ทางด้านพายุ
พายุขับรถฝ่าความมืดบนท้องถนนด้วยความเร็วแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องด้วยตลอดทางนั้นเกิดฝนตกถนนลื่นอยู่ตลอดเวลา ชายหนุ่มไม่อยากเสี่ยงอันตรายจากการขับรถเร็วจนเกินไปเพราะมันอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ เขาต้องการที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะแก้แค้นไอ้ผู้ชายสารเลวนั่น ไม่ได้ต้องการที่จะเอาชีวิตมาทิ้งอยู่บนท้องถนนแห่งนี้
ชายหนุ่มปรายตามองไปที่ร่างงามระหงที่นอนสลบอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ เมื่อเขาได้ยินเสียงครางเบาๆ ที่ลอดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ ก่อนที่ดวงตากลมโตสีนิลจะค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ พร้อมกับหยัดกายเพื่อที่จะลุกนั่ง ก่อนที่มือเรียวจะเลื่อนปรับเบาะขึ้นให้ตั้งตรงแล้วเพ่งมองไปบนท้องถนนที่ยามนี้ที่ปัดน้ำฝนกำลังทำหน้าที่ของมันอย่างหนัก ก่อนจะหันกลับมามองหน้าคนที่ลักพาตัวเธอมาแล้วพูดเสียงแผ่วถามออกมาว่า
“คุณจะพาฉันไปไหน?”
“เธออยากรู้จริงๆ เหรอว่าฉันจะพาเธอไปไหน”
พายุถามกลับอีกฝ่ายในประโยคเดียวกัน เขาตั้งใจกวนประสาทหญิงสาวจริงๆ อุรวรายังรู้สึกอ่อนเพลียจากฤทธิ์ของยาสลบ เลยไม่มีกะจิตกะใจอยากจะต่อปากต่อคำกับชายหนุ่มตรงหน้าสักเท่าไหร่ เขาอยากจะพูดอะไรก็พูดไปเธอไม่สนใจหรอก ตอนนี้ที่เธอสนใจก็คือน้ำ เธออยากที่จะดื่มน้ำมากๆ
“ถ้าคุณไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบ แต่ว่าคุณมีน้ำกินบ้างไหม...ฉันหิวน้ำ ขอน้ำกินหน่อย”
เสียงหวานถามออกไปอีกครั้ง
“ไม่มีตามองหรือไง ก้มลงมองหน่อยสิ ขวดน้ำก็ตั้งโด่อยู่ตรงหน้านั่นแหละ”
พายุตอบออกมาก่อนจะปรายตามามองหญิงสาวนิดๆ พร้อมกับเหยียดริมฝีปากออกมาหน่อยๆ ก่อนจะตวัดดวงตาสีนิลคมกล้ากลับไปมองยังท้องถนนเหมือนเช่นเดิม และเพราะฝนที่ตกแรงมากทำให้ทัศน์วิสัยในการขับขี่ช้าลงไปอีก ชายหนุ่มจึงตัดสินใจพารถเข้าข้างทางและเปิดไฟฉุกเฉินขึ้นเพื่อให้รถคันหลังได้มองเห็นจะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้น
อุรวราอยากจะหาอะไรมากระแทกปากของอีกฝ่ายนัก เธอหมั่นไส้คำพูดคำจาของชายหนุ่มยิ่งนัก ก่อนจะเอื้อมมือเรียวคว้าเอาขวดน้ำดื่มมาเปิดออกแล้วยกขึ้นดื่มอึกๆ ด้วยความกระหาย
พายุหันมามองหญิงสาวที่ยกขวดน้ำขึ้นดื่มเพื่อแก้กระหายด้วยหัวใจที่เต้นโครมครามผิดจังหวะ ทรวงอกอวบอิ่มที่สะท้อนขึ้นลงทำเอาร่างกายของพ่อเลี้ยงหนุ่มร้อนรุ่มขึ้นมา และเพราะความที่กระหายน้ำมากทำให้เธอกลืนน้ำไม่ทัน ส่งผลให้น้ำดื่มที่หญิงสาวกำลังดื่มกินอยู่นั้นไหลอาบชุดเจ้าสาวแสนสวยลงมาที่หน้าอกจนเปียกชุ่ม
พายุจ้องหญิงสาวตาไม่กะพริบ และดูเหมือนว่าอุรวราจะรับรู้ว่าชายหนุ่มนั้นกำลังจ้องมองเธออยู่ มือเรียวสวยรีบวางขวดน้ำดื่มที่กินจนหมดขวดลงแล้วรีบยกมือขึ้นมาปกปิดที่บริเวณทรวงอกของตนทันที
“คุณมองอะไร!”
หญิงสาวพูดขึ้นพร้อมกับขึงตาใส่อีกฝ่าย
“ถามได้ ก็มองนมน่ะสิ”
“ทุเรศ! ไอ้คนลามก!”
อุรวราตวาดแว้ดใส่เขาทันที แต่พายุไม่สนใจต่อคำพูดที่เธอต่อว่าใส่เขากลับมา ชายหนุ่มยักไหล่ไหวไปมาให้อย่างกวนๆ ก่อนจะพูดขึ้น
“ปากดีนักนะ! พอได้กินน้ำเข้าไปหน่อยก็มีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาต่อปากต่อคำเชียว”
พายุพูดกระทบกระเทียบหญิงสาว อุรวราเม้มปากเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ก่อนจะถามประโยคเดิมที่เคยถามเขาอีกครั้ง
“คุณจะพาฉันไปไหน”
พ่อเลี้ยงหนุ่มปรายตามองอีกฝ่ายอย่างหยันๆ ที่หญิงสาวถามประโยคเดิมกับเขาอีกแล้วพูดขึ้นว่า
“ถ้าฉันบอกเธอว่าจะพาเธอไปขึ้นสวรรค์ล่ะ เธอจะไปกับฉันหรือเปล่า”
“จะนรกหรือสวรรค์ฉันก็ไม่ไปกับคุณทั้งนั้นแหละ!”
อุรวราตวาดก้องพร้อมพยายามจะปลดล็อกประตูแล้วเปิดออกไปให้ได้ นึกหมั่นไส้ผู้ชายตรงหน้าเป็นที่สุด
พ่อเลี้ยงหนุ่มมองการกระทำของหญิงสาวตรงหน้าแล้วก็ได้หัวเราะหึหึออกมาอย่างสมเพช ‘เปิดให้ตายก็เปิดไม่ออกหรอก ในเมื่อเขากดล็อกเอาไว้ไม่ให้ประตูมันเปิดได้’ พายุคิดในใจ ก่อนจะพูดขึ้น
“สำหรับฉันมันเป็นสวรรค์ แต่กับเธอมันเป็นนรก!”
พ่อเลี้ยงพายุบอกออกมาเสียงเหี้ยม ก่อนที่จะเอื้อมมือใหญ่ไปลูบที่แขนเรียวของหญิงสาว
อุรวราถึงกับสะดุ้งเมื่อถูกอีกฝ่ายแตะต้องตัว หญิงสาวเบี่ยงตัวออกทันที ก่อนจะยกมืออีกข้างของเธอขึ้นมาพร้อมถูไปมาที่ต้นแขนเรียวอย่างแสดงออกว่าเธอนั้นรังเกียจอีกฝ่ายมากแค่ไหน
“ถูกใจล่ะสิ ถูซะแรงขนาดนั้นอยากจะให้มันฝังไปทั่วๆ แขนของเธอสินะ”
“ทุเรศ! ถูกใจบ้าบออะไรกัน! ฉันขยะแขยงต่างหากล่ะ”
อุรวราพูดว่าอีกฝ่ายอย่างไม่มีความเกรงกลัวเลยว่าจะทำให้เขาโกรธและทำร้ายเธอขึ้นมา หญิงสาวรู้แต่เพียงว่าตอนนี้เธอไม่พอใจผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเป็นอย่างมาก เขามีสิทธิ์อะไรที่จะมากระทำล่วงเกินเธอเช่นนี้ ‘ใช่! เขามีสิทธิ์อะไร และเขาจับตัวเธอมาทำไมกัน’ หญิงสาวคิดในใจ ก่อนจะพูดถามกลับไป
“คุณจับตัวฉันมาทำไม? และฉันก็จำคนที่ฉันรู้จักได้เกือบทุกคน แต่คุณ! ฉันว่าฉันไม่เคยรู้จักเลยแม้แต่นิดเดียว และครั้งนี้คุณก็ต้องตอบคำถามของฉันด้วย”
อุรวราถามออกไปเป็นชุด และครั้งนี้เธอก็ต้องการคำตอบ พ่อเลี้ยงพายุหัวเราะหึหึ ก่อนจะตอบกลับไป
“จะจับมาทำไมถ้าไม่จับมาทำเมีย!!!!”
คำพูดของเขาทำให้อุรวราอ้าปากค้าง หญิงสาวตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
“ไอ้บ้า! ไอ้ทุเรศ! ใครกันจะยอมเป็นเมียแก! ฝันไปเถอะ! เปิดรถเดี๋ยวนี้นะ! เปิด!”
หญิงสาวสบถด่าอีกฝ่ายออกมาทันที พร้อมตะโกนบอกให้เขาเปิดประตูรถให้กับเธอ
“ไม่เปิด!”
พายุเองก็ไม่ยอม ชายหนุ่มตวาดกลับมาเสียงก้องเช่นกัน หญิงสาวตื่นตระหนกไปกับเสียงตวาดของอีกฝ่าย ความหวาดกลัวแล่นลิ่วขึ้นมาเกาะกินที่หัวใจดวงน้อยในทันที ก่อนที่อุรวราจะค่อยๆ หันใบหน้าเรียวสวยกลับมามองชายหนุ่มและจ้องมองดวงตาสีนิลกาฬอย่างเต็มๆ ตาแล้วพูดออกมาอย่างใจเย็นว่า
“ฉันไม่เคยรู้จักคุณ และก็มั่นใจว่าไม่เคยทำอะไรให้คุณเจ็บแค้นน้ำใจด้วย”
“ใช่ เธอไม่เคยรู้จักฉัน”
พายุตอบออกไปน้ำเสียงเยียบเย็น จนหญิงสาวรู้สึกเย็นยะเยือกเข้าไปในอก แต่ก็พยายามทำใจดีสู้เสือ ก่อนจะพูดกับอีกฝ่ายขึ้นอีก
“ในเมื่อเราไม่เคยรู้จักกันก็แสดงว่าฉันไม่เคยทำร้ายหรือทำอะไรให้คุณต้องโกรธเคือง เพราะฉะนั้นคุณก็ควรจะปล่อยฉันกลับบ้าน”
หญิงสาวพยายามพูดจาหว่านล้อมให้เขาปล่อยตัวเธอทั้งๆ ที่ตนเองนั่นก็หวาดกลัวอยู่ไม่ใช่น้อย
“ปล่อยไม่ได้! เพราะเธอเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะทำให้การแก้แค้นของฉันสัมฤทธิ์ผล”
ดวงตาสีนิลกาฬของพ่อเลี้ยงพายุลุกวาบขึ้นมาด้วยไฟแค้นขึ้นมาทันที
“แก้แค้น! แก้แค้นอะไรกัน ฉันไปเกี่ยวข้องอะไรกับการแก้แค้นของคุณ! คุณน่าจะไปจัดการกับคนคนนั้น ไม่ใช่มาดึงเอาฉันไปเกี่ยวด้วย!”
หญิงสาวพูดไปก็ส่ายหน้าปฏิเสธไม่ยอมรับกับสิ่งที่เขายัดเยียดการแก้แค้นครั้งนี้ให้เธอมีส่วนเข้าไปอยู่ร่วมด้วย
“เกี่ยวสิ! ทำไมจะไม่เกี่ยว! ก็ในเมื่อเจ้าบ่าวของเธอมันทำน้องสาวของฉันท้องแล้วมันไม่ยอมรับ หนำซ้ำมันยังบอกให้ไปเอาเด็กออกอีก ความเลวของมันทำลายน้องสาวของฉันอย่างไม่มีชิ้นดี จนไม่เหลืออะไรเลยแม้กระทั่งชีวิต! เพราะฉะนั้นไอ้สารเลวนั้นมันต้องชดใช้!”
พายุพูดตะคอกออกมาพร้อมกับคว้าแขนเรียวทั้งสองข้างของหญิงสาวเอาไว้ในมือ ก่อนจะดึงกระชากให้เข้ามาหาเขาใกล้ๆ อุรวราตื่นตระหนกกับสิ่งที่ได้รับรู้ หญิงสาวกลัวจนร่างงามระหงสั่นสะท้านไปหมด ก่อนจะร้องบอกอีกฝ่ายด้วยความเจ็บร้าวไปทั้งแขนที่ถูกชายหนุ่มบีบเค้นอยู่
“จะ...เจ็บ...ปล่อยฉัน!”
“แค่นี้เธอยังบอกว่าเจ็บ แต่เธอรู้หรือเปล่าว่าน้องสาวของฉันต้องเจ็บปวดมากมายขนาดไหนเธอรู้บ้างไหม”
พายุตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายจนแก้วหูแทบแตก อุรวราเองแม้จะกลัวแต่ก็ไม่ยอมที่จะเป็นที่รองรับอารมณ์โกรธของใคร และยิ่งมารู้แบบนี้แล้วว่าที่ตนเองถูกจับตัวมามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลยสักนิด หญิงสาวก็ยิ่งไม่คิดจะยอมเป็นแพะรับบาปกับเรื่องนี้
“ไม่รู้! เรื่องของพวกคุณทำไมไม่ไปแก้แค้นกันเอาเองล่ะ มาจับตัวฉันเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยทำไมกัน ใครทำก็ให้คนนั้นชดใช้สิไม่ใช่มาลงที่ฉัน! ฉันไม่เกี่ยว!”
หญิงสาวตะโกนบอกออกไปอย่างสุดกลั้น
“เธอเกี่ยว! ทำไมจะไม่เกี่ยว! ก็ในเมื่อไอ้สารเลวนั้นมันเลือกที่จะแต่งงานกับเธอก็แสดงว่ามันต้องรักเธอมาก ไม่อย่างนั้นมันคงไม่บอกกับน้องของฉันว่าเธอเหมาะสมกับมันมากกว่าน้องสาวของฉันที่กำลังอุ้มท้องลูกของมันอยู่! ไอ้สารเลวนั่นมันทำลายชีวิตน้องสาวของฉัน เพราะฉะนั้นฉันก็จะตอบแทนมันกลับไปด้วยการเอาคนรักของมันมาทำลายปู้ยี่ปู้ยำบำเรอกามเล่นเหมือนกันยังไงล่ะ”
น้ำเสียงของพ่อเลี้ยงหนุ่มที่พูดออกมานั้นช่างเลือดเย็นเหลือเกิน อุรวราเมื่อได้ยินความต้องการของเขายังอดสั่นสะท้านขึ้นมาไม่ได้ ก่อนที่ริมฝีปากอวบอิ่มจะพูดครางชื่อของคนที่ชายหนุ่มนั้นเกลียดแสนเกลียดออกมาเมื่อรู้ว่าไอ้สารเลวที่ชายชุดดำพูดถึงนั้นคือใคร!
“พี่กันต์!...”
“ใช่! ไอ้สารเลวนั่นมันชื่อกันต์ รังสีภิรมย์! ทีนี้ชัดเจนแจ่มแจ้งหรือยังล่ะ”
พายุพูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว ที่ตอนนี้มีเพียงหยดน้ำตาไหลรินออกมาทั้งๆ ที่พยายามกลั้นมันเอาไว้อย่างเต็มที่แล้ว
“แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่เกี่ยว ฉันไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลยนะ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอร้อง”
อุรวราพยายามพูดอ้อนวอนชายหนุ่มตรงหน้าให้เมตตาเธอ ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่ามันคงเป็นไปได้ยาก แต่ถึงแม้จะมีความหวังเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์เธอก็อยากจะลองเสี่ยงดู
“ไม่! เรื่องนี้เธอเกี่ยวเต็มๆ โทษฉันไม่ได้หรอกนะอุรวรา ถ้าเธอจะโทษก็ต้องไปโทษไอ้สารเลวกันต์นั้น ที่มันดันมาเลือกให้เธอไปเป็นเจ้าสาวของมัน!”
คำพูดของชายหนุ่มทำให้อุรวราใบหน้าซีดเผือดขึ้นมาทันที ลมหายใจหญิงสาวเหมือนดั่งจะขาดห้วงลง ร่างงามระหงสั่นสะท้านขึ้นมาด้วยความหวาดหวั่นกับสิ่งที่ตนเองกำลังจะต้องประสบพบเจอ
ฝ่ามือเรียวสวยค่อยๆ ยกขึ้นมาปิดบังบนใบหน้าแทนการกอดประสานป้องกันความหนาวเย็นที่หัวไหล่บอบบางแทน ก่อนที่น้ำตาเจ้ากรรมจะหลั่งรินไหลออกมาราวกับทำนบแตกโดยที่ชายหนุ่มผู้ที่คิดแผนการนี้ขึ้นมาไม่ได้รู้สึกรู้สมไปกับความเสียใจของอีกฝ่ายเลย
พายุเพียงปรายตามองหญิงสาวนิดๆ เท่านั้น ก่อนที่จะตีไฟเพื่อขับเคลื่อนรถกระบะโฟร์วีลให้กลับขึ้นไปโลดแล่นอยู่บนท้องถนนอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าฝนที่ตกลงมาอย่างหนักนั้นเริ่มซ่าเม็ดลงเหลือเพียงแค่ตกปรอยๆ เท่านั้น