กันภัยเป็นคนเรียบร้อย เธอเคยแอบไปบ้านของเขามาแล้วหลายครั้ง ไม่น่าเชื่อว่าบ้านของเขาสะอาดสะอ้านยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก บ้านช่องถึงแม้จะไม่สุขสบายเท่าคฤหาสน์หรือบ้านหลังใหญ่อันแสนร่ำรวย แต่ถ้าสะอาดก็น่าอยู่ไม่แพ้กัน
บ้านของกันภัยเป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากทะเลมากนัก รอบบ้านเลี้ยงไก่ซึ่งออกไข่ให้เก็บได้ทุกวัน หลังบ้านมีพืชผักสวนครัวเป็นพริก กะเพรา ใบมะกรูด โหระพา ผักชีฝรั่ง ใบยี่หร่า ขิง ข่า ขมิ้น ตะไคร้และผักปลอดสารพิษพวกผักบุ้ง ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง ผักคะน้า ซึ่งเขานำไปประกอบอาหารขายทุกวัน เขาเป็นคนขยัน พอกลับจากขายอาหารก็มาปลูกพืชผักรอบบ้านอีก
“รันหิวไหมจ๊ะ” เขาเอ่ยถาม
“ยังอิ่มอยู่เลยจ้ะ กินไข่ดาวของพี่กันแล้วอิ่มอกอิ่มใจจริงๆ” คนฟังยิ้มกว้างขวาง กันภัยมีลักยิ้มข้างแก้มทั้งสองข้างไม่ต่างจากเธอ แถมยังมีเขี้ยวอีกด้วย ดูสิยิ้มทีใจเธอละลาย ผู้ชายอะไรยิ้มโคตรหวานน่ามองจับจิตจับใจ
“ดอกดาวเรืองของพี่กันออกดอกเยอะจังเลยค่ะ”
“พี่ตัดเอาไปถวายพระ แล้วก็ตัดไปขายช่อละห้าบาท ใส่ใบเตยสักสองสามใบ แม่ค้าที่ตลาดรับซื้อ เอาไปเท่าไหร่ก็เหมาหมด”
“ขยันแบบนี้น่ารักจังเลยค่ะ” เธอชื่นชมในความขยันขันแข็งของเขาอย่างที่สุด ผู้ชายขยันและเป็นสุภาพบุรุษแบบกันภัยหายากยิ่งในสังคมปัจจุบัน แต่ถึงมีก็ไม่เหลือมาถึงเธอหรอก เพราะผู้ชายดีๆ แบบนี้มีผู้หญิงอยากเป็นเจ้าของกันทั้งนั้น
“รันมานี่สิ” กันภัยกวักมือเรียกแฟนสาวให้มาหา เธอเดินขึ้นเรือนตามเขาไป บ้านไม้ของเขาเป็นใต้ถุนสูงเหมือนบ้านไม้ทางภาคใต้ทั่วไป ด้านล่างสามารถนอนเล่นบนแคร่รับลมได้
“อะไรเหรอคะ” เธอเอ่ยถาม ขณะนั่งลงบนพื้นบ้าน ด้านหน้าเป็นที่โล่งๆ สำหรับรับแขก บ้านไม้ของกันภัยถูจนขึ้นเงา จนผู้หญิงหลายคนยังอาย แต่เธอชอบผู้ชายสะอาดเรียบร้อย กันภัยไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่และเป็นคนชอบทำบุญ กลิ่นตัวของเขาหอมสะอาด ปราศจากกลิ่นอบายมุข
“ดูสิ พี่เก็บเงินได้เยอะแล้วนะ” กันภัยหยิบกระป๋องเหล็กที่เคยเป็นกระป๋องใส่คุกกี้มาเปิดฝาให้เธอดู ด้านในมีบัญชีเงินฝาก สลาก ธ.ก.ส. สลากออมสินหลายใบ และเงินกองทุนที่เขาเก็บสะสมเอาไว้
“พี่กันเก่งจัง” เธอชื่นชมเขาจากใจ กันภัยเก็บเงินเก่ง เขามีสีหน้าตื่นเต้นตอนเปิดกล่องเหล็กให้เธอดู
“พี่จะมีเงินไปสู่ขอรันแล้วนะ พ่อกับแม่ของรันคงไม่ขัดขวางเราอีก” เขาพูดอย่างมีความหวัง
“รออีกสักหน่อยนะจ๊ะพี่กัน รันจะค่อยๆ คุยกับพวกท่านเอง” เธอไม่ได้บอกกันภัยว่าบิดามารดาอยากให้คบหาดูใจกับลูกชายท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพราะกลัวกันภัยไม่สบายใจ เธอเองก็พยายามหาทางออกเพราะไม่อยากให้บิดามารดาบังคับ จึงคิดว่าต้องค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากับพวกท่าน เนื่องจากรู้ว่าหากพูดเรื่องที่เธอแอบคบหากับกันภัยอยู่ คงโดนกีดกันแน่ๆ จึงต้องรอเวลาอีกสักหน่อย
“พี่อยากทำให้ถูกต้อง อยากให้เกียรติรันและอยากพิสูจน์ให้พ่อแม่ของรันรู้ว่าพี่รักรันจริงๆ ไม่อยากแอบลักลอบคบกันแบบนี้อีก”
“พี่กันเชื่อใจรันนะคะ พี่กันก็รู้ว่าคุณพ่อกับคุณแม่ของรันเป็นคนยังไง มันไม่ง่ายเลยจริงๆ” เธอถอนใจเฮือกใหญ่ บิดามารดาของเธอรังเกียจคนจน ท่านชอบคนร่ำรวยมีฐานะเท่าเทียม ซึ่งในความคิดของเธอนั้นคนขยันและเป็นคนดี รักเราจริง สำคัญกว่าเงินทองความร่ำรวย ผู้ชายบางคนรวยเพราะพ่อแม่รวย แต่พอพ่อแม่จากไปก็เก็บรักษาทรัพย์สมบัติเอาไว้ไม่ได้ คนที่สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตนเองต่างหากถึงเป็นคนที่น่านับถือและยกย่องมากกว่าคนไม่เอาไหนบางคนที่ครอบครัวร่ำรวยมาตั้งแต่บรรพบุรุษก็เลยรวยด้วย แต่นิสัยใจคอไม่เอาไหนเสียเลย
“เพราะพี่เรียนหนังสือน้อย เพราะพี่จนใช่ไหม” เขาถามเสียงเศร้า เขารักจริงหวังแต่ง แต่ดูเหมือนบิดามารดาของเธอจะรังเกียจเขาเป็นที่สุด
“ไม่ว่าใครจะพูดยังไง ขอให้พี่กันเชื่อใจรันนะคะ” เธอจับมือเขามาบีบเอาไว้เพื่อให้กำลังใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธออยากให้เขาเชื่อมั่นในตัวเธอและเชื่อมั่นในตัวเองว่าสักวันต้องเอาชนะใจบิดามารดาของเธอได้ในที่สุด
“พี่เชื่อใจรัน จะขยันเก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัว ไม่ย่อท้อเด็ดขาด” เขาเป็นคนมุ่งมั่นและหมั่นเพียร ทำตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ในทุกวัน คิดเสมอว่าหากเราทำมันทุกวัน สักวันมันต้องสำเร็จ มันต้องเป็นวันของเรา
“รันเชื่อว่าพี่กันทำได้ค่ะ” เธอจับมือของเขามากุมเอาไว้ บีบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ
“พี่จะทำเพื่อรัน”
“เพื่อเราต่างหากล่ะคะ รันเป็นกำลังใจให้พี่กันเสมอนะคะ สิ่งไหนที่รันจะช่วยให้ความรักของเราสมหวังได้ รันจะทำทุกอย่าง” เธอกล้ามากที่หอมแก้มเขาเสียฟอดใหญ่ กันภัยหน้าแดง เขาอายม้วนยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก
“พี่กันเขินน่ารักจัง”
“ไม่เคยถูกหอมแก้ม” เขาลูบท้ายทอยไปมา แก้มแดงลามไปถึงใบหู
“โดนเปิดซิงแก้มเสียแล้ว” เธอมองเขาอย่างรักใคร่ ชอบเขาเพราะเขาเป็นคนแบบนี้ เธอเชื่อว่ากันภัยเป็นคนดี เธอเสียอีกใจกล้าหน้าด้านและขี้หึงในบางครั้ง ก็เขาเนื้อหอมขนาดนี้ ไม่ให้หึงได้อย่างไรกัน
กันภัยเป็นคนขี้เกรงใจ เขาอัธยาศัยดี เธอไม่อยากให้เขาถูกผู้หญิงคนไหนงาบไปน่ะสิ ผู้หญิงเดี๋ยวนี้น่ากลัวเสียยิ่งกว่าอะไร เธอเป็นผู้หญิงยังกลัวใจด้วยกันเองเลย
“ไม่เคยโดนหอมแก้มมาก่อน รันหอมแก้มพี่คนแรกเลยนะ”
“คุณพ่อคุณแม่ ญาติพี่น้องไม่เคยหอมแก้มพี่กันเหรอคะ” เธอนึกถึงตัวเอง ตอนเด็กๆ บิดามารดาบอกว่าใครๆ ก็แย่งกันหอมแก้มเธอเพราะเธอน่ารักน่าเอ็นดู อาจเพราะครอบครัวของเธอร่ำรวย ญาติสนิทมิตรสหายจึงหมั่นมาเยี่ยมเยียนไม่เคยขาด บิดามารดาเองก็เป็นคนหน้าใหญ่ใจโต กับคนระดับเดียวกันเท่าไหร่เท่ากัน แต่ถ้าคนระดับล่างพวกท่านค่อนข้างจะดูถูกดูแคลน ซึ่งเธอไม่เห็นด้วยเลยสักนิด อาจเพราะเด็กๆ ไม่ได้อยู่กับพวกท่านจนโต แต่ไปอยู่กับยายที่กรุงเทพฯ เธอจึงไม่ได้รับนิสัยส่วนนั้นของพวกท่านมาด้วย แต่พี่ชายนี่สิ ลูกไม้หล่นใต้ต้น ติดนิสัยดูถูกคนอื่นไม่ต่างจากบิดามารดาเหมือนพิมพ์เดียวกัน
“พี่กำพร้าครับ ตอนเด็กๆ อยู่กับยาย ครอบครัวพี่ลำบากมากๆ” เขานึกถึงวัยเด็กอันแสนยากแค้น ปากกัดตีนถีบ คนที่ไม่เคยลำบาก ไม่เคยยากจนและไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อข้าวกิน ย่อมไม่เข้าใจความรู้สึกนี้
กันภัยคิดเสมอว่าการที่เขาผ่านชีวิตที่แสนจะลำบากในวัยเยาว์ ทำให้เขาเป็นคนเข้มแข็งและอดทน นั่นเป็นข้อดีของการสู้ชีวิต ทุกชีวิตบนโลกใบนี้ต้องต่อสู้ดิ้นรนด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ แม้แต่ต้นไม้ใบหญ้า สิ่งมีชีวิตชนิดไหนที่แข็งแรงและแข็งแกร่งก็จะดำรงชีวิตอยู่ได้ ดำรงเผ่าพันธุ์ผลิตลูกหลานสืบไป สิ่งมีชีวิตไหนที่อ่อนแอก็จะพ่ายแพ้และตายไปในที่สุด
“ขอโทษนะคะ” รันนรินทร์ไม่ได้เติบโตอยู่ที่นี่ จึงไม่ใคร่จะรู้เรื่องราวของคนที่นี่นัก รู้แค่กันภัยเป็นคนขยัน แต่เธอไม่เคยถามภูมิหลังครอบครัวของเขา คิดจะคบกันก็คบกันเลย เพราะมีจิตพิศวาสต่อกันเพียงแค่แรกพบสบตา คนเราก็แปลก อยู่ห่างกันสุดหล้าฟ้าเขียว พอมาเจอกันยังชอบกัน รักกัน ถูกชะตากันได้
“ไม่ต้องขอโทษพี่หรอกครับ พี่คิดว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะทำอะไรก็ได้ ทุกคนมีความสามารถที่จะสร้างความฝันของตัวเอง แม้แต่คนพิกลพิการยังมีความสามารถที่จะทำฝันของตัวเองให้เป็นจริงเลยครับ”
“พี่กันเป็นคนมองโลกในแง่บวกจังเลยนะคะ ดีจัง แบบนี้เวลามีปัญหาพี่กันก็ไม่เครียด”
“มีเครียดบ้างละครับ เป็นธรรมดาของมนุษย์ แต่พี่คิดว่าปัญหาและความทุกข์ของคนเรามันเหมือนเพื่อนที่เข้ามาเยือนเราแล้วจากไป เราแค่ต้อนรับมันให้ดี ต้อนรับปัญหาที่เกิดขึ้นและค่อยๆ แก้มันไป สุขทุกข์มันเป็นของคู่กัน แม้แต่คนที่ร่ำรวยมีเงินเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน ก็ยังทุกข์เลยครับ”