5 ปีต่อมา...
“หม่ามี๊...พอลี่จะได้เจอคุณตาจริงๆ เหรอคะ”
เด็กน้อยผมสีน้ำตาลถามแม่ด้วยความตื่นเต้น ถือเป็นครั้งแรกที่ได้มาเหยียบเมืองไทย และจะได้มาเจอคุณตาที่ไม่ได้เจอกันเมื่อหลายเดือนก่อน หลังจากคุณตากลับมาเมืองไทย ก็ไม่ได้ไปหาหนูน้อยพอลี่ เทพเจริญ วัย 4 ขวบ
รัตนา เวย์เลอร์ หรือต่อ หรืออีกชื่อที่เพื่อนๆ ที่ฝรั่งเศสเรียกกันว่าเตร่า วัย 25 ปี ก้มมองหน้าของลูกสาวตัวน้อยในอ้อมกอดด้วยความรัก ตั้งแต่ตัดสินใจในครั้งนั้นว่าจะไปเรียนต่อ แต่พอไปได้ไม่ถึงเดือนก็รู้สึกว่าตัวเองมีอาการแปลกๆ จึงไปหาหมอ และก็ได้รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ เพราะเหตุนี้ไงเล่า หญิงสาวถึงอยู่ฝรั่งเศสนาน ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะไปเรียนต่อแค่ 2 ปี แต่ก็ต้องขอบคุณหนูน้อยในอ้อมกอดนี้ ที่คอยเป็นกำลังใจ และเหตุผลที่กลับมาเมืองไทย เพราะอยากพาลูกสาวมาใช้ชีวิตในบ้านเกิดของตน ดีที่ตลอดเวลา 5 ปี ตั้งแต่พอลี่หัดพูด หญิงสาวก็สอนให้พูดภาษาไทยตลอด จึงไม่แปลกใจที่ลูกสาวตัวน้อยพูดไทยได้
“จ้า...มี๊เตร่าจะพามาอยู่กับคุณตาและจะไม่ไปฝรั่งเศสอีก พอลี่เข้าใจที่คุณแม่พูดไหมจ๊ะ”
ยิ่งมองหน้าลูกสาวยิ่งทำให้คิดถึงผู้เป็นพ่อ ทำไมพอลี่ถึงถอดแบบชายหนุ่มมาเช่นนี้นะ จะมีแค่สีผิวเท่านั้นที่เหมือนเธอ ตา ปาก จมูก เหมือนผู้เป็นพ่อไม่มีผิด แล้วแบบนี้จะให้ลืมเขาได้ยังไงเล่า
“พอลี่รักหม่ามี๊ รักคุณตา รักป้าอ้อ ลุงไบรอัน พี่เซน และลุงเคอีกคนค่ะ” พอลี่เอ่ยเสียงใส
รัตนาดีใจที่เด็กน้อยในอ้อมกอดไม่เคยถามถึงพ่อผู้ให้กำเนิดเลย แต่ก็อดสงสารลูกสาวไม่ได้ เมื่อเซนลูกชายของเพื่อนรักมีพ่อที่แสนดีอย่างไบรอันคอยดูแลเอาใจใส่เป็นห่วงตลอดเวลา แต่หนูน้อยพอลี่ก็ไม่เคยเอ่ยถึงพ่อเลย หากลูกสาวถามถึงผู้ให้กำเนิดขึ้นมา หญิงสาวก็ยังไม่รู้เลยว่าจะตอบลูกสาวเช่นไร
“อีกสองอาทิตย์ ป้าอ้อ ลุงไบรอันก็จะพาพี่เซนกลับมาอยู่เมืองไทยแล้วจ้า”
“มี๊เตร่า...อย่า...หลอกพอลี่ดีจาย...เล่นน๊า...”
สาวน้อยเอ่ยอย่างตื่นเต้น ที่ครอบครัวของป้าดอกอ้อจะกลับมาเมืองไทยด้วย
“แล้วลุงเคมาไหมคะมี๊...”
พอลี่ชอบพายุ เพื่อนสนิทของแม่มากๆ เพราะเวลาพายุไปติดต่องานที่ฝรั่งเศสชอบไปหาหนูน้อยเสมอ
“มี๊ไม่หลอกพอลี่หรอกจ้า ส่วนลุงเคของลูกนั่นไงจ๊ะ มารอรับเรากับคุณตาของลูกไง”
รัตนาบุ้ยปากไปทางช่องผู้โดยสารขาออก ที่กำลังมีพ่อกับเพื่อนสนิทอย่างพายุมารอรับอยู่ก่อนแล้ว ตอนแรกหญิงสาวจะเลือกมากับสายการบินอื่น แต่ที่เลือกมากับสายการบินเวย์เลอร์เพราะว่าพ่อของหญิงสาวก็เป็นหุ้นส่วนของสายการบินเช่นกัน หากไม่สนับสนุนสายการบินของตนจะสนับสนุนสายการบินไหนเล่า
“คุณ...ตา...ลุง...เค...พอลี่คิดตึงจาง...”
เด็กน้อยมองตามที่ผู้เป็นแม่บอก เมื่อเห็นตากับลุงก็ร้องเรียกด้วยความดีใจ พร้อมกับดิ้นให้ผู้เป็นแม่ปล่อยตัวเองลงพื้น และแม่ก็รู้ใจลูกสาวเสียจริง ยอมปล่อยลงพื้น พอเป็นอิสระสาวน้อยตาสีฟ้าก็วิ่งไปหาคุณตาที่อ้าแขนรอรับอยู่ก่อนแล้ว รัตนายิ้มให้กับความไร้เดียงสาของลูก แล้วหันกลับมาลากกระเป๋าเดินทางตามลูกสาวไป
มุมหนึ่งของสนามบิน ชายหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้ากำลังจ้องมองหญิงสาวด้วยความคิดถึงคะนึงหา ทุกอย่าง ทุกการกระทำและคำพูดที่เธอเอ่ยกับหนูน้อยคนนั้น เขาได้ยินทุกอย่าง ไม่จริงใช่ไหม รัตนามีลูกกับใคร อย่าบอกนะว่าเป็นไอ้หน้าจืดนั่น แต่คงไม่ใช่ เพราะหนูน้อยเรียกว่าลุง แล้วใครกันเล่าเป็นสามีของเธอ แถมเด็กนั่นก็ลูกครึ่งเสียด้วยสิ นัยน์ตาสีฟ้า มองดูแล้วช่างน่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง มองไปมองมาหนูน้อยช่างเหมือนคนที่เขารู้จักเสียจริง
5 ปีแล้วสินะ ที่เขาไม่ได้เจอหญิงสาว ไม่ได้ติดต่อกัน และไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเธออีกนับตั้งแต่หญิงสาวไปฝรั่งเศส แต่วันนี้เธอกลับมาแล้ว กลับมาพร้อมกับความสงสัยที่กำลังก่อเกิดขึ้นในใจเขา ตลอดเวลา 5 ปี เขารอหญิงสาว ปรับตัวดีขึ้น ไม่ยุ่งเกี่ยวกับหญิงอื่น วันๆ ทำแต่งาน ไม่สนใจหญิงใด แต่รัตนาเล่า เพียงแค่ 5 ปี เปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้เชียวเหรอ แถมมีลูกสาวกลับมาด้วย
ยิ่งได้เห็นภาพหญิงสาวพูดคุยต่อกระซิกกับชายหนุ่มแปลก หน้าที่หนูน้อยเรียกลุง ยิ่งเจ็บปวด ชายหนุ่มเพิ่งรู้ว่าตนเองนั้นพลาดไปแล้ว พลาดไปแล้วจริงๆ หากรู้ว่ารักเร็วกว่านี้ เรื่องทุกอย่างคงไม่ผ่านมาถึง 5 ปีหรอก แล้วเรื่องหย่าเล่า หญิงสาวจะทำเช่นไร ยังไงเขาก็ไม่หย่า ถึงหญิงสาวจะฟ้องหรือมีลูกติด มีสามีใหม่แล้ว เขาก็จะไม่หย่า ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ขอแค่เพียงได้รัตนากลับมาอยู่ข้างกายและจะรักเด็กลูกครึ่งนั้นให้เหมือนลูกตัวเอง
“คุณตาขา...ทำไมคุณลุงฝรั่งคนนั้นมองมาทางเราคะ...”
หนูน้อยพอลี่มองชายหนุ่มแปลกหน้าอยู่นานแล้ว ก็ตั้งแต่คุณตาอุ้มหนูน้อยก็สังเกต
“ไหนลูก คนไหน” รักชาติเอ่ยถามหลานสาวตัวน้อย
“คนน้าน...ไง...คะ...คุณลุงหล่อๆ..คนนั้นค่ะ”
คราวนี้หนูน้อยชี้มือไปทางพอล และทุกคนก็มองตามนิ้วน้อยๆ กลมๆ ของหนูน้อยอย่างไม่รอช้า แต่พอมองตามแล้วกลับไม่พบอะไร นอกจากความว่างเปล่า
“ไม่เห็นมีเลยพอลี่” ครั้งนี้รัตนาเอ่ย
“นั่นสิ พอลี่ของลุงเค ลุงไม่เห็นใครเลย นอกจากนักท่องเที่ยวเต็มสนามบิน ไม่เห็นมีใครหน้าตาดีเท่าลุงเลยนะสาวน้อย” พายุเอ่ยบ้าง
“ลุงเคของพอลี่หล่ออยู่แล้ว มี๊เตร่าก็จวย ส่วนคุณตาไม่หล่อ เพราะหน้ามีแต่รอยอะไรไม่รู้ คุณตาต้องไปล้างรอยบนใบหน้านะคะ ให้เหมือนลุงเค จะได้หล่อ...คิกๆ”
หนูน้อยเอ่ยด้วยความซื่อ ก็ไม่รู้ว่ารอยย่นบนใบหน้าของตานั้นเป็นริ้วรอยความชราต่างหาก หากดูรูปสมัยหนุ่มๆ นั้น เขาก็หล่อไม่แพ้ใคร หมาก ปริญญ์ ยังชิดซ้าย บอย ปกรณ์ ต้องชิดขวา แบรี่ ณเดชน์ ชิดกำแพงเมืองจีนเลยแหละ
“ฮ่าๆ เอาล่ะๆ กลับกันเถอะ คุณตาจะพาพอลี่กลับบ้านเราแล้ว ต่อไปก็อยู่กับตา ไม่ต้องไปอยู่เมืองนอกเมืองนาอีกแล้วนะ”
รักชาติขำกับคำพูดของหลานสาวตัวน้อย ทำไมถึงได้ซื่อแบบนี้ ช่างพูดช่างเจรจา เพราะแบบนี้ไง เขาถึงบินไปบินมาฝรั่งเศสเพื่อไปหาหนูน้อยทุกเดือน
ทุกคนเดินพูดคุย หยอกล้อกันออกไปขึ้นรถที่มีคนขับติดเครื่องรออยู่ก่อนแล้ว จนไม่สังเกตเห็นใครบางคนที่แอบมองด้วยความเจ็บปวด เจ็บปวดกับภาพที่ได้เห็น