ตอนที่ 1 กลับมาอีกครั้ง ตอนอายุ 10 ขวบ

1880 คำ
ตอนที่1กลับมาอีกครั้ง ตอนอายุ 10 ขวบ        "พ่อ...ผมขอเงินในส่วนของผม จะพาลูกสาวไปหาหมอเส็งนะครับ" เสียงสั่นคลอนของพ่อสมบัติกำลังอ้อนวอนคนที่เขาเรียกว่าพ่อ        "เงินที่แกให้มันไม่เหลือตั้งนานแล้วไอ่บัติ แกมันตัวซวย...ไม่น่าเกิดมาเป็นลูกฉันเลย...ที่ครอบครัวฉันเป็นแบบนี้เพราะแกพาผู้หญิงกาลกิณีเข้ามาในบ้าน ออกไป้…ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้  ไปทั้งคู่นั่นแหละ" นี่ผู้ชายที่เธอเรียกว่าปู่ ใบหน้าที่เกรี้ยวกราด น่าเกลียดน่ากลัวนั้นไร้ความปรานี        "พ่อแล้วเงินที่ผมฝากมาให้ทุกเดือนล่ะครับ ผมไม่เคยเก็บไว้เลย...เวลานี้ผมขอแค่ 100 บาทเอง"       "ที่ผ่านมาฉันต้องซื้อยาให้ลูกเมียแกกิน จนเงินหมดบ้านแล้วนี่...เงินที่แกได้มาเมียและลูกแกผลาญมันไปหมดแล้ว...แล้วแกยังมีหน้าจะมาขอเงินฉันอีกเหร๊อ เหอะ...ลูกอกตัญญู...หาเมียรวยๆให้ก็ไม่เอา....ไป้" คำพูดที่ออกมาจากปากคนที่เขานับถือ มันทำให้หัวใจที่เคยเทิดทูนและรักผู้ชายตรงหน้าได้มลายหายไปจนหมดสิ้น         สมบัติเป็นลูกที่ถูกกดขี่เอารัดเอาเปรียบ คิดว่าการเป็นลูกคนกลางก็จะเป็นแบบนี้ ตั้งแต่จำความได้ของดีของอร่อยทุกอย่างทุกเอาไปให้พี่ชายกับน้องสาว ส่วนเขาได้แต่ของเหลือจากที่พี่ชายและน้องสาวที่พวกเขาไม่กินแล้ว สมบัติพยายามทำงานหนัก และทำทุกอย่างเผื่อวันหนึ่งพ่อกับแม่จะหันมาสนใจเขาบ้าง แต่เขาคิดผิด จนมาถึงวันนี้ ทุกอย่างที่เขาทำมันสูญเปล่า…ไม่มีค่าให้ใครหันมาสนใจ…        สำหรับข้าวฟ่างรู้ว่าพ่อไปรับจ้างที่อื่น แต่เธอและแม่ไม่เคยรู้เลยว่าพ่อส่งเงินมาให้พวกเขาทุกเดือน เวลานี้ความจริงได้กระจ่าง ปู่โกหกทั้งเพ แม่และพี่ชาย น้องชายพวกเขาไม่เคยได้รับยาเลย งานบ้านทุกอย่างแม่เป็นคนทำ ป้าสะใภ้และอาสายใจไม่เคยช่วยแม่ทำงานสักครั้ง           พี่ชายและเธอไปหาบน้ำมาทุกวัน ลูก ๆ ของลุงใหญ่และอาสายใจได้เรียนหนังสือทุกคน เพียงเพราะพวกเขามีแม่ที่มีฐานะดีและเป็นที่รักของปู่กับย่า        "ไปซะ ก่อนที่แม่แกจะไม่ให้แกสักบาท ปึก" ปู่โยนเหรียญ 10 ที่รวมกันแล้วประมาณ 100 บาท อยู่ในถุงผ้าเก่าๆลงมาตรงหน้า ทั้งสองพ่อลูกไม่มีอะไรติดตัว เธอถูกพ่อแบกขึ้นหลังแล้วเดินทางขึ้นไปหาหมอเส็ง หมอชาวบ้านที่อยู่บนดอย เวลานี่หมอเส็งไม่ลงมารักษาใครเพราะอยู่ในช่วงหน้าหนาว  แม้จะไม่ถึงขั้นติดลบ แต่ประเทศไทยบนดอยสูง เวลาหน้าหนาวก็หนาวจัด         "ข้าวฟ่างลูกต้องอดทนนะ...อย่าเป็นอะไรไปอีกคนนะลูก" สมบัติแบกลูกสาวขึ้นหลัง เขาเป็นคนโง่มานาน จนเสียเมีย และลูกชายอีก 2 คนไปอีก เวลานี้เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น สองเท้ามุ่งหน้าไปหาหมอโดยมิเหน็ดเหนื่อยสักนิด…       "พ่อจ๋า...หนูหนาวสั่นไปหมดแล้ว ขอกอดพ่อหน่อยสิจ้ะ" สาวน้อยข้าวฟ่างวัย 13 ปี ตัวเหลืองเหมือนคนขาดสารอาหารร่างเล็กสั่นระริกเพราะไข้ขึ้น       "นั้นเรานั่งพักใต้ต้นไม้ก่อนนะลูก...พ่อขอโทษที่พ่อทำแต่งาน...แต่ไม่คิดว่าลูกๆและแม่ของลูกจะลำบากขนาดนี้" เขาไปทำงานโดยไม่ห่วงชีวิต คิดว่าเงินที่ส่งไปพ่อแม่เขาจะดูแลลูกเมียเขาได้ แต่กลับได้ยินข่าวซุบซิบของครอบครัวว่า พ่อผัวแม่ผัวนังขวัญเรือนรังแกลูกสะใภ้ และหลายตัวเอง          สมบัติไม่เคยเชื่อข่าวลือ จนเมื่อลูกชายทั้งสองตาย เพราะถูกปู่เฆี่ยนตีและลงโทษให้อดข้าว ตากน้ำค้างทั้งคืน รุ่งเช้า สองพี่น้องนอนกอดกันกลมบนพื้นดินที่เย็นเฉียบไร้ซึ่งลมหาย เขารีบกลับมางานศพลูก ไม่กี่วันภรรยาก็ตรอมใจตายตามลูกชายทั้งสองคน แล้วตอนนี้ลูกสาวก็ตัวร้อนอย่างกับถูกไฟเผา ชาติหน้ามีจริงขอให้เขาได้ทดแทนให้พวกเขาทุกคน ความรู้สึกผิดกอบกุมหัวใจคนเป็นสามีและเป็นพ่อ       "พ่อจ๋า...ลูกหนาวจังเลย...ทำไมปู่กับย่าไม่เคยรักพวกเราจ๊ะ" ลูกสาวตัวร้อนขนาดนี้ ทำไมเธอบอกว่าหนาวนะ เขากอดลูกไว้แน่น อีก 1 ชั่วโมงจะถึงบ้านของหมอเส็งแล้ว         "พ่อจะอุ้มลูกไปให้ถึงมือหมอเร็วๆ...อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยลูกรัก...อย่าจากพ่อไปอีกคนนะ...ไม่งั้นพ่ออยู่ไม่ได้" เขาพูดจบ รีบอุ้มลูกสาวเดินฝ่าความหนาวไปแต่อนิจจาไข้ป่าไม่อาจยื้ดชีวิตลูกสาวเขาได้ อยู่ๆร่างกายที่ร้อนระอุ ค่อย ๆ หมดลมหายใจ แล้วกลายเป็นร่างที่เย็นเฉียบ คนอุ้มสัมผัสถึงความผิดปกติได้ เขาใจหายวาบแล้วเอามือจับชีพจรลูกสาว      "ไม่......ข้าวฟ่างลูกหายใจสิ...อย่าจากพ่ออีกคนลูก...ฮือ ฮือ ๆ สวรรค์ท่านใจร้ายกับพวกเราเกินไปแล้ว" น้ำตาลูกผู้ชายอกสามศอกไหล่อาบแก้ม เขาเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ตอนนี้ร่างใหญ่ทรุดลงบนพื้นที่เย็นเฉียบ...สองแขนกอดร่างลูกสาวไว้แน่น หัวใจที่แตกสลายจากการสูญเสียคนที่รักติดต่อกัน แม้จะเป็นคนแข็งแกร่งขนาดไหน แต่ก้อนเนื้อข้างซ้ายก็เท่ากำปั้นนี่นา…มันปวดร้าว เหมือนมีมีดมาเฉือนชิ้นเนื้อให้เละ สุดท้ายก็เขาเข้าใจภรรยาแล้ว แบบนี้สินะความรู้สึกของคนที่กำลังจะหมดลมหายใจ ท้ายสุดเขาก็ตรอมใจตายตามลูกสาว ท่ามกลางอากาศที่เหน็บหนาว        "เฮือก" เธอและพ่อตายแล้ว.....หลังจากที่พี่ชายน้องชายและแม่จากไปได้ไม่กี่เดือน แต่ตอนนี้ทำไมเราอยู่บนที่นอนนะ แล้วพ่อล่ะ เธอตายพร้อมพ่อนี่นา…       "พี่ข้าว...สมปวดฉี่ครับ" เอ๋...น้องชายตายแล้วไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวก่อนน่ะ ทำไมเธอตัวเล็กขนาดนี้ล่ะ...เราอายุ 13 ปี แล้วไม่ใช่เหรอแต่นี่แขนสั่น ขาสั้นด้วย โอ้ยย…อะไรกันนี่        "เอ่อ..น้องสม..พี่จะพาไปฉี่ข้างนอกนะ" นี่เธอได้กลับมาเหรอ....ดีจริงๆ ขอบคุณสวรรค์ เธอได้กลับมาตอนที่พี่ชายน้องชายและแม่ยังไม่จากเธอไปแน่ๆ แต่พ่อไม่อยู่บ้าน เพราะพ่อจะกลับมาปีละ 2 ครั้ง       "เสร็จแล้วเข้ามาในห้องเถอะ...น้องสมแล้วพี่ใหญ่กับแม่ไปไหนล่ะ" ห้องสี่เหลี่ยมนี้ พวกเขานอนกันสี่คน เธอจำได้ดี ถ้าพ่อกลับมาพี่ชายจะไปนอนกับเพื่อนสนิทที่อยู่ห่างจากบ้านปู่ไป 1 กิโล ไม่งั้นจะแออัดนอนไม่ได้เลย       "แม่ไปทำกับข้าวครับ พี่ใหญ่ไปตักน้ำแล้วให้อาหารหมู...พี่ข้าวก็ไปช่วยพี่ใหญ่ไปตักน้ำนี่ครับ"       "เอ่อ..เอ้อ..จริงสิ..พี่ลืมนะ...น้องสมอยู่ที่นี่นะ..พี่จะไปช่วยแม่ก่อนแล้วค่อยไปช่วยพี่ใหญ่ตักน้ำ"       "สมก็อยากไป แต่ไม่อยากเจอป้าสะใภ้และอาสายใจ" นังแม่มดใจร้ายนั่น ชอบหยิกแขนน้องชายบ่อยๆ และอ้างว่าน่ารักน่าเอ็นดู ต่อไปนี้เธอจะปกป้องน้องชายเอง       "งั้นก็ไม่ต้องไปจ้ะ ถึงเวลากินข้าว พวกจะมากินที่นี่ด้วยกัน ห้ามออกมานะอากาศเย็นมาก เดี๋ยวจะไม่สบาย" เธอเอามือซ้ายลูบศีรษะน้องชายเบาๆ แต่       "อ๊าากก...เย็นครับ..ทำไมมือพี่ข้าวเย็นขนาดนี้ล่ะครับ" เธอไม่รู้สึกอะไร แต่เห็นสีหน้าน้องชายแล้วเขาไม่ได้ล้อเล่นแน่ๆ        "แต่พี่ไม่รู้สึกอะไรเลยนะน้องสม" เธอเอามืออังหน้าผากตัวเองก็รู้สึกเฉยๆ        "ผมพูดจริงๆนะพี่ข้าว...พี่รีบไปหาแม่ที่ห้องครัวแล้วไปผิงไฟเลยครับ" สีหน้าน้องชายไม่มีการพูดเล่น เขาเป็นห่วงเธอด้วยซ้ำ        "ได้สิ...แต่สมยังไม่ต้องบอกพี่ใหญ่กับแม่นะ เดี๋ยวพวกเขาจะเป็นห่วงพี่แล้วไม่ยอมให้ทำอะไร"       "ครับ" น้องชายนอนลง เวลานี้น่าจะตี 5 แล้วยังไม่สว่าง บ้านที่อยู่ใกล้กันก็เริ่มมีแสงสว่างออกมาจากห้องครัวแล้ว ชาวบ้านที่นี่ตื่นแต่เช้าทำอาหารแล้วไปทำไร่ทำสวน หรือเข้าป่าไปล่าสัตว์มากิน เธอได้กลับมาในช่วงวัยเด็ก เรื่องยังไม่ร้ายแรงแต่เธอจะทำยังไงนะ ที่จะไม่ให้มีการสูญเสียเหมือนที่เคยเกิดขึ้น         ระหว่างที่เธอเดินไปหาแม่นั้น คนตัวเล็กทะลุไปอีกที่่หนึ่ง ไม่ใช่ห้องครัวทางที่ตั้งใจจะไปช่วยแม่ แล้วเป็นกระท่อมของใครที่มาอยู่ในบริเวณบ้านปู่กับย่านะ เมื่อก่อนเธอไม่เคยเห็นมาก่อน      "นังหนูข้าวฟ่างเข้ามาเถอะ จะยืนสงสัยอีกนานไหม" เธอเห็นชายชรารูปร่างผอม ใส่ชุดขาว แต่มีสง่าราศี เขาเป็นใครนะ…ถึงมาอยู่ที่นี่      "อรุณสวัสดิ์ท่านตา...ท่านเป็นญาติฝั่งไหนของปู่เหรอจ๊ะ" ปรกติเธอไม่เคยเห็นคนแปลกหน้ามาค้างที่บ้านนี้นี่นา ความสงสัยเกิดขึ้นตลอดเวลา       "เหอะ...ใครจะไปนับญาติกับคนใจจืดใจดำเล่า..เข้ามา...อยากรู้อะไรก็ถาม...ฉันมีเวลาไม่มากแล้ว"      "ตอนนี้หนูอายุเท่าไรจ๊ะ แล้วเพราะอะไรหนูถึงได้กลับมาตอนเด็ก" ที่เธอถามไปแบบนั้นเพราะรู้สึกว่าท่านตาไม่ใช่คนธรรมดา รอบๆตัวท่านมีแสงสีขาวออกมา         "ตอนนี้เจ้าอายุ 10 ปี สาเหตุเพราะเบื้องบนทนเห็นความไม่ยุติธรรมที่มีต่อครอบครัวนังหนูไม่ไหว ที่สำคัญท่านให้นังหนูกลับมาช่วยครอบครัวให้หลุดพ้นจากตาเฒ่าและยายเฒ่าที่จิตใจคับแคบ ไร้เมตตาธรรม ขนาดหมามันยังรักลูก แต่สองคนนี้จิตใจมันทำด้วยอะไรวะ”       "ท่านตา...หนูเป็นเด็กเล็กๆ จะไปต่อกรกับผู้ใหญ่ได้ยังไงจ๊ะ เดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าหนูเป็นหลานเนรคุณ พ่อ แม่ไม่สั่งสอน" เธอยังไม่รู้ว่าจะเอาชีวิตรอดจากย่าด้วยวิธีไหน      "จริงด้วย..ตาลืมบอกหนูไป...มือข้างซ้ายจะเป็นยารักษาโรคทุกชนิด และเป็นอาวุธที่ร้ายแรง แค่นังหนูตั้งจิตหรือมือซ้ายไปโดนคนที่ไม่สบาย พวกเขาก็จะหายจากโรค พลังอานุภาพของมันจะทำลายล้างชีวิตคนเลวได้ แล้วมีอีกหนึ่งอย่างที่สวรรค์ประทานให้ นังหนูจะควบคุมจิตและสั่งใครก็ได้ให้ทำตาม โดยตั้งสมาธิและท่องคาถา...วิ้ง..วิ้ง วิ้ง" เธอปวดหัวมากจนสลบไป…    
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม