EP.7 ตัววุ่นวายที่แสนน่ารำคาญ
“ดีขึ้นมั้ยครับ”
“ฉันไม่ค่อยปวดหัวแล้วค่ะคุณหมอ ทุกอย่างดีขึ้นหมดแล้ว ยกเว้นความทรงจำที่ฉันยังจำอะไรไม่ได้เลย” หญิงสาวตอบเสียงเศร้า ไม่เจอกับตัวไม่มีทางเข้าใจหรอกว่า การตื่นขึ้นมาแล้วไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน ตัวเองเป็นใคร ชื่ออะไร มีพ่อแม่ญาติพี่น้องอยู่ที่ไหน มันรู้สึกอ้างว้างและเดียวดายขนาดไหน “ความจำของฉันจะกลับมาเมื่อไหร่คะคุณหมอ ฉันอยากกลับบ้าน”
เอ่ยคำว่า ‘บ้าน’ ออกไปแล้วรู้สึกใจหาย ทำไมเธอถึงรู้สึกไม่ชินกับคำคำนี้เอาเสียเลย
“วุ่นวายหนักกว่าเดิม” คาร์โลบ่นขึ้นก่อนจะเดินไปหยุดยืนที่ริมหน้าต่าง คิดไม่ตกว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร
“เรื่องความทรงจำหมอเองก็ให้คำตอบคุณไม่ได้ครับ แต่การกลับไปอยู่ในที่ที่เคยอยู่อาศัย หรือที่ที่มีความทรงจำเก่าๆ อาจทำให้คุณจำเรื่องทั้งหมดได้ในไม่ช้า เร็วสุดก็ภายในไม่กี่สัปดาห์ นานสุดก็อาจเป็นปีหรือหลายปี แล้วแต่ภาวะทางสมองของคนไข้ด้วยครับ”
หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อได้ยินดังนั้น หากเธอมีญาติ มีพ่อแม่ พวกเขาคงพยายามช่วยเธอฟื้นความทรงจำได้บ้าง แต่นี่เธอไม่มีใครเลย
‘เธอไม่มีใคร’ ทำไมเธอถึงรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างนี้นะ ชีวิตก่อนเกิดอุบัติเหตุเธอมีบิดามารดา มีญาติพี่น้อง มีคนรักหรือเปล่า เธอเรียนจบจากที่ไหน ทำงานอะไร มีความสุขมากน้อยแค่ไหนกันนะ หญิงสาวพยายามคิด แต่ยิ่งคิดเธอกลับมองเห็นแต่ความมืดและเสียงดังสนั่นคล้ายเสียงปืน
ดวงตาของหญิงสาวกลอกไปมาด้วยความสับสน เธอหายใจแรงขึ้นๆ จนกระทั่งมือหนาแตะลงบนไหล่บอบบาง หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว แล้วก็พบว่าคุณหมอท่าทางใจดีมองเธออยู่ด้วยความเป็นห่วง
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ จู่ๆ ก็เงียบไป”
“ฉันเห็นความมืดกับเสียงปืนค่ะ” หญิงสาวบอกออกไปตามจริง
“นั่นอาจเป็นเสี้ยวความทรงจำของคุณ หวังว่าคุณจะได้ความทรงจำทุกอย่างกลับมาโดยเร็ว อีกสองวันคุณก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วครับ แล้วผมจะนัดคุณมาตรวจร่างกายเป็นระยะ”
“แต่ฉันไม่รู้จะกลับไปที่ไหน ฉันไม่มีที่ไปค่ะคุณหมอ ขอฉันอยู่ที่โรงพยาบาลได้มั้ยคะ” คนไข้สาวอ้อนวอนน้ำตารื้น ความหวาดกลัวถาโถมเข้าเกาะกุมหัวใจเอาไว้อย่างรวดเร็ว
“เรื่องนี้คุณคาร์โลอาจช่วยคุณได้ เพราะเขาเป็นคนช่วยชีวิตคุณเอาไว้” นายแพทย์หันไปทางชายหนุ่มที่ยังคงยืนหันหลังอยู่ริมหน้าต่าง ราวกับไม่สนใจประโยคสนทนาที่แพทย์กับคนไข้พูดคุยกัน
“เขาเป็นคนช่วยชีวิตฉันไว้หรือคะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะมีมนุษยธรรมช่วยเหลือเธอ ถ้าบอกว่าผู้ชายคนนี้ตามฆ่าเธอยังจะเชื่อได้ง่ายเสียกว่า
เดี๋ยวก่อน ‘ตามฆ่า’ ทำไมเธอรู้สึกกลัวคำคำนี้เหลือเกิน
ปัง!
ไม่!
กรี๊ด!
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งในหัว ตามด้วยเสียงหวีดร้องของเธอในความมืด หญิงสาวตัวสั่น เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นเต็มใบหน้า สองมือกุมศีรษะเอาไว้ก่อนจะส่ายไปมา
“ไม่...ไม่ โอ๊ย! ฉันปวดหัวค่ะคุณหมอ” เธอร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะฟุบหน้าลงไปบนหมอน
นายแพทย์จับไหล่ของหญิงสาวเอาไว้ แล้วประคองให้เธอนอนเหยียดยาวไปบนเตียง จากนั้นจึงฉีดยาแก้ปวดและยานอนหลับให้แก่เธอ
เมื่อยาออกฤทธิ์อาการปวดจึงค่อยทุเลาลง หญิงสาวรู้สึกหนังตาหนักอึ้งพร้อมจะปิดลงทุกเมื่อ นายแพทย์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เธอพูดขึ้นว่า
“คุณอย่าเพิ่งคิดเรื่องอดีตในตอนนี้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาอาการบาดเจ็บของร่างกายให้หายเป็นปกติเสียก่อน พักผ่อนเถอะครับ” นายแพทย์สูงวัยยิ้มเมื่อเห็นหญิงสาวค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงในที่สุด
“คุณคาร์โลจะติดขัดอะไรมั้ยครับ หากจะขอให้รับเป็นเจ้าของไข้เธอ จนกว่าความทรงจำของเธอจะกลับมา” คุณหมอเอ่ยถามเจ้าพ่อกาสิโนที่ยังคงยืนหน้ายักษ์อยู่ริมหน้าต่าง
“เหตุการณ์เป็นแบบนี้ผมคงไม่สามารถปฏิเสธได้” สีหน้าของชายหนุ่มมีความยุ่งยากใจอย่างเห็นได้ชัด ในหัวสมองของเขาครุ่นคิด ว่าเขาจะบอกเรื่องนี้แก่คนอื่นๆ ดีหรือไม่ อาจพาเธอไปฝากไว้กับมารดาและพี่สะใภ้ใหญ่ที่เมืองเบลลาโจ หรือไม่ก็ฝากไว้กับมอนเต้ เพื่อให้ภรรยาของมอนเต้ช่วยดูแลเธอ
หรือเขาควรเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เพราะทันทีที่ญาติของเธอมารับกลับไป เหตุการณ์ทุกอย่างก็คงกลับคืนสู่ปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คาร์โลนิ่วหน้าเพียงน้อยก่อนจะเลือกข้อหลัง
“คุณต้องไม่ลืมว่าการดูแลคนไข้สูญเสียความทรงจำต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ การที่คุณจะตะคอกหรือเค้นถามอะไรจากเธอ ผมขอให้พักไปก่อน” นายแพทย์พูดจบก็ค้อมศีรษะลงเล็กน้อย “ผมขอตัวก่อนนะครับคุณคาร์โล ผมมีคนไข้ที่ต้องเข้าตรวจอีกหลายคน” พูดจบเขาก็เดินออกไป ทิ้งให้คาร์โลยืนเคว้งอยู่ภายในห้องพักผู้ป่วย
ชายหนุ่มเสยผมยุ่งหยักศกไปด้านหลังอย่างไม่สบอารมณ์ มองเจ้าของร่างบอบบางที่นอนหลับใหลไม่ได้สติอย่างโกรธเคือง
ทำไมเขาถึงได้ซวยแบบนี้นะ!
ในเมื่อคาร์โลเลือกที่จะไม่บอกใคร เขาจึงต้องเป็นคนมาดูแลหญิงสาวที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง อันที่จริงจะเรียกว่าดูแลก็คงไม่ถูกนัก
เพราะเขาแทบไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากลอบมองเธออยู่ห่างๆ เมื่อเห็น
ว่าเธอปกติดีเขาก็กลับออกไปโดยไม่แม้แต่จะทักทาย ยกเว้นวันนี้... คาร์โลมองผ่านกระจกใสหน้าประตูห้องพักผู้ป่วยเข้าไปในห้อง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนอนหลับเขาจึงเดินเข้าไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียง แล้วมองเจ้าของร่างบอบบางที่ยังคงนอนหลับใหลมิได้รับรู้ว่าเขาได้ย่างกรายเข้ามาในห้อง
คาร์โลมองเจ้าของแพขนตางอนหนาที่หลับสนิท นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มีโอกาสมองใบหน้าเธออย่างเต็มตา ใบหน้าของหญิงสาวเรียวรี
เป็นรูปไข่ พวงแก้มอิ่มมีสีชมพูระเรื่อ ริมฝีปากสีชาดแม้ไม่ได้แต่งแต้มด้วยลิปสติกสีสวย เธอมีผมยาวหนาสีดำสนิท สีผิวค่อนไปทางขาวเหลืองอย่างคนเอเชีย เธอดูตัวเล็กไปถนัดตาหากเทียบกับเหล่าดารานางแบบที่เขาเคยหลับนอนด้วย
เขาจะจัดการกับเธออย่างไรดี!