หญิงสาวแปลกใจกับข่าวใหม่ที่ได้รับ เรื่องราวของเธอพัวพันไปถึงเรื่องผับและยาเสพติดได้อย่างไร ทว่าอีกคนกลับอ่านความคิดที่ถ่ายทอดออกมาทางแววตาของหญิงสาวออก
ชายหนุ่มหันมาสบตาภรรยาและบีบมือของเธออย่างปลอบโยน ก่อนที่จะพูดประโยคต่อมา
“ส่วนเรื่องของผมกับคุณรษา เรารักกันมานานและมีกำหนดที่จะแต่งงานกันในอีกไม่ช้า แต่เพราะความที่ช่วงนี้งานผมยุ่งและงานยังไม่ลงตัว อีกทั้งพ่อกับแม่ของผมก็อยู่ต่างประเทศ เราก็เลยยังไม่พร้อมที่จะจัดพิธีแต่งงาน คงไม่แปลกที่เธอจะมาหาผมที่ผับและเดินออกจากโรงแรมด้วยกัน” เขาเว้นระยะ กวาดสายตามองนักข่าว
“วันนี้เราจดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้ว แล้วนี่ก็เป็นหลักฐานยืนยันความรักของเรา” เลขานุการของปรินทรชูเอกสารการจดทะเบียนสมรสให้สื่อมวลชนดูอย่างรู้งาน
ปรินทรกดจมูกโด่งลงบนแก้มเนียนใสของหญิงสาวเพื่อย้ำชัดกับคำพูดของเขาให้นักข่าวบันทึกภาพ ทั้งที่คนโดนกระทำก็เพิ่งรู้เรื่องราวความรักของตัวเองพร้อมกับนักข่าวนี่เอง
“ผมขอจบการแถลงข่าวเพียงเท่านี้นะครับ ขอเชิญทุกท่านรับประทาน ของว่างร่วมกันในห้องรับรอง วันแต่งงานของเราขอเชิญทุกท่านมาเป็นเกียรติให้เราสองคนด้วยนะครับ วันนี้ผมต้องขอตัวพาภรรยาของผมไปพักผ่อนก่อน” พูดจบปรินทรก็รั้งร่างบางของรษาลุกขึ้นเดินออกไปทันที ไม่ปล่อยให้นักข่าวได้ถามอะไรต่อ
หญิงสาวเดินตามเขาไปอย่างงงๆ ไม่ต่างจากนักข่าว ตอนนี้เกิดคำถามมากมายในสมอง
ปัง! พ่อเลี้ยงธามทุบโต๊ะเสียงดังลั่นหลังจากที่ฟังการแถลงข่าวจบ จดทะเบียนและแถลงข่าวเป็นอีกเรื่องราวที่พ่อเลี้ยงธามไม่ได้รับรู้มาก่อน
“มันเกิดอะไรขึ้น” ธามหันมาถามคณาธิป เพียงแค่คืนเดียวที่เขาลงมากรุงเทพฯ ทุกอย่างเปลี่ยนไปมากขนาดนี้เลยหรือ
“ไม่รู้เหมือนกัน ที่ไร่ก็ไม่มีใครรู้เรื่องสักคน ญาดาก็ไม่รับสาย น้องรษาก็ปิดเครื่อง” คณาธิปตอบกลับทั้งที่มือยังกดโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา
“ไอ้ปรินทรมันหักหน้าฉัน ฉันทนไม่ไหวแล้ว นายเลื่อนนัดวันนี้ไปก่อน ฉันจะกลับไร่ด่วนที่สุด!” คำพูดที่ออกมาจากปากพ่อเลี้ยงหนุ่มเหมือนเป็นคำสั่งกลายๆ ให้คณาธิปเตรียมตั๋วเครื่องบิน ซึ่งเขาก็เปลี่ยนจากเบอร์ของญาดาเป็นโทรไปที่จองตั๋วเครื่องบินแทน
อีกมุมของเชียงราย มินตรากำหมัดแน่นอย่างเดือดดาล เพียงไม่กี่วันที่เธอชะล่าใจ ปรินทรก็หาทางออกให้รษาได้อย่างสวยหรู ทั้งที่หลักฐานชัดเจนทั้งภาพและคลิปที่เธอส่งให้นักข่าวแต่ละสำนักพิมพ์ อีกทั้งเนื้อหาข่าวที่โดนกระพือออกไปก็แรงพอที่จะทำให้คนในข่าวเน่าไม่เหลือชิ้นดี
“นังรษา แกทำบุญมาด้วยอะไร” มินตราจ้องหน้าจอตาถลนปูดโปนออกมานอกเบ้า กำมือแน่นด้วยความโกรธโมโหสุดกำลัง
หลังจากที่เดินออกมาจากห้องแถลงข่าว เมื่อคู่ข้าวใหม่ปลามันเดินกลับมาอยู่ในห้องทำงานของชายหนุ่มผู้บริหารโรงแรม รษาก็เงยหน้ามองคนตัวสูงที่เดินประคองเธอออกมา
“มันเรื่องอะไรกันแน่ คุณจะเล่าให้ฉันฟังได้หรือยัง”
“เรื่องอะไร มีตั้งหลายเรื่องที่เราทำร่วมกันวันนี้ และอีกไม่นานก็จะทำอีกหลายเรื่องร่วมกันในฐานะสามีภรรยา” ปรินทรยวนหยอกสาวน้อยที่นั่งหน้าตึงอยู่ข้างตัวอย่างอารมณ์ดี ไม่วายฉกหอมแก้มเนียนอีกครั้งในตอนที่หญิงสาวเผลอ
“นี่คุณ!” หญิงสาวเสียงเข้มดุ ผลักหน้าอกของเขาออก ขยับลุกขึ้นยืนหนีการเอาเปรียบของเขา
“ก็คุณเป็นเมียผม หอมแก้มเมียมันผิดกฎหมายข้อไหนไม่ทราบ” ชายหนุ่มลอยหน้าลอยตาตอบ พร้อมกับดึงแขนรั้งตัวหญิงสาวลงนั่งบนตัก ปิดล็อกการขยับเขยื้อนทุกด้านด้วยพันธนาการสีเนื้อของเขา กดจมูกโด่งสูดความหอมจากแก้มเนียนอีกครั้ง
“ต่อไปต้องแทนตัวว่ารษา แล้วต้องเรียกผมว่าพี่ปริน แล้วก็พูดกับสามีเพราะๆ หวานๆ มีหางเสียงทุกคำ เข้าใจไหม”
“เยอะไปแล้วลุง แก่ขนาดนี้ยังจะเป็นพี่อีกหรือ แล้วอีกอย่างฉันก็พูดอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร” หญิงสาวตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ ที่ผ่านมาไม่มีใครเคยสั่งเธอได้สักคน แม้แต่พี่ชาย
ชายหนุ่มช้อนยกตัวหญิงสาวขึ้นมาบนตัก รั้งใบหน้าของเธอกลับมาหาเขา กดริมฝีปากอุ่นหนาลงบนริมฝีปากเคลือบสีมันวาว ส่งผ่านความรู้สึกอุ่นซ่านหวานละมุนให้ลิ้มรสรัญจวนในจูบแรกของหญิงสาว จูบลงโทษที่แสนรัญจวนในความรู้สึกของสาวน้อย
ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกอย่างแสนเสียดาย
“ก็ได้ ถ้าไม่ทำตามอย่างที่บอก ผมก็จะล็อกตัวไว้บนตักและจูบอยู่อย่างนี้จนกว่าจะพูดหวานเหมือนรสจูบของผมนั่นแหละ ไหนลองพูดสักคำสิ จะหวานแค่ไหน แต่ถ้าไม่ วันนี้ก็เตรียมปากเปื่อยได้เลย” ชายหนุ่มขู่ แต่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยหญิงสาวลงจากตักอย่างที่เขาบอก แถมยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“คุณก็ปล่อยรษาก่อนสิคะ นั่งอยู่บนตักคุณอย่างนี้รษาอึดอัด” ชายหนุ่มส่ายหน้าแทนคำตอบ แถมยังเกยคางสากของเขาไว้บนไหล่เนียนของเธออย่างถือวิสาสะ เมื่อไม่มีทางออกที่ดีกว่า รษาจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาแทน
“ช่วยเล่าเรื่องคืนนั้นให้รษาฟังหน่อยสิคะ รษาโดนวางยาและข่มขืนที่โรงแรม ผู้ชายที่ลวนลามรษาใช่คุณคนเดียวหรือเปล่า”
“เฮ้ย! เอาอะไรมาพูด คุณไปเอาความคิดบ้าๆ แบบนั้นมาจากไหน ผมนี่นะ! จะข่มขืนผู้หญิง ผมไม่ได้อดอยากปากแห้งถึงขนาดต้องวางยาแล้วลากไปข่มขืนนะคุณ คุณดูหนังมากไปหรือเปล่าเนี่ย” ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นตกใจ สะดุ้งโหยงร้องเสียงหลงกับข้อกล่าวหาที่ได้รับ แล้วศาลเตี้ยก็ประทับรับฟ้องไปแล้ว และเขาเองก็ได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้เรียบร้อย
ปรินทรเอียงหน้ามองหญิงสาวบนตักอย่างจับผิด ทั้งที่เป็นแผนของตัวเอง
“นี่! อย่าบอกนะ คุณหนูฟันน้ำนมว่าเข้าใจไปตุเป็นตะว่าผมข่มขืนจริง ผมคิดว่าคุณเครียดเรื่องคลิปข่าวในผับเสียอีก” ชายหนุ่มเหน็บคนบนตักอย่างอารมณ์ดี ข้ออ้างทางออกที่เขาคิดเอาไว้ก่อนแล้ว ทั้งที่รู้เรื่องราวและเห็นคลิปข่าวทั้งหมดแล้ว แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้
“คุณหมายความว่า เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่รษาเข้าใจเหรอ” คนบนตักถามกลับทันที
“แล้วคุณเข้าใจว่าอย่างไรล่ะ เข้าใจว่าถูกข่มขืนน่ะหรือ คุณไม่รู้เลยหรือไงว่าไอ้การที่คุณถูกผู้ชายข่มขืนน่ะมันต้องมีอาการเป็นอย่างไรบ้าง คิดเอง เออเอง เข้าใจเอง แต่ผิดถนัด!”
รษาถึงกับปรี๊ดแตกกับคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้า พูดมาได้ไม่คิด ถ้าเธอไม่เข้าใจอย่างนั้น เธอจะมานั่งเสียใจเป็นบ้าเป็นหลัง กินไม่ได้นอนไม่หลับ กินยาเกินขนาดเกือบตายอย่างนี้หรือ
“ฉันจะรู้ได้อย่างไรล่ะ ฉันไม่เคยโดนข่มขืนนี่!”
“อ้าวคุณ แล้วทำไมวันนั้นถึงคิดได้เป็นตุเป็นตะล่ะว่าโดนข่มขืน แล้วตอนนี้มาบอกปาวๆ ว่าไม่เคยสักครั้ง เห็นตอนนั้นโวยวายโรงแรมแทบแตก”
“นี่คุณ...ฉันไม่มีเวลามาฟังคุณเล่นลิ้นนะ” หญิงสาวดิ้นขลุกให้หลุดจากพันธนาการสีเนื้อแข็งแรงของเขา
“พูดไม่เพราะ เดี๋ยวก็โดนจูบสั่งสอนแบบเล่นลิ้นจริงๆ หรอก” ชายหนุ่มขู่สำทับอีกรอบ
หญิงสาวเงียบทันที