บทนำ
"ลุง! ป้า! พู่มาแล้วจ้า!!" เสียงตะโกนของหญิงสาวดังลั่นไปทั่วบ้านปูนชั้นเดียวที่อยู่ท้ายซอยหลังตลาดสดพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่ออกมาจับจ่ายซื้อของในช่วงเย็น
"เอ้อ! ตกใจหมดตะโกนเสียงดังเชียวไอ้หลานคนนี้" หญิงวัยกลางคนเดินออกมาจากหลังบ้านด้วยสภาพเนื้อตัวเปรอะเปื้อนจากการทำกับข้าวมื้อเย็นเพื่อรอรับหลานสาวสุดที่รักเพียงคนเดียวกลับจากมหาวิทยาลัย
"แล้วดูนั่น ซื้ออะไรมาเยอะแยะป้าบอกแล้วว่าไม่ต้องซื้อเข้ามา" สายตาของคนเป็นป้าหลุบลงมองมือเล็กทั้งสองข้างที่หิ้วถุงพะรุงพะรังด้วยผักและเนื้อสัตว์ที่หญิงสาวได้แวะซื้อในตลาดก่อนเข้ามาในบ้าน
"นานๆทีน่าป้า แล้วนี่ลุงไปไหนหลานกลับมาหาทั้งที อย่าบอกนะว่าแอบไปตั้งวงส่องพระกันอีกแล้ว" คนตัวเล็กส่านหน้าเบาๆและเดินหอบหิ้วของในมือเข้าไปในครัว กลิ่นหอมจากหม้อที่กำลังตั้งเตาหอมกรุ่นเตะจมูกทำให้หญิงสาวตาโตและรีบวิ่งไปดูก็พบว่ามันเป็นแกงเขียวหวานเมนูโปรดปรานของเธอ
"ป้าทำไว้รอแกเนี่ย ไปๆ ไปเก็บของแล้วก็เปลี่ยนชุดไป"
"ป้าน่ารักที่สุดในโลก เห้อ! อยู่หอไม่ได้กินแกงเขียวหวานฝีมือป้าเลยพู่แทบลงแดงตาย" ไม่ว่าเปล่ามือเล็กทำท่าลูบท้องอย่างนึกเสียดาย
'พู่กัน' หญิงสาววัยยี่สิบปี เป็นนักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ ชั้นปีที่สองของมหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดัง เจ้าของใบหน้าหวานโครงหน้ารูปไข่ ผิวขาวเนียนละเอียด ส่วนสูงหนึ่งร้อนหกสิบสี่ เจ้าของฉายาที่รุ่นตั้งให้คือ 'ยาชูกำลัง' ประจำคณะ เธอเป็นเด็กกิจกรรมเข้ากับผู้คนได้ง่าย ด้วยนิสัยและน่าตาที่เป็นมิตรทำให้เป็นที่รักของทุกคน และหนุ่มๆทั้งรถ่งพี่รุ่นน้องต่างก็ชื่นชอบเธอเนื่องจากความสดใสและไม่ถือตัวของเธอ
เธออาศัยอยู่กับป้าและลุงตั้งแต่เด็กพ่อแม่ของเธอแยกทางกันและแยกย้ายกันไปในที่สุดซ้ำยังทิ้งให้เธออยู่กับป้าและลุงตามลำพัง ครั้งคราวจะส่งเงินมาให้เป็นค่าดูแล ป้าของเธอก็เป็นพนักงานทำความสะอาดที่บริษัทใหญ่โตเงินเดือนก็หมื่นต้นๆบวกกับลุงที่ทำโจ๊กขายตอนเช้า ฐานะทางบ้านของเธอปานกลางพอมีกินมีใช้ในแต่ละเดือน แม้ว่าจะไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินเท่าไหร่นักแต่พู่กันเธอยังหางานพิเศษทำหลังเลิกเรียนเพราะอยากแบ่งเบาภาระลุงกับป้าบ้าง
"แล้วนี่ไม่ทำงานหรอ หรือว่าขอเขาหยุด"
"วันนี้ไม่ได้ทำป้า อาทิตย์หน้าพู่ค่อยทำเสาร์อาทิตย์ต้องทำสลับกัน" เสียงเล็กตอบพรางรวบผมมัดขึ้นอย่างทะมัดทะแมง
"อย่าโหมงานหนักล่ะ แค่เรียนก็เหนื่อยอยู่แล้วยังจะหางานทำอีก" หญิงวัยกลางคนส่ายหน้าเบาๆ ในใจก็นึกสงสารหลานสาวคนนี้ทำทำงานเสริมหลังเลิกเรียนเพราะไม่อยากรบกวนเรื่องค่าใช้จ่าย คนเป็นป้ามีหน้าที่จ่ายแค่ค่ากินอยู่ให้เดือนละห้าพันเท่านั้น เพราะหลานสาวคนเก่งเสนอจะออกค่าหอพักและค่าจิปาถะอื่นๆเองทั้งหมด
"แค่นี้เองป้า ไม่เห็นจะเหนื่อยเลย" เธอตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะสะพายกระเป้าเป้ที่มีหนังสือเรียนและเสื้อผ้าไม่กี่ชุดสำหรับนอนค้างที่นี่สองคืนเข้าไปในห้องนอนส่วนตัวของตัวเอง
ช่วงค่ำ
ร่างบางปั่นจักรยานเข้าไปตามตรอกซอยเพื่อเข้าบ้านหลังจากที่ออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อในกรณีฉุกเฉินเนื่องจากวันนั้นของเดือนเล่นมาก่อนวันที่นับไว้ทำให้เธอไม่ได้เตรียมมันมาจึงต้องออกมาซื้อกะทันหันในช่วงค่ำที่ผู้คนเริ่มทยอยปิดบ้านกันไปหมดแล้ว
ถุงพลาสติกของร้านสะดวกซื้อแขวนที่แฮนด์จักรยานขาเรียวก็ปั่นไปเรื่อยๆพรางมองทางนอบข้างที่ถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบสงัดแตกต่างจากสังคมในบริเวณรั้วมหาวิทยาลัยที่เธออยู่โดยสิ้นเชิง
เวลานี้ผู้คนเริ่มเข้านอนและปิดบ้านใช้เวลากับครอบครัวแต่ผิดกับเธอถ้าหากเทียบกับการอยู่ที่หอพัก ป่านนี้เธอคงกำลังยุ่งวุ่นวายกับการทำงานพิเศษในคลับหรูใจกลางเมือง เธอทำงานไม่ลืมหูลืมตารู้ตัวอีกทีก็ได้เวลาปิดร้านเสียแล้ว
ในระหว่างทางซอยแคบที่เงียบสงบขสเล็กหยุดชะงักและยันขาลงกับพื้นเมื่ออยู่ๆทางบ้างหน้าก็มีผู้ชายคนหนึ่งมาหยุดยืนขวางทางเธอเอาไว้ ในมือของคนตรงหน้าถือบุหรี่กลิ่นเหล้าโชยมาแต่ไกลบ่งบอกได้ว่าเพิ่งดื่มมาอย่างหนัก
"พี่แบงค์" เสียงเล็กเอ่ยเมื่อคนตรงหน้าที่ยืนขวางจักรยานของเธอนั้นคือแบงค์ลูกชายคนเล็กของเจ้าของร้านขายโทรศัพท์อยู่ตรงตึกพาณิชย์หน้าตลาด
"น้องพู่จ๋า กลับมาทำไมไม่บอกพี่" เท้าหนักก้าวเข้ามาหาพู่กันทีละนิดด้วยสภาพโซเซจากอาการมึนเมา
"พี่แบงค์ถอยไปเลยพู่จะกลับบ้าน" เสียงเล็กเอ่ยและพยายามขับจักรยานเลี่ยงคนตัวโตกว่าแต่ทว่ากลับไม่เป็นผลเมื่อคนตรงหน้าเข้ามาขวางทางเธอไว้เช่นเดิม
"พู่ไปเรียนในเมืองพี่คิดถึงทุกวันเลยรู้ไหม" ชายหนุ่มเอ่ยและเดินเข้ามาประชิดตัวหญิงสาว มือสากจับใบหน้าหวานให้เงยขึ้นแต่เธอเบือนหน้าหนี
"พรุ่งนี้ค่อยคุยกันดีกว่าพี่แบงค์ พู่ต้องรีบกลับบ้านป้าใช้ให้พู่มาซื้อของป่านนี้รอแย่แล้ว" เธอพยายามหาข้อเลี่ยงหวังว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยเธอให้กลับบ้านเสียที
เธอกับแบงค์รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเธอรู้ดีว่าแบงค์นั้นรู้สึกยังไงกับเธอ ทุกครั้งที่เจอหน้าแบงค์จะชอบทำตัวรุ่มร่ามกับเธอตลอดจนเธอต้องหาทางเลี่ยงไม่ให้เจอเข้าโดยตรง
แต่ทว่าราวกลับโดนโชคชะตากลั่นแกล้งให้เธอและเขามาเจอะเจอกันในช่วงค่ำมืดที่ไม่มีผู้คนอยู่ในบริเวณนี้เลยแถมเจ้าตัวยังอยู่ในสภาพมึนเมาสติไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์อีก
หมับ!
"อ๊ะ..." เสียงเล็กร้องขึ้นเมื่อถูกกระชากข้อมือให้หันไปเผชิญหน้ากับคนตัวโต
"เดี๋ยวสิ...บ้านเราก็อยู่แค่นี้เองจะรีบกลับไปไหนล่ะ" เสียงเข้มเอ่ยพร้อมกับยกยิ้มร้าย แววตาจดจ้องที่ใบหน้าหวานของเธอราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว
"พะ...พู่ต้องเอาของไปให้ป้า พู่ไม่อยากให้ป้ารอนาน" เธอพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติแม้ว่าในใจของเธอจะกลัวคนตรงหน้ามากแค่ไหน ร่างกายและแววตาสั่นเทาบ่งบอกได้ชัดเจนว่าเธอกำลังกลัวเขามาก
เธอรู้ได้ทันทีว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ปลอดภัยสำหรับเธอ เธอควรรีบออกห่างจากเขาให้มากที่สุด!
พลั่ก!
"อึก!" ร่างบางถูกผลักเข้าไปในซอยแคบจนเสียหลักล้มลงกับพื้นก่อนที่เท่าหนักจะเดินเข้าคนอย่างใจเย็น
เด็กสาวสั่นกลัวเธอถอยหลังหนีอย่างไร้จุดหมายเมื่อคนตัวโตสาวเท้าก้าวเข้ามาหาเธอช้าๆ ขอบตาร้อนผ่าวก่อนน้ำใสจะไหลรินออกมาจากดวงตาหวาน เธอรับรู้ได้ว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น
"พะ พี่แบงค์..."
"พี่คิดถึงพู่นะ พู่คิดถึงพี่ไหม"
"ฮึก...ยะอย่าเข้ามา" ร่างบางถอยกรูดจนแผ่นหลังติดกับกำแพง มันไม่มีทางหนีอีกแล้ว!
มือเล็กพยายามกวาดหาสิ่งของป้องกันตัวหวังว่ามันพอจะช่วยให้เธอพ้นจากอันตรายนี้ได้ จนกระทั่งเห็นขวดเบียร์ที่วางเกลื่อนอยู่ที่พื้นมือเล็กกำมันไว้แน่นเมื่อคนตรงหน้าย่อตัวลงและโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้เธอ
"อยู่กับพี่ก่อนนะ ดึกๆค่อยกลับ" มือสากจับที่แก้มใสเบาๆก่อนจะก้มใบหน้าเข้าใกล้หญิงสาวทีละนิดจนลมหายใจเป่ารดที่ใบหน้าของเธอ
คนตัวเล็กหลับตาแน่นน้ำตาก็ไหลอาบแก้มเธอไม่สามารถสู้อะไรกับคนตรงหน้าได้เลย เธอตัดสินใจฟาดขวดเบียร์ที่ศีรษะเขาอย่างแรงจนมันแตกละเอียด
พลั้วะ!
เพล้ง!
"โอ๊ย!!! นี่มึง!!"
"กรี๊ด!!!" เมื่อคนตรงหน้าผละออกจากร่างของเธอ คนตัวเล็กอาศัยจังหวะที่เขาเผลอรีบวิ่งออกจากตรงนั้นให้ไวที่สุด
ขาเล็กวิ่งจนสุดแรงออกไปยังถนนที่มีแสงไฟจากรถยนต์ขับเคลื่อนไปมาตามท้องถนน
"มึงจะไปไหน!!" เสียงตวาดกร้าวดังไล่หลังพร้อมกับวิ่งตามเธอมาอย่างเอาเรื่อง คนตัวเล็กรีบวิ่งออกไปให้ไวที่สุด อย่างน้อยเธอก็ควรรีบไปหากลุ่มคนหรือไม่ก็ที่ไหนสักแห่งที่พอจะช่วยให้เธอปลอดภัยได้
แต่ทว่า...
ปรี๊ดดดด!!
เสียงบีบแตรของรถยนต์บนท้องถนนดังขึ้นเป็นจังหวะลากยาวเมื่อร่างบางวิ่งกรูออกไปจนไม่ได้มองทางทั้งสองข้าง
"กรี๊ด!!!" หญิงสาวหยุดชะงักตามเสียงแตรแสงไฟจากหน้ารถสาดส่องสว่างจ้าเมื่อรถยนต์กำลังขับเคลื่อนมาใกล้กับร่างกายของเธอ
จนกระทั่ง...
ปัง!
ตุ้บ!