มินตราเดินเข้ามาที่ไร่ปกรักอย่างร้อนรน เธอเหมือนนกรู้ที่เข้ามาได้ทันเวลา เธอเก็บความรู้สึกข้างในไว้มิดชิด ภายใต้กรอบหน้าหวาน กิริยาอ่อนโยนที่ทุกคนในไร่เห็นจนชินตา แตกต่างจากน้องสาวเจ้าของไร่ที่โดนเลี้ยงอย่างตามใจมาตั้งแต่แม่หนีไปกับผู้ชายคนอื่น ตั้งแต่หญิงสาวจำความไม่ได้
“สวัสดีค่ะแม่นุ่ม รษากลับมาบ้านหรือยังคะ” หญิงสาวถามแม่บ้านด้วยอาการร้อนรน ใจร้อนรุ่มดั่งไฟสุม ทั้งเจ็บใจเพื่อนของเธออีกคนที่ไปด้วยกัน
“กลับมาแล้วค่ะ พักอยู่บนห้องคุณจะขึ้นไปดูหรือเปล่าคะ คุณธามพาขึ้นไปพักเมื่อสักครู่นี้เอง” แม่บ้านเก่าแก่ของไร่ตอบเสียงเรียบ มินตรายกมือทาบอก พ่นลมออกจากปากบอกอย่างใส่จริต
“เมนี่ค่อยโล่งอกและสบายใจหน่อยค่ะ ที่รู้ว่าเพื่อนรักกลับมาอย่างปลอดภัย ว่าแต่พี่ธามไปกรุงเทพฯ กลับมาแล้วหรือคะ” เธอไม่วายถามถึงชายหนุ่มเจ้าของไร่ต่อ ที่รษาออกไปเที่ยวได้ก็เพราะพี่ชายไม่อยู่ไร่เท่านั้น
“พี่เพิ่งกลับมาถึง กำลังอยากเจอเราพอดี พี่อยากคุยเรื่องรษาหน่อย” พ่อเลี้ยงธามเดินลงมาจากข้างบนพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่แม่บ้านจะตอบ มินตราปรับสีหน้าตื่นให้เศร้าลงไปอีก เพราะคนอย่างพ่อเลี้ยงธามฉลาดมาก เขาไม่มีทางที่จะเชื่ออะไรง่ายๆ
“ถ้าพี่ธามอยากรู้เรื่องเมื่อคืน เมนี่เองก็ร้อนใจไม่แพ้กันหรอกค่ะ แล้วเมนี่ก็มาหารษาเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อคืนจู่ๆ ยัยรษาก็หายไปกับใครก็ไม่รู้ พวกเราตามหากันทั้งคืน่” มินตรายังตีหน้าเศร้าบีบน้ำตาเล่าต่อ ยังไงเมื่อคืนรษาก็เมามาก คำพูดของคนผู้หญิงเรียบร้อยอย่างเธอต้องน่าเชื่อถือกว่าเป็นแน่
“เรื่องมันเป็นมายังไง ไหนเมนี่ลองเล่าให้พี่ฟังซิ” พ่อเลี้ยงหนุ่มถามกลับเพื่อนน้องสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สีหน้าและดวงตาของเขาก็เรียบเฉย ไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ใดๆ ให้คู่สนทนารับรู้ ทั้งที่ในใจของเขาตอนนี้ร้อนรุ่มเหมือนภูเขาไฟฟูจิกำลังจะปะทุ ลาวาพร้อมที่จะพ่นออกมาได้ทุกเมื่อ
มินตรายกมือป้ายคราบน้ำตาอย่างรู้สึกผิด ขยับตัวเข้าหาพ่อเลี้ยงหนุ่มหวังให้เขาปลอบโยน แต่ทว่าชายหนุ่มกลับเดินเลี่ยงไปนั่งบนเก้าอี้ตัวสูงหน้าเคาน์เตอร์บาร์แทน
“พี่ธามอย่าว่ายัยรษาเลยนะคะ เมนี่ผิดเองที่ไม่ห้ามเพื่อน ทั้งที่รู้ว่าพี่ธามไม่ชอบให้ยัยรษาไปเที่ยวกลางคืน ไม่ให้ดื่มเหล้า แต่ว่า”
“เอาละ! พี่รู้จักนิสัยยัยรษาดี ถ้าจะไปคงไม่มีใครห้ามได้หรอก เมนี่อย่าโทษตัวเองเลย เข้าเรื่องเลยดีกว่า” พ่อเลี้ยงหนุ่มตัดบทอย่างรำคาญอาการพร่ำพรรณนาของเพื่อนน้องสาว พูดต่อด้วยโทนเสียงที่ราบเรียบเหมือนเดิม และใบหน้าก็เรียบสนิทไม่แพ้กัน
“เมนี่ขอโทษพี่ธามด้วยนะคะที่เมนี่ก็ดูแลยัยรษาไม่ดี แต่พวกเราห้ามไม่ให้ยัยรษาดื่มเหล้า เธอก็ไม่เชื่อ แต่พอดื่มไปแล้วเธอก็นึกสนุกออกไปเต้นกับผู้ชายกลางฟลอร์” ถึงตอนนี้ธามก็หันกลับมามองคนเล่า เริ่มคล้อยตามหญิงสาวเจ้าน้ำตาตรงหน้า เพราะเขาก็รู้นิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจของน้องสาวดี หญิงสาวลอบยิ้มพอใจกับผลงานเล่นละครตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จต่อ
“พอพวกเราจะพายัยรษากลับบ้านเธอก็ไม่ยอมท่าเดียว จังหวะที่เมนี่กับพิณไปเข้าห้องน้ำ พอกลับออกมาอีกทีเราก็ไม่เจอยัยรษาแล้วค่ะ เราสี่คนตามหายัยรษาเกือบทั้งคืนแต่ก็ไม่มีวี่แวว เมนี่ก็เลย เข้ามาสารภาพผิดที่ไร่นี่ล่ะค่ะ แต่ก็โชคดีและก็โล่งอกโล่งใจมาก เห็นแม่นุ่มบอกว่ายัยรษากลับมาแล้ว ใช่ไหมคะ” สาวสวยตรงหน้ายังตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จต่อ ไม่รู้เลยว่าตอนนี้สีหน้าของพ่อเลี้ยงธามเครียดขึงขึ้น
“พวกเธอไม่มีใครเห็นเลยหรือว่ายัยรษาออกไปกับใคร”
“เมนี่ต้องขอโทษค่ะ เมนี่ไปเข้าห้องน้ำไม่ถึงห้านาทียัยรษาก็หายไปแล้ว เพื่อนที่มาด้วยก็มัวแต่เกี้ยวสาวโต๊ะข้างๆ ไม่ทันได้มองสักคน ก็เลยไม่มีใครเห็นค่ะ”
“พี่ขอบใจเธอมากที่ยังอุตส่าห์เป็นห่วงยัยรษา ตามมาดูถึงที่ไร่ น้องสาวพี่เหลวไหลจริงๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ธาม รษากลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้วไม่ใช่หรือคะ”
“เธอลองไปบนห้องก็แล้วกัน จะได้รู้ว่าเรื่องดีหรือไม่ พี่ไม่อยากพูดอะไร” เขาบอกเสียงเครียดเดินนำหญิงสาวไป
มินตรายกมือทาบอกอีกรอบ ตาลุกวาวทำทีเป็นตกใจ “เกิดอะไรขึ้นหรือคะ” เดินตามพ่อเลี้ยงธามขึ้นไปข้างบนห้องของรษา
ประตูห้องเปิดกว้างต้อนรับคนมาใหม่ แววตาที่ทอดออกมากลับเป็นยิ้มเยาะแทนที่จะห่วงใย ทันทีที่เห็นสภาพหญิงสาวตรงหน้าไม่ต่างจากถูกรุมโทรมสักนิด เมื่อคืนที่ผ่านมา รษาเป็นเมียใครก็ไม่รู้
มินตรายกมือทาบอกใส่อย่างจริต “ตายจริง! ยัยรษา มันเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนรักของเมนี่ค่ะ”
“พี่อยากคุยกับเพื่อนของเธอทุกคน เธอช่วยนัดให้หน่อยได้หรือเปล่า” เจ้าของไร่ตัดบทเสียงเรียบ
“ได้สิคะ แล้วพี่ธามจะจัดการอย่างไรต่อหรือคะ” หญิงสาวถามต่อหยั่งเชิง ถึงแม้ว่าพ่อของธีรภาคจะเป็นถึงผู้กำกับการภาค สามารถช่วยลูกชายให้พ้นนอนคุกได้ แต่ทว่าถ้าเจ้าทุกข์เอาเรื่องและร่วมมือกับโรงแรม นั่นก็ไม่แน่ที่พวกเธอจะต้องย้ายไปนอนในซังเต
“พี่กำลังจะไปแจ้งความ แล้วไปขอกล้องวงจรปิดที่โรงแรม โรงแรมระดับนั้นต้องมีกล้องวงจรปิดทุกจุด” ชายหนุ่มบอกเสียงเข้ม ไม่ทันได้มองหน้าเพื่อนน้องสาวที่มีอาการตกใจหน้าซีดเผือด
“อย่านะคะ!” มินตราร้องเสียงหลงอย่างตกใจ เผลอหลุดอาการลนลานออกมา พ่อเลี้ยงหนุ่มยักคิ้วสูงอย่างแปลกใจ หันกลับไปมองหน้าเพื่อนน้องสาวเป็นเชิงถาม
“หือ”
“เอ่อ คือ เมนี่หมายความว่า ถ้าแจ้งความหรือว่าเราทำเรื่องให้เอิกเกริก เมนี่กลัวว่าคนที่จะเป็นฝ่ายเสียหายคงหนีไม่พ้นรษา ลองคิดดูนะคะ ในเชียงรายจะมีใครบ้างที่ไม่รู้จักไร่ปกรัก เมนี่ว่าเรารอให้รษาเล่าเรื่องราวให้เราฟังเองจะดีกว่า ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วหลังจากนั้นเราค่อยไปแจ้งความก็ไม่สาย”
มินตราปั้นหน้าเศร้าดูเป็นห่วงเพื่อนสาว ถ้าขืนพ่อเลี้ยงธามไปขอดูกล้องวงจรปิดที่โรงแรมอย่างที่พูด ความได้แตกกันพอดี ว่าเพื่อนของเธอเป็นคนพารษาขึ้นห้องไป แล้วก็ผิดเต็มประตู แม้ว่าพวกเขาจะทำเสียแผนก็ตาม มินตรารู้อยู่เต็มอกว่าใครเป็นคนช่วยรษาไว้
“ไม่! พี่จะไม่รออะไรทั้งนั้น”
“แล้วคิดว่าหลักฐานมันจะยังหลงเหลืออยู่หรือคะ พวกเราสงสัยกันว่าจะเป็นคนใน ไม่อย่างนั้นก็เป็นไปไม่ได้ที่รษาจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย ในเวลาไม่กี่นาที พี่ธามก็รู้อยู่ ว่าโรงแรมนั้นมันมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องอะไร เขาต้องหาทางหนีทีไล่ไว้อย่างดีแล้ว หรือไม่ก็ต้องมีแบ็กอัพที่ดี ขืนเราบุ่มบ่ามทำอะไรลงไป คนที่เสียก็มีแต่เรานะคะ พี่ธามเชื่อเมนี่สักครั้งเถอะค่ะ”
พ่อเลี้ยงธามคล้อยตามอีกครั้งอย่างที่มินตราพูดก็มีส่วนถูก ผับนรกนั่นมีอบายมุขแทบทุกอย่าง แล้วก็ทำได้อย่างเปิดเผย ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ถึงแม้ว่าเสี่ยอาคมเจ้าของเพิ่งถูกจับข้อหาค้าประเวณี แต่เชื่อว่า อีกไม่นาน เขาก็ใช้เส้นสายที่มี แล้วออกมาเดินปร๋อบนเส้นทางนรกได้เหมือนเดิม
พ่อเลี้ยงหนุ่มกุมขมับ ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ คิดไม่ตก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ทั้งห่วงน้อง แต่ที่เพื่อนน้องสาวพูดก็ไม่ผิด เรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันขึ้นอยู่กับรษาเองที่จะเป็นคนไขความกระจ่าง เธอเพียงคนเดียวที่จะบอกเล่ารายละเอียดทุกอย่างได้
มินตราซ่อนยิ้มร้ายที่เด็ดปีกหงส์อย่างรษาได้ อีกทั้งยังสามารถดับความแรงและเบี่ยงเบนประเด็นจากพ่อเลี้ยงได้อีก ถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่ชนะเสียทีเดียว แต่ถ้าเป็นอย่างนี้ เธอก็สามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน แล้วเธอก็จะต้องได้เป็นคนเดินเกมแค้นด้วยตัวเอง ถึงจะสะใจ เพราะไม่ว่าอย่างไร ก็ไม่มีใครคาดคิดแน่นอนว่าจะเป็นเธอ
เสียงโทรศัพท์ดังสนั่นขัดจังหวะความคิดของพ่อเลี้ยงหนุ่ม เขาขอตัวจากมินตราเดินเลี่ยงออกไปรับโทรศัพท์ที่ระเบียงห้องทันที