แผนการร้าย

1482 คำ
ชานนท์พาแองจี้เดินเข้าไปในคอนโดหรูซึ่งเขาก็พักอยู่ที่นี่เช่นกัน ร่างสูงใหญ่เดินนำหน้าหญิงสาวแสนสวยเพื่อไปกดลิฟท์โดยสาร ใบหน้าหล่อเหลาอมยิ้มอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากได้รับรู้ว่า เธอพักอยู่ชั้นเดียวกันกับเขาซึ่งเป็นชั้นไพรเวทสุดพิเศษของโครงการคอนโดแห่งนี้ ในชั้นไพรเวทจะมีอยู่เพียง10ห้องเท่านั้น ราคาต่อห้องมูลค่าเกิน20ล้านบาท ผ่านไปครู่หนึ่งลิฟท์โดยสารก็เปิดออก ชายหนุ่มผายมือให้สุภาพสตรีเดินนำหน้าเข้าไปในลิฟท์ก่อน จากนั้นจึงเดินตามเข้าไปติดๆ แผงอกกว้างของคนตัวสูงเกือบจะสัมผัสเข้ากับไหล่บอบบางของคนตัวหอมด้วยความจงใจ เมื่อได้ยืนอยู่ใกล้ๆเธอแบบนี้ ยิ่งได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆจากกายสาว ทำให้เขารู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายจากความเมื่อยล้า หลังออกจากห้องผ่าตัดคนไข้ที่กินเวลานานถึง4ชั่วโมง ในมุมหนึ่งของล็อบบี้คอนโด มีสายตาหนึ่งคู่แอบจ้องมองหนุ่มสาวที่กำลังเดินเข้าไปในลิฟท์โดยสารของคอนโด ด้วยสายตาชิงชังและอิจฉาริษยาจนแทบอยากจะพุ่งตัวออกไปขัดขวางบรรยากาศหวานชื่นตรงหน้า เธอทำงานร่วมกับหมอนนท์มานานหลายปี แต่ไม่เคยได้รับรอยยิ้มเช่นนี้เลยสักครั้ง จึงเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมาวูบหนึ่งและคงต้องสานต่อให้เสร็จสิ้น เพื่อให้ตนเองสมหวังในความรักกับผู้ชายที่เธอเฝ้ารอคอยมานานหลายปี “พักอยู่ที่นี่เหมือนกันสินะ อย่าคิดว่าจะแย่งหมอนนท์ไปจากฉันได้ยัยเด็กเมื่อวานซืน” น้ำเสียงเยือกเย็นพูดขึ้นเบาๆกับตนเอง เธอทำได้ทุกอย่างหากจะทำให้หมอนนท์กับผู้หญิงที่เขาสนใจแตกคอกัน หมอริสามองเพียงปราดเดียวก็รู้แล้วว่า หมอนนท์มีความรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงคนนี้ ดูจากสายตาที่เขาจ้องมองช่างอ่อนโยนและอบอุ่น จนเธอแทบอยากจะเดินออกไปกรีดร้องให้เขารับรู้เสียตรงนี้ว่าเธอไม่พอใจมากแค่ไหน ติดที่ว่ากำลังคิดแผนการบางอย่างอยู่ภายในใจ จึงตั้งสติและพยายามระงับอารมณ์โมโหของตนเองเอาไว้ให้ได้ ชั้น50 วิลล่าคอนโด “พี่นนท์พักชั้นนี้เหมือนกันหรือคะ” แองจี้เห็นชานนท์กดแตะคีย์การ์ดไปที่ชั้น50เหมือนกันกับเธอ จึงสอบถามออกไปด้วยความสงสัยเพราะห้องพักในชั้นไพรเวท จะมีคีย์การ์ดที่ล็อคลิฟท์โดยสารเพื่อให้ขึ้นตรงมายังชั้น50 โดยไม่ต้องจอดแวะที่ชั้นไหน ซึ่งเป็นมาตรฐานของการดูแลความปลอดภัยของลูกค้าในชั้นไพรเวทโดยเฉพาะ ทั้งสองคนก้าวขาออกมาจากลิฟท์โดยสารแล้วเดินตรงไปยังทิศทางเดียวกันด้วยความบังเอิญ ชานนท์กับแองจี้ไม่เคยพบกันที่คอนโดมาก่อน เพราะแองจี้พึ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทส ส่วนชานนท์ก็กลับไปนอนพักค้างที่บ้านเสียส่วนใหญ่ “ครับ พี่อยู่ห้องฝั่งซ้ายตรงนี้ แองจี้อยู่ห้องไหนครับ” “อ้อ อยู่ฝั่งขวาค่ะ ท่าทางจะอยู่ตรงข้ามกันพอดี” “ดีจังเลยครับ” ชานนนท์พูดเพียงแค่นั้น แต่สายตากลับจ้องมองใบหน้าสวยหวานที่แต่งแต้มเครื่องสำอางเพียงน้อยนิด แต่เธอกลับสวยสะกดสายตาของเขาได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเจอกัน มุมปากหยักอมยิ้มอยู่ตลอดเวลาด้วยความดีใจ ที่คนในดวงใจมาพักอยู่ใกล้เขาขนาดนี้ “เอ่อ แองจี้ขอตัวก่อนนะคะ” แองจี้เห็นสายตาวาววับที่จ้องมองเธอด้วยความเสน่หา จึงรีบเปิดประตูเข้าห้องพักของตนเอง เพราะไม่รู้จะต้องทำสีหน้าอย่างไรเมื่อถูกชายหนุ่มจีบซึ่งๆหน้าแบบนี้ คล้อยหลังคนทั้งสองที่กำลังมีบรรยากาสหวานชื่นต่อกัน ผู้หญิงอีกคนที่ตัดความอิจฉาริษยาภายในใจออกไปไม่ได้ ทว่ารู้ดีว่าตนเองไม่สามารถตามขึ้นไปบนชั้นไพรเวทได้ จึงกดลิฟท์โดยสารเพื่อกลับขึ้นบนห้องพักของเธอในชั้น20 มือเรียวกดส่งข้อความหาเพื่อนสนิทผ่านแอพพลิเคชันไลน์ เพื่อนสนิทที่เป็นเภสัชกรแต่เขาลาออกจากโรงพยาบาลเพื่อมาเปิดร้านขายยาเป็นของตนเอง ทั้งยังทำธุรกิจหลายอย่างรวมไปถึงธุรกิจร้านอาหารและคลับ ‘ขอยาที่เคยสั่ง’ ‘เอาเมื่อไหร่’ ‘วันนี้ เดี๋ยวค่ำๆไปหาที่ร้าน’ ‘อืม’ เมื่อชานนท์กลับถึงห้องพักแล้ว จึงส่งเมลล์เพื่อขอประวัติการรักษาตัวของแองจี้ จากลุงไมเคิลที่เขาสนิทสนมทั้งยังติดต่องานด้วยอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากอยากรู้ทุกอาการป่วยของแองจี้โดยละเอียด ตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งรักษาหายขาด เพราะต่อจากนี้เขาจะเป็นคนดูแลเรื่องอาการป่วยของเธอเอง หมอชานนท์เป็นศัลยแพทย์ทั่วไป ไม่ใช่แพทย์เฉพาะทางโรคทางสมองก็จริง แต่ลำพังอาการป่วยเบื้องต้นเขาก็สามารถประเมินได้เช่นกัน หากไม่ใช่การทำหัตถการเฉพาะทางเขาก็สามารถดูแลเธอได้ทุกอย่าง คืนนี้ชานนท์มีนัดคุยงานกับหุ้นส่วนที่ร้านนั่งชิลล์ ร้านอาหารกึ่งคลับที่เขาเป็นหุ้นส่วนใหญ่อยู่ครึ่งหนึ่ง จึงจำเป็นต้องออกจากคอนโดในยามราตรีอีกครั้ง สายตาคมกริบจ้องมองไปยังประตูห้องตรงข้าม ทั้งยังคาดหวังในใจให้เธอเดินออกมาในเวลานี้จะได้ชวนไปนั่งดื่มน้ำผลไม้ที่ร้านด้วยกัน เรือนร่างสูงใหญ่สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวพอดีตัว คู่กับกางเกงผ้าสีดำเนื้อดี เวลานี้ชานนท์อยู่ในมาดนักธุรกิจที่พึ่งเลิกจากงานประจำแล้วมานั่งดื่มเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดกับเพื่อนสนิท เขาพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นจนมองเห็นเส้นเลือดที่ปูดนูนขึ้นตามแขนทั้งสองข้าง จนคนที่พึ่งกลับมาจากล็อบบี้ของคอนโด เพราะลงไปรับเอาอาหารมื้อเย็นที่สั่งผ่านแอพพลิเคชัน จ้องมองด้วยสายตาเหม่อลอย แองจี้มีความชื่นชอบอยู่อย่างหนึ่งคือ ชอบแอบจ้องมองแขนของผู้ชายที่หน้าตาดี ยิ่งคนไหนมีเส้นเลือดปูดขึ้นมากเท่าไหร่ ยิ่งบ่งบอกว่าเขาชอบออกกำลังกายจนมีกล้ามเนื้อที่ชัดเจน ซึ่งผู้ชายที่หมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ และมีสุขภาพที่แข็งแรงเป็นลักษณะของผู้ชายที่เธอพ่ายแพ้นั่นเอง “อ้าวแองจี้ ลงไปไหนมาครับ แล้วนั่นยังไม่ได้กินข้าวเย็นหรอกหรือ” ชานนท์เอ่ยทักออกไปทันที เมื่อเห็นคนที่เขาคาดหวังให้เธอเปิดประตูห้องออกมาเจอเขาในเวลานี้ กำลังเดินออกมาจากลิฟท์พอดี “อ้อ แองจี้ลงไปเอาข้าวที่สั่งให้ร้านมาส่ง วันนี้ยุ่งๆกับการเก็บของเข้าที่เลยพึ่งสั่งอาหารมากินค่ะ” “ไปกินมื้อเย็นที่ร้านพี่ไหมครับ ส่วนข้าวที่สั่งมาก็เก็บไว้กินมื้อเช้าแทน วันนี้พี่มีประชุมที่ร้านนั่งชิลล์พอดี” ชานนท์รีบเอ่ยชวนแองจี้ให้ออกไปกินข้าวข้างนอกด้วยกันทันที เพราะความสุขที่ได้รับเมื่อตอนมื้อกลางวัน ยังไม่เพียงพอกับเวลาที่เธอหายออกไปจากสายตาของเขามาเนิ่นนาน “เอ่อ โอกาสหน้าดีกว่าค่ะ วันนี้แองจี้รู้สึกเพลียๆเพราะเก็บของเข้าที่และทำความสะอาดห้องนานติดต่อกันหลายชั่วโมง เลยตั้งใจจะรีบเข้านอนให้ไวสักหน่อย” แองจี้ปฏิเสธออกไปตามตรงเพราะเธอรู้สึกเหนื่อยและอ่อนเพลีย เนื่องจากลงมือทำความสะอาดห้องด้วยตนเองอยู่นานหลายชั่วโมง “ถ้าอย่างนั้นแองจี้รีบพักผ่อนนะครับเดี๋ยวจะไม่สบาย พี่จะรีบไปรีบกลับ” ชานนท์ไม่ได้รบเร้าคนตัวเล็กเพราะดูท่าทางเธอจะง่วงนอนจริงๆ หลังจากยืนมองว่าเธอเข้าห้องพักเรียบร้อยแล้ว เขาจึงรีบออกไปประชุมที่ร้าน เพราะใกล้ถึงเวลานัดหมายเต็มที เรือนกายที่สูงใหญ่ ทั้งยังอยู่ในชุดที่กร้าวใจสาวๆเดินเข้ามาในร้านอาหารกึ่งคลับ ท่ามกลางสายตาของลูกค้าที่กำลังนั่งรับประทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มเพื่อการสังสรรค์ พร้อมกับนั่งชมดนตรีสดที่พึ่งจะขึ้นแสดงไปไม่นาน “คนนี้หรือ ที่แกจะลงมือ” “อืม แกต้องช่วยฉันจัดการ ไม่อย่างนั้นฉันคงโดนนังเด็กนั่นแย่งหมอนนท์ไปแน่ๆ” “หึหึ ค่าจ้างแพงนะไหวหรือ” “เหอะ ทั้งเงินทั้งตัวฉันแกก็ได้มาตลอดจะเอาอะไรอีก”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม