมาหาฉันแกทำให้เป็นห่วงนะหรือว่า...ยังไม่ออกมาจาก QP MISCREANT CLUB แกก็รู้อยู่ว่ามันอันตรายขนาดไหน!]
“เพื่อนเธอสบายดีแต่อีกเดี๋ยวคงได้กระอักเลือดบนเตียง”
[แกเป็นใคร?]
ตู้ด ๆๆ
ผมตัดสายแล้วปาโทรศัพท์ไปที่ผนังห้องก่อนเดินออกไปดื่มที่คลับทันทีทั้งๆ ที่พึ่งมาผมเป็นคนดีใช่ไหมล่ะ ตอบได้เลยว่าไม่ใช่ผมไม่ใช่คนดีอะไรขนาดนั้นที่ยังไม่ฆ่ายัยนั่นก็เพื่อต้องการให้เธอชดใช้ในสิ่งที่ทำกับรถคันโปรดของผมก่อนชดใช้อย่างสาสมกับราคาของรถ ชดใช้ให้หมดในชาตินี้! พอกลับมาเหยียบในห้องนี้อีกครั้งเกือบเช้าวันใหม่
แค่กๆ
เสียงคนไอทำให้ผมตื่นจากความคิดเรื่อยเปื่อยแล้วก้าวเดินอย่างช้าๆ เดินเข้าห้องนอนที่เป็นต้นเสียงนั่นทันที เธอคงตื่นแล้วล่ะคราวนี้จะได้คิดบัญชีเสียที!
ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นทีละนิดๆ นี่ฉันยังไม่ตายหรอกหรอก่อนที่ฉันจะไม่รู้เรื่องนายนั่นยิงฉันไม่ใช่แล้วฉันก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย...
“โอ๊ย!”
ฉันเอามือไปจับแผลที่แขนของตัวเองตอนนี้มันดูอักเสบและบวมมากจึงส่งผลให้แขนของฉันข้างนี้แทบยกไม่ขึ้น เอ๊ะ! ว่าแต่นี่ที่ไหนฉันสำรวจรอบๆ ห้องด้วยสายตาพร้อมกับลุกขึ้นนั่งฉันอยู่บนเตียงหรูขนาดใหญ่ บนเพดานเป็นโคมไฟระเย้าขนาดใหญ่บวกกับโทนของห้องนี้เป็นสีดำและสีเทาทั้งหมดมันแสดงถึงความน่าค้นหาลึกลับมาก
การตกแต่งรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นบอกได้คำเดียวว่ามีระดับ ระดับสูงเสียด้วยคงเป็นของนอกนำเข้าทุกชิ้นรวมถึงเตียงที่นั่งในตอนนี้ คิดดูสิว่าผ้าห่มผ้าปูที่นอนยังเป็นสีดำกับน้ำตาลแทบทั้งหมดและทว่าสายตาของฉันเสือกดันไปสะดุดกับร่างสูงใหญ่ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนสีดำเขายืนพิงกับประตูอยู่ นะนะ นั้นมันนาย...
“ไงยังไม่ตายสินะ”
“นะ นาย นายมาอยู่ที่นี่ได้ไง?”
ฉันตะโกนถามนายคิวพีและค่อยยืนขึ้นทั้งๆที่อยู่บนเตียงและใช้สายตาพลางสำรวจตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้าว่ามีส่วนไหนไม่เหมือนเดิมบ้าง
“ทำไมกลัวว่าจะทำอะไรงั้นเหรอ?”
นายนั้นพูดและค่อยๆ เดินเข้ามาในห้องหยุดที่ปลายเตียงพร้อมเงยมองหน้าฉันด้วยสายตาเยาะเย้ยแต่นาทีนี้ฉันสูงกว่าเขาเพราะยืนบนเตียง
“ที่นี่ที่ไหน?”
“คอนโด”
หะ เขาพาฉันมาที่นี่ทำไมและฉันก็รีบก้าวถอยหลังไปชิดผนังที่หัวเตียงทันทีเมื่อมีทีท่าว่าไม่ปลอดภัย
“อย่าเข้ามานะ ฉะ ฉันจะ…”
“จะทำอะไรแค่แรงที่ลุกขึ้นแทบไม่มี”
ผมเดินเข้าไปชิดเตียงพร้อมกับก้าวขึ้นยืนบนเตียงเดียวเหมือนกับเธอ ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นการเสียเปรียบสักหน่อยหรือดูเอาเปรียบผู้หญิงตัวเล็กๆ อะไรเลยก่อนที่จะก้าวเข้าไปประชิดหาเธอ
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
ยัยบ้านั่นปาหมอนทั้งสีใบใส่กระแทกหน้าผมอย่างบ้าคลั่งก่อนที่ผมจะคว้าหมอนไว้แล้วปาไปติดผนังห้องทั้งหมดพร้อมทั้งเข้าไปคว้าเอวเธอไว้แรงแค่นี้หรอจะสู้แรงของผมได้ เหอะ! เธอคิดผิดแล้ว
“ปล่อยๆ ปล่อยฉันนะนายคิวพี!”
เธอดิ้นอย่างกะจะถูกเชือดพร้อมทั้งใช้ลูกไม้เดิมๆ ของผู้หญิงคือเหยียบเท้า แต่ถ้าคิดว่ามันจะได้ผลดีเริดกับคนอย่างผมนะหรอ คิดผิดคนอย่างคิวพีทันเล่ห์เหลี่ยมคนโง่ๆ หรอกหน่า ไม่ได้โง่งมงายเป็นควายจมปลักอีกอย่างความสามารถทางการต่อสู้ผมก็ไม่ได้ด้อย
“…”
“ไอ้เลว! ปล่อย”
“คำก็เลว สองคำก็เลวอยากลิ้มลองไหมว่าเลวจริงๆ มันเป็นยัง!”