เช้าวันนี้ ประธานหนุ่มมาทำงานตั้งแต่เช้า จะว่าไปเขาตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ตื่นเต้นที่จะได้เจอกับแม่สาวน้อยปากกล้าเมื่อสี่ปีก่อน คิดแล้วก็ทำให้รู้สึกใจเต้นแรงยังไงไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่เมื่อสี่ปีก่อนเขาไม่มีแววที่จะรักใคร หรือเก็บใครมานอนฝัน แต่แม่สาวน้อยแก้มป่องคนนั้นกลับเข้ามาปั่นป่วนได้ทุกค่ำคืนหลังจากเจอกัน ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนเขาเข้าใจมาตลอดว่า ตัวเองนั้นรักรัตนาจนไม่สามรถรักใครได้ แต่ที่ไหนได้ ความรักที่มีต่อหญิงสาวนั้นเป็นแค่เพียงความรักแบบเพื่อนเท่านั้น อีกอย่างคงเป็นเพราะทำแต่งาน ไม่ได้เจอเพื่อนผู้หญิงมากมาย เลยคิดเอาว่าความสนิทใกล้ชิดกับรัตนานั้นเป็นความรัก แต่พอมาเจอกับชลาลัยเมื่อสี่ปีก่อน หัวใจของเขาก็เต้นแรงและเมื่อเห็นใบหน้ากลม ๆ ของชลาลัยลอยมาในความฝัน ยิ่งทำให้เกิดความปรารถนา ซึ่งความรู้สึกแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในความคิดเขา ทำไมวันนี้ชายหนุ่มถึงรู้สึกว่าเวลาเดินช้าหรือว่าเขามาเร็วเกินไปก็ไม่รู้ แต่ก็นะ เมื่อมองดูนาฬิกาตอนนี้มันก็จะแปดโมง ใกล้เวลาทำงานแล้ว แต่ที่มันช้าคงเป็นเพราะเขามาทำงานตั้งแต่ตีสี่ เลยทำให้ทุกอย่างช้าไปหมด ในที่สุดความอดทนของเทพบุตรก็หมดสิ้นลง จึงหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานขึ้นมาต่อสายหาเขมไทผู้ช่วยอาวุโส
“คุณเขม เมื่อไหร่ผู้ช่วยส่วนตัวผมจะมา นี้มันก็ใกล้จะแปดโมงแล้วนะ”
“มาแต่เช้าแล้วครับคุณเค เพียงแต่ยังไม่เข้าไปในห้องทำงานของคุณเฉย ๆ” หญิงสาวมาตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง มาถึงที่ทำงานพร้อมกับเขา แต่ไม่รู้ทำไมถึงยังไม่เข้าไปในห้องทำงานก็ไม่รู้ แต่ที่เขมไทแปลกใจและต้องรีบรายงานนายใหญ่ให้รับรู้ คือเรื่องที่นายน้อยให้ความสนใจกับผู้ช่วยส่วนตัวคนนี้เป็นพิเศษ พิเศษแบบใส่นมใส่ไข่เลยแหละงานนี้
“ทำไมผมไม่เห็นครับ รบกวนคุณเขมเรียกเขามาให้ผมหน่อย ผมจะสอนงานเธอเอง”
“จะเห็นได้ไงครับก็เห็น รปภ. หน้าบริษัทบอกว่าคุณเคมาตั้งแต่ตีสี่ แล้วจะเห็นคุณชลาลัยได้ไงครับ” เขมไทหมั่นไส้คนปลายสายนักเวลานี้
เมื่อวานนี้เขมไทได้บอกรายละเอียดเรื่องการทำงานกับพายุแล้วในระดับหนึ่ง แต่ที่เขมไทแปลกใจและงงคือทำไมต้องให้หญิงสาวไปนั่งทำงานในห้องเดียวกับตน เพราะปกติแล้วชายหนุ่มไม่ชอบให้ใครเข้าไปเกะกะในห้องทำงาน ขนาดเขาที่เป็นคนสนิทแถมผู้ช่วยยามฉุกเฉินยังได้แยกห้องทำงานเลย
“พอดีมีงานที่เคลียร์ไม่เสร็จเลยมาแต่เช้าครับ คุณเขมอย่ามัวถามผมเลย รีบตามผู้ช่วยมาให้ผมที ผมอยากสอนงาน...ใจจะขาด...” คำสุดท้ายหายเข้าไปในลำคอ
“ครับ ๆ รอสักครู่ครับ”
“ด่วนนะคุณเขม อย่าช้า ผมไม่ชอบรออะไรนาน ๆ” ว่าจบก็ตัดสาย นั่งจ้องมองบานประตู พร้อมกับนับหนึ่งถึงห้าถอยหลังในใจ
ห้า...สี่...สาม...สอง...หนึ่ง...ก๊อก!...เสียงบานประตูก็เปิดออกทันทีเมื่อนับถอยหลังในใจถึงหนึ่ง
ตีหน้าขรึมจ้องมองคนที่เดินเชิดเข้ามาในห้องทำงานด้วยความอยากสั่งสอน อยากสั่งสอนให้รู้จักจำว่าอย่ามาเชิดหน้าทำเป็นหยิ่งให้กับคนอย่างเขา แต่ก็ได้แต่เก็บความคิดนี้ไว้ในใจ ถ้าหากใจเร็วไป น้องน้อยคนสวยจะตื่นตูมหนีไปเสียก่อน แล้วตัวเขาก็จะอดอยากเฉาตาย
ผู้มาใหม่เดินเข้ามาด้วยความตื่นเต้น ตื่นเต้นกับสายตาของพ่อเทพบุตรที่เอาแต่จ้องมองเธอไม่วางตา จนตัวเธออยากกระโจนเอานิ้วจิ้มตาของชายงามตรงหน้า
“สวัสดีค่ะท่านประธาน” หญิงสาวเลือกเอ่ยทักทายก่อนเพื่อความไม่ประมาทของตน
“สวัสดีครับ น้องน้ำเต้า ไม่ใช่สิน้องน้ำคนสวย” เอาแล้วความกะล่อนเริ่มปล่อยออกมา ทั้ง ๆ ที่ความกะล่อนเจ้าเล่ห์แบบนี้ไม่เคยมีในหัวคิดมาก่อน แต่พอมาเจอแม่สาวน้อยตรงหน้ามันก็ผุดขึ้นมาเสียงั้น
ชลาลัยจิกตากลมใส่บุรุษรูปงามทันทีเมื่อถูกอีกฝ่ายเรียก ‘น้องน้ำเต้า’ คนอะไรทะลึ่ง คิดแล้วอยากชกหน้าหล่อ ๆ นี่สักสองสามหมัด อยากเห็นเลือดของพ่อปลาไหลตรงหน้าเสียจริง ๆ
“ขอบคุณค่ะท่านประธานที่ชม ดิฉันรู้ตัวว่าสวย ไม่ต้องชมก็ได้ค่ะ อีกอย่างดิฉันขอความกรุณาเรียกดิฉันคุณน้ำด้วยค่ะ อย่าเรียกน้องน้ำตงน้ำเต้าเลย เราไม่ได้สนิทกันมากพอ อีกอย่างคือเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องค่ะ”
“หึ ๆ น้องน้ำทำเป็นหวงชื่อไปได้ จะเก็บไว้ให้ใครเรียกไม่ทราบครับ และอีกอย่าง ผมเกิดก่อนคุณตั้งหลายปี ผมเป็นพี่ก็ควรจะถูก ที่ผมใช้คำสนิทสนมกับคุณไม่ใช่เพราะผมอยากได้คุณหรอกนะ...แต่อยากได้มากต่างหาก...” ถ้อยคำของประโยคขาดหายเข้าไปในลำคอ ก่อนจะพูดต่อประโยค “แต่เป็นเพราะว่าผมอยากให้เราทำงานด้วยกันง่ายขึ้น หากเราสนิทกันเป็นเหมือนพี่น้อง การทำงานของเราจะได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น ผมว่าว่าน้องน้ำคงจะเข้าใจที่ผมสื่อให้รู้นะครับ” ยังไงแล้วพายุก็ต้องยกหาเหตุผลมาอ้างเสียจนได้ ก็เทพบุตรอย่างเขาเกิดมาพร้อมสมองที่ฉลาดเป็นเลิศ จนหาใครเทียมไม่ได้นอกจากคุณแม่บังเกิดเก้าที่รู้ทันเขาไปเสียหมด
“งั้นก็แล้วแต่ท่านประธานจะเรียกค่ะ” ยอมแล้วจริง ๆ ยอมให้กับเจ้านายคนนี้ ถึงเถียงไปก็มีแต่จะเปลืองน้ำลายเปล่า ๆ สู้ตั้งใจทำงานดีกว่า “ว่าแต่ท่านประธานให้คุณเขมตามดิฉันมาทำไมคะ”
“พอดีผมอยากจะให้คุณมาช่วยเตรียมเอกสารเข้าประชุมตอนสิบโมงให้หน่อย และผมจะสอนงานคุณด้วย เลยอยากให้คุณมาทำงานก่อนเวลา” ใช่ว่าจะคิดหาเรื่องรัก เวลาทำงาน พายุคนนี้เอาจริงเอาจังนะ ถึงจะมีหวั่นไหวใจไปกับแม่สาวตาโต แก้มป่องก็เถอะ
“นั่นโต๊ะทำงานของคุณ ผมให้คุณเขมมาจัดให้คุณตรงมุมขวาของผม เวลาผมเรียกใช้งานหรือสั่งงานจะได้สะดวก” ว่าแล้วก็ชี้ไปยังทำงานที่ตนให้เขมไทเตรียมไว้ให้หญิงสาว
“ขอบคุณค่ะ” แล้วสาวเจ้าก็เดินไปยังโต๊ะทำงานของตน “แล้วไหนงานที่ท่านประธานจะให้ดิฉันเตรียมเข้าห้องประชุม” คนอยากทำงานถามหางาน
“มันจะลอยไปหาเหรอน้องน้ำ ก็มาเอาสิครับ อยู่บนโต๊ะผมนี่” ว่าพลางตบโต๊ะทำงานตนให้สาวสวยรู้
“ก็นึกว่าจะลอยได้เหมือนในแฮร์รี่ พอตเตอร์” ชลาลัยพลั้งปากพูดไปด้วยความลืมตัว ลืมไปว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไรกับชายหนุ่ม เมื่อคิดได้ว่าตัวเองพูดไม่ควรออกไปจึงเอ่ยขอโทษออกไป “เออ!...ดิฉันขอโทษค่ะ พอดีลืมตัว”
พายุยิ้มกริ่มให้กับน้องน้อยด้วยความเอ็นดู นานแล้วที่ชีวิตไม่ได้มีสีสันแบบนี้
“ไม่เป็นไรครับ ถ้าหากมันลอยได้ ผมกับคุณคงจับไข้โกร๋นกันแน่ ๆ” ยังมามีอารมณ์พูดเล่นอีก
“ท่านประธานก็ช่างหาคำมาพูดเล่นนะคะ” ชลาลัยอดยิ้มกับคำพูดของเจ้านายไม่ได้ มองดูมุมหนึ่งชายหนุ่มก็น่ารัก แต่มองดูอีกมุมโคตรกวนส้นTeen!...
“ต้องมีบ้างครับ เอาแต่นั่งตีหน้ายักษ์หน้าเดียวมีหวังไม่ได้แก่ตาย ผมเกรงว่าจะเครียดตายเสียก่อนครับ” ความกะล่อนทยอยออกมาเรื่อย ๆ จากพ่อเทพบุตรรูปงามก็คนมันหล่อ ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ดูดีไปหมด เรื่องก่อนหน้านั้นเขาได้เป็นแค่ตัวประกอบจะออกมาเต็มได้ไง ออกมาพอดีน่ารัก แต่ที่แน่ ๆ น่าสงสาร แอบรักเมียชาวบ้านเขารู้กันทั่ว พอมาถึงตอนนี้บ้างชอบอย่างแรง โดนใจอย่างแรง ดันมามีคู่หมั้นเสียก่อน