บทที่ 2 สองพี่น้องท้ายหมู่บ้าน

2147 คำ
ผืนแผ่นดินกว้างใหญ่ย่อมต้องเป็นที่ตั้งของหลายแคว้นปกครอง ด้านหนึ่งของแผ่นดินทางทิศตะวันออกเป็นที่ตั้งของแคว้นกังที่มีความหมายว่า แข็งแกร่ง แข็งแรง ผู้ปกครองเป็นผู้ใดขอไม่กล่าวถึง ขอเอ่ยถึงเพียงว่าตั้งแต่ที่ฮ่องเต้พระองค์นี้ขึ้นครองราชย์ก็ไม่มีการเกณฑ์บุรุษชาวบ้านไปรบอีกเลย แคว้นกังมีเมืองหนึ่งห่างไกลออกมาจากเมืองหลวงนามว่าเมืองอี้ เป็นเมืองที่กาลก่อนนั้นค่อนข้างเจริญรุ่งเรืองมากพอสมควร เป็นทางผ่านของพ่อค้าแม่ค้าจากต่างแดนแวะเวียนมาอยู่บ่อยครั้ง แม้การเพาะปลูกจะไม่เป็นผลดีมากเท่าใดก็สามารถหางานอื่นทำพอประทังชีวิตไปได้ ไม่ไกลจากตัวเมืองเป็นหมู่บ้านหวังเหล่ย หมู่บ้านเล็ก ๆ ติดภูเขา แม่น้ำและป่าไม้ ยามนี้เข้าสู่ปลายยามอิ๋น (04:59) แล้ว อีกไม่นานคนในหมู่บ้านก็คงเริ่มตื่นมาใช้ชีวิตกระมัง ผ่านพ้นยามหนาวมาได้ไม่นานเป็นช่วงเวลาที่ต้องเข้าป่าหาอาหารและล่าสัตว์เพื่อเก็บตุนเอาไว้หน้าหนาวปีหน้า รุ่งเช้าเวียนมาถึงอีกครา เสียงนกการ้องระงมก่อนบินตามบิดามารดาออกหากิน ทุกเช้าก็เป็นเช่นนี้ ไม่ว่าคนหรือสัตว์ย่อมต้องลืมตาตื่นเพื่อออกหาอาหารเพื่อประทังชีวิต กระท่อมเล็ก ๆ ท้ายหมู่บ้านตอนนี้ยังคงเงียบอยู่ รอบ ๆ บ้านมีต้นหญ้าโตสูงกว่าหัวเข่าแล้วเพราะผู้อาศัยมิได้ให้ความสนใจจะทำความสะอาดตั้งแต่ที่เหลือกันเพียงสองคนพี่น้อง บิดาของทั้งสองคนตกตายไปเมื่อหลายปีก่อน หลังจากรู้ว่าภรรยาตั้งครรภ์บุตรคนที่สองอีกฝ่ายก็เดินทางไปทำงานในเมืองหลวงที่อยู่ไกลออกไปหลายพันลี้เพื่อหาเงินมาให้ครอบครัว ไม่คิดว่าไปไม่ถึงสามเดือน ท้องภรรยายังไม่โตเลยกระมัง กลับได้รับร่างไร้วิญญาณของสามีกลับมาแทนจากการถูกโจรป่าดักปล้น ผู้เป็นแม่จึงกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวหลังจากคลอดน้องชาย และบุตรชายผู้พี่เป็นคนดูแลน้องชายนามว่าหยู่ถงตั้งแต่นั้นมา เคราะห์ซ้ำกรรมซัด สองปีที่แล้วมารดาก็หายสาบสูญไปโดยไม่รู้จะไปตามหาจากที่ใด ตอนนี้จึงเหลือเพียงสองพี่น้องดูแลกันเองจนถึงบัดนี้ สองพี่น้องตระกูลผิง ผู้พี่นามว่า ผิงมู่เฉิน ดีงามเป็นสิริมงคล ผู้น้องนามว่า ผิงหยู่ถง เปี่ยมไปด้วยสิริมงคล เด็กหนุ่มวัยสิบหนาวลืมตาตื่นในยามเช้าด้วยความเคยชิน เมื่อคืนฝันเห็นท่านพ่อท่านแม่อีกแล้ว มือหยาบกร้านเกินวัยลูบใบหน้าตนเองเพื่อเรียกสติ ก่อนลุกขึ้นจากเตียงไปล้างหน้าเพื่อเข้าป่าเช่นทุกวัน ปล่อยให้น้องชายวัยสี่หนาวนอนหลับต่อไป ใช้เวลาไม่นานมู่เฉินก็ออกจากบ้านไปพร้อมกระบุงสะพายบนหลัง ทุกวันตนจะเข้าป่าหาอาหารที่พอจะรู้จักบ้างและหาฟืนมาขายให้ท่านลุงเสินพอได้ซื้อไข่สักฟองสองฟองมาให้น้องชายกิน ตอนนี้ข้าวไม่เหลือสักเม็ดแล้ว หากหาฟืนได้สักสิบมัดก็คงแลกข้าวกับท่านลุงได้พอประทังชีวิตต่อ ว่าแล้วก็มุ่งหน้าเดินเข้าป่าด้วยความหวัง ด้านหลังบ้านเขานั้นเป็นภูเขา เดินสักหนึ่งเค่อก็ถึงตีนเขาแล้ว มองไกล ๆ เห็นท่านลุงท่านป้าในหมู่บ้านบ้างก็กำลังทำนา บ้างก็กำลังเดินมาทางนี้ และหลายคนพึ่งกลับจากเข้าป่า “พี่ใหญ่” เสียงเรียกจากด้านหลังเรียกให้มู่เฉินหันกลับไปมอง ก่อนจะเจออาถงวิ่งมาหาเขาด้วยใบหน้าสดใส “เหตุใดจึงตามมา” “ข้าฝันว่าท่านเทพจะมอบของมีค่าให้พวกเราขอรับ” หยู่ถงเอ่ยสิ่งที่จำได้ในความฝันให้พี่ชายฟัง ท่านตาผู้หนึ่งมาบอกเขาว่าจะมอบของล้ำค่าให้ แต่จะวางทิ้งไว้ในป่าต้องไปหาเอง ผู้พี่ฟังจบก็ส่ายหน้าไปมาอย่างนึกเอ็นดู จับมือเล็ก ๆ ออกเดินต่อไม่ได้ให้น้องชายกลับไปรอที่เรือน อยากไปเขาก็จะพาไป “เจ้าล้างหน้าล้างตาเองหรือ” “ขอรับ ข้าสี่หนาวแล้วข้าทำเองได้ ขัดฟันจนสะอาดท่านเห็นหรือไม่” เด็กน้อยยิ้มอวดฟันขาวให้ผู้พี่ดูด้วยท่าทางภูมิใจ สมุนไพรของท่านปู่ท่งนำมาขัดฟันทำให้ฟันสะอาดและไม่เหม็น เขาและพี่ใหญ่ได้รับจากท่านปู่เดือนละหนึ่งตลับเล็ก ๆ มาใช้ ปกติพี่ใหญ่กลับจากขึ้นเขาจึงค่อยปลุกเขาตื่นไปล้างหน้าขัดฟันโดยพี่ใหญ่เป็นคนทำให้ แม้จะบอกว่าตนเองสี่หนาวแล้วก็ตาม วันนี้เพราะความฝันจึงตื่นเช้า หยู่ถงจึงได้โอกาสแสดงความสามารถให้พี่ชายดูเสียเลย “หึ รีบตามมา” “รอข้าด้วย” เท้าเล็ก ๆ วิ่งตามพี่ชายไปอย่างกระตือรือร้นแม้จะถูกอีกฝ่ายกลั่นแกล้งเดินเร็ว ๆ ไม่รอเขาก็ตาม วันนี้เขามีความสุขยิ่งนักเพราะท่านเทพจะมอบของขวัญให้ ไม่รู้จะเป็นสิ่งใด สองพี่น้องเดินตามกันมาถึงตีนเขาก็เดินต่อไม่หยุดพัก ตอนนี้ฟ้าสางแล้วมู่เฉินยังไม่ได้ฟืนสักมัดหากชักช้ากว่านี้เกรงว่าจะไม่ดีนัก ยามสายแดดแรง ยิ่งอาถงวิ่งตามมาด้วยเขาไม่อยากให้น้องชายตากแดดกลัวจะป่วยไข้ได้ “อ้าวอาถง วันนี้ขึ้นเขากับพี่ชายหรือ” เสียงเรียกดังมาจากอีกฝั่ง เป็นท่านลุงและท่านป้าในหมู่บ้านกำลังเดินมาทางนี้พร้อมกระบุงสะพายหลัง “ขอรับท่านป้า เมื่อคืนข้าฝันว่าท่านเทพจะมอบของมีค่าให้ขอรับ” เสียงเล็กเอ่ยตอบทั้งสองด้วยความสดใส พลอยให้ทั้งสองคนยิ้มตามอย่างนึกเอ็นดู “หึหึ เช่นนั้นลุงและป้าขอให้พวกเจ้าเจออย่างที่ท่านเทพบอกเข้าใจหรือไม่” ท่านลุงอวยพรสองพี่น้องด้วยรอยยิ้ม เห็นกันมาตั้งแต่เด็กเหมือนหลานตนเอง ยามบิดามารดาตกตายจากไปพวกเขาก็ช่วยเหลือได้เท่าที่จะช่วย วันนี้บ้านไหนมีก็ให้ วันนี้ไม่มีก็ให้บ้านอื่นช่วยเช่นนี้ตลอด วันนี้เห็นว่าอาถงฝันว่าท่านเทพจะมอบของล้ำค่าให้เขาก็ทำเพียงเอาใจช่วย แม้ในใจอยากจะบอกว่ามันเป็นเพียงความฝันก็ตาม เด็กหนอเด็ก “ขอรับท่านลุง” มู่เฉินยิ้มรับก่อนจับจูงมือเล็ก ๆ พาเดินต่อ ท่านลุงท่านป้าเองก็เช่นกัน “เดินระวังเล่า” เสียงท่านป้าเอ่ยตามหลังมา ทั้งสองพยักหน้ารับเดินต่อด้วยใบหน้าเบิกบาน วันนี้อากาศดีหวังว่าจะได้ผักป่ากลับไปกินบ้าง เดินตามหลังกันมาจนถึงบนเขา บนหลังมู่เฉินก็มีฟืนเกือบเต็มกระบุงแล้ว ส่วนน้องชายนั้นกำลังเก็บเห็ดบางชนิดที่มั่นใจว่ามันกินได้ นำไปต้มกินก็อิ่มท้องเช่นกัน “พี่ใหญ่ ไหนเล่าขอรับของมีค่าที่ท่านเทพจะให้ข้า” อาถงนั่งรอพี่ชายหักฟืนใส่กระบุงไปก็เอ่ยถามด้วยใบหน้างอง้ำ ตาพยายามมองหาของล้ำค่าที่ท่านเทพบอกว่าจะให้ มู่เฉินแม้จะรู้อยู่ในใจแต่ก็ทำสิ่งใดไม่ได้นอกเสียจากเอื้อมมือไปลูบผมน้องชายเบา ๆ “พี่ก็ไม่รู้ หากไม่เจอวันหน้าพี่จะพาเจ้ามาหาใหม่ ไปกันเถิด” “ขอรับ” เด็กน้อยพยักเข้าเจ้าใจโดยง่ายไม่เรื่องมาก จับมือพี่ชายเดินต่อ ป่าไม้มีพื้นที่มากมายเป็นภูเขาหลายลูก หากตอนนี้ไม่เจออาจเพราะมันอยู่ไกล ๆ กระมัง //อั่ก// เสียงดังขึ้นจากกลางป่า ร่างหนึ่งหล่นลงมาอย่างแรง เยว่ซินเหมือนจะตายไปอีกครั้งให้ได้ ร่างนางมิใช่ว่าแหลกสลายไปอีกรอบแล้วหรือ เจ็บกว่าตอนถูกรถชนเสียอีก นี่มันเทพหรือยมทูต ให้นางหายตัวมายืนที่ป่าเลยไม่ได้หรืออย่างไรกัน ชั่วพริบตาความทรงจำอีกเสี้ยวของมารดาเด็กน้อยทั้งสองคนก็เข้ามาในหัวนาง แม้กระทั่งเรื่องราวของเด็กทั้งสองคนต่อจากนั้นก็มีเข้ามาแทบทุกอย่าง นั่นประไร ก็ใช้พลังได้นี่ แล้วส่งนางมาดี ๆ ปกติเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาไม่ได้หรืออย่างไรกัน เจ็บเหมือนจะตาย ฮือ เสียงของตกพร้อมเสียงโอดครวญดังขึ้นเรียกให้สองพี่น้องหยุดชะงัก มู่เฉินพยายามเงียบเพื่อฟังว่าเป็นเสียงของสัตว์ป่าหรือไม่ จะได้รีบพาน้องชายหนีให้เร็วที่สุด ที่นี่มีหลายครั้งที่จะได้พบเจอสัตว์ป่าตัวใหญ่ เขาไม่มีอาวุธ ต่อสู้กับมันไม่ได้แน่ ๆ ดังนั้นมู่เฉินจึงตั้งท่าจะอุ้มน้องชายวิ่งขณะเงี่ยหูฟังเสียงอีกรอบ “ฮือ” “พี่ใหญ่ เสียงผู้ใดขอรับ” หยู่ถงแหงนหน้าถามพี่ชาย รู้ว่าเป็นเสียงสตรีแต่ไม่รู้ว่าเสียงของใคร “อาถง อาถงหรือ แม่เอง ช่วยด้วย” เยว่ซินได้รับความทรงจำจากจิตอีกเสี้ยวของตัวเองมาแล้วย่อมจำเสียงของบุตรชายของนางได้ มิใช่เพียงความทรงจำของมารดาเด็กน้อย แต่ภาพความเป็นไปของบุตรชายทั้งสองคนตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันต่างหาก เสียงแหบพร่าจะตายแหล่ไม่ตายแหล่จึงเรียกบุตรชายทันที พาแม่ไปหาหมอทีลูก แม่จะตายอีกรอบแล้ว “พี่ใหญ่” “เสียงท่านแม่นี่ ข้าจำได้ ไปเร็ว” มู่เฉินเหมือนแข็งค้างไปชั่วขณะเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย แม้จะแผ่วเบาแต่ตนมั่นใจจริง ๆ ว่านั่นคือเสียงของมารดา รีบดึงอาถงวิ่งไปหาต้นเสียงอย่างไม่รอช้า หาอยู่นานก็เจอร่างหนึ่งนอนอยู่กับพื้นพร้อมเลือดเต็มตัว “ท่านแม่” เด็กหนุ่มถลาเข้าไปหามารดา หัวใจเหมือนถูกมีดแทงอีกครั้ง เลือดสีแดงฉานเต็มตัวเช่นนี้มิใช่นางตกจากหน้าผาสูงชันด้านบนหรอกหรือ เยว่ซินมองบุตรชายคนโตทั้งน้ำตา อ้าปากพะงาบ ๆ แต่กลับไม่มีแม้แต่เสียงออกมา ในใจได้แต่เอ่ยขอร้องอ้อนวอนบุตรชาย พาแม่ไปหาหมอทีลูก “เจ้า ใหญ่” “ท่านแม่จริง ๆ ด้วย” มู่เฉินมองหน้ามารดาดวงตาแดงก่ำ แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย เขาไม่ได้ฝันไป สตรีที่นอนจบกองเลือดอยู่เบื้องหน้าเขาคือท่านแม่จริง ๆ “ท่านแม่หรือพี่ใหญ่ ท่านแม่ ท่านแม่ของพวกเราหรือ!” เสียงเล็กตะโกนขึ้นด้วยความดีใจเมื่อพี่ชายบอกว่านี่คือมารดา เพราะเขาจำท่านแม่ไม่ได้ ตอนนั้นพึ่งอายุสองหนาวเท่านั้น เสียงร้องของอาถงดังลั่นป่าอย่างดีอกดีใจทำให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ยินเสียงเข้า สองคนแรกที่เดินมาถึงคืออ้ายเสินและจางลี่ผู้เป็นภรรยา ทั้งสองเป็นบุตรชายและสะใภ้ของท่านปู่ท่ง “มีอันใดหรืออาเฉิน ลุงได้ยินเสียง” บุรุษวัยสี่สิบวิ่งตามเสียงที่คุ้นเคยมาเจอกับอาถงอย่างที่คิดเอาไว้ ในมือมีหอกเผื่อหลานชายจะถูกสัตว์ทำร้ายเข้า ด้านหลังเป็นภรรยาที่วิ่งตามหลังมาด้วยความรีบร้อนไม่แพ้กัน “ท่านแม่ข้าขอรับ ท่านแม่ตกลงมาจากหน้าผา” มู่เฉินตะโกนตอบเสียงสั่น ไม่กล้าสัมผัสมารดาเลยกลัวจะทำให้นางเจ็บมากกว่าเดิม “อาซินหรือ อาซินตกหน้าผา อาซินตกหน้าผา” ทั้งสองแตกตื่นเมื่อได้ยินว่าสตรีที่นอนจมกองเลือดคืออาซินมารดาของพวกเขา “ป้าจะช่วยพยุงเอง” จางลี่รีบเข้ามาพยุงคนเจ็บ เลือดเต็มตัวไม่รู้นางมีบาดแผลที่ใดบ้างแต่ไม่มีทางเลือกแล้ว ท่านป้าที่อยู่ใกล้เคียงอีกหลายคนเดินมาถึงพอดิบพอดีจึงได้ช่วยกันพยุงนางลงจากเขาไป “ฮือ ท่านแม่อย่าตายนะขอรับ” ท่านลุงเสินทั้งแบกกระบุงทั้งอุ้มอาถงกอดปลอบ เด็กน้อยร้องไห้อย่างน่าสงสารกลัวมารดาจะตกตายไปอีก แม้แต่อาเฉินพี่ใหญ่เองก็ตาแดงก่ำวิ่งตามหลังมาเช่นกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม