แต่ความรู้สึกสงสารมันก็ไม่แมนเสียเลยสำหรับเด็กผู้ชาย
อัลเบอร์โตจึงมักแกล้งนั่นแกล้งนี่เธอเสมอ แต่เขาไม่ทำเธอแรงแบบดีโนหรือเด็กผู้ชายคนอื่นในบ้านตอนนั้นหรอก พวกนั้นมันป่าเถื่อน กักขฬะ ไร้รสนิยม!
คิดแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ พ่อรับปากเป็นมั่นเหมาะว่าจะดูแลเธอแทนให้ตอนที่เขาไม่อยู่ แล้วดูสิ! ทิ้งกันไปเที่ยวกับสาวใหม่เฉยเลย คิดแล้วยังเคืองไม่หาย
ชายหนุ่มจับลูกบิดจะเข้าห้อง แต่กลับพบว่ามันล็อคอยู่ เขาจึงหันไปหยิบกุญแจที่ซ่อนไว้ตั้งแต่เด็กใต้รูปปั้นคิวปิดที่หน้าห้องตัวเองนั่นละ ก่อนไขกุญแจเข้าไปและคิดว่ากลับมาก่อนแบบนี้คงยังไม่มีใครเตรียมแชมพูสบู่เอาไว้ให้ เขาคงถอดเสื้อผ้าโยนกองๆ ไว้แล้วนอนเลยแล้วกัน
แต่เขาคาดไม่ถึงเลยว่าไฟในห้องจะถูกเปิดทิ้งไว้ ข้างประตูมีถังรถเข็นใส่อุปกรณ์ทำความสะอาด และที่สตูลปลายเตียงมีใครบางคนกำลังซบหน้าลงหลับอย่างเอาเป็นเอาตาย...
ชายหนุ่มดันประตูห้องปิดลงอย่างเงียบเชียบ ก่อนค่อยๆ เดินด้วยฝีเท้าเบากริบมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังหญิงสาวในชุดเครื่องแบบแม่บ้าน เขาฉุนขึ้นมานิดหนึ่งเมื่อเห็นหนังสือเก่าของรักของหวงของแม่วางอยู่ไม่ไกลจากเธอนัก แต่เมื่อพิศมองดีๆ จึงพอจำเธอได้อย่างเลือนราง
รสิตา โรส มอนตาเล!
เธอโตเป็นสาวสวยจนเขาจำแทบไม่ได้เลย...
ชายหนุ่มยืนมองเธออยู่ครู่หนึ่งด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด มันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิดเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ เขากลายเป็นไอ้งั่ง ทำอะไรไม่ถูก ถ้าเธอตื่นอยู่เขาอาจแกล้งให้เธอวิ่งไปรอบห้องอย่างโง่เขลาก็ได้ คิดแล้วก็ถอนหายใจเฮือก หยิบหนังสือไปเก็บเข้าตู้อย่างทนุถนอม
แม่ของเขาเสียชีวิตไปตอนให้กำเนิดแฝดสาม เรื่องนั้นเขาแก้ไขอะไรไม่ได้ จึงทำได้เพียงเก็บรักษาสมบัติของแม่เท่านั้น เขาได้รับหนังสือ ลูซิโอได้รับสร้อยร้อยจี้โบราณประเมินค่ามิได้ ส่วนอาโมได้อะไรไปนะ... เขาจำไม่ได้แล้ว
เรียบร้อยก็หันมาเห็นรสิตายังหลับสนิท ชายหนุ่มคิดจะปลุกให้เธอกลับไปนอนห้องตัวเอง แต่กลับสะดุดตากับกระดาษโน้ตสีต่างๆ ที่ถูกเก็บมาวางกองรวมกันไว้บนโต๊ะหัวเตียง ดูเหมือนว่าพวกมันจะเคยถูกติดตามพื้นที่ต่างๆ ข้างในห้อง ตัวหนังสือภาษาอิตาเลียนเป็นระเบียบสวยเขียนไว้คอยเตือนว่าอัลเบอร์โตใช้สบู่ยี่ห้ออะไร ยาสีฟันยี่ห้อไหน เขาชอบให้เก็บเสื้อผ้าแบบใด เขาชอบให้จัดแจกันดอกกุหลาบ รองลงมาก็ดอกเดซี และควรจัดแจกันดอกไม้รอต้อนรับเขา
‘อย่าลืมฝากบรูโนซื้อกุหลาบ’
เธอมาร์กปากกาสีไว้ตรงนี้ตัวโตๆ
ชายหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่าริมฝีปากหยักเป็นรอยยิ้มตั้งแต่ตอนไหน รสิตาก็คือรสิตาไม่มีเปลี่ยน เธอละเอียดอ่อน เอาใจใส่ และช่างเอาใจโดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังทำให้เขารู้สึกว่า ‘ขาดเธอไม่ได้’ อัลเบอร์โตถอนหายใจยาว หันมองเธออีกทีแล้วก็ต้องยอมรับกับหัวใจตัวเอง
เขารู้สึกกับเธอมากกว่าเจ้านายลูกน้องนั่นแน่ละ
แต่จะพัฒนาจนเป็น ‘อะไร’ ต่อจากนี้ คงต้องดูกันอีกที
เมื่อเธอไม่มีทีท่าจะตื่นเสียที อัลเบอร์โตจึงตัดสินใจค่อยๆ รวบอุ้มร่างเบาหวิวขึ้นเพื่อวางลงบนเตียงตอบแทนที่เธออุตส่าห์ดูแลเอาใจใส่ห้องของเขาจนสะอาดเรี่ยม หัวใจเขากระตุกเบาๆ เมื่อเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราชัด เธอมีขนตาดกหนาอย่างเหลือเชื่อ ริมฝีปากสีชมพูใสเผยอ นิดหนึ่งอย่างหลับสนิท เรือนผมสีดำหยักศกยังคงถูกมัดเป็นเปียเหมือนตอนเป็นเด็ก และชุดแม่บ้านก็ทำให้เธอดูเด็กลงไปอีก
เธออายุเท่าไหร่แล้วนะ...
เขาลองคำนวณดูในใจก็พบว่าปีนี้รสิตาน่าจะอายุสิบแปดปีพอดี เป็นช่วงอายุที่สาวอิตาลีดูโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่รสิตาก็ยังดูเป็นสาวน้อยนุ่มนิ่มบอบบางอยู่ดี
เขาหัวเราะในคออย่างขบขันตัวเองที่ดูเหมือนจะรู้สึกหายใจติดขัดกับผู้หญิงที่เขามองว่า ‘เหมือนเด็ก’ และดูเหมือนร่างกายจะตอบรับเมื่อร่างกายนุ่มละมุนแนบชิดอ้อมแขน กลิ่นกายเธอหอมรัญจวน และดูเหมือนจะหอมกว่าเมื่อหกปีก่อนอย่างร้ายกาจ
เขาเลื่อนหน้าไปใกล้อย่างเผลอไผล
แต่ไม่คิดว่าเธอจะลืมตาตื่นพอดี
รสิตากะพริบตามองเขางัวเงีย ก่อนเบิกตาโต และแน่นอนว่าเธอกำลังจะกรี๊ด! อัลเบอร์โตรีบวางร่างนุ่มนิ่มลงบนเตียงและขยับมือปิดริมฝีปากเธอตามสัญชาตญาณ ขืนมีใครในบ้านได้ยินเสียงเธอ เขาคงถูกลูซิโอพี่ชายคนโตสับเละ! โทษฐานรังแกคนในบ้าน ซึ่งลูซิโอเกลียดการรังแกกันที่สุด
แต่เอ๊ะ! จะว่าไปลูซิโอไม่อยู่นี่หว่า ไปออกกองถ่ายภาพยนตร์ที่ประเทศอะไรสักอย่าง
โธ่เอ๊ย! แล้วเขาจะกลัวใครล่ะเนี่ย นี่ก็บ้านของเขาแท้ๆ
“ชู่ว นี่ฉันเอง อัลเบิร์ต” เขาพูดชื่อเล่นของตัวเองลิ้นแทบจะพันกัน “อย่าร้องนะโรส แล้วฉันจะปล่อยเธอ”
รสิตาเบิกตาโต พิศมองเขาครู่หนึ่งแล้วพยักหน้ารัวๆ แต่เมื่อชายหนุ่มค่อยๆ ละมือออก เธอกลับสูดลมหายใจทำท่าจะกรี๊ดอีกระลอก และก่อนจะคิดทันว่าควรทำอะไรต่อไป อัลเบอร์โตก็กดริมฝีปากลงกับริมฝีปากเธอ ขณะกดข้อมือนุ่มลงกับฟูกนอนขนเป็ดนุ่มนิ่ม
เธอหวาน...
สมองพร่าเบลอด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ของเขาสั่งการแบบนั้น
และเธอนุ่ม... รวมถึงซ่อนรูปอย่างร้ายกาจ เนินอกอวบอิ่มที่แนบชิดอกเขาอาจจะเต็มไม้เต็มมือยิ่งกว่าหญิงสาวที่พยายามดันเนินจนล้นออกมาจากเสื้อเกาะอกในผับ
ร่างกายของเขาลุกฮือเกินจะควบคุม กลิ่นของเธอ ผิวกายของเธอ กำลังทำให้เขาคลั่งและควบคุมตัวเองไม่อยู่ ชายหนุ่มบดจูบย้ำๆ เลื่อนไล้ปลายนิ้วสวมเข้ากับนิ้วเล็กที่พยายามดิ้นรนขัดขืน ก่อนละริมฝีปากเพื่อกระซิบบอกบางคำที่ทำให้เธอนอนตัวแข็งลืมตาค้างอยู่ใต้ร่างเขา
“ฉันรักเธอ โรซี่”
ดวงตาสีฟ้าลุ่มลึกมองจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลที่เบิกกว้าง ก่อนชายหนุ่มจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองด้วยมือเพียงข้างเดียว เขาโยนเสื้อลงบนพื้น ดีดนิ้วเป็นคำสั่งเสียงให้ไฟดับ ก่อนจะกระซิบเสียงสั่น
“เป็นของฉันนะ ได้โปรด”