“ท่านประธานเหรอคะ ตอนนี้ท่านติดประชุมอยู่ค่ะไม่ทราบว่ามีธุระอะไรกับท่านประธานด่วนหรือเปล่าคะ?... หรือว่ามีนัดกับท่านประธานก่อนหน้านี้หรือเปล่าคะ”
“อ๋อ...ค่ะ...ดิฉันชื่ออิงอรค่ะ เรียกชื่อเล่นว่าอรก็ได้นะคะจะเข้ามาขอพบท่านประธาน อรเป็นนักศึกษาฝึกงานค่ะ ก่อนหน้านี้ยื่นหนังสือมาที่ฝ่ายบุคคลแล้วและฝ่ายบุคคลบอกว่าให้มาพบท่านประธานก่อนค่ะ”
เด็กสาวคนนั้นแนะนำตัว ฟังจากน้ำเสียงและท่าทีดูท่าทางของเธอจะมีความมั่นใจแม้ว่าใบหน้าจะเป็นเด็กสาวหน้าตาวัยใสแต่ท่าทางการพูดจาฉะฉานและทำให้นันทินีรู้สึกว่าเด็กผู้หญิงคนนี้มีบางอย่างที่ไม่ธรรมดา เธอจึงตอบกลับไปว่า
“ถ้าอย่างนั้นนั่งรอก่อนนะคะ ดิฉันก็ไม่ทราบว่าท่านประธานจะเสร็จจากการประชุมตอนไหนเพราะท่านก็เพิ่งเข้าร่วมการประชุมเมื่อสักครู่นี้เองค่ะ”
“ขอบคุณมากนะคะ”
เด็กสาวที่ชื่ออิงอรพยักหน้ารับและนั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้ามกับเลขาสาว หล่อนนั่งมองคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก่อนถามขึ้นว่า
“ไม่ทราบว่าคุณพี่เป็นเลขาของท่านประธานใช่ไหมคะ?”
นันทินีพยักหน้าและตอบด้วยเสียงรื่นหู
บทที่ 3
“ใช่ค่ะพี่เป็นเลขาของท่านประธาน พี่ชื่อนันทินีหรือน้องอรจะเรียกพี่เล่นๆ ว่าพี่นุ่นก็ได้นะคะ”
“ค่ะ...สวัสดีค่ะพี่นุ่น แล้วไม่ทราบว่าพี่นุ่นน่ะเป็นเลขาของท่านประธานนี่ ทำงานมานานเท่าไหร่แล้วคะ”
“พี่ทำงานกับท่านประธานได้ประมาณก็...เดือนหน้าจะครบ 6 เดือนแล้วล่ะค่ะ
“ก็ยังไม่นานเท่าไหร่เลยนะคะ แล้วไม่ทราบว่าพี่นุ่นนี่จบปริญญาตรีทางด้านเลขานุการมาอย่างนั้นเหรอคะ”
“พี่จบชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงค่ะ จริงๆแล้วพี่จบทางด้านบัญชีแต่ว่าเคยทำงานเป็นเลขาให้เจ้านายที่เป็นฝรั่ง เป็นชาวต่างประเทศนะค่ะ เคยทำงานให้กับเจ้านายที่มีเชื้อสายเป็นชาวฝรั่งเศส”
อิงอรมีสีหน้าประหลาดใจ “ถ้าอย่างนั้นพี่นุ่นพูดฝรั่งเศสได้หรือเปล่าล่ะคะ
“พี่พูดฝรั่งเศสไม่ได้หรอกค่ะเพราะว่าภาษาที่พี่สื่อสารกับเจ้านายส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาษาอังกฤษ เจ้านายของพี่ที่พี่เคยทำงานด้วยเขาพูดได้หลายภาษาค่ะ”
“แต่พี่ก็เก่งมากเลยนะคะ อรขอนับถือเลยเพราะขนาดอรเรียนถึงระดับปริญญาตรีก็ยังรู้สึกว่าตัวเองยังมีประสบการณ์น้อยแล้วยิ่งต้องมาฝึกงานแบบนี้ก็คงต้องเรียนรู้ให้เยอะกว่าคนที่ทำงานในบริษัทมากสักหน่อย ถ้ายังไงอรก็ขอคำแนะนำจากพี่นุ่นให้ช่วยสั่งสอนด้วยนะคะ”
“ได้สิคะ น้องอรเป็นพนักงานฝึกงานก็ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในบริษัทนี้เหมือนกัน เราก็ต้องทำงานร่วมกันอยู่แล้วนะคะ”
“ขอบคุณมากเลยค่ะ”
อิงอรกล่าวกับนันทินีด้วยรอยยิ้มแสนสดใส ขณะนั้นเองเลขาสาวก็สังเกตเห็นว่านักศึกษาฝึกงานคนนี้มีอะไรหลายอย่างดูจะพิเศษ อิงอรมีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดเพราะหน้าตาของเธอสวยหวานการแต่งกายก็สุภาพเรียบร้อยแม้วันนี้อิงอรจะไม่ได้สวมชุดนักศึกษามาอาจเป็นเพราะเธอเข้าใจว่าจะต้องแต่งกายด้วยชุดสุภาพเพื่อมาพบท่านประธานบริหารของบริษัท นันทินีสังเกตเห็นว่าอิงอรเป็นเด็กสาวหน้าใสคำพูดและกริยาท่าทางก็ดูน่ารักสมกับเด็กสาววัย 18
อิงอรและนันทินีนั่งคุยกันสักพักประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามา เจตต์ก้าวเข้ามา ขณะนั้นเองนันทินีก็รีบลุกขึ้นและบอกเขาว่า
“ท่านประธานคะ...ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ?”
เขาพยักหน้า “ใช่...วันนี้ประชุมเสร็จเร็วมาก คงเป็นเพราะโปรเจคใหญ่ที่เรากำลังจะทำร่วมกับต่างประเทศมีการพูดคุยกันไปแล้ว ก็เหลือบรีฟงานอีกไม่เยอะเท่าไหร่ทุกคนก็เข้าใจทั้งหมด”
“ค่ะ...ท่านประธานคะ พอดีว่ามีน้องนักศึกษาฝึกงานต้องการที่จะมาขอพบท่านประธานค่ะ”
พอนันทินีบอกอิงอรก็รีบลุกขึ้นและยกมือไหว้ท่านประธานหนุ่มพร้อมทั้งกล่าวว่า
“สวัสดีค่ะท่านประธาน หนูชื่ออิงอรนะคะเป็นนักศึกษาฝึกงาน พอดีว่ายื่นเอกสารมาที่ฝ่ายบุคคลแล้วและเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลก็บอกให้อรมาพบท่านประธานวันนี้ค่ะ”
“เป็นนักศึกษาฝึกงานอย่างนั้นเหรอ”
เจตต์ถามและมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ก่อนที่เขาจะพูดต่อไปว่า
“ถ้าเป็นนักศึกษาฝึกงานแล้วทำไมถึงไม่แต่งชุดนักศึกษามาพบผมล่ะ”
อิงอรรีบยกมือไหว้ปะหลกๆ “ต้องขอประทานโทษด้วยนะคะท่านประธาน พอดีว่าวันนี้เป็นวันเสาร์อรก็เลยเข้าใจว่าอาจจะไม่ต้องสวมชุดนักศึกษามาก็ได้ แต่ว่าสวมใส่เป็นชุดที่เรียบร้อยมาคุยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล แต่เจ้าหน้าที่ก็ให้อรมาพบท่านประธาน ต้องขออภัยด้วยจริงๆค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก มานั่งตรงนี้สิ”
พูดจบเจตต์ก็เดินตรงไปยังโต๊ะทำงานของเขาโดยมีอิงอรเดินตามไปและนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับท่านประธานใหญ่ ขณะนั้นเด็กสาวก็อดที่จะเหลือบมองท่านประธานหนุ่มหล่อด้วยหัวใจที่เต้นระทึกไม่ได้ เพราะตอนแรกหล่อนนึกว่าท่านประธานบริหารของบริษัทที่จะมาฝึกงานเป็นชายแก่วัยคราวพ่อแต่ที่ไหนได้ล่ะเขาเป็นชายหนุ่มที่ยังหนุ่มฟ้อและคะเนอายุแล้วน่าจะประมาณ 30 กว่า ทั้งความหล่อความสมาร์ท และเคร่งขรึมของเขาทำให้หัวใจของเด็กสาวเต้นแรง อิงอรรู้สึกประหม่าขึ้นมาขณะที่สบนัยน์ตาคมคู่นั้น หล่อนรีบหรุบตามองต่ำและประสานมือไว้บนตักขณะนั้นเจตต์ก็กล่าวว่า
“ก็ถ้าได้แจ้งฝ่ายบุคคลและฝ่ายบุคคลบอกให้มาพบผมก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วกระมัง เจ้าหน้าที่เขาบอกไหมว่าให้คุณเริ่มมาฝึกงานเมื่อไหร่”