Episode-๐๙ เคลียร์ตัวเอง?

1474 คำ
“น้องน่ารักดีนะ” อยู่ ๆ พ่อก็พูดขึ้นขณะที่เรากำลังกลับบ้านกัน “ในสายตาพ่อนอกจากแม่แล้วยังมีคนอื่นน่ารักอยู่อีกเหรอครับ” “ในสายตากูไม่มีแต่สายตามึงไม่แน่” “...” “ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะแต่เคลียร์ตัวเองก่อนก็ดี” “ผมว่าวันนี้พ่อดื่มเยอะไปนะ” กลับถึงบ้านไฟยังเปิดอยู่เลยครับสงสัยแม่จะยังทำงานอยู่ “ทำไมยังไม่นอนอีก” น้ำเสียงห่วงใยเอ่ยก่อนจะเข้าไปสวมกอดแม่อย่างเช่นทุกครั้ง “ตีสองแล้วนะ” “รู้ว่าตีสองแล้วทำไมเพิ่งมากันล่ะคะ” “อ่า...เรื่องนี้ผมจะไม่ยุ่ง” ผมว่ายิ้ม ๆ แล้วเดินเลี่ยงเข้าห้องตัวเองทันที ปล่อยให้พ่อรับมือไปแทนครับ อาบน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ยังไม่นอน ง่วงแหละแต่นอนไม่หลับ ไถฟีดโซเชียลไปเรื่อยก่อนจะเห็นจุดสีเขียวของใครบางคนที่กำลังออนไลน์อยู่ แน่นอนว่าผมเข้าไปส่อง ในบัญชีการใช้งานของเธอเต็มไปด้วยเพลงเศร้าหรือบางทีก็คำพูดหม่น ๆ พวกรูปอะไรแบบนี้มีน้อยมากครับแต่ยอดกดถูกใจหลักพันเชียวนะ ไถฟีดดูไปเรื่อย ๆ ไม่เห็นมีไอ้หมอนั่นเลยครับ ไม่รู้ว่ามันถูกลบหรือไม่เคยลงแต่ทีแรก “ยังไม่นอนอีก” ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่แต่มือมันก็ส่งแชทไปแล้ว [ยังค่ะ กำลังเขียนนิยายอยู่] “ดึกขนาดนี้เนี่ยนะ” [ปกติของหนู แล้วพี่ล่ะทำไมยังไม่นอนอีก] “นอนไม่หลับ แล้วไอ้มิวมาหรือยัง” [ยังค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าไปไหนโทรไปก็ไม่รับ] เห็นแบบนั้นผมจึงลองโทรหามันบ้างครับ สรุปไม่รับสายผมเหมือนกัน “พี่ลองโทรแล้วไม่รับเหมือนกัน” [ช่างเถอะค่ะ อีกเดี๋ยวเขาคงมา] บทสนทนาหยุดลงเพียงเท่านี้ก่อนที่จุดสีเขียวจะหายไป น้องคงไปนอนแล้วมั้งครับ เห็นแบบนั้นผมจึงปิดหน้าจอแล้ววางมือถือเพื่อจะเข้านอนเช่นกัน แต่แค่ไม่นานเสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอีกครั้ง [พี่คนนั้นที่เราเจอในร้านสะดวกซื้อพี่ยังไม่ตอบหนูเลยนะคะ] “เพื่อนน่ะ เรียนมาด้วยกัน” [อ่อ] “มีอะไรหรือเปล่า” [เปล่าค่ะ แค่ถามเฉย ๆ เขาเป็นน้องสาวของพี่คนนั้นแต่ว่าเราไม่เคยคุยกันหรอกเพราะพี่เขาไม่ค่อยให้หนูรู้จักครอบครัวของเขาเลย] “ดีแล้วอย่าไปอยากรู้จักพวกเขาเลย อะไรก็ตามที่ถูกปิดกั้นนั่นหมายความว่าพื้นที่ตรงนั้นไม่ใช่ของเรานะ” [เข้าใจแล้วค่ะว่าแต่พี่สนิทกับเขามากไหม แล้วเขาสนิทกับพวกพี่ ๆ ด้วยหรือเปล่า เผื่อวันนึงเจอหน้ากันหนูจะได้ทำตัวถูก] “เพื่อนร่วมชั้นเฉย ๆ ไม่ต้องห่วงไอ้มิวก็รู้ลองถามมันสิ” [ถามให้ถูกดุเหรอคะหนูไม่เอาหูไปเสี่ยงแน่นอน] “ฮ่า ๆ” นานนับชั่วโมงที่เราคุยกันกระทั่งผมผล็อยหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นอีกทีฟ้าก็สว่างแล้วครับ หยิบมือถือขึ้นมาดูก็ยังคงค้างอยู่ที่แชทของเสียงเพลงซึ่งมันขึ้นว่าใช้งานเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว ไม่รู้ว่าน้องออนค้างหรือเพิ่งนอนนะ ครืด... ครืด... เป็นไอ้มิวครับที่โทรกลับมา “เออ” (เมื่อคืนมึงไปส่งน้องกูเหรอ) “เออ จุ้นมันไม่ได้เอารถมาไม่ต้องห่วงกูดูแลน้องมึงอย่างดี อ๋อแล้วกูก็เจอให้เหี้ยนั่นด้วยนะ” (มันทำอะไรเสียงเพลงหรือเปล่า) “เปล่า น้องมึงจัดการตัดขาดความสัมพันธ์เรียบร้อยละ” (ยังไงวะ) “ไปถามเอาเองแล้วนี่มึงอยู่ไหนโทรไปก็เสือกไม่รับ” (อืม กำลังจะกลับแล้ว) “นี่มึงยังไม่กลับบ้านอีกเหรอแล้วเสียงเพลงไปโรงเรียนยังไง” (ก็นี่แหละที่โทรมาจะรบกวนมึงไง) “กูว่ากูต้องได้คำตอบจากเรื่องนี้นะ” (เออ ฝากด้วยขอบใจมาก) แล้วสายก็ถูกตัดไปเลยครับ อาบน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จออกมาเพียงฝันก็รออยู่ก่อนแล้ว “ให้พี่ไปส่งเหรอคะ?” ตั้งคำถามพลางค้อนสายตาใส่คนตรงหน้าเล็กน้อย ถามว่ามีเรื่องอะไรก็ไม่ยอมบอกครับ “ใช่ค่ะ แม่ออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้ามืดแล้ว” “พ่อก็อยู่” “ก็หนูอยากให้พี่ไปส่ง” น้ำเสียงใสเอ่ยก่อนจะเข้ามากอดผมเป็นเชิงอ้อน “ขอโทษนะคะที่พูดไม่ดีใส่” “ถ้ามันเป็นเรื่องที่บอกไม่ได้ก็อย่าให้มีอีกครั้งแล้วกัน แล้วนี่ถูกเชิญผู้ปกครองหรือเปล่า” “ค่ะ หนูบอกพ่อแล้วพรุ่งนี้เก้าโมงเช้า” “แล้วถูกพ่อดุไหม” “อือ ถูกงดค่าขนมด้วย” “...” แสดงว่าเพียงฝันเริ่มก่อนอย่างที่เอ้บอกครับเพราะทุกครั้งที่พ่อทำโทษนั่นแปลว่ามีความผิด “เดี๋ยวพี่ต้องไปรับน้องไอ้มิวด้วยนะมันวานให้ไปส่งหน่อย” “หืม...” “อะไร? ไปขึ้นรถได้แล้ว” “ค่ะ” แค่เพียงไม่นานก็ถึงบ้านไอ้มิวครับแต่ว่าประตูปิด บ้านเงียบมากเลย ไม่แน่ใจว่าเสียงเพลงไปเองแล้วหรือว่ายังแต่งตัวไม่เสร็จ เห็นแบบนั้นผมจึงหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดโทรออกผ่านโซเชียลแทน (ค่ะ) “ไอ้มิวให้มารับพี่รออยู่หน้าบ้านครับ” (ค่ะ ๆ) น้ำเสียงลนลานเชียวครับสงสัยจะตื่นสายแต่ก็ไม่แปลกหรอกได้นอนกี่ชั่วโมงเอง “ไม่บอกจริงเหรอว่ามีเรื่องอะไรกัน” วางสายจากเสียงเพลงผมก็หันมาตั้งคำถามกับคนข้าง ๆ ครับ “เรื่องเขาใจผิดกันน่ะค่ะ แต่ว่าหนูผิดหนูเริ่มก่อน” “กับใคร?” “พี่มอหก” “รู้ตัวว่าเป็นคนไม่ยอมใครต้องหัดควบคุมอารมณ์ให้มากกว่านี้นะ” “ก็มันตอแหลนี่” “เพียงฝัน” “เรื่องของหนูช่างเถอะ ว่าแต่พี่เคลียร์ตัวเองแล้วเหรอถึงมาวุ่นวายกับยัยนั่นน่ะ” เอ่ยถามผมก่อนจะหันไปทางเสียงเพลงที่กำลังเดินมาครับ “ทำไมต้องเคลียร์ไม่ได้เป็นอะไรกันนี่” “แต่ก็เป็นคนแรกที่พี่โทรหา” “...” “ในบรรดาคนคุยของพี่หนูเห็นพี่เป็นฝ่ายรับสายอยู่ตลอดหรือแม้แต่หนูพี่ยังไม่โทรตามเลยค่ะ” “พูดไปเรื่อย” เพียงฝันไม่พูดอะไรออกมาอีกนอกจากเบะปากใส่ผมแล้วบทสนทนาก็หยุดลงเพียงเท่านี้เพราะเสียงเพลงมาซะก่อน “สวัสดีค่ะ ขอโทษนะคะที่ทำให้รอ” พลางยกมือไหว้ผมอย่างเช่นทุกครั้งก่อนจะหันไปมองเพียงฝันแวบหนึ่ง “ไม่เป็นไรปกติพี่รอน้องสาวที่อาบน้ำห้านาทีแต่งตัวหนึ่งชั่วโมงบ่อย” ต้องกระแนะกระแหนครับ “พี่ปั้น!” “ฮ่า ๆ” ระหว่างทางก็จะมีแต่เสียงเจื้อยแจ้วของเพียงฝันที่พูดคุยกับผม เหลือบมองคนที่นั่งเบาะหลังเงียบมากครับ คงทำตัวไม่ถูกสินะ “เข้าโรงเรียนแล้วนะคะสวัสดีค่ะ” เพียงฝันเอ่ยก่อนจะหอมแก้มผมอย่างเช่นทุกครั้งจากนั้นก็ลงจากรถไปทันทีครับเหลือแต่เสียงเพลงที่กำลังจะลงเช่นกัน “ขอบคุณนะคะ พี่มิวโทรกลับมาแล้วเห็นบอกว่าวันนี้จะกลับ” “ครับ” “ไปนะคะ สวัสดีค่ะ” มองคนทั้งคู่ที่เดินตามกันไป เหมือนว่าเสียงเพลงจะไม่ค่อยกล้าคุยกับเพียงฝันนะ ครืด... ครืด... สายเรียกเข้าของเจนดังขึ้นทำให้ผมละสายตาจากเด็ก ๆ แล้วหันไปขับรถแทน ไม่ได้รับสายหรอกครับปล่อยไว้แบบนั้นแหละ สายที่หนึ่ง สายที่สองและสายที่สามผมถึงกดรับ ปกติเจนไม่โทรซ้ำซ้อน ถ้าผมไม่รับก็ไม่โทรแล้วแต่วันนี้มาแปลก “ว่าไง” (ฮึก! ปั้นอยู่ไหนเหรอ) “ขับรถอยู่” (มาหาเราหน่อยได้ไหม) “เราถึงที่ทำงานแล้ว แล้วเป็นอะไร” (ทะเลาะกับพี่น่ะ) “ไอ้คนเมื่อคืนน่ะเหรอ” (อืม เขา...) “เดี๋ยวก็ดีกันไม่ต้องร้องหรอก เย็นนี้เจอกันหน่อยนะ” (อะ อืม) แล้วสายก็ถูกตัดไปครับ ผมว่าบางทีผมนี่แหละที่ทำให้ชีวิตตัวเองวุ่นวายเกินไป ว่าแล้วนึกอยากอยู่เฉย ๆ เหมือนกันนะ มีเวลาเที่ยวมีเวลากินใช้ชีวิคนคนเดียวก็คงไม่แย่ขนาดนั้น แต่ทั้งหมดนี้เพื่อตัวเองนะครับ ไม่ได้เคลียร์ตัวเองเพื่อใครสักหน่อย กับเจนดูเหมือนจะเลยจุดเริ่มต้นมาเยอะคงต้องหยุดไว้เพียงเท่านี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม