“ไม่เอาน่าท่านประธานคนสวย กว่าผมจะฝ่าด่านสัมภาษณ์สุดโหดของพนักงานคุณมาได้ เลือดตาแทบกระเด็นเลยนะครับ ยังไงก็รับผมเอาไว้ทำงานเถอะ”
“ฝันไปเถอะ!”
“ทำไมล่ะครับ หรือว่ากลัวใจอ่อนกับผม”
หล่อนจ้องหน้าเขาด้วยแววตาโกรธจัด
“ในหัวของฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องไร้สาระแบบนั้นหรอก รู้เอาไว้ซะด้วย”
“แต่คืนนั้นที่คุณดื่มจนเมา ก็เพราะว่าถูกคู่หมั้นหักหลังไม่ใช่หรือครับ”
“นี่... นายรู้ได้ยังไง”
หล่อนเกลียดรอยยิ้มร้ายๆ บนใบหน้าของคู่สนทนารูปหล่อเหลือเกิน
“ก็คุณดื่มไป แล้วก็พร่ำด่าทอไอ้คู่หมั้นเฮงซวยนั้นไปด้วยน่ะสิครับ รู้ไหมว่าผมต้องนั่งฟังคุณด่าไอ้ผู้ชายคนนั้นกี่ชั่วโมง”
“แล้วใครใช้ให้นายนั่งฟังยะ!” หล่อนสวนกลับด้วยความโมโห
“นี่คุณจำไม่ได้จริงๆ หรือครับ ว่าพอผมจะลุก คุณก็ดึงผมไว้กี่ครั้งน่ะ”
“อย่าเอาหน้ามาใกล้ฉันแบบนี้นะ ถอยออกไปเลย”
อัปสรสวรรค์ผลักไสผู้ชายตรงหน้า เมื่อเขายื่นหน้าเข้ามาใกล้เกินเหตุ
“ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่าผู้หญิงเร่าร้อนคืนนั้นจะเป็นท่านประธานสาวสุดมั่นอย่างคุณไปได้ ไม่น่าเชื่อจริงๆ”
“หุบปากไปเลยนะ แล้วก็ไสหัวออกไปจากบริษัทของฉันได้แล้ว”
หล่อนไม่มีทางรับหมอนี่เข้ามาทำงานข้างๆ ตัวหรอก ไม่มีทางเด็ดขาด!
“ตัดสินใจดีๆ นะครับท่านประธานคนสวย”
“ฉันตัดสินใจดีแล้ว นายไสหัวออกไปเลย ไปให้พ้นจากที่นี่!”
“ผมไปก็ได้ครับ แต่ก่อนไป ผมก็คงต้องบอกความลับของคุณให้กับพนักงานของคุณฟังสักหน่อย”
“นี่อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ ห้ามพูดถึงคืนอัปยศนั้นเด็ดขาด”
“คืนอัปยศที่ไหนกันครับ เราสนุกกันจะตายไป นี่คุณแกล้งลืมใช่ไหมว่าคุณน่ะ ควบม้าเก่งเหมือนมืออาชีพเลยนะครับ”
“ไอ้...” หล่อนชี้หน้าเขา แต่ก็หาคำด่าไม่ทัน
“ทางที่ดี รับผมไว้ทำงานด้วยเถอะครับ แล้วผมสัญญาว่าความลับของคุณจะซ่อนอยู่ใต้ฝ่าเท้าของผมไปตลอดชีวิต”
“นี่นายกำลังข่มขู่ฉันอย่างนั้นเหรอ”
ตั้งแต่เกิดมา หล่อนยังไม่เคยถูกบีบคั้นแบบนี้มาก่อนเลย
หล่อนเคยแต่เป็นผู้ชนะ แต่ตอนนี้... ตอนนี้กำลังถูกผู้ชายหน้าหล่อที่หล่อนไปแอบแซ่บด้วยตอนเมาข่มขู่
“ผมไม่ได้ขู่นะครับ แต่ผมแค่บอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น หลังจากที่ผมถูกคุณปฏิเสธไม่ให้ทำงานอย่างไม่เป็นธรรมน่ะครับ”
“นาย... อยากได้เท่าไหร่ เท่าไหร่ถึงจะยอมจบ หื้อ!”
คณพัทรขยับตัวเข้ามาใกล้กับร่างของอัปสรสวรรค์
“อย่า... เข้ามาใกล้ฉันนะ”
มือเล็กยกขึ้นผลักร่างกำยำสุดแรง แต่เรือนร่างของเขาไม่ขยับเลย
ใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ่งมองก็ยิ่งมีเสน่ห์ของผู้ชายตรงหน้ายื่นเข้าใกล้มาเรื่อยๆ
บ้าจริง...
ทำไมหล่อนรู้สึกตัวร้อนแบบนี้นะ หรือว่าหล่อนกำลังจะไม่สบาย?
“สามสิบล้าน ยอมจ่ายไหมล่ะครับ”
“ไอ้ผู้ชายหน้าเลือด!”
ชายหนุ่มหัวเราะ ดวงตาคมเข้มจับจ้องที่ปากนุ่มของหล่อน
อัปสรสวรรค์รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเป็นครั้งแรกในชีวิต
ทำไมจะต้องหวั่นไหวกับสายตาของผู้ชายอันตรายคนนี้ด้วยนะ
“ถ้าคุณจ่าย... ผมก็จะจบ...”
“ฉันไม่ยอมเสียเงินมากมายขนาดนั้นให้กับผู้ชายเฮงซวยอย่างนายหรอก ถอยออกไปได้แล้ว อ๊ะ... นี่นายจะทำอะไรน่ะ อุ๊บบบบ”
อัปสรสวรรค์ไม่ทันตั้งตัว ปากนุ่มๆ ที่คมยิ่งกว่ากรรไกรของหล่อนก็ถูกผู้ชายตรงหน้าประกบลงมาหาอย่างแม่นยำ และดุดัน
หล่อนเบิกตาค้าง ร่างกายแข็งทื่อด้วยความตื่นตกใจ
จูบ...
นี่มันคือจูบจริงๆ เหรอ
สมองของหล่อนขาวโพลนไปหมด สติสัมปชัญญะจางหาย ร่างกายอ่อนแรงทรงตัวไม่ได้จนต้องเกาะเกี่ยวแขนล่ำกำยำของชายหนุ่มเอาไว้
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่หล่อนไม่รู้ เพราะมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่หล่อนถูกอุ้มไปวางบนโซฟาริมหน้าต่างห้องแล้ว
เขายืนชะโงกค้ำศีรษะ ดวงตาคมเข้มเต็มไปด้วยความขบขัน
“ถ้าไม่นับเรื่องคืนนั้น นี่คงเป็นจูบแรกของคุณสินะ อัปสรสวรรค์”
“นี่นาย...”
มือใหญ่ยื่นมาสัมผัสกับแก้มนุ่มที่กำลังเห่อแดงอย่างเอ็นดู หญิงสาวได้สติก็รีบเบี่ยงหน้าหนี และก็ผลักเขาสุดแรง แต่เขาไม่ขยับเลย เพราะเขาตัวใหญ่และหนามาก
“คุณเก่งแค่เรื่องงานเท่านั้นแหละ ส่วนเรื่องพวกนี้ ต้องให้ผมสอนอีกเยอะ”
“ฉัน... ไม่ต้องการให้นายมาสอน ออกไปจากห้องทำงานฉันได้แล้ว”
เขาหัวเราะเบาๆ อย่างอารมณ์ดี พร้อมกับยืดตัวขึ้นตรง
“อย่าไล่ผู้ช่วยของตัวเองแบบนี้สิครับ มันเสียมารยาท”
“นายไม่ใช่ผู้ช่วยของฉัน”
“แล้วผมเป็นอะไรของคุณล่ะครับ”
น้ำเสียงของเขากระเส่า ทำให้คนฟังหวั่นไหวและร้อนรุ่มอย่างน่าอับอาย
นี่หล่อนต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่รู้สึกแปลกประหลาดกับผู้ชายคนนี้
“ฉันเกลียดนาย ไอ้ผู้ชายชอบฉวยโอกาส”
“เกลียดน้อยๆ และก็เกลียดให้นานๆ นะครับ อย่าตกหลุมรักผมเข้าล่ะ ผมเตือนเอาไว้ก่อน”
“ไอ้บ้า! ฉันเนี่ยนะจะไปรักผู้ชายอย่างนาย ไม่มีทางหรอก”
หล่อนโกรธเขาจนหน้าดำหน้าแดง หากฆ่าได้คงฆ่าไปแล้ว
“เอาไว้เรามาคอยดูกันนะครับ คุณอัปสร”
“นี่อย่ามาเรียกฉันแบบนั้นนะ เรียกฉันว่าท่านประธานแบบพนักงานคนอื่น”
“ครับ ท่านประธาน”
เขาหัวเราะอย่างชอบใจ และมองหล่อนด้วยสายตาล้อเลียน
“อ้อ ผมลืมแนะนำตัวเองไปเลย ผมชื่อ คณพัทร ส่วนนามสกุลก็อ่านเอาในแฟ้มประวัติของผมได้เลยครับ” เขาอมยิ้มทรงเสน่ห์ ก่อนจะพูดยียวนออกมาอีก “แต่ถ้าอยากเรียกผมแบบสนิทสนมก็เรียกผมว่า คราม ได้เลยนะครับ”
“ฉันไม่มีวันอยากสนิทสนมกับคนอย่างนายหรอก”
“แต่คืนนั้น... เราสนิทสนมกันมากเลยนะครับ”
“หุบปากเลย!”
นี่มันวันโลกแตกอะไรของหล่อนเนี้ย ทำไมโชคชะตาจะต้องกลั่นแกล้งแบบนี้ด้วย
แค่เสียตัวเพราะความเมาก็ถือว่าหนักหนาสาหัสสากรรจ์แล้ว แต่นี่ดันต้องมาเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ทำให้หล่อนมีมลทินเข้าอีก
แล้ววันเวลาต่อจากนี้ไป หล่อนจะอยู่ยังไง จะต้องเผชิญหน้ากับความโชคร้ายอะไรบ้างเนี้ย