ตอนที่ 18 กฎข้อที่สาม NC

1955 คำ
พาร์ตรามิล ผมนึกย้อนกลับไปในอดีตเมื่อราว ๆ สองปีที่แล้ว ในตอนนั้นผมแทบจะตั้งตัวไม่ทันเรื่องลูก รวมทั้งเรื่องมนด้วย ผมกลับมาที่คอนโดฯ ของตัวเองแล้วยืนมองอยู่หน้าห้องเด็กเล็กที่ผมตั้งใจออกแบบ ตอนนี้มันกำลังอยู่ในขั้นตอนทาสีใหม่ ผมทอดสายตามองมันด้วยความว่างเปล่าก่อนจะยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วต่อปลายสายไปยังผู้รับเหมาทำห้องนี้ “ไม่ต้องทำห้องเด็กต่อแล้วนะครับ เดี๋ยวผมจะเอาแบบใหม่มาให้ทำ” นิ้วเรียวกดตัดสายทิ้งทันทีก่อนจะต่อสายไปหาน้องสาวต่างมารดาที่เคยอ้อนขอห้องนี้เอาไว้ “รดา พรุ่งนี้มาดูห้องได้เลยนะจะได้คุยกับช่างถูก” ผมนั่งอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่นด้วยสายตาเลื่อนลอยไม่ต่างอะไรจากหัวใจของผมที่ตอนนี้แทบไม่เหลืออะไรแล้ว ในมือถือแก้วไวน์เอาไว้ ดวงตาร้อนผ่าวไปหมดจนกลั้นน้ำตาแทบไม่ไหวแล้ว เสียงร้องไห้ระงมดังอยู่ใต้ผ่ามือทั้งสองข้างที่ยกขึ้นมาปิดใบหน้าเอาไว้ ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าตัวเองเสียใจเรื่องอะไรมากกว่ากับเรื่องที่ไม่มีลูก หรือต่อจากนี้จะไม่มีมนอีกแล้ว หัวใจของผมมันไม่เคยเจ็บเท่านี้มาก่อน ชีวิตของผมเหมือนถูกดึงให้ร่วงลงเหวลึกเพียงแค่คำพูดของมนที่ไม่เปิดโอกาสให้ผมได้โต้ตอบเลย สักนิด ถ้าตอนนั้นผมไม่มัวแต่ยืนตัวแข็งทื่อเพราะช็อก ผมควรจะเอื้อมมือไปรั้งแขนของมนเอาไว้แล้วดึงน้องเข้ามากอดสิ ไม่ใช่ปล่อยให้น้องเดินร้องไห้จนตัวโยนแบบนั้นไปกับมิกซ์ ชีวิตผมที่เหมือนกำลังจะเริ่มใหม่ ดันต้องกลับมาเข้าสู่วังวนเดิม แต่ในใจกับรู้สึกเจ็บปวดกว่าทุกที พาร์ตมน ฉันค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมาหลังจากที่ถูกแสงแดดในยามเช้ารบกวนการนอน ในหัวของฉันมันปวดหนึบไปหมดจนแทบจะยกขึ้นไม่ไหว สองแขนดันให้ฉันลุกขึ้นมานั่งก่อนจะกวาดสายตาไปมองรอบ ๆ ฉันจำไม่ได้ว่าตัวเองทำอะไรถึงได้หลับไป สายตากวาดมองสำรวจรอบห้องที่ไม่คุ้นเคย ไม่มีกระเป๋าเดินทาง ไม่มีรุ่นพี่อีกสองคน ภาพความทรงจำในอดีตยามที่ตื่นมาร่วมเตียงกับพี่มิลเริ่มทับซ้อนขึ้นมาจนฉันรู้สึกหวาดกลัว ฉันพยายามเค้นหาภาพเหตุการณ์เมื่อคืนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ก่อนหัวใจฉันจะสั่นสะท้านเมื่อนึกขึ้นได้ว่าราชินทร์ประคองฉันออกมาจากโซนปาร์ตี้ก่อนที่ฉันจะจำอะไรไม่ได้เลย “ตื่นแล้วเหรอ” ฉันหันไปมองตามเสียงเรียกพี่มิลนั่งกอดอกบนเก้าอี้ข้างเตียงพลางทอดสายตามองฉันด้วยความฉงน “ทำไมทำหน้าเหมือนโลกจะแตกงั้นอะ” ฉันรีบก้มมองสภาพตัวเองที่อยู่ใต้ผ้าห่มก่อนจะรู้สึกอุ่นใจเมื่อเห็นว่ายังใส่ชุดว่ายน้ำเหมือนเดิม “พี่ไม่ได้ทำอะไรเธอหรอกน่า พี่รู้ว่าเธอคงไม่ชอบถ้าฉวยโอกาสเธออีกครั้ง” พี่มิลลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะไปรินน้ำใส่แก้วแล้วส่งมาให้ฉันดื่ม “หนูมาอยู่กับพี่ได้ไงคะ ไม่มีใครสงสัยเหรอ” ฉันรับแก้วน้ำมาก่อนจะดื่มให้เพื่อดับกระหาย ในคอของฉันมันแห้งผาดเสียจนกลืนน้ำลายไม่ลง “พี่ไม่สนใจหรอกว่าใครจะสงสัยหรือเปล่า พี่เห็นราชินทร์พาเธอไป พี่เลยรีบไปแย่งตัวเธอมาแค่นั้น” “หนูจำอะไรไม่ได้เลย ทั้ง ๆ ที่หนูไม่ได้เมาแท้ ๆ” ฉันสบถกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมากุมขมับที่ปวดหนึบ อาการของฉันไม่ได้ต่างจากคนที่กำลังแฮงก์เลยสักนิด “ไม่ได้เมาเหรอ แต่เมื่อคืนเธอแทบจะไม่ได้สติเลยนะ” พี่มิลขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “เมื่อคืนหนูไม่ได้ดื่มเลยจริง ๆ นะคะ” ฉันพูดออกไปด้วยความรู้สึกสับสน ฉันมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ดื่มเหล้าเลยแต่กลับมีอาการมึนเมา “หนูไม่มีทางดื่มเหล้าในที่สาธารณะหรอกค่ะ หนูฉันฝังใจเรื่องมีสองปีก่อนมาก” พี่มิลเงยหน้าขึ้นมามองฉันด้วยความรู้สึกหลากหลายผ่านทางดวงตาก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้ามาดึงตัวฉันเข้าไปกอดเอาไว้แนบอก “พี่ขอโทษนะ” “หนูแค่กลัวว่าตัวเองจะไปมีอะไรกับคนที่ตัวเองไม่ได้รู้สึกดีด้วย แต่ตอนนี้ถ้าเป็นพี่หนูก็ไม่กลัวหรอกค่ะ” หนุ่มรุ่นพี่ผละกอดออกมาก่อนจะก้มหน้ามามองฉันด้วยสีหน้าแปลกใจระคนกับดีใจเล็กน้อย “เธอหมายความว่าไงเหรอ” “เมื่อสองปีก่อนที่หนูบอกเราจบความสัมพันธ์กันไปแบบนั้นเพราะหนูรู้สึกระอาใจมากจริง ๆ แต่ความจริงหนูไม่อยากบอกลาพี่เลย หนูอยากจะมีพี่อยู่ในชีวิตต่อ แต่หนูไม่รู้จะฉุดพี่ไว้ด้วยวิธีไหนเลยต้องปล่อยพี่ไป” ฉันระบายความในใจที่เก็บเอาไว้มาเนิ่นนาน “พอมาเจอพี่อีกครั้งหนูถึงได้รู้ว่าใจหนูไม่เคยลืมพี่ได้เลยจริง ๆ” พี่มิลเผลอหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ ทั้งที่มีน้ำตาเอ่อคลอดวงตา เขายกมือขึ้นมาปาดน้ำตาจากความตื้นตันใจก่อนจะเอื้อมมือมากุมมือของฉันไว้ สัมผัสของพี่มิลอบอุ่นอย่างเช่นทุกทีที่เคย “จำกฎข้อที่สามที่หนูบอกพี่ได้ไหมคะ” หนุ่มรุ่นพี่เงยหน้าขึ้นมามองฉันแล้วพยักหน้าอย่างช้า ๆ “ถ้าเธอพร้อม เธอจะขอพี่เป็นแฟนเอง” “ค่ะ” ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดตัวเองด้วยความรู้สึกตื่นเต้น ในหัวใจของฉันในเต้นระรัวเสียจนใบหน้ามันร้อนผ่าวไปหมด “พี่มิลเป็นแฟนกับหนูไหมคะ” ดวงตาคมของพี่มิลเบิกออกกว้างคงเป็นเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว ฉันยกยิ้มจางขึ้นมามองอีกคนที่ตัวแข็งทื่อด้วยความตกตะลึง “หรือพี่ไม่อยากเป็นแล้ว” “อยากเป็นสิ เธอเป็นแฟนพี่แล้วนะ” พี่มิลฉีกรอยยิ้มกว้าง เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นหน้าพี่มิลแดงแจ๋ในระยะประชิดขนาดนี้ มือหนาเข้ามาดึงรั้งท้ายทอยของฉันเอาไว้ก่อนจะดึงเข้ามาประกบริมฝีปาก ฉันปิดเปลือกตายามที่ริมฝีปากของพี่มิลดูดดึงปากร่างของฉัน เบา ๆ ก่อนที่พี่เขาจะผละออกไป “พี่ดีใจมากเลยจริง ๆ นะ” ฉันยกมือขึ้นไปปาดน้ำตาให้กับคนพี่ “ไม่ต้องร้องแล้ว โอ๋ ๆ นะคะ” ฉันหัวเราะเล็กน้อยเมื่อเห็นพี่มิลเบะปากเหมือนจะร้องไห้ก่อนจะเข้ามาซบบนลาดไหล่ของฉันเอาไว้ เราสองคนอยู่ในท่านี้อยู่สักพักก่อนที่ฉันจะได้ยินเสียงพี่มิลกลืนน้ำลาย “ทำไมตัวเธอหอมจัง” จมูกโด่งซุกไซ้ที่ลำคอของฉันจนฉันใจกระตุกวูบ ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะประทับลงที่ลำคอของฉันอย่างแผ่วเบา ทำเอาฉันหายใจไม่ทั่วท้อง “พี่มิลคะ” ฉันรีบดันตัวของคนพี่ออก “มีถุงยางเหรอคะ” หนุ่มรุ่นพี่ส่ายหน้า “แต่พี่ไปซื้อได้นะ” “พี่ไปซื้อก่อนค่ะ เดี๋ยวหนูอาบน้ำรอ” คนพี่ใบหน้าแดงอย่างไม่น่าเชื่อ “พี่จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” พี่มิลรีบลุกขึ้นแล้วเดินสับขาออกไปจากห้องอย่างไวจนฉันเองก็แอบอึ้งเหมือนกัน ถ้ารู้ว่าแทนตัวเองว่าหนูแล้วจะตามใจขนาดนี้คงจะใช้ไปนานแล้ว ฉันเดินเข้าไปอาบน้ำเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองในใจก็แอบตื่นเต้นเพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่ฉันยอมมีอะไรกับพี่มิลทั้งที่ตัวเองมีสติครบถ้วน ฉันเดินออกมาจากห้องทั้งที่มีผ้าคลุมอาบน้ำก็เห็นว่าพี่มิลนั่งรออยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว พี่เขาไวหรือฉันอาบน้ำช้ากันนะ มือหนาคว้าเอวของฉันเข้าไปแนบชิดก่อนจะจูบซับลงมาที่หน้าท้องของฉันที่มีผ้าคลุมอาบน้ำปิดบังไว้อยู่ “พี่ขอนะคะ” ฉันแทบจะอุดปากแล้วกรีดร้องออกมาดัง ๆ ตามเสียงหัวใจที่เต้นโครมครามอยู่ในอกก่อนที่พี่มิลจะจับฉันให้ขึ้นมานั่งคร่อมพี่เขาบนปลายเตียง เราสองคนไม่ยอมละสายตาออกจากกันก่อนที่มือของคนพี่นั้นจะปลดสายเสื้อคลุมของฉันออกแล้วแหวกให้เห็นทรวดทรงที่ซ่อนไว้ใต้ผ้าคลุม ฉันหันหน้าไปมองทางอื่นด้วยความเขินอาย ยิ่งพี่เขาดึงเสื้อออกไปจากลาดไหล่จนมันตกลงมากองที่เอวก็ยิ่งทำเอาฉันตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งสายตาของพี่มิลที่จ้องมองมาก็ทำเอาฉันอยากจะมุดดินหนีเต็มที รอยจูบประทับอยู่บนเนินอกจนฉันต้องเผลอกัดริมฝีปากของตัวเอง ก่อนที่พี่มิลจะเริ่มดูดดึงหน้าอกของฉันจนมันเกิดเสียงดังน่าอาย หน้าท้องของฉันมันปั่นป่วนไปหมดก่อนที่พี่เขาจะให้ฉันนอนราบลงไปบนเตียงนอนแล้วถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกเผยให้เห็นหน้าท้องลอนสวยจนฉันต้องแอบกลืนน้ำลาย พี่มิลสวมถุงยางก่อนจะขึ้นมาคร่อมฉันแล้วโน้มตัวลงมาจูบอย่างดูดดื่ม สมองของฉันมันขาวโพลนไปหมดจนรู้ตัวอีกทีขาทั้งสองข้างก็ถูกจับให้อ้าออกสองแขนยกขึ้นไปคล้องตอของคนอยู่บนร่าง รสจูบที่อบอุ่นทำฉันไม่อยากจะผละออกไปจากมันแต่แล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อแท่งร้อนสอดแทรกลุกล้ำเข้ามาในส่วนลับอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว “เจ็บเหรอคะ” ฉันได้แต่กัดฟันรับขนาดของพี่มิลจนนิ้วมือนิ้วเท้าเกร็งไปหมด พี่มิลเองก็รู้สึกได้เพราะฉันเองก็ตอดรัดส่วนนั้นของพี่เขาเอาไว้แน่น “ผ่อนคลายนะคะ” พี่มิลจูบซับน้ำตาที่ไหลเล็ดออกมาจากขอบตาก่อนมือหนึ่งจะบีบเค้นส่วนหน้าอกและยอดประทุมจนฉันรู้สึกเสียวซ่านก่อนที่แก่นกายของ พี่มิลจะเข้ามาจนสุด บทเพลงรักได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเร่าร้อนท่วงทำนองถี่กระชั้นขึ้น เรื่อย ๆ เมื่อฉันปรับตัวได้ พี่มิลบดเบียดสอดแทรกเข้ามาในร่างกายของฉันจนฉันรู้สึกเหมือนร่างกายตัวเองมันร้อนระอุไปหมด เหงื่อหยดใสไหลอาบร่างกายของเราสองคนที่ร่วมกันบรรเลงบทเพลงรักครั้งนี้จนเสร็จสม หลังจากที่ฉันรู้สึกร่างกายเบาหวิวเพราะได้ปลดปล่อยแรงอารมณ์ของตัวเอง จนสติกลับคืนเพราะเสียงฉีกซองถุงยางอีกครั้งจนฉันต้องเงยหน้าขึ้นมามอง “พี่จะเอาอีกเหรอ” ฉันถามอย่างตกตะลึง “ถุงยางยังไม่หมดนี่คะ” “งั้นครั้งนี้หนูขอ on top ได้ไหมคะ”

เริ่มอ่านเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมได้ที่นี่

ดาวโหลดโดยการสแกนรหัส QR เพื่ออ่านเรื่องราวมากมายฟรี และหนังสือที่ได้รับการอัปเดตทุกวัน

อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม