8

1518 คำ
ครั้งยังเด็กคุณยายที่เป็นนักร้อง นักเต้นชื่อดังของมาเลเซียได้สอนภาษาอาหรับให้เธอ เธอจึงมีความสามารถพูดได้หลายภาษา ทั้งไทย สเปน อังกฤษ มาเลย์รวมถึงภาษาอาหรับด้วยเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงร้องเพลงภาษามาเลย์ได้ไพเราะ “ไม่หรอกจ้ะ” มาเลย์น่ายิ้มให้พาตีเมาะ “คุณแต่งเพลงเป็นด้วยหรือคะ มิน่า ฝ่าบาทถึงโปรดคุณเพราะคุณเก่งเช่นนี้นี่เอง” พาตีเมาะชื่นชมไม่หยุด หญิงสาวยิ้มรับบางๆ พาตีเมาะขอตัวจากมาเลย์น่า เธอหาเรื่องไปเม้าท์กับนางในฮาเร็มได้แล้ว เธอจะเม้าท์ให้กระจายไปทั่วฮาเร็มถึงความสามารถของมาลย์น่า “พาตีเมาะขอตัวก่อนนะคะคุณ หากคุณต้องการอะไรเรียกหาได้เลยนะคะ คุณสั่นกระดิ่งหรือบอกนางทาสหน้าตำหนักก็ได้ค่ะ” พาตีเมาะรีบขอตัว เธอเดินสะดุดขาหกล้มด้วยความซุ่มซ่าม มาเลย์น่าหัวเราะด้วยความขบขันพร้อมกับช่วยพยุงร่างอวบอ้วนของพาตีเมาะให้ยืนขึ้น “พาตีเมาะซุ่มซ่ามแบบนี้ เดี๋ยวก็หาแฟนไม่ได้หรอกจ๊ะ” มาเลย์น่าล้อเลียนด้วยใบหน้าซุกซน พาตีเมาะเกาศีรษะเก้อๆ แล้วทำหน้าเศร้า “คงไม่มีใครเอาพาตีเมาะไปเป็นแฟนหรอกค่ะ” “ทำไมพูดแบบนั้นล่ะจ๊ะ” มาเลย์น่าเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย “พาตีเมาะอ้วนจะตาย ผู้ชายเขาชอบผู้หญิงหุ่นดีๆ แบบคุณนี่คะ” พาตีเมาะมองมาเลย์น่าตาปรอย แอบอิจฉานิดๆ คิดว่าทำไมเธอหุ่นไม่ดีแบบนี้บ้าง “โธ่... เรื่องแค่นี้เอง ถึงจะอวบไปนิด แต่กอดแล้วอบอุ่นนุ่มนิ่มดี ไว้เป็นหมอนข้างไง พาตีเมาะหน้าตาน่ารักด้วย อย่าคิดมากสิจ๊ะ” มาเลย์น่ากุมมืออีกฝ่าย ยิ้มให้ด้วยความจริงใจ พาตีเมาะยิ้มแก้มปริ ก่อนขอตัวออกไปจากตำหนัก มาเลย์น่าส่ายใบหน้ายิ้มๆ รู้ว่าพาตีเมาะคงจะไปเม้าท์กระจายต่อ เธอดูจากลักษณะนิสัยของพาตีเมาะ “เจ้าพี่จะรีบเสด็จไปไหนหรือพ่ะย่ะค่ะ” องค์ชายสุไลมาน อิสเฮาะห์ ไมยามู ซูยา ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เมื่อเห็นความเร่งรีบของพี่ชายหลังจากประชุมขุนนางเสร็จสิ้น เขาสังเกตว่าตั้งแต่พี่ชายกลับจากโอซาเนียในงานเฉลิมฉลองวันนั้น พี่ชายของเขาขลุกตัวอยู่แต่ในตำหนัก จะเห็นหน้าค่าตาตอนออกว่าราชการเท่านั้น แม้มีงานที่ต้องสะสาง มักเอากลับไปทำที่ตำหนัก เขาสงสัยว่าที่ตำหนักมีอะไรดีนักหนา เหตุใดถึงต้องรีบกลับไปเช่นนี้ จึงให้คนไปสืบ ได้ข่าวมาว่า พี่ชายพาหญิงสาวต่างชาติกลับมาด้วย และทรงหลงเธอเป็นที่สุด ครั้นได้เห็นอาการของพี่ชาย เขามั่นใจว่าคงหลงใหลหญิงสาวต่างชาติที่เอากลับมาจริงๆ เขาอยากรู้ว่าจะสวยสักแค่ไหน เนื่องจากพี่ชายไม่เคยสนใจหญิงสาวคนใดมาก่อน ปกติพี่ชายไม่ค่อยเรียกหาหญิงสาวในฮาเร็มสักเท่าไหร่ หากเรียกหาก็น้อยครั้ง เขาเคยขอหญิงสาวที่เป็นบรรณาการเหล่านั้นหลายคนจากพี่ชาย พี่ชายของเขายกให้โดยไม่ใส่ใจด้วยซ้ำ “มีอะไรหรือเปล่า พี่จะรีบกลับตำหนักไปสะสางงานที่คั่งค้างเอาไว้” อีซาตอบน้องชายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “น้องจะขอตามเจ้าพี่ไปที่ตำหนักด้วยจะได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ ไม่ได้คุยกับเจ้าพี่ตั้งนานแล้ว” สุไลมานหยั่งเชิงถาม เพื่อรอดูอากัปกิริยาของพี่ชาย “ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ” อีซาบอกน้องชายอย่างเสียไม่ได้ แม้ในใจจะไม่อยากให้น้องชายไปที่ตำหนักสักนิด เนื่องจากรู้สึกหวงมาเลย์น่าจับใจ องครักษ์ทั้งสองของอีซาคือ ลุตฟีกับมามะมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย หลังจากที่มาเลย์น่ามาพำนักอยู่ในตำหนักของนายเหนือหัว พระองค์แทบกินนอนไม่ออกจากห้อง นอกจากว่าราชการเท่านั้น “เชิญ” เมื่อพี่ชายกล่าวอนุญาต สุไลมานจึงก้าวเดินตามพี่ชายไปด้วยความอยากรู้ พร้อมกับคนสนิททั้งสองของเขาคือ ฮาริบและเฮงกาที่คอยติดตามเหมือนเงาตามตัว ไม่นานร่างสูงของสองพี่น้องเดินมาถึงตำหนัก ดวงตาคมเข้มสีนิลมองหาร่างงามกลมกลึงที่แสนคิดถึงทุกลมหายใจเข้าออก “ฝ่าบาทเพคะ” มาเลย์น่าออกมาต้อนรับอีซาด้วยความคิดถึงเช่นกัน หญิงสาวชะงัก เมื่อเห็นเขาพาคนอื่นมาด้วย นอกจากองครักษ์ทั้งสองที่เธอรู้จักแล้ว สุไลมานได้ยลโฉมของมาเลย์น่าถึงกับตะลึงงัน นี่นะเหรอหญิงสาวชาวต่างชาติที่พี่ชายพากลับมา แค่เห็นก็อยากกระชากมาร่วมรักเสียนี่กระไร รูปร่างสูงเพรียวกลมกลึงน่าสัมผัส ดวงตาคมหวาน แค่ไล้สายตาก็เห็นความอวบอิ่มที่ซุกซ่อนเอาไว้ภายใต้ชุดสีโอรสรัดรึง เธอเป็นผู้หญิงที่น่าดึงดูดเป็นที่สุด รูปร่างสมส่วน มองเห็นความเย้ายวนของเรือนร่าง เอวคอดรับกับสะโพกผาย แขนขายาวสูงสง่าน่าสัมผัสลูบไล้ยิ่งนัก “นี่สุไลมาน น้องชายของฉันเอง” อีซาแนะนำน้องชายให้มาเลย์น่ารู้จัก “ถวายบังคับเพคะ” มาเลย์ถวายความเคารพสุไลมานด้วยกิริยาอ่อนหวาน “ท่านพี่จะไม่แนะนำหน่อยหรือพ่ะย่ะค่ะ ว่าเธอชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไร” สุไลมานถามพี่ชายแต่สายตามองร่างงามด้วยดวงตาเป็นประกาย รู้สึกพึงพอใจหญิงสาวเป็นที่สุด เขาหายสงสัยทันทีว่าเหตุใดพี่ชายถึงไม่ยอมออกจากตำหนักเช่นนี้ อีซาไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เมื่อเห็นสายตาน้องชายต่างมารดาที่กวาดไล้มองไปทั่วเรือนร่างของมาเลย์น่า แต่เขายังแนะนำหญิงสาวให้น้องชายรู้จักด้วยเสียงราบเรียบ เก็บอารมณ์และความรู้สึกเอาไว้อย่างมิดชิด “เธอชื่อมาเลย์น่า” ร่างสูงเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวสวย โดยที่สุไลมานเดินตามพี่ชายไปติดๆ แต่สายตามองหญิงสาวไม่วาง มาเลย์น่าเดินตามร่างสูงของทั้งสองไปยืนใกล้ๆ กับอีซาเผื่อเขาต้องการสิ่งใด “ชื่อมาเลย์น่าเรอะ เธอสวยแบบนี้นี่เอง ท่านพี่ถึงไม่ยอมปลีกตัวออกจากตำหนัก” สุไลมานพูดตรงๆ ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แท้ที่จริงในใจกลับอิจฉาพี่ชายไปเสียทุกอย่าง ทั้งบังลังก์ที่ครอบครองและหญิงสาวแสนสวยเช่นนี้ เขาคิดว่านอกจากมาเลย์น่าจะสวยแล้ว เธอกลับมีเสน่ห์ชวนลุ่มหลง เขาเคยเห็นผู้หญิงมามายแต่ไม่เคยมีใครทำให้หัวใจสั่นไหวได้เท่านี้มาก่อน มาเลย์น่ารินน้ำชาให้ทั้งสองด้วยกิริยานุ่มนวลอ่อนหวาน กลิ่นกายสาวหอมจรุงอบอวลไปทั่วบริเวณ สุไลมานเผลอสูดกลิ่นเข้าปอดล้ำลึก การกระทำทั้งหมดอยู่ในสายตาของอีซา เขานึกขัดใจที่มีชายอื่นมาสูดกลิ่นสาบสาวของเธอนอกจากเขา “ได้ข่าวว่าเธอเป็นนางรำ เจ้าพี่จะไม่ให้เธอแสดงความสามารถให้กระหม่อมได้ชมเป็นขวัญตาบ้างเหรอพ่ะย่ะค่ะ” สุไลมานขอพี่ชายตรงๆ “ได้สิ” อีซาตอบน้องชายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แม้ในใจจะไม่อยากให้ใครได้ยลโฉมหรือเรือนร่างของมาเลย์น่าก็ตามที แต่ตามมารยาท เลยขัดไม่ได้ มาเลย์น่าเตรียมความพร้อมแค่ไม่กี่อึดใจ พาตีเมาะหาคนเล่นดนตรี ซึ่งเป็นหญิงสาวในฮาเร็มที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี รวดเร็วโดยที่ไม่ต้องให้คอยนาน มาเลย์น่าร่างกายแข็งแรงเพราะฝึกการร่ายรำมาตั้งแต่เด็ก เธอระบำหน้าท้องให้ทั้งสองดู ระบำหน้าท้องเป็นการเน้นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อท้องและสะโพกซึ่งเป็นสิ่งที่หญิงสาวชอบไม่แพ้กับการเต้นแซมบ้าที่เธอชอบมากทีเดียว อีซาและสุไลมานมองหญิงสาวแทบไม่กะพริบตา ร่างกลมกลึงระหงออกมาด้วยท่วงท่าพลิ้วไหวตามจังหวะดนตรีไพเราะ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจังหวะเร้าอารมณ์ ชุดที่สวมใส่เป็นชุดสไตล์ คาบาเร่ต์สีทองอร่ามเน้นสะโพก แต่งด้วยแถบผ้าสี มีลูกปัดเย็บติดเป็นแถว ขณะร่างงามส่ายสะโพกไปมาจึงเกิดเสียงดังเข้ากับเสียงดนตรี กระโปรงยาวตัวสวยผ่าเกือบถึงเอวคอด ด้านในมีกางเกงขาสั้นเน้นให้เห็นช่วงขางดงาม ผ้าคลุมผมสีเดียวกับชุด อกอวบอิ่มแทบล้นออกมานอกเสื้อตัวสวยที่โชว์หน้าท้องแบนราบ ผ้าคลุมสะบัดพลิ้วไปมาเข้ากับจังหวะการเต้น สร้างบรรยากาศลึกลับและอารมณ์พลิ้วไหว ร่างระหงเปลี่ยนจากท่วงท่าที่เต้นขยับลำตัวอยู่กับที่ มาเป็นการเต้นย้ายตำแหน่งไปเรื่อยๆ 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม