มันต่ำเกินไปแล้ว !

1292 คำ
รถเก๋งญี่ปุ่นสีขาวคันเล็กเปิดไฟเลี้ยวแล้วหมุนพวงมาลัยหักเข้าจอดเทียบที่หน้าบ้านหลังสุดท้ายในซอยของโครงการ            บ้านจัดสรรชื่อดังแห่งหนึ่งแถบชานเมือง          ประตูรถฝั่งคนขับถูกเปิดออก ร่างเล็กบอบบางผิวขาวจัดอย่างคนมีสายเลือดแผ่นดินใหญ่จากฝั่งพ่อ สวมเชิ้ตขาว             ทับด้วยสูทสีแดง กระโปรงสอบแค่เข่าสีเดียวกับสูทซึ่งเป็นเครื่องแบบของบริษัท ใบหน้าสวย นัยน์ตาคมหวานจากทาง  ฝั่งแม่ที่มีเชื้อสายมอญ หากบัดนี้ดวงตานั้นฉายชัดถึงความหงุดหงิดตึงเครียด คิ้วได้รูปขมวดมุ่น เธอยืนกอดอกจ้องมองผ่านประตูรั้วเข้าไปในบ้านด้วยความหงุดหงิดเต็มทน        ลิวาดา หรือหลิว คือชื่อของเธอ ปีนี้เธออายุย่างยี่สิบหก พ่อของเธอเสียชีวิตไปเมื่อสี่ปี      ที่แล้ว หลังจากนั้นเมื่อต้นปีแม่ก็แต่งงานใหม่กับชาวต่างชาติวัยเกษียณคนหนึ่งที่ชื่อลุงเท็ด เขาเคยแต่งงานกับสาวไทยและเลิกรากันไปหลายปี มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนอายุน้อยกว่าเธอหกปีที่ชื่อ แดเนียล ลุงเท็ดจัดได้ว่าเป็นชาวต่างชาติที่พอมีพอกินค่อนไปทางร่ำรวย เขาซื้อบ้านหลังใหญ่ในโครงการมีชื่อเสียงแล้วพาแม่กับเธอเข้ามาอยู่ด้วย และให้แม่ของเธอลาออกจากงานพนักงานบัญชีของบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อมาดูแลเขาพร้อมให้เงินเดือนใช้ซึ่งมากกว่าเงินเดือนเดิมของแม่ถึงสามเท่า หลิวเองยินดีที่         แม่จะมีใครสักคนเข้ามาในชีวิตและคอยดูแล และลุงเท็ดก็ดีกับท่านเหลือเกิน เรื่องเหมือนจะจบอย่างมีความสุขเช่นในนิยาย แต่กลับมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นจนกระทั่งเธอไม่สามารถอยู่ร่วมชายคาเป็นครอบครัวที่นี่ได้ตามที่แม่ต้องการ ทั้งหมดทั้งมวลมีสาเหตุมาจากไอ้เด็กลูกครึ่งตัวเท่าควายคนนั้น คนที่มีฐานะเป็นน้องชายต่างสายเลือดของเธอ แดเนียล หรือนายแดนตัวแสบนั่น “ หลิว เข้าไปดูบ้านให้แม่หน่อยนะลูก ไปนอนวีคละครั้งก็ยังดี เข้าไปสักวันศุกร์ ค้างสักคืน เสาร์เย็น ๆ ค่อยกลับ แม่กับลุงเท็ดต้องบินไปบ้านลุงที่ต่างประเทศเพื่อจัดการเอกสารภาษีบางอย่างและถือโอกาสไปเยี่ยมญาติด้วยสักสองเดือน แดเนียลอยู่บ้านคนเดียว ” นั่นคือคำวอนขอแกมบังคับของผู้เป็นแม่ที่โทรหาเธอ ทั้งที่บ้านหลังเบ้อเริ่มนี้ตั้งอยู่ในโครงการอันมีชื่อ บริการจากส่วนกลางนั้นมีทั้งกล้องวงจรปิด ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกวัน ทว่า             สิ่งเหล่านั้นอาจไม่สามารถป้องกันเรื่องวุ่นวายจากคนที่อยู่        ในบ้านได้ แดเนียลอยู่บ้านคนเดียว นั่นมันคือเหตุผลวายป่วงที่เธอต้องมาที่แห่งนี้ทั้งที่ไม่อยากเหยียบย่างมาอีกแม้สักครั้ง          “ เด็กนั่นมันจะเผาบ้านหรือไงล่ะแม่ ถึงต้องให้หลิว          ไปดูด้วย ” นั่นคือสิ่งที่เธอถามประชดประชัน และคำตอบที่แม่ให้กลับมาคือ “ ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรถึงขั้นนั้น แดนอาจจะมีเกเรเสเพลบ้างตามประสา มีจัดปาร์ตี้บ้างอะไรบ้าง แม่แค่กลัวว่าจะเละเทะเกินเลยไปสักหน่อย เอาน่า ก็แค่ไปดูน้องบ้างจะเป็นไรไป ไหน ๆ ก็เป็นพี่เป็นน้องกันแล้ว ” ใครอยากจะเป็นพี่เป็นน้องกับนายนั่นกันล่ะ ! เธอแย้งอยู่ในใจ “ แดนน่ะเป็นเด็กดีนะหลิว แม่ไม่เข้าใจว่าทำไมหลิวต้องมองน้องในแง่ร้ายขนาดนั้น อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยทำอะไรให้ลุงเท็ดกับแม่เดือดร้อน ” เด็กดีงั้นเหรอ !? แต่จะโทษแม่ก็ไม่ได้ เพราะท่านไม่ได้เจออย่างที่เธอเจอกับแดเนียลนี่นา เด็กนั่นมันร้ายเกินอายุ เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าหวานก็ร้อนวูบ สลัดศีรษะตัวเองแรง ๆ เพื่อหวังขับไล่ความรู้สึกบ้า ๆ นั้นให้หลุดหายจากความทรงจำเสียที ความรู้สึกที่น้องชายต่างสายเลือดคนนั้นตราตรึงไว้บนร่างกายของเธอในคืนนั้น ! “ หลิว ฟังแม่อยู่หรือเปล่า ทำไมเงียบ ” ปลายสาย       ส่งเสียงเรียกเมื่อไม่มีการตอบรับจากลูกสาว เธอรีบดึงตัวเองให้พ้นจากภวังค์ทันที “ อยู่จ้ะแม่ อยู่ โอเค เดี๋ยวหลิวเข้าไปดูให้ แม่ไม่ต้องห่วงนะ เดินทางปลอดภัยเที่ยวให้สนุก ฝากบอกลุงเท็ดด้วย ” “ ขอบใจมากนะลูก ” ลิวาดาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนหยิบกุญแจบ้านที่       ลุงเท็ดเคยให้ไว้อีกชุดหนึ่งขึ้นมา กดรีโมทประตูรั้วก่อนกลับเข้าไปในรถแล้วขับเข้าไปจอดที่โรงรถ มุ่นคิ้วอีกครั้งเมื่อเห็นรถยนต์ยี่ห้อแพงสองคันจอดอยู่ก่อนแล้ว ไอ้เด็กเวรนั่นคงจะนัดเพื่อนมามั่วสุมกันล่ะมั้ง ! ลิวาดายืนนิ่งราวกับกำลังรวบรวมความกล้า นึกโมโหเมฆ ชายคนรักที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกันแต่คนละแผนก        เธออยู่แผนกการเงิน เมฆอยู่แผนกทรัพยากรบุคคล          ฝ่ายจัดอบรม เขามักจะต้องออกเดินทางไปจัดอบรมตามสาขาอื่นเสมอ และคราวนี้ก็ติดสัมมนาเลยมาเป็นเพื่อนไม่ได้  “ ไปเถอะหลิว เท่าที่เคยเจอ แดเนียลเค้าก็ดูไม่มีพิษ         มีภัยอะไรนี่นา ออกจะเฟรนด์ลี่ด้วยซ้ำไป ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวเลยนี่ ” นั่นคือคำตอบจากคนรัก แน่นอนว่าเขาไม่เคยระแคะระคายเรื่องราวน่าละอายระหว่างเธอกับน้องชาย              ต่างสายเลือดมาก่อน หวังไหว้วานให้เพื่อนสนิทในแผนกอีกคนที่ชื่อ วิว          มาด้วย หล่อนก็ดันติดธุระเสียได้ ลิวาดาเปิดประตูแล้วเดินอย่างเงียบกริบเข้าไปในบ้าน       ทันทีที่ประตูถูกเปิด เสียงเพลงกระหึ่มราวอยู่ในผับบาร์        ก็กระแทกเข้ามาในโสตประสาท กลิ่นอะไรต่อมีอะไรคละคลุ้งไปหมดยากจะแยกแยะ ทั้งแอลกอฮอล์ ควัน และบางอย่างที่เธอไม่รู้จัก        หญิงสาวส่ายศีรษะอย่างหงุดหงิด สาวเท้าไปหาต้นเสียง แล้วก็ต้องอ้าปากหวอเมื่อเลี้ยวซ้ายไปยังห้องโถงรับแขก        ของบ้านกับภาพที่เห็นตรงหน้า หญิงสาวหกคน ชายสี่คน นั่งบนพื้นบ้าง บนโซฟาบ้าง แต่ละคนอยู่ในสภาพกึ่งเปลือยสวมเสื้อผ้าไม่ครบทุกชิ้น มีขวดแอลกอฮอล์ทั้งเบียร์เหล้าตั้งอยู่ตรงกลางวงนับไม่ถ้วน แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจที่สุดคือชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง      ที่ยืนอยู่กลางวงในสภาพเปลือยท่อนบนอวดมัดกล้าม        แน่นหนั่นไปทุกส่วนสัดและรอยสักสวยรูปงูพันดอกไม้สีม่วงดอกเล็ก ๆ ชนิดหนึ่งที่เธอไม่รู้จักที่อกด้านขวา เขาเงยหน้าขึ้นมองแขกไม่ได้รับเชิญคนใหม่ที่เพื่อน       คนอื่น ๆ ไม่รับรู้การมาถึงเพราะมัวแต่โฟกัสอยู่ที่การสูบและ        ดื่มกิน ทั้งเสียงเพลงดังลั่นนั้นด้วย มุมปากได้รูปแสยะยิ้มนิด ๆ มือซ้ายเอื้อมไปเสยปอยผมที่หล่นมาปรกหน้าผากขึ้น สองดวงตาคมสีอำพันของเขาจ้องมองมายังผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่สาว ก่อนจะปลดตะขอตามด้วย รูดซิปกางเกงยีนส์แล้วดึงมันลงช้า ๆ ลิวาดาอ้าปากค้าง เอวกางเกงค่อยเลื่อนลงต่ำ ไรขน       สีดำที่เห็นประปรายในตอนแรกเริ่มหนาขึ้นเมื่อเขาดึง         ขอบกางเกงยีนส์เลื่อนต่ำลง มันต่ำเกินไปแล้ว !
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม