เที่ยงคืนครึ่ง
ปกติสี่ทุ่มลิวาดาก็หลับแล้ว หากคืนนี้เธอยังลืมตาโพลงจ้องเป๋งที่ผนัง นับแกะหมดหลายฝูงแล้วก็ยังข่มตาไม่ลงเสียที
หลังจากไปรับประทานมื้อค่ำ ดื่มนิดหน่อย พร้อมฟังดนตรีสดเบา ๆ ที่ร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งกับเมฆคนรัก แต่จิตใจของเธอก็ว้าวุ่น อีกทั้งความเย็นวูบวาบที่กึ่งกลางระหว่างขาอันไม่มีอะไรปกปิด จึงต้องขอตัวกลับโดยอ้างว่าปวดหัว
ทั้งหมดทั้งมวลนั่นก็เพราะไอ้วายร้ายนั่นคนเดียว !
“ โอ๊ย ไม่น่าเลย ๆๆๆ ยัยหลิวบ้า แกมันเลว ๆๆๆ ”
ลิวาดารัวมือไปบนที่นอนหลายครั้งเพื่อระบายออกถึงความผิดบาป จะโทษเขาทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะตัวเธอนั่นแหละที่เคลิบเคลิ้มหวั่นไหวไปกับเขา ทั้งที่สติฝ่ายดีพร่ำบอกตัวเองอยู่เสมอว่าลืมมันไปซะ แต่ร่างกายและความรู้สึกด้านมืดกลับจดจำทุกสัมผัสร้อนเร่าบนผิวเนื้อ และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าลึก ๆ แล้วโหยหามันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เมื่อโดนกระตุ้นโลมเล้าเพียงเล็กน้อยก็พร้อมจะศิโรราบไปทุกอย่างที่เขานำพา
เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อสามเดือนก่อน และเป็นสิ่งที่ ลิวาดาอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขมันมากที่สุด อยาก ลบเลือนทว่ากลับจดจำได้ทุกรายละเอียด
เธอเกลียดตัวเองเหลือเกิน...
ย้อนกลับไปเมื่อสามเดือนก่อน
เวลาสี่ทุ่มของคืนนั้น เสียงเพลงในสถานบันเทิงดังกระหึ่มอื้ออึงอยู่โดยรอบ มันเล็ดลอดออกไปจนถึงด้านนอกเสียด้วยซ้ำ ผู้คนมากมายเบียดเสียดกันอยู่ด้านใน ทั้งเสียง พูดคุย เสียงหัวเราะ กลิ่นแอลกอฮอล์หลากชนิด กลิ่นบุหรี่คละคลุ้ง หากเป็นเวลาปกติ ลิวาดาคงไม่เฉียดกรายมาที่นี่แน่ เธอไม่ใช่ผู้หญิงประเภทชอบหาความสำราญในยามค่ำคืน เป็นหญิงสาวที่มีความประพฤติอยู่ในกรอบในระเบียบอันดีงามมาตลอด
แต่คืนนี้ไม่ใช่ เธอมาที่นี่ตามคำแนะนำของเพื่อนรัก เพื่อจะลืมความเจ็บปวดจากคนรักที่ไว้ใจเหลือเกินอย่างเมฆ ได้สร้างรอยแผลนั้นเอาไว้
ปลายลิ้นเล็กแลบเลียริมฝีปากล่างของตัวเองด้วยความประหม่า มือข้างหนึ่งคอยดึงรั้งชายกระโปรงที่สั้นเหนือเข่าลงอีกเล็กน้อย
“ ยัยหลิว แกจะดึงกระโปรงอะไรนักหนาฮะ เสียบุคลิกหมด เดินดี ๆ สิ ทำอย่างกับเด็กหลงทาง มานี่ ”
เพื่อนรักที่มาด้วยกันยื่นมือมารั้งร่างของลิวาดาที่วางตัว ไม่ถูกให้เดินตามกันเข้ามาด้านในโต๊ะที่ได้จองเอาไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงบ่ายของวัน
“ ฉันไม่มั่นใจเลย ฉันดูแปลก ๆ หรือเปล่าวิว ”
ระหว่างที่ถูกรั้งไปนั่งที่โต๊ะหญิงสาวก็เอ่ยถามเพื่อนสนิทขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ทั้งกลัว ทั้งประหม่า ไม่มั่นใจไปหมด เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาหลายต่อหลายคู่ที่จับจ้องมองมาตั้งแต่เรียวขาสวยก้าวเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ตั้งแต่ก้าวแรก
ก็เธอทั้งขาว ทั้งสวย ทั้งหุ่นดีเซ็กซี่ ผู้ชายหลายคนจ้องมองแทบตาถลน มีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่ไม่รู้ตัวเอง
เพื่อนสนิทที่ทำงานแผนกเดียวกันอย่างวิวหัวเราะคิกคักออกมาทันที
“ แกไม่ได้ดูแปลกหรอกหลิว แกแค่ดูสวยและเซ็กซี่มาก จนผู้ชายทั้งผับอยากจะขย้ำ ถามหน่อยเถอะ แกไม่เคยรู้เลยหรือไงว่าตัวเองสวย มัวแต่ทำตัวเฉิ่มเชยอยู่นั่นแหละ เสียดายความสวยหมด ”
“ สวยที่ไหนเล่า ฉันไม่ได้น่ามองและมีความมั่นใจ ได้ครึ่งของแกเลย ฉันอยากกลับแล้วอ่ะวิว ” ลิวาดาพูดตามความรู้สึกจริง ๆ ของตนเองที่มีต่อวิว เพื่อนสนิทที่ทำงานแผนกเดียวกัน หล่อนผิวคล้ำ มีใบหน้าสวยเฉี่ยว ตัวสูงกว่า ลิวาดานิดหน่อย รูปร่างอวบอัด ผมดัดหยิกเป็นลอนทำสีน้ำตาลทอง ใบหน้าฉาบด้วยเครื่องสำอางสวยอยู่เสมอ ดูเป็นสาวมั่นใจน่ามอง
วิวถอนใจเฮือกใหญ่อย่างเบื่อหน่าย
“ จะให้เวลาที่ฉันทุ่มเทสำหรับเสื้อผ้าหน้าผมอัน แสนสวยของแกสูญเปล่าไปได้ยังไงวะ แกจะกลัวอะไรนักหนา ฉันอยู่ตรงนี้กับแก อยู่เพื่อแกเสมอ จำไม่ได้หรือไง ” เธอพูดพลางสบตาของลิวาดา นั่นทำให้อีกฝ่ายใจอ่อน
“ ก็ได้ ”
“ เออ ต้องแบบนี้สิยะ ” วิวว่าพลางยิ้มกว้างแล้วดึงมือเพื่อนให้นั่งลงบนโซฟา ก่อนจัดแจงสั่งเครื่องดื่มพร้อมกลับแกล้มมาเรียบร้อย ก่อนคะยั้นคะยอให้เพื่อนรักมีความสุขไปกับการดื่มกินและเสียงเพลง
“ คืนนี้เรามาปลดปล่อย สนุกให้มันลืมโลก ลืมผู้ชายเหี้ย ๆ ลืมเรื่องแย่ ๆ โอเคป่ะ ชนแก้ว ! ”
เมื่อแอลกอฮอล์เข้าไปในร่างกาย ความเขินอายและประหม่าก็ถูกปลดเปลื้อง ลิวาดาเริ่มสบายใจและสนุกไปกับ สิ่งที่เพื่อนรักมอบให้
เธอจะสนุก เธอจะดื่ม ให้ลืมมัน...