ยามเช้า องค์ฮ่องเต้ตื่นบรรทมสายเล็กน้อย ทั้งยังมิมีผู้ใดกล้าเข้ามารบกวน ร่างแกร่งลุกขึ้นสั่งนางกำนัลนำน้ำร้อนเข้ามา และมีขันทีแต่งกายให้อย่างเรียบร้อย ร่างบางยังคงเมาหลับอยู่เช่นเดิม
มือแกร่งโบกไล่ผู้คนไปด้านนอก และก้มลงเปิดผ้าห่ม กดจุมพิตลงบนลำคอขาวๆ ขบกัดดูดดึงเสียจนทั่ว ไล่ลงมาตามลาดไหล่และตามกระดูกไหปลาร้าไปจนทั่ว ขณะที่กำลังจะลากริมฝีปากลงไปที่ยอดอกน้อยๆ ร่างบางก็ตื่นขึ้นในทันทีและใช้มือผลักใบหน้าคมออกเบาๆ
"เฮือก ฝ่าบาทเช้าแล้วนะเพคะ!! "
ใบหน้าคมซบลงบนอกนางและยิ้มให้นางคราหนึ่ง ดึงสายรัดเอวนางอย่างว่องไว และแบะชายเสื้อผืนบางออกไวๆ ก้มลงดูดยอกอกสีหวานอย่างรุนแรงนัก
"อรึ้ยยยย ซี้ดดดดด !!! "
มือบางคว้าผืนผ้านุ่มขยำจนแน่นและแอ่นอกอย่างตื่นตกใจโดยพลัน ใบหน้างดงามบิดเบี้ยวและเผลอกรีดร้องออกมาและกัดฟันตนเองจนแน่น ริมฝีปากร้อนๆจึงดูดยอดอกน้อยๆที่ตั้งยอดแข็งขึ้นมาอย่างรุนแรง ตวัดลิ้นเลียแรงๆและดูดรุนแรงคราแล้วคราเล่า จนร่างบางสั่นกระตุก น้ำหวานที่กลางกายแตกพร่าในคราหนึ่ง ใบหน้าคมตาปรือค่อยๆขยับออกเบาๆ
"อา...เจิ้นเสียดายนัก หากมิใช่ต้องไปว่าราชกิจแล้ว เจ้าต้องถูกกินลงไปทั้งตัวแน่ปิงซวน"
ร่างหนาถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง ลุกขึ้นจัดแต่งกายช้าๆ และสั่งคนด้านนอกให้เข้ามา ก่อนจะตรัสสั่งนางกำนัลในตำหนักเบาๆ
"ให้พระสนมอ๋าวนอนพักไปก่อนเถิด นางเมานัก มิมีธุระใด ก็มิต้องให้ออกไปนอกตำหนักนัก จะป่วยไข้เอาได้เข้าใจหรือไม่"
เหล่านางกำนัลต่างรับคำสั่งในทันที ก้มหน้าลงจนสิ้น
"เพคะฝ่าบาท"
ร่างหนาลุกขึ้นเสด็จจากไปในทันใด ปิงซวนตาโตนางตัวสั่นระริก คลุมผ้าห่อตนเองจนแน่นในทันที
"เมื่อคืนข้ากับฝ่าบาท เป็นเช่นนั้นกันไปแล้วหรือ เหตุใดข้าจึงเมามากจนจำอันใดมิได้เลย ความรู้สึกแปลกๆนี้ มันคือการเข้าหอแล้วเช่นนั้นหรือ อา...นางกับฝ่าบาท...!!! "
ปิงซวนหน้าแดงและมุดลงในผ้าห่มทันใด นางหลับตาลงและเผลอหลับไปจนยามโหย่ว นางจึงลืมตาตื่นขึ้นมา เหล่านางกำนัลช่วยพยุงอาบน้ำ ผลัดผ้า และช่วยนางประคองกายมานั่งในเบาะนุ่ม
ร่างบางหันมองรอบกายนาง เบาะของนางถูกริบไปจนสิ้น นางถอนหายใจเบาๆคราหนึ่ง และทำหน้าบึ้งทันใด
"ฝ่าบาทนะฝ่าบาท นอกจากจะชอบเด็ดบุบผายังมิพอ ยังทรงปล้นข้าด้วย หมอนขนห่าน หุ้มขนแกะของข้า กว่าจะเย็บได้ก็ตั้งหลายตำลึง ฮึ่ยยย !!! "
เหล่านางกำนัลหัวเราะคิกคักและมิกล้าเอ่ยอันใดอีก เกรงพระสนมจะกริ้วขึ้นมา ปิงซวงทำหน้ายู่และหยิบคันฉ่องมาส่องใบหน้าตนและตาโตขึ้น ยามพบว่าลำคอนางมีจุดคล้ำม่วงอยู่มากมายนัก นางตื่นตกใจและให้คนไปตามหมอหลวงมาทันที
"ชุ่ยฮัว ผิวของข้าเป็นอันใดก็มิรู้ เจ้ารีบไปตามหมอหลวงให้ข้าเร็วเข้า !!
นางกำนัลไปแจ้งเหล่าขันที เหล่าขันทีหัวเราะคิก และเดินไปขอยาบำรุงผิวจากหมอหลวงมาถวายให้พระสนมทันที และเร่งรีบไปรายงานองค์ฮ่องเต้ทันใด
ยามขันทีมากระซิบเบาๆที่ข้างหู ใบหน้าหล่อเหลา หัวเราะลั่นห้องอักษรทันใด
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า บุตรสาวเสนาบดีอ๋าวช่างตลกจริงๆ บอกนางว่าหากนางมิอยากแพ้แมลงเช่นนั้น ให้มาขอเจิ้นนอนในตำหนักอานผิงเสียเถิด"
ขันทีชราหัวเราะเบาๆ และส่งนางกำนัลไปทูลพระสนมอ๋าวที่ตำหนักชุนชิวอย่างนอบน้อม ปิงซวนทุบหมอนแรงๆ และเขวี้ยงหมอนไปที่ผนังทันที
ยามแรกนางนึกว่านางแพ้สิ่งใดเข้าแล้ว แต่มิคิดว่ายามฝ่าบาทตรัสขึ้นมา นางนึกถึงแมลงตัวหนึ่งได้พอดี แมลงตัวนี้ร้ายกาจนัก ปิงซวนทำหน้าเบ้และเขวี้ยงหมอนปะทะกำแพงอีกคราหนึ่ง
"ฮึ้ยยย !!! "
ยามนางโกรธเคืองขึ้นมา นางก็โมโหนัก ปิงซวนขุ่นเคืองอยู่มิน้อยที่จะต้องถูกกินอยู่เช่นนี้จากโจรเด็ดบุบผาในวังหลวง ปิงซวนทำตาโตและไล่นางกำนัลออกไปทันที นางแสร้งเป่าเทียนและทำเป็นหลับ
ยามนางกำนัลหลับจนสิ้น ปิงซวงเก็บข้าวของมีค่าและยัดลงห่อผ้าสีทึบทึมในราตรีกาล ปิงซวงสวมชุดดำและทะยานออกมาทางประตูวังในทันที
เคราะห์ไม่ดีนักที่ปิงซวงทำได้ทุกสิ่ง แต่ทว่าด้วยความเกียจคร้านของนาง ยามนางทะยานออกมา นางมิรู้เส้นทางจะไปต่อ เช่นนี้นางจึงหลงวนเวียนอยู่ในวังหลัง และต้องคอยหลบหลีกองครักษ์หลวงมาตลอดทาง จนถึงเส้นทางหนึ่งที่เงียบสงัด มีแสงโคมริบหรี่ ปิงซวนหลงเข้าไป
ยามนางหลงวนเวียนมานาน นางก็พบกับน้ำพุร้อน เป็นน้ำตกจำลองตกลงมากรุ่นไอขาว ร่างบางทำหน้างอและนั่งลงที่ก้อนหินก้อนหนึ่งและตีน้ำจนสาดกระจาย
"โอ๊ยย ข้าเหาะมาตั้งไกลแล้ว เหตุใดจึงออกจากวังหลวงไม่ได้ซักทีนะ ขืนชักช้าข้าต้องถูกเจ้าฮ่องเต้หื่นกามนั่น กินเข้าจนหมดตัวแน่ๆ ฮือ แค่วันแรกข้าก็เสียเปรียบไปมากมาย หากเพียงเสด็จมาอีกครา ข้าคงถูกกินมิเหลือแน่ ฮือ ฮือ "
ร่างบางตีน้ำเพี๊ยะ เพี๊ยะ น้ำสาดกระเซ็นไปทั่ว ร่างหนาถือพัด ยืนดูนางจากระเบียงตำหนักอยู่นานแล้ว ฟังนางนินทาพระองค์ลับหลังอยู่นาน และค่อยๆโบกมือเรียกองครักษ์ให้ออกไปช้าๆ ยามพบว่าสิ่งที่คล้ายผู้บุกรุกคือสนมอ๋าว ที่คิดหาทางหนีออกไปนอกวังหลวง
ดวงตาคมจ้องมองนาง และเขวี้ยงพัดตัดดอกไม้ลงล่องลอยปลิวลงมาไปทั่วบ่อน้ำนั้น ร่างบางที่กำลังกรุ่นโกรธนัก เงยหน้ามองขึ้นไปเบาๆ และแย้มรอยยิ้มบานทันที
"ว้าววว โห สวยจังเลย งดงามยิ่งนัก ในยามที่ข้าท้อถอยในการหนี มิคิดเลยสวรรค์จะส่งสายลมจากสวรรค์มาปลอบโยนข้า มิให้ข้าท้อถอย ส่งดอกไม้โปรยปรายลงมาเช่นนี้ งดงามนัก ว้าววว งดงามที่สุดเลย งดงามนัก "
ปิงซวงทำตาโตและจือปากอย่างพึงใจ นางหมุนไปรอบๆพายุดอกไม้นั้นแล้วหัวเราะอย่างมีความสุข ดอกไม้ปลิว และลอยวนไปมารอบๆนางอยู่นานนัก ปิงซวนเต้นรำใต้พายุดอกไม้จนเหนื่อย นางจึงนั่งลงและค้นขนมในห่อผ้าออกมาและดึงกระบอกน้ำน้อยๆ ออกมาวางตั้ง
ปิงซวงมองซ้ายมองขวาและหัวเราะเบาๆ นางนึกสนุกขึ้นมาจึงเปลื้องผ้าลงช้าๆ ร่างที่แอบอยู่บนระเบียงยืนกอดอกมองนาง แล้วแย้มรอยยิ้มบางๆออกมาทันที
ปิงซวงค่อยๆเดินลงแช่น้ำช้าๆ และนอนอิงขอบบ่อน้ำร้อนอย่างพอใจ นางแทะขนมคำหนึ่งและดื่มน้ำชาหอมอบอวลไปอึกหนึ่ง ใบหน้างดงามแสนสุขใจนัก นางหลับตาพริ้มเบาๆ