ตอนที่ 4 ถามเอาอะไร

896 คำ
“คงอย่างนั้นแหละค่ะ แล้ววันนี้เขาไม่มาหรือคะ” เกสรตอบออกไปเหมือนไม่อยากใส่ใจกับเรื่องที่ผ่านมาอีก ตอนนี้เธออยากเจอหน้าสามีกับลูกทั้งสองของเธอมากกว่า ชาตินี้เธอจะไม่ขอเจอกับผู้ชายคนนั้นอีก “ไม่มา เขาบอกว่าติดธุระด่วน เขาให้เงินมาช่วยงานห้าร้อยบาท เมื่อเช้าเขาให้รถตู้นำศพเอ็งมาส่งแล้วคนขับก็กลับไปเลย” ฝ้ายก็สงสัยเช่นกันว่าเมียเสียชีวิตทั้งคนทำไมสมชายไม่มาร่วมงาน “ค่ะ” ช่างเขาเถอะ ไม่มาก็ดีแล้วเพราะเธอไม่คิดจะกลับไปหาเขาอีก “แล้วพี่ดำไม่มาหรือคะ” เธอถามไปอย่างนั้นเผื่อเขาจะมาบอกลาเธอเป็นครั้งสุดท้ายบ้าง “ไม่มา บ้านนั้นไม่มีใครมาเลยสักคน” เธอหลุบตามองต่ำเมื่อได้ยินคำนั้น ก็สมควรแล้วที่ครอบครัวของเขาจะเกลียดเธอจนไม่ยอมมาเผาผีกัน “ฉันว่าให้เกสรมันนอนพักก่อนดีไหมแม่” พรดีพี่สาวคนโตออกความเห็น “ก็ดีเหมือนกัน” “เอ็งกินข้าวกินปลาก่อนไหม เอ็งกินยาพิษเข้าไปไม่แสบท้องแย่หรือไง” แสงเทียนถามลูก สมชายฝากคนรถมาบอกว่าเขานำเกสรส่งโรงพยาบาลเพื่อล้างท้องแล้ว แต่หมอช่วยชีวิตเธอไว้ไม่ทัน “กินก็ได้ค่ะพ่อ” เกสรบอกพ่อ แต่ที่เธอไม่รู้สึกอะไรก็คงเป็นเพราะยาลูกกลอนถอนพิษเม็ดนั้นกระมัง “ถ้าอย่างนั้นฉันกับเมียขอออกไปนาก่อนนะพ่อ” เสถียรบอกพ่อ เพราะตอนนี้กำลังเข้าสู่ฤดูทำนา เขายังไม่ได้เริ่มดำนาสักต้น แต่ยังดีที่ลูกชายทั้งสองช่วยงานได้มากแล้ว “เออ ๆ ไปเถอะ” “ไปเตรียมของเถอะวี มวล เราต้องออกไปไถนากันต่อ” เสถียรบอกลูกชายวัยสิบเอ็ดขวบและสิบขวบตามลำดับ เมื่อเช้าพอรู้ข่าวว่าน้องสาวเสียชีวิตเขาก็รีบกลับจากนามาทันที “ครับ” ทวีกับประมวลรับคำพร้อมกันแล้วเดินลงเรือนไป ตามด้วยจำปีภรรยาของเสถียร ครอบครัวของเขานอนนาตลอด มีเพียงพรดีเท่านั้นที่อยู่บ้านกับพ่อแม่ ทวีลูกชายคนโตของเขาเรียนจบชั้นปอสี่แล้วจึงไม่ต้องห่วง ส่วนประมวลเรียนอยู่ชั้นปอสามก็เทียวมาเรียนที่โรงเรียนวัดในหมู่บ้านซึ่งระยะทางไปกลับก็ประมาณหกกิโลเมตร เกสรมองดูบ้านไม้ที่มีอยู่เพียงสองห้องนอน ห้องหนึ่งเป็นห้องของเธอ อีกห้องเป็นของพี่สาว ส่วนพ่อกับแม่นอนห้องพระ หรือเรียกอีกอย่างว่า ‘ห้องเปีง’ ส่วนครอบครัวพี่ชายนั้นนอนนา ถ้ากลับมาบ้านก็นอนที่ลานกว้างบนบ้าน บ้านมีชานยื่นออกไปด้านหน้าซึ่งเป็นพื้นต่างระดับต่ำกว่าตัวเรือนประมาณหนึ่งช่วงขาเด็ก เอาไว้สำหรับทำอาหารและนั่งรับประทานอาหาร บางครั้งก็ใช้รับแขกที่มาเยือน บ้านสมัยนี้ส่วนมากเป็นอย่างนั้น ช่วงเย็นวันเดียวกันแดงน้อยหาบน้ำดื่มจากนาตัวเองเพื่อนำมาให้พี่ชายที่นา ดำกำลังก่อไฟนึ่งข้าว ลูกทั้งสองวิ่งไล่จับผีเสื้อกับแมลงปออยู่ในทุ่งนาที่มันเกาะอยู่ตามต้นงวงช้างเป็นจำนวนมาก หญิงสาวที่ตั้งท้องราวหกเดือนวางหาบน้ำลงข้างเถียงนาไม่ห่างจากเขามากนัก “พี่ดำรู้หรือยังว่าเมียเก่าพี่ฟื้นแล้วนะ” ดวงใจเขากระตุกวูบหนึ่งเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ทั้งที่เขาเองก็ไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกับเกสรแล้ว มือใหญ่ที่กำลังใช้ไม้ขีดไฟจุดไต้ชะงักไปนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดคำใดออกมา ทำเป็นไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งที่น้องบอก “ไม่ดีใจเหรอ” แดงน้อยยังคาดคั้นเอาคำตอบ เขาถอนหายใจคล้ายรำคาญ แล้วเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “ทำไมต้องดีใจ” “ฉันได้ยินข่าวว่าเขาจะไม่กลับไปกรุงเทพฯ อีกแล้ว” ทุกคนในครอบครัวต่างรู้ว่าดำยังรอคอยภรรยาเก่ากลับมาอยู่เต็มอก ถึงทุกคนในบ้านจะไม่มีใครเห็นด้วยก็ตาม “ถามเอาอะไร” ดำพูดเสียงเข้มขึ้น “เปล่า ก็แค่กลัวว่าพี่จะยังมีใจให้ผู้หญิงคนนั้น…ฉันกลัวพี่เจ็บ” แดงน้อยแสดงเจตจำนงออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่เอาพี่สะใภ้คนนี้อีก “ฉันเป็นคนรักษาคำพูดเสมอ ฉันไม่มีวันกลืนน้ำลายตัวเองเป็นอันขาด” ยิ่งรู้ว่าเกสรฆ่าตัวตายเพราะแอบมีชู้อีกคน เขาก็ยิ่งเกลียดเธอจนเข้าไส้ ผู้หญิงไม่รู้จักพออย่างเกสรเขาไม่มีทางเอากลับมาแปดเปื้อนชีวิตเขาอีก ได้ยินคำยืนยันจากปากพี่ชายแดงน้อยก็เบาใจ อย่างไรถ้าเกสรเห็นสภาพพี่ชายเธอตอนนี้ เกสรก็คงไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว เพราะขนาดพี่ชายเขายังปกติดีเธอยังไม่สนใจ “งั้นฉันกลับก่อนนะ จะกลับไปทำกับข้าวให้ลูก” “อือ” เขาบอกไม่ได้ว่าควรรู้สึกอย่างไรที่เธอฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่ถึงเขาเกลียดเธอแค่ไหน เขาก็ไม่อยากให้ใครตาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม