“ก็เปล่าอีกนั่นแหละ... ฉันเก็บได้จากถังขยะ แล้วก็กำลังจะเอาไปคืน” เธอเถียงคอเป็นเอ็น เมื่อมันเป็นความจริง
“ตลกล่ะ ถังขยะ...เธอรู้ไหมว่าแหวนนี่ราคาเท่าไร”
ฟาเบียนกระแทกเสียงฉุนๆ หล่อนพูดได้ไงว่าเก็บแหวนของแคทเทอรีนมาจากถังขยะข้างทาง
“ไม่รู้หรอก!! เดาไม่ถูก? รู้แต่ว่ามันแพงมาก เมื่อมันเป็นแบรนด์ Cartier”
“รู้ด้วยรึ? ว่ามันมีแบรนด์”
“ฉันไม่ได้ตาต่ำนี่คุณ!!”
“นั่นไง เธอถึงขโมยมันมาล่ะสิ แต่เธอใช่วิธีไหนล่ะ”
“โอ้ย!! บอกว่าไม่ได้ขโมย พูดไม่ฟังเลยเหรอ จะบ้าเหรอไง คนอย่างฉันเนี้ยะนะจะไปเข้าใกล้ผู้หญิงอย่างคุณแคทเทอรีนได้ สมองมีไหม? ทำไมคิดไม่ได้ห่ะ” เธอโวยเสียงลั่นปวดศีรษะแทบแตก...เขาเป็นคนตะแบงแท้ เข้าใจอะไรง่ายๆ เป็นไหม?
ศินาราเหนื่อย!! เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ ผู้ชายอย่างฟาเบียนช่างเป็นคนที่เข้าใจอะไรอยากเสียจริงๆ เขาวนถามเธอไม่รู้กี่ร้อยรอบ!! และเธอก็ตอบตามความจริง!! เพียงแต่เขาไม่เชื่อ...
แล้วจะให้เธอทำยังไง? ทำยังไงผู้ชายเอาแต่ใจตัวเองถึงจะเชื่อ!! เธอไม่เคยขโมยแหวนนั่นมา เธอเก็บได้...
“โว้ย!!”
หญิงสาวหวีดร้องสุดเสียง เธอถูกขัง!! ใช่เธอถูกขังอยู่ในห้องสุดหรู ที่มองเห็นทิวทัศน์ปารีสได้โดยรอบ สรวงสวรรค์สำหรับคนร่ำรวย แต่มันเป็นขุมนรกสำหรับเธอ เมื่อเธอถูกผู้ชายหุ่นกำยำจับตามอง และประตูห้องปิดตาย ไม่ให้เธอออกไปด้านนอก แล้วเวลานี้ ศินาราโหยหาอิสรภาพ เพียงแต่เธอต้องอธิบายให้ฟาเบียนเข้าใจ ว่าเธอไม่ใช่โจร!!
แล้วเมื่อไรล่ะ เมื่อไรเธอจะทำสำเร็จ เพราะเขาปักใจเชื่อเสียแล้วว่าเธอคือขโมย...
“นอนดีกว่า...เครียด ดีนะว่าสอบเสร็จแล้ว... ไม่อย่างนั้นฉันเรียนไม่จบแน่ๆ ฉันจะเผ่นกะบาลคุณ ไอ้คนบ้าอำนาจ!!”
มือเรียวบางฟาดไปบนผิวที่นอน... ประหนึ่งว่ามันเป็นเนื้อตัวของมนุษย์เพศชาย นามฟาเบียน บุรุษหนุ่มที่จับตัวเธอมา...คุมขัง...เอาไว้
หญิงสาวนอนหลับสนิท หลังจากนั้นไม่นาน เธอนอนเหมือนอดตาหลับ ขับตานอน เพราะขนาดมีคนแปลกปลอมเดินเข้ามาในห้องเธอยังไม่รู้สึกตัว เงาดำๆ นั่นย่องเข้ามากลางดึก เขาทอดตัวลงนอนด้านข้าง และแอบเบ้ปากเมื่อยัยคนดื้อยังอยู่ในชุดเก่าๆ ตัวเดิม
“ยี๋!! ทั้งเก่าทั้งสกปรก ไม่รู้ทนใส่ได้ยังไง” เสียงนั่นบ่น และเขาไม่รอช้าที่จะปลดสิ่งที่ตัวเองเห็นว่าไม่สมควรออกไป
กว่าที่ศินาราจะรู้ตัว เธอก็เหลือแค่อันเดอร์แวร์ติดค้างบนร่างกาย
และคนที่ปลดมันออกยืนอ้าปากค้าง!!
ฟราเบียกยกมือขึ้นดันปลายคางของตัวเอง เมื่อมันริมฝีปากอ้าค้างจนไม่มีแรงหุบกลับเข้าที่เดิม เขายกมือขึ้นขยี้เปลือกตาซ้ำอีกครั้ง? เพื่อให้มั่นใจว่า... สิ่งที่มองเห็นอยู่ในเวลานี้ ไม่ใช่ความฝัน!! นางฟ้าชัด!! นางฟ้าแน่ๆ ที่นอนแผ่อยู่กลางเตียง ไม่ใช่ยัยโสโครกคนเดิมคนนั้น... ตกลงเขาเก็บอะไรมาได้นี่? โจรขโมยแหวน หรือนางฟ้าตกสวรรค์?
แม่เจ้า!! มือแข็งแรงยกกุมที่ตำแหน่งอกด้านซ้าย ตำแหน่งที่หัวใจของตัวเองอยู่ตรงนั้น เขาตะปปจับเอาไว้จนแน่น!! เมื่อหัวใจเต้นแรง!! จนเหมือนกับว่าขั้วหัวใจจะหลุดออกไปยังไงยังงั้น
กรวยผ้าลูกไม้สีขาว!! ยังไม่ขาวเท่าผิวเนื้อที่หลบอยู่หลังชุดเก่าๆ ปอนๆ ผิวของยัยดื้อเหมือนเกร็ดหิมะ มันขาวโพลนลออตา ไร้ใฝฝ้าราคี โค้งเอวอ่อนคอดกิ่ว แอ่งสะดือบุ๋มสวย ฟาเบียนยกมือขึ้นกางในอากาศ เขาแน่ใจว่าเอวของหล่อนยังเล็กกว่าฝ่ามือตัวเอง และหากจับแรงๆ อาจจะขาดออกจากกัน
แอ่งสะดื้อบุ๋มๆ กลางร่างกาย หลุมเล็กๆ น่ารักน่าชังและน่าคุ้ยเขี่ย แหะๆ เขาคิดแบบนั้นจริงๆ
สะโพกกลมกลึงใต้แพนตี้สีดำ มันเกาะรัดสะโพกจนแน่นและมันดูเย้ายวนพิลึก เพราะเนินนางอวบนูนที่อยู่ข้างใต้มันเด่นนูนสะดุดตา จนลมหายใจของเขาสะดุดกึกลงเช่นกัน...ตกลงยัยบ้านี่เป็นแม่มดหรือไร? เจ้าหล่อนอำพรางร่างกายด้วยเสื้อผ้าสกปรก และเมื่อปอกเปลือกออก หล่อนเป็นดาวยั่วดีๆ นี่เอง
“พรูว์!!” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจแรงๆ สลับกับสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เขาทำแบบนั้นหลายๆ ครั้ง เพื่อยับยั้งสติที่กำลังกระเจิดกระเจิงให้กลับคืนมา
ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นผู้หญิงมานอนเปลือยให้เห็นเมื่อไร? มีออกมากมายหลายครั้งที่ผู้หญิงถอดผ้าถอดผ่อน นอนทอดกายอะร้าอร่าม ยั่วเย้ายวนเขาอยู่กลางเตียงนอน แต่...ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทำให้เขาพลุ่งพล่านได้ขนาดนี้ เลือดลมวิ่งพล่านไปพล่านมา และหากนานกว่านี้รับรองได้ ต้องกระอักออกมาเป็นลิ่มเลือดแน่ๆ
ฟาเบียนเบ้ปาก ทำปากบิดปากเบี้ยว หากเข้ากระโจนขึ้นไปบนเตียงและสะบึม!! เจ้าหล่อนทุกอย่างก็จบ!!
แต่...เขาไม่เคยปล้ำคนหลับ ...จึงต้องอดทนรอให้เจ้าหล่อนตื่นขึ้นมาเสียก่อน
ชายหนุ่มตัดใจถอยหลังไปทรุดตัวนั่งบนโซฟาเนื้อนุ่ม โดยที่สายตาจับจ้องอยู่ที่กลางเตียง แบบไม่คิดจะกะพริบตา ดูเหมือนว่าศินาราจะหลับลึก เธอคงรู้สึกแสนสบาย เมื่อที่นอนทั้งหนาและนุ่ม เพียงแต่อากาศรอบตัวเย็นฉ่ำเกินไป หญิงสาวที่หลับอย่างสุขี จึงขยับบิดตัวช้าๆ เธอควานมือหาผ้าห่มคลุมกาย เพื่อคลายความหนาวเหน็บ
ไอ้คนที่มองอยู่สิใกล้จะขาดสติ!! เพราะเมื่อยามหญิงสาวขยับตัว เขาตาพร่าไปหมด เนินอกอิ่มขยับเคลื่อนไหว มันสั่นไหวเพราะขนาดใหญ่เกินกว่ากรวยผ้าเล็กๆ จะทัดทาน เนินเนื้ออวบล้นจึงขยับไหวสั่นและคนที่มองอยู่ต้องกลืนน้ำลายลงคอเอือกๆ เขาอยากโอบประคองและสัมผัสเนื้อนุ่มหยุ่นด้วยฝ่ามือตัวเอง แต่...ฟาเบียนคิดช้าไป ศินาราหาผ้าห่มจนเจอ เธอตวัดคลุมร่างกายจนมิด แล้วจึงหลับต่ออย่างสุขีสโมสร ปล่อยให้คนเฝ้ารองุ่นง่านหงุดหงิดเพียงคนเดียว...
แล้วเมื่อความอดทนสิ้นสุดลง เขาเฝ้ารอต่อไปไม่ไหว...
ฟาเบียนกระโจนพรวดเดียวขึ้นไปอยู่บนเตียงนอน เขาคร่อมร่างบอบบางเอาไว้ ด้วยร่างกายแข็งแกร่ง
ศินาราสะดุ้งโหย่ง!! สะดุ้งตื่นเพราะการไหวยวบยาบของพื้นเตียง ร้องหวีด!! เสียงดังๆ อุทานออกมาด้วยความตกใจ “อ้าย!! ใคร? ไอ้คนบ้า...ออกไปนะ”
ฟาเบียนแสยะยิ้ม เขาโน้มตัวลงต่ำ รีบบดจูบกลีบปากบางเฉียบนั่น เพราะมันสุดที่จะอดกลั้นแล้วจริงๆ หล่อนอยากยั่วเขาดีนัก ก็ต้องจัดการให้หล่อนรู้เสียบ้าง... ว่าอย่ามาแหย่เสือหลับ ชายหนุ่มคิดเข้าข้างตัวเองแบบคนเห็นแก่ตัว โดยที่หญิงสาวไม่รู้เรื่อง เธอดิ้นอึกอัก มือเล็กๆ พยายามผลักดันชายหนุ่มไปให้พ้นจากตัว เมื่อกลิ่นไอคุกคามนั่นมันน่ากลัวเสียจนเธอใจสั่น
“ปะ ปล่อยนะคนบ้า คุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรฉานนน...”
พยายามห้ามแทบเป็นแทบตาย!! ไอ้คนที่บุกรุก ทำอุกอาจกับเธอมันฟังที่ไหน? ปลายจมูกร้อนๆ นั่นซุกไซ้ ส่ายเสียดสีไปตามซอกคอของเธอ ลมหายใจร้อนเป่ารด จนเธอขนลุกซู่ และหากยังเป็นเช่นนี้ เธอคงไม่รอดเงื้อมือของเขาแน่ ศินาราห่อตัวหนี เธอรวบรวมกำลังครั้งสุดท้าย หญิงสาวแสร้งโอนอ่อนตามกระแสเชี่ยวกรากของพายุอารมณ์ลูกใหญ่ แสร้งทำตัวอ่อนปวกเปียกจนอีกฝ่ายย่ามใจ และยอมผ่อนปรนกำลังที่มีอยู่ จนถึงจังหวะดีๆ เธอยกปลายเท้าขึ้นและดันลำตัวหนาหนักสุดแรงที่เหลือ!!
พลั่ก!!
ฟาเบียนลอยผึ่ง!! เขากระเด็นตกเตียงนอน สวรรค์ที่กำลังสวยงาม...พังคลื่น!!
ชายหนุ่มกะพริบเปลือกตาปริบๆ ก่อนจะทะลึ่งพรวดลุกขึ้นยืน และชี้หน้ายัยผู้หญิงบ้าๆ นั่นอย่างโกรดจัด
“ยัยบ้า!! เธอถีบฉันทำไม? เดี๋ยวเถอะๆ”
ศินารากะตุกคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมกาย เธอพึ่งรู้ว่าตัวเองมีเพียงอันเดอร์แวร์สองชิ้นแค่นั้น บนลำตัว? เสื้อผ้าเธอหายไปไหน? ก็คงจะเป็นไอ้บ้านั่นแหละที่ถอดเสื้อผ้าของเธอ หญิงสาวรวบผ้าห่มไว้แน่นๆ เกร็งตัวและพร้อมสู้ ไม่มีทางยอมให้เขาถึงตัวง่ายๆ ซ้ำอีกครั้งแน่ๆ
“คุณคิดจะทำอะไรฉัน?...ฉันไม่ใช่นักโทษ...ไม่ใช่ผู้หญิงของคุณนะ”
“ทำอะไร...ฉันคิดจะทำอะไรเธอ?...บ้าไปแล้วแน่ๆ คนอย่างฉัน คงไม่ต้องลงทุนปล้ำโจร”