เช้าวันต่อมา
ร่างสูงใหญ่ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงแล้วปล่อยความทรงจำในอดีตระหว่างเขาและจินนี่ให้ฉายชัดในหัวเหมือนทุกเรื่องเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน
อดีต
ครั้งแรกที่ได้เจอจินนี่เขากำลังคุยเรื่องงานกลุ่มวิชาเสรีกับ เพื่อน ๆ กระทั่งเธอเดินเข้ามาขอร่วมกลุ่มด้วย เพราะความน่ารักบวกกับความเป็นกันเองทำให้ทั้งสองสนิทสนมกันเร็วขึ้น ผ่านไปหลายเดือนเขาจึงเลือกจะสารภาพความในใจกับเธอ
‘วันนี้จินนี่เรียนเหนื่อยหรือเปล่า’
‘เหนื่อยมากค่ะ วันนี้อาจารย์สอนน่าเบื่อสุด ๆ เลยค่ะพี่โฟม’ เมื่อนัยน์ตากลมหวานช้อนขึ้นมองเขา เขาจึงอดไม่ได้ที่จะส่งมือไปลูบเรือนผมนิ่มอย่างอ่อนโยนพลางปลอบประโลม
‘ทนหน่อยนะครับคนดี เดี๋ยวอีกไม่นานก็ปิดเทอมแล้ว’
‘ว่าแต่...พี่โฟมเรียกจินนี่มาวันนี้มีอะไรเหรอคะ’
‘พี่มีอะไรบางอย่างอยากจะบอกกับเราน่ะครับ...พร้อมฟังไหม’ ร่างสูงสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ขณะทบทวนประโยคคำพูดซึ่งตีรวนในสมองของตนมาตลอดสองวันจนแทบจะนอนไม่หลับ อีกฝ่ายดูจะแปลกใจเล็กน้อยที่เขามีท่าทางแบบนั้นทว่าก็ตอบรับกลับมาเป็นอย่างดี
‘พร้อมค่ะ’
ถึงเวลาที่ต้องพูดแล้วสินะ... ‘พี่...ชอบจินนี่นะครับ’
‘จริงเหรอคะ! จินนี่ก็ชอบพี่เหมือนกันค่ะ’ หญิงสาวมีท่าทางเขินอายไม่น้อยเมื่อได้ฟังคำสารภาพรัก สิ่งที่ออกมาจากริมฝีปากเคลือบลิปสีสดทำให้ชายหนุ่มซึ่งกำลังรอคำตอบยิ้มกว้าง เขากอดคนตัวเล็กเอาไว้แน่นด้วยความดีใจเป็นที่สุด
‘ถ้าใจเราตรงกันแล้ว งั้นน้องจินนี่คบกับพี่ไหมครับ’ ใบหน้าเนียนใสพยักหน้าพลางเอ่ยคำตอบรับด้วยท่าทางร่าเริง
‘ตกลงค่ะ จินนี่จะดูแลพี่เป็นอย่างดีให้สมกับความรักที่พี่ให้มาเลย’ เขาจับมือเรียวบางมากุมไว้แล้วกดจูบลงบนหลังมือแผ่วเบาโดยไม่ได้พูดอะไร การกระทำของเขาได้บอกคำพูดที่ต้องการจะสื่อออกไปทั้งหมดแล้วท่ามกลางเสียงโห่แซวของเพื่อนและสายตาอิจฉาของคนรอบตัวที่มองมา
หลังจากเป็นแฟนกันแล้วชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมากอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งสองได้ไปเที่ยวด้วยกันตามสถานที่ท่องเที่ยวใกล้มหาวิทยาลัย บางครั้งเธอก็เข้ามานอนที่หอกับเขาแต่ไม่ได้ทำอะไรกันเพราะปภังกรในตอนนั้นให้เกียรติเธอมากกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่เคยผ่านมา
เขาตั้งใจจะทะนุถนอมเธอให้มากที่สุดทว่าหญิงสาวกลับดูไม่ค่อยพอใจนัก แต่ถึงอย่างนั้นเราสองคนก็ยังรักกันดี ไม่ว่าจะควงกันเข้าโรงอาหารหรือที่ใดก็ตามต่างก็มีแต่คนมองว่าเราเหมาะสมกันทั้งนั้น
‘วันนี้จินนี่อยากกินอะไร ...สปาเก็ตตี้ไหม’ ใบหน้าหล่อเหลาหันมาถามแฟนสาวเมื่อทั้งสองคนนั่งลงที่โต๊ะอาหาร พอจินนี่พยักหน้ารับ เพื่อน ๆ ต่างก็มองมาด้วยสายตาพร้อมแซว
‘มีถามเมนูกันด้วย แบบนี้หนูให้พี่โฟมสั่งให้บ้างได้ไหมค้า’ เพื่อนที่เป็นสาวประเภทสองคนหนึ่งแซวขึ้นมาตามด้วยคนอื่น ๆ
‘เออ สั่งให้กูกับไอ้ก้องด้วยดิ’
‘พวกมึงก็ไปสั่งกันเองสิ กูจะสั่งให้แฟน’ เขาหัวเราะกับความกวนประสาทของเพื่อนก่อนจะเดินแยกไปสั่งข้าวให้ตัวเองและคนรัก เมื่ออยู่คนเดียวเหล่าเพื่อนรุ่นพี่ของปภังกรต่างก็ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกับจินนี่และหนีไม่พ้นเรื่องของปภังกร
‘นี่ ๆ ไอ้โฟมมันดูแลน้องดีหรือเปล่า ปกติมันคบผู้หญิงไม่เกินสัปดาห์ก็ทิ้งแล้วนะ’
‘เฮ้ยมึง อย่าไปพูดแบบนั้นสิ ว่าแต่มันดูคลั่งรักน้องมากเลยนะครับเนี่ย...พี่ชักจะสงสัยแล้วว่าทำไมกันนะ’ รุ่นพี่หนุ่มอีกคนถามขึ้นมา เธอยังไม่ทันได้อ้าปากตอบก็มีอีกคนถามขึ้นเสียก่อน
‘ว่าแต่ได้ทำเรื่องบนเตียงกันไหม’
‘ถามอะไรแบบนั้นวะมึง!’ พี่ ๆ อีกสองคนต่างก็ด่าพี่คนที่ถามเรื่องน่าอายออกมาอย่างตั้งใจจนหญิงสาวคนเดียวในกลุ่มได้แต่หัวเราะพลางคิดว่ากลุ่มเพื่อนปภังกรตลกดี ยังไม่ทันได้คุยกันมากกว่านั้นคนเห่อแฟนที่ไปซื้อข้าวก็กลับมาเสียก่อน
‘พวกมึงถามอะไรแปลก ๆ กับแฟนกูหรือเปล่าน่ะ’
‘แหม...ใครจะกล้าถามน้องจินนี่คนสวยแบบนั้นล่ะคร้าบ พวกกูออกจะเป็นคนดี’
‘งั้นเหรอ...ทานข้าวกันเถอะครับน้องจินนี่ อย่าไปสนใจเลย’ เขายิ้มให้เธอก่อนจะลงมือทานข้าวด้วยกัน กลุ่มเพื่อนเขาเข้ากับคนรักได้เป็นอย่างดีจนชายหนุ่มดีใจไปด้วย
เราสองคนใช้ชีวิตช่วงที่คบกันราวกับอยู่ในความฝัน เขาเคยเป็นคนเจ้าชู้มากแต่ในตอนนี้กลับสามารถหยุดเพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียวได้ เพื่อน ๆ ของเขาก็ทักเพราะไม่เคยเห็นเขาคบใครได้ถึงหนึ่งปีจริง ๆ ชายหนุ่มคิดมาตลอดว่านี่คือความรักที่มั่นคงมากที่สุดในชีวิตเขา และอาจจะคงอยู่ตลอดไป... เหมือนดั่งเนื้อเรื่องในหนังสือนิทานที่เจ้าชายรูปงามคู่กับเจ้าหญิงแสนสวย...
แต่แน่นอนว่าเรื่องราวในชีวิตจริงนั้นไม่ได้สวยงามแบบเทพนิยายเสมอไป...
เรื่องราวที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเราต้องร้าวฉาน เกิดขึ้นในตอนที่หญิงสาวต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งนั่นเป็นบททดสอบหัวใจที่สำคัญเป็นอย่างมาก และเขาหวั่นใจลึก ๆ ตั้งแต่ตอนที่ไปส่งจินนี่ที่สนามบิน
‘เดินทางปลอดภัยนะครับคนเก่ง ถ้าหนาวก็อย่าลืมใส่เสื้อกันหนาวที่พี่ซื้อให้ด้วยนะ’
หญิงสาวผู้เป็นคนรักที่ดีของเขามาตลอด และเขาก็ดีกับเธอมากเช่นเดียวกันเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเนื่องจากเศร้าที่เราทั้งคู่จะต้องห่างกันไกล
‘ได้ค่ะพี่โฟม สัญญาได้ไหมคะว่าพี่จะไม่หนีไปไหนจนกว่าจินนี่จะกลับไทย’ นิ้วก้อยของคนตัวเล็กยื่นออกมาราวกับจะให้เขายืนยันสัญญา ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบเกี่ยวก้อยกับเธอพร้อมตอบรับทันทีด้วยความมั่นใจ
‘ได้ครับ...พี่สัญญา เราไปอยู่ที่นั่นต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะครับ’
‘จินนี่จะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดจนกว่าจะเรียนจบคอร์สเลยค่ะ พี่โฟมไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ’ ใบหน้าสวยจัดระบายยิ้มหวานส่งให้แฟนหนุ่ม เราสองคนโบกมือลากันก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในบริเวณเกทด้านในเพื่อขึ้นเครื่องของผู้โดยสาร ความรู้สึกอ้างว้างเกาะกินจิตใจของเขาทั้งที่เราเพิ่งจะห่างกันไม่กี่นาทีเท่านั้น ตอนนี้เราสองคนสามารถติดต่อกันได้เพียงแค่ทางโทรศัพท์และข้อความเท่านั้น ซึ่งเขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้...