คราวนี้นางยกแขนเสื้อขึ้นมาเพื่อพยายามเช็ดอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเสื้อด้านที่นางยกนั้นบริเวณด้านข้างจะมีรอยขาดและมันเผยความขาวและเรียบแบนบริเวณหน้าท้องของนางได้ อารมณ์ขันของฉีเทียนเหล่ยก็หมดไปเมื่อความใคร่อย่างบุรุษวัยกำหนัดย้อนกลับมาแทนที่อย่างท่วมท้น แน่นอนว่าผ่านมาหลายเดือนเขาขาดหายจากเรื่องอย่างว่า
เมื่อแขนเสื้อนางยกลงมาทำให้ปิดบริเวณที่ปริขาด เขาเลือนสายตามาจ้องนางอีกครั้งเห็นเปลือกตาไม่มีสีติดแล้ว เหลือเพียงรอยบวมเล็กน้อยพร้อมกับราคาค่าตัวที่เขาคิดจะเสนอต่อนางจึงเพิ่มขึ้น
“นี่ท่าน ถ้าท่านคิดเรียกข้ามาเพียงเพื่อจะจับผิดกันล่ะก็ หวังว่าคงจะพอได้แล้วกระมัง แล้วข้าอยากถามว่าท่านเรียกข้ามามีอะไร งานข้ามีเยอะแยะที่ต้องทำ” นางยังไม่ได้ยินคำตอบจากปากบุรุษรูปงาม นางจึงถามย้อนอีกครั้ง
“ว่ายังไงเล่า”
“ข้าต้องการเจ้า” คำตอบเรียบแต่ทำให้โคว่เอ๋อรังเกียจได้ทันที
นางไม่ตอบแต่ได้สะบัดหน้าหนี ทำเป็นไม่ได้ยินที่ฉีเทียนเหล่ยพูด นางทำตัวเยี่ยงนี้เพียงเพื่อให้ผู้ชายวิ่งหนีมิใช่วิ่งรี่เข้าใส่นาง แม้เขาผู้นี้จะมีใบหน้าสมบูรณ์แบบ หล่อเหลาแบบดิบเถื่อนหากเป็นหญิงอื่นคงตกลงปลงใจไปกับเขาเพียงแค่เขาเอ่ยปาก ทั้งเขายังมีเงินอีกด้วย
ผู้ชายประเภทนี้มักมองข้ามนางไปเสมออยู่แล้ว ไม่ต้องมาพิจารณาอะไรมาก นางไม่ตกลงแน่ๆ คำพูดตรงๆ ของเขาที่ว่าต้องการนาง สิ่งนี้ไม่สมควรจะได้รับคำตอบจากปากนางด้วยซ้ำ ดังนั้นนางจึงพูดเพียงว่า
“หากท่านมีความต้องการถึงเพียงนั้น ข้าจะส่งหญิงงามในหอแห่งนี้ให้ท่านสักคนที่ห้องก็แล้วกัน”
โคว่เอ๋อหมุนตัวและเดินจากไปอย่างมิสนใจว่าผู้ฟังจะรู้สึกเช่นไร การหมุนตัวกลับของนางทำให้คนที่อยู่ด้านหลังไม่พึงพอใจกับการถูกปฏิเสธอย่างไม่ไยดี ทั้งชีวิตไม่เคยมีใครที่กล้าปฏิเสธเขามาก่อน และนอกจากการปฏิเสธนางยังสะบัดหน้าหนีอีก
มืออันว่องไวจึงได้รั้งเข็มขัดของนางเอาไว้ ส่วนโคว่เอ๋อนั้นพลันรู้สึกว่ามีบางอย่างยึดเข็มขัดนางไว้และถูกดึงกลับไป สิ่งนั้นคือมือเขานั่นเอง
นางถอยมาชนขาของเขาที่คอยกันไม่ให้นางล้มและก้นจำต้องตกแหมะนั่งลงบนตักของเขาพอดิบพอดี โคว่เอ๋อมีสีหน้างุนงงกับการกระทำของเขาและเกินกว่าจะเคลื่อนไหวหรือพูดจาต่อว่าได้ชั่วครู่หนึ่ง
ในที่สุดนางก็เงยหน้าขึ้นและเอ่ยคำพูดอันมีเสียงดังชัดเจนเป็นการเตือน
“ท่านกำลังลองดีอยู่ใช่ไหม?” นางกระชากเสียงถามเพราะนางไม่พอใจกับการกระทำของอีกฝ่าย
“ชู่ว์!" เขาเอานิ้วชี้ขึ้นมาป้องที่ปาก แสดงอาการให้นางเงียบเสียง
“เจ้าไม่เห็นต้องโกรธขนาดนั้นเลยก็ได้” ประโยคที่เขากล่าวมาพร้อมกับการหย่อนเงินให้นางยี่สิบตำลึงทองใส่ในตักของนาง โคว่เอ๋อเห็นบางอย่างตกลงมาที่ตักจึงได้แต่จ้องมองเงินนั้นไม่วางตา เพราะนางไม่เคยได้สัมผัสเงินจำนวนมากมายขนาดนี้มาก่อน
นางคิดต่างๆ นานาว่าถ้าได้เงินจำนวนนี้มา นางสามารถซื้อชุดใหม่ ซื้อของใช้ส่วนตัวหรือเก็บไว้รักษาตนเองยามที่นางป่วยได้เลยทีเดียว ซึ่งเงินจำนวนนี้ต่อให้นางทำงานอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตของนาง อย่าได้หวังว่านางจะได้สัมผัสมันเลย ไม่มีทางเป็นแน่แต่นี่เขา... เขายื่นเงินจำนวนมากขนาดนี้ให้แก่นาง เขาคงมิได้ล้อเล่นกระมัง
โอ้! ไม่นะ นางไม่เคยถูกใครยั่วกิเลสมากเท่านี้มาก่อน แรงกระตุ้นแรงกล้าของนางที่อยากจะตะครุบเงินก้อนจำนวนนี้เอาไว้เป็นของตัวเองเสียเหลือเกิน
อยาก!
นางอยากเป็นเจ้าของเงินก้อนนั้น...
ใช่เขาต้องเป็นปีศาจจริงๆ ปีศาจจำแลงมาแกล้งยั่วยวนนางด้วยเงินตรา แล้วความดีที่นางสะสมจะทลายหมดสิ้น ถ้านางยินยอมมอบพรหมจรรย์ที่นางเก็บรักษามามอบให้กับชายตัณหากลับเพียงเพราะเศษเงินที่เขาฟาดให้แก่นางตรงหน้า เพียงเพราะความสนุกและหวังว่าเขาอยากที่จะได้ความบริสุทธิ์ของนางไป ซึ่งนางก็ไม่ได้คิดที่จะเก็บรักษาไว้ให้ใครอยู่แล้วสาเหตุน่ะหรือ? เพราะนางจะไม่มีวันแต่งงาน!
แล้วสิ่งนั้นมันช่างเลวร้ายสักแค่ไหน เมื่อจู่ ๆ ความใกล้กับเขาผู้ซึ่งนางก็มิรู้จักว่าเขาเป็นใคร แต่กลิ่นกายบนตัวเขานี่สิมันช่างหอมเหลือเกิน กลิ่นกายนี้ทำให้นางสงบจิตใจไปพร้อมกับความโหวงหวิวได้ในคราวเดียวกัน ซึ่งหากเป็นชายอื่นที่เคยคิดเข้าใกล้นาง... เป็นไปไม่ได้แน่ว่านางจะสงบไปพร้อมกับตื่นเต้นเช่นนี้