ปิงซวงต้มน้ำแกงไก่ไปให้องค์ฮ่องเต้ แต่ทว่ายามไปถึงนั้น หน้าห้องอักษรมีเหล่าสตรีต่อแถวมากมายนัก นางจึงได้แต่ฝากขันทีชราผู้หนึ่งที่กำลังจะเดินผ่านไป และหลบออกไปในทันที
มิคาด ยามองค์ฮ่องเต้รู้ว่า เป็นน้ำแกงของสนมอ๋าว ก็ทรงดื่มลงไปในทันที และเสวยโจ๊กเห็ดหอมของนางลงไปอีก จากที่ทรงอิดออดเบื่ออาหารมาทั้งวัน
"อืม...เจิ้นมิเคยคิดเลยว่านางจะมีฝีมือในการปรุงอาหารถึงเพียงนี้ น้ำแกงไก่นี่ ดื่มแล้วรู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้นมาเลย เช่นนี้กงกงจงไปบอกนางว่า ให้ทำอาหารส่งมาที่ตำหนักนี้สามมื้อ ทุกๆวันเป็นเวลาครึ่งเดือน อย่าให้ซ้ำกันบ่อยนัก เข้าใจหรือไม่กงกง ว่าแน่นอนเป็นความลับ ท่านต้องไปนำมาอย่างเงียบๆ อย่าให้ผู้ใดรู้เด็ดขาด"
ขันทีชราแย้มรอยยิ้มบางๆ และนำรับสั่งไปทูลพระสนมอ๋าวในทันที ยามปิงซวงได้รับคำสั่งนั้น นางหน้าบูดขึ้นมาในทันที ก่นด่าอยู่ในใจ
"ฮึ่ม แค่เพียงทำอาหารถวายหนึ่งครา กลับใช้แรงงานข้าถึงครึ่งเดือน ฝ่าบาทนะฝ่าบาท ฮึ่ยยย !!!! "
ปิงซวงจึงวุ่นอยู่แต่ในครัวของตำหนักนางจนถึงครึ่งเดือนนับจากนั้น และยามพ้นครึ่งเดือน ปิงซวงก็กลับมาอ่านนิยายประโลมโลกอีกครา นางสั่งนางกำนัลออกไปซื้อมามากมายนัก
ยามนางกำนัลเหล่านั้น กลับเข้ามา ก็พบขบวนเสด็จขององค์ฮ่องเต้ ทรงสั่งตรวจค้น นางกำนัลเหล่านั้นอย่างละเอียด พบว่ามีแต่อุปกรณ์ปักเย็บ ขนมของพระสนมและนิยายประโลมโลก ทรงสรวลจนท้องแข็งและกระซิบขันที ให้นำตำราข้างหมอนเล่มหนึ่ง ลอบปะปนไปแกล้งนาง ก่อนจะสั่งตรวจค้นเหล่านางกำนัลทุกตำหนัก ที่เข้าออกต่อไป อย่างเข้มงวดนัก
สนมอ๋าวนั่งไขว้ขาบนโต๊ะเล็กและเอนกายพิงหมอน เปิดตำราสีแปลกตาเล่มหนึ่งขึ้นมาในยามราตรี ก่อนจะตาโตขึ้นมาและค่อยๆเปิดดูทีล่ะหน้า ใบหน้าแดงระเรื่อ
ภายนอกตำหนัก โคมไฟของตำหนักนางถูกจุดขึ้นอีกครั้ง และเหล่านางกำนัลก็หายไป รอบตำหนักกลับกลายเป็นเหล่าขันที และทหารยามรักษาการณ์อย่างแน่นหนา
ในขณะที่ปิงซวงกำลังหน้าแดงก่ำ เสียงขันทีก็ดังขึ้นที่หน้าประตู และร่างหนาก็ผลุนผลันเข้ามาภายใน ปิงซวงตื่นตกใจมากนัก เร่งแอบตำราไว้ที่ใต้หมอนทันใด และเร่งลุกมาถวายบังคม ดวงตาหลุบลงใบหน้าแดงจนถึงใบหู
"ถวายบังคมเพคะฝ่าบาท"
"ลุกขึ้นเถิดสนมรัก เจ้าเหตุใดจึงหน้าแดงนักเล่า สบายดีหรือไม่สนมรัก "
เสียงทุ้มนุ่มกระซิบที่ข้างหู วงแขนแกร่งรัดนางจนแน่นหนา และดึงนางตรึงจนติดกำแพงในด้านหนึ่ง เหล่าขันทีเร่งปิดประตูทันใด
"ฝ..ฝ่าบาท..ทรงเสวยสิ่งใดมาแล้วหรือยังเพคะ หม่อมฉันจะตั้งสำรับให้ดีหรือไม่เพคะ"
ใบหน้าคมแย้มรอยยิ้มบาน และส่ายหน้าเบาๆ ดึงมือนางแนบในอกทันใด
"อย่าลำบากเลยสนมรัก ดึกป่านนี้แล้วเจิ้นอิ่มแล้วล่ะ เพียงแต่วันนี้คิดถึงเจ้านัก เจิ้นบาดเจ็บเสียหลายวัน ขยับมิถนัดนัก ยามนี้สบายดีแล้วจึงเร่งมา กลัวเจ้าจะเหงานัก "
อ๋าวปิงซวงพยายามดึงมือนางออกจากอกแกร่ง ใบหน้าแดงระเรื่อนัก ร่างหนาดันนางติดแนบไปกับผนัง บดจุมพิตร้อนลวก ควานในริมฝีปากหวาน และยกชายกระโปรงนางขึ้นเบาๆ ล้วงมือลงในกลีบเนื้อนุ่มชอนไชเบาๆ และกระแทกปลายนิ้วแกร่ง ทิ่มลึกจนสุดโคน
"อรื้ออออออออ !!!! "
ร่างบางตาโตและตัวสั่นกระตุกอย่างรุนแรงนัก ยามริมฝีปากร้อนๆบดขยี้ริมฝีปากนาง ร่างบางผวาขยำสาบเสื้อของฝ่าบาทจนยับย่น
นิ้วร้ายกาจกระแทกเข้าออกในกลีบเนื้อนุ่มแน่นอย่างถี่กระชั้น ภายในกายสาวบีบรัดแน่นหนึบ ยามริมฝีปากร้อนๆถอนออกไป ร่างบางก็กรีดร้องลั่น
"อร้า ฝ่าบาท อร้า ซี้ดด ฝ่าบาท อย่า อรึ้ยยย แอร๊ยย ซี้ด ซี้ดด "
ร่างบางตัวสั่นไหว นางอ้าปากร้องแอ่นกายขึ้นหาและพิงผนังไปทั้งตัว ภายในของนางกระตุกถี่ๆ ร่างบางส่ายหน้าไปมา ดวงตาตื่นตระหนกตกใจนัก
"หึ หึ ตกใจหรือปิงซวง คราแรกก็เช่นนี้ อีกมินานเจ้าก็ชินไปเองล่ะ"
นิ้วร้ายกาจกระแทกกระทั้น หมุนคว้านในกายสาว ที่รัดรึงบีบรัดแน่นหนึบจนแทบมิอาจขยับนิ้วออกมาได้ นิ้วเรียวยาวคว้านลึก จนร่องสาวเสียวซ่าน กายสาวกระตุก น้ำแตกกระเซ็นอย่างรุนแรง
"กรี้ดดด อร้ายยย "
นิ้วร้ายกายชักออกมาช้าๆและยกขึ้นแลบปลายลิ้นเลียไปมาเบาๆ กระซิบเสียงแหบพร่า
"สนมรักมิมีอันใดน่ากลัวเลย เจิ้นจะถนอมเจ้าให้มากนัก เจิ้นสัญญา"
ร่างบางอ่อนยวบลงในอ้อมแขนแกร่ง ร่างสูงใหญ่อุ้มนางขึ้นในวงแขนและวางนางลงในฟูกนุ่มเป็นพิเศษของนาง และตีจมูกนางเบาๆ
"เจ้าบังอาจนักปิงซวง เหตุใดที่นอนเจ้าจึงนุ่มกว่าของเจิ้นไปเสียได้ บังอาจจริงๆเลย"
ปิงซวนหน้าแดงและหลุบตาลงต่ำ เอ่ยอย่างหวั่นเกรงความกริ้วอยู่มากนัก
"หากฝ่าบาททรงชอบ หม่อมฉันจะเย็บฟูกถวายให้เพคะ แต่ก่อนจะเย็บฟูกนั้น ต้องขอประทานอนุญาตไปวัดขนาดแท่นบรรทมก่อนจึงจะเย็บได้เพคะ "
ใบหน้าคมแย้มรอยยิ้มทันใด และกระตุกสายคาดเอวนางทันที และขยิบตาให้เบาๆ
"เจิ้นอนุญาต ตั้งแต่คืนพรุ่งนี้ เจ้าต้องไปวัดขนาดที่นอนของเจิ้นให้ชัดเจน ต้องนอนให้รู้แน่ชัดว่ามันแข็งกว่าที่นอนเจ้าอย่างไร จะได้ปรับแก้ได้อย่างไรสนมรัก"
"อื้อ ฝ่าบาท เหตุใดต้องถอดผ้าหม่อมฉันด้วยเพคะ"
ใบหน้าคมยิ้มออกมาและกระตุกสายเอี้ยมนางในทันใด โยนลงไปข้างเตียงและตรึงเรือนผมนางแน่นๆ บดขยี้ริมฝีปากอุ่นร้อนเข้าหา หลับตาลงและกวาดลิ้นไปมาจนร่างสาวดิ้นไปมาใต้ร่างแกร่ง
"อื้ม ฝ่าบาทเพคะ "
"ชู่ว มิใช่ว่า เจิ้นส่งตำรามาสอนแล้วหรืออย่างไร หากมิเข้าใจเจ้าก็เพียงอยู่นิ่งๆ เจิ้นจะสอนเจ้าเองในยามปฎิบัติ มิต้องหวั่นกลัวนัก"
นิ้วมือแกร่งแตะริมฝีปากนุ่มเบาๆและเลื่อนริมฝีปากลงช้าๆ ดูดดึงยอดอกสีหวานแรงๆบีบเคล้นฝ่ามือลงนวดเฟ้นอกนุ่มหยุ่นช้าๆและรวบดูดดึงพร้อมๆกัน
"อื้อออ ซี้ดดด อร้าา "
ร่างบางดิ้นเร่า พยายามผลักใบหน้าคมออกแรงๆ แต่ทว่ายามผลักออก ริมฝีปากอุ่นร้อนกลับดูดยอดอกของนางแรงขึ้น และยามนางดันออก ริมฝีปากร้อนๆก็ดึงยืดยอดออกนางไปด้วย เสียวจนแทบคลั่ง กรีดร้องเสียงดังออกมา
"ซี้ดดด อรึ้ยยย อร้ายยยย "