ตอนที่ 8

1017 คำ
“ก็มาสิ นึกว่ากูกลัวหรือไง กูจะให้พ่อกูจัดการมึง ไอ้คนชั้นต่ำ!” ชานนท์จะกระโจนเข้าหา แต่ด้วยเพราะตัวเล็กกว่าทำให้ต้องถอยออกไปในที่สุด อัปสรสวรรค์ก้าวออกมาจากด้านหลังของคณพัทรและกางปีกปกป้องชายหนุ่ม “อย่ามาแตะต้องคนของฉัน ไม่อย่างนั้นสองตระกูลเราได้เห็นดีกันแน่” ชานนท์หัวเราะเยาะ “สรุป... ผัวใหม่จริงๆ ด้วยสินะ” “บอกว่าไม่ใช่ไง!” “แต่กูว่าใช่ ผัวใหม่... คงเอากันมันมากสินะ ถึงลืมคู่หมั้นดีๆ อย่างกู โอ๊ยยย!” อัปสรสวรรค์ทนไม่ไหว หล่อนก้มลงถอดรองเท้าส้นสูง และฟาดลงบนหน้าของชานนท์เต็มแรง จนอีกฝ่ายเลือดอาบน้ำ “จะไปดีๆ หรือว่าอยากโดนอีก ไอ้ผู้ชายเฮงซวย!” หญิงสาวจะเข้าไปฟาดรองเท้าใส่หน้าของชานนท์อีก แต่คณพัทรห้ามเอาไว้ “ปล่อยเขาไปเถอะครับ แค่นี้ก็ระบมไปทั้งหน้าแล้ว” อัปสรสวรรค์ก้มลงใส่รองเท้าตามเดิม ก่อนจะจ้องหน้าคณพัทร “คราวหลังอย่ามายุ่งเรื่องของฉัน” “อ้าว นี่ผมมาช่วยแท้ๆ ยังจะมาตำหนิผมอีก” “ช่วยหรือทำให้เรื่องยุ่งกันแน่” “ยุ่งตรงไหนครับ” “ก็ที่นายไปต่อยชานนท์ไง เขาจะต้องไปฟ้องพ่อเขาแน่ แล้วนายจะเดือดร้อน” “แต่คุณก็เอารองเท้าฟาดปากเขาไปด้วยไม่ใช่หรือครับ” อัปสรสวรรค์เท้าสะเอวและพูดออกมาเสียงหงุดหงิด “ก็ถ้าฉันไม่ทำอะไรเขาเลย เขาก็จะเล่นงานนายไงล่ะ แต่นี่ฉันเอารองเท้าฟาดปากเขาไป เขาก็จะหันมาเล่นงานฉันแทน” คณพัทรอมยิ้ม และโน้มหน้าต่ำลงมาหา แววตาของเขาทอประกายน่ามอง “ท่านประธานเป็นห่วงผมหรือครับ” อัปสรสวรรค์ทำหน้าไม่ถูก เพราะรู้สึกว่าสิ่งที่ถูกถามมันแทงใจดำไม่น้อย แต่หล่อนไม่มีทางยอมรับออกไปหรอก “จะบ้าหรือไง คนอย่างฉันจะไปห่วงนายทำไม ฉันเกลียดนายจะตายไป” “เกลียด แต่ก็จูบตอบผมหลายครั้งอยู่นะครับ” “ไอ้บ้า!” เมื่อหญิงสาวเงื้อมือจะตบ เขาก็รวบข้อมือเล็กเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู “เวลาคุณโมโหน่ารักจังครับ” แล้วคณพัทรก็ฉวยโอกาสจูบแก้มนุ่มของอัปสรสวรรค์ฟอดใหญ่ เจ้าของแก้มถึงกับหน้าร้อนผ่าว เนื้อตัวอ่อนแรงขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ “ผมไปรอลูกค้าก่อนนะครับ เดี๋ยวมาแล้วไม่เจอใครจะไม่พอใจเอา” คนตัวโตทิ้งรอยยิ้มทรงเสน่ห์เอาไว้ให้เป็นที่ระลึก ก่อนจะเดินตัวตรงจากไป อัปสรสวรรค์ยืนนิ่ง เนื้อตัวยังคงชา และตรงแก้มที่ถูกปลายจมูกสัมผัสก็ยังคงร้อนรุ่ม ทำไมหล่อนจะต้องมีปฏิกิริยากับสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ทำด้วยนะ “ไอ้คนชอบฉวยโอกาส” มือเล็กยกขึ้นถูแก้มแรงๆ หลายครั้ง ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในโรงแรม กว่าจะคุยงานกับลูกค้าเสร็จสิ้น เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบหกโมงเย็น หญิงสาวตั้งใจจะกลับไปเคลียร์งานที่บริษัทต่ออีกสักสองสามชั่วโมงแต่ติดที่มีคณพัทรนั่งอยู่ในรถด้วย “เดี๋ยวฉันส่งนายลงที่ป้ายรถเมล์แถวๆ นี้ก็แล้วกันนะ” “ใจร้าย” “นี่นายว่าใครใจร้าย” “แล้วผมนั่งอยู่กับใครล่ะครับ” หล่อนละสายตาจากถนน ไปจ้องหน้าคนตัวโตจอมกล่าวหา “ก็ฉันต้องกลับไปทำงานต่อ และนายก็คงไม่ไปกับฉันหรอก เพราะนี่เลยเวลาเลิกงานแล้ว” “ก็ไปส่งผมที่ห้องสิครับ” “มันไม่ใช่หน้าที่ของฉัน” อัปสรสวรรค์ปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย “อย่าลืมสิครับ ว่าผมเป็นคนเจรจากับลูกค้า จนเขายอมเซ็นสัญญาซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทนะครับ” “นี่นายจะทวงบุญคุณเหรอ” หล่อนแหวใส่อย่างโมโห “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ” “นี่นาย...” “ไปส่งผมที่ห้อง ไม่ยากเย็นเลยนะครับ ไม่ทำท่านประธานเสียเวลานักหรอก เชื่อผมสิ” หล่อนมองเขาตาขุ่นขวาง “นี่ฉันจะทำยังไงกับนายดีนะ” “ก็ไม่ต้องทำอะไรหรอกครับ แค่อยู่ใกล้ๆ ผมแบบนี้ก็พอแล้ว” หล่อนอยากจะตบกบาลผู้ชายข้างตัวให้เต็มแรง เขาช่างยียวน ยั่วโทสะของหล่อนได้เสมอเลย แถมยังเป็นจอมฉวยโอกาสอันดับหนึ่งอีกด้วย “ฝันไปเถอะยะ ฉันไม่ยอมให้นายมาอยู่ใกล้นานนักหรอก อีกไม่นานฉันจะต้องหาวิธีกำจัดนายไปให้พ้นวงจรชีวิตฉันให้ได้ คอยดูเถอะ” “ผมจะรอวันนั้นนะครับ” อัปสรสวรรค์กำพวงมาลัยรถแน่นด้วยความขุ่นเคือง แต่ขณะนั้นก็อดนึกย้อนไปถึงตอนที่คณพัทรเจรจากับลูกค้าไม่ได้ เขาดูมีชั้นเชิง มั่นใจในตัวเอง และทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าเขาคุ้นเคยกับการต่อรองเจรจากับคู่ค้าเป็นอย่างมาก “ทำไมตอนคุยกับคุณโรเบิร์ต นายถึงได้ยื่นข้อเสนอแบบนั้นออกไปล่ะ” “เพราะผมรู้ว่าเขาต้องการอะไร” “แล้วนายรู้ได้ยังไง ในประวัติการทำงาน นายเคยทำแค่งานเอกสารไม่ใช่เหรอ” คณพัทรหันมายิ้มให้กับหล่อน และไม่ยอมตอบคำถาม “มองรถข้างหน้าหน่อยสิครับ ขับรถอะไร เอาแต่มองหน้าผู้ชาย” “นี่นาย... ปากร้ายเกินไปแล้วนะ” หล่อนต้องรีบหันกลับไปมองถนนทันที “แต่สาวๆ หลายคนบอกว่าผมปากหวานนะครับ” “ผู้หญิงพวกนั้นตาบอด ลิ้นไม่รู้รสน่ะสิ ปากนายทั้งเหม็น ทั้งขม ฉันจะอ้วก” คณพัทรเอียงศีรษะเข้ามาหา ทำเอาคนที่ขับรถอยู่ถึงกับตัวสั่นเทา “เอาไว้ผม... จะให้ท่านประธานลองชิมอีกครั้งตอนที่ถึงห้องของผมก็แล้วกันนะครับ” แล้วพ่อเจ้าประคุณก็หัวเราะขบขัน ในขณะที่หล่อนขับรถไปเกร็งไปตลอดทาง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม