"พวกมึงยังไม่เลิกคุยเรื่องลามกกันอีกเหรอ" เมื่อออกมาจากห้อง ภูริชญาก็ถามเหล่าเพื่อนตัวดี ด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่าย
"..." รวมถึงกัญจาวีร์ด้วย เอาจริงๆ เธอก็ไม่ชอบเลย ที่ได้มาอยู่ในกลุ่มที่มีผู้ชายบ้าๆ อย่างสองคนนี้ วัชระก็เอาแต่จีบเธอ จนเธอเองรู้สึกรำคาญมาก ส่วนณวัตร วันๆ ก็พูดแต่เรื่องลามก จนเบื่อจะฟัง แต่ที่ยังอยู่ก็เพราะอยากอยู่ใกล้ผู้ชายคนเดียวในกลุ่ม ที่เธอหมายปองมาตั้งแต่ต้น ก็ได้แต่ทำตัวแสนดี เพื่อจะซึมซับเข้าไปอยู่ในชีวิตเขาให้ได้แค่นั้น แต่นี่ก็จะ 4 ปีแล้ว เขายังไม่มีท่าทีอะไรกับเธอเลย แล้วเทอมนี้ก็เป็นเทอมสุดท้าย เมื่อความแสนดีมันไม่ได้ผล เธอก็ต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว
"ยัง คุยเรื่องใต้สะดือสนุกจะตาย แล้วมึงล่ะนาบีเคยหรือยัง" เมื่อมีเป้าหมายใหม่พวกเขา ก็ต่างจ้องคนสวยเพื่อรอคำตอบ ซึ่งแต่ละคนก็อยากรู้เหมือนกัน
"ตอนนี้ยัง แต่ต่อไปก็ไม่แน่" เธอตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทั้งไม่ได้ด่าหรือโวยวายอะไร
"โด่วววววว"
"มึงไม่แน่อะไรบี" คนที่เดินออกมาจากห้องก็ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว ปกติแล้วภูริชญาจะไม่ใช่คนที่มาคุยเรื่องอะไรแบบนี้กับเพื่อน แต่วันนี้พอพูดอะไรที่แปลกไป ทำให้คนฟังอย่างเขารู้สึกแปลกใจไปด้วย
"ก็พวกมันคุยเรื่องอะไรกันล่ะ กูก็ไม่แน่เรื่องอันนั้นแหละ" เธอก็ตอบอย่างไม่สนใจ พร้อมกับทำหน้าตาเฉย
"มึงหยุดพูดอะไรบ้าๆ เลยนะ เรียนก็ยังไม่จบ เป็นเด็กเป็นเล็ก" เสียงทุ้มต่ำพูดออกมาด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย ทั้งไม่มีท่าทีในการพูดเล่นเลย
"เด็กบ้าอะไร อายุก็เท่ากันเนี่ย มึงยังไปหามั่วได้เลย จะมาบ่นอะไรกูเป็นเด็ก"
"มันไม่เหมือนกัน กูสั่งห้าม"
"เป็นพ่อกูเหรอทำไมบงการ"
"อ๊าววว แล๊ววว สองผัวเมียทะเลาะกันเว้ย" ณวัตรก็เอ่ยแซวขึ้น จนไอ้เพื่อนตัวดีหันมามองตาเขียวปัด
"เดี๋ยวมึงก็ไปเจอคนไม่น่าไว้ใจหรอก เป็นผู้หญิงอ่ะ"
"มึงอย่าไร้สาระมากเลยเพิร์ธ ที่มึงไปเอาอยู่ทุกวันนี้ก็ผู้หญิงทั้งนั้น เด็กกว่าพวกกูอีก" พัชชาที่ฟังอยู่ก็พูดขึ้น
"ไม่รู้แหละ ฟังด้วยนะที่กูพูด"
"แล้วคือบอกแค่คนเดียวงี้" นารีกุลก็หรี่ตาถาม
"ก็บอกมึงด้วยนั่นแหละ ทุกคนนั่นแหละ" เขาก็พูดพร้อมกับกวาดสายตาไปมองเพื่อนผู้หญิงทุกคน รวมไปถึงฟ้าใส ที่กำลังยิ้มให้เขาอยู่
ถ้าไม่ได้คิดไปเอง เขารู้สึกได้ว่ากัญจาวีร์ ต้องคิดอะไรกับเขาแน่ๆ เพราะเธอชอบเอาใจและดูแลเขา แม้กระทั่งรายงานที่ยากๆ ยังยอมทำให้ทุกอย่าง บางครั้งก็เหมือนจะอ่อย จนเขาเองก็เกือบเผลอไปเหมือนกัน ก็อย่างที่ว่า เธอมีดีกรีเป็นถึงดาวคณะ ทรวดทรงองค์เอวก็โคตรสวย เสียแต่ว่าเขาไม่อยากคิดอะไร ไปในทางนั้นเพราะเขาไม่ได้จริงจังกับใคร จะมองหน้ากันไม่ติดเสียเปล่า
"มึงจะไปได้ยัง!"
"ไอ้ห่า มึงจะพูดอะไรเสียงดัง" เขาก็ต้องสะดุ้ง เมื่อไอ้เพื่อนตัวดีอยู่ดีๆ ก็มาตะคอกใส่หู จนคนที่คิดอะไรเพลินๆ อยู่ ถึงกับหลุดออกมาจากภวังค์ อยากซัดหน้าความคิดตัวเองจริงๆ
"แล้วมึงเหม่อเหี้ยอะไรล่ะ เพื่อนเขาลงไปหมดแล้ว"
"อ่า เอ่อๆ"
"พวกมึง กูลืมเปลี่ยนรถมาวะ วันนี้นั่งได้สองคน"
"ไอ้ห่า ขับไปคนเดียวเลยนะมึง" คนที่รู้เจตนาของเขาก็แกล้งพูดขึ้น
"บี..." เขาก็กำลังพูด แต่กัญจาวีร์ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
"เดี๋ยวเราไปนั่งกับเพิร์ธเอง"
"ฟ้าใสจะไปใช่ไหม" นรีกุลก็หันไปถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะปกติแล้วสองคนนี้ ก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมากเหมือนพวกเขา ซึ่งดูแล้วทั้งคู่ก็ไม่ค่อยคุยกันเท่าไหร่ เป็นแบบนี้ก็รู้สึกแปลกๆ
"ใช่ เดี๋ยวฟ้าใสไปกับเพิร์ธนะ" กัญจาวีร์ก็หันหน้าไปพูดกับเพื่อนๆ ทั้งยังตั้งใจจ้องไปที่หน้าผู้หญิงที่เธอไม่ชอบที่สุดในกลุ่ม
"อ่า" ชายหนุ่มก็ตอบไป แต่สายตาพลันก็จ้องไปที่ เพื่อนสาวคนสวยของเขา ที่ปกติแล้วเธอจะเป็นคนเดียวที่นั่งกับเขาตลอด จนรถแต่ละคันของเขาแทบจะเป็นรถของเธออยู่แล้ว
"เรารีบไปกันเถอะเดี๋ยวมันจะดึกกว่านี้" ภูริชญาก็พูดขึ้น พร้อมกับเกาะแขนพัชชา แล้วเปิดประตูขึ้นไปนั่งหลังรถกัน อย่างไม่สนใจไอ้เพื่อนตัวดี กับเพื่อนผู้หญิงต่างคณะเลยแม้แต่น้อย
ภายในรถ
"รถเพิร์ธนี่หอมจังเลยเนอะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นรถผู้ชาย" เมื่ออยู่กันตามลำพัง กัญจาวีร์ก็รีบหาเรื่องคุย
"หอมกลิ่นน้ำหอมของนาบีอ่ะ" ซึ่งเธอใช้กลิ่นนี้เป็นกลิ่นเฉพาะตัวอยู่แล้ว และเขาเองก็ชอบเป็นที่สุด เธอก็เลยทำเป็นขวดปรับอากาศ มาใส่รถทุกคันให้เขา
"อ่อ" เมื่อได้ยินชื่อผู้หญิงคนนั้น ก็ทำให้เธอไม่ชอบใจขึ้นมาเล็กน้อย ถ้ารู้แบบนี้เธอจะไม่พูดว่าหอมเลย
"ถ้าหนาวก็ปรับแอร์ได้นะ"
"จ้า เอ่อ...ตรงนี้มีกระจกใช่ไหม ฟ้าใสขอส่องได้หรือเปล่า"
"ได้สิ แต่เปิดให้ระวังหน่อยนะ มีของ ของนาบีอยู่ตรงนั้นน่ะ เดี๋ยวร่วงมาแล้วเราจะโดนด่า"
"อ่อ งั้นฟ้าใสไม่เปิดดีกว่า เดี๋ยวร่วงลงมาจะเป็นเรื่อง" เธอก็พูดติดตลกพร้อมกับกึ่งประชด
"แล้วนี่เพิร์ธชอบกินขนมด้วยเหรอ ทำไมมีขนมเยอะจัง"
"ไม่หรอก เราไม่ชอบกินขนมอ่ะ พวกนี้ก็ของนาบีทั้งนั้น ชอบซื้อมาติดรถไว้"
"..." ยัยบ้านั่นอีกแล้วเหรอ ทุกอย่างในรถนี้คงเป็นของยัยนั่นสินะ ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบ
"วันนี้วันศุกร์รถติดหน่อยนะ" เมื่อต้องหยุดไฟแดง เขาถึงได้หันหน้ามาคุยกับเธอ ซึ่งเขากับเธอเองก็ไม่ได้สนิทอะไรกันเลย ทั้งยังไม่เคยได้อยู่ด้วยกันตามลำพังแบบนี้
"รถติดก็ดีเหมือนกันนะ" ก่อนจะพูดออกมาแล้วหันไปยิ้มให้เขา
"..." สายตาคมของเขาก็เหลือบไปมองเธอเช่นกัน
"เพิร์ธไม่ชอบรถติดเหรอ ทำไมดูหงุดหงิดจัง"
"ไม่อ่ะ รถติดเป็นอะไรที่น่าเบื่อ น่ารำคาญด้วย"
"แล้วเวลารถติดทำอะไรหรอ"
"ก็นั่งทำหน้าเซ็งอย่างนี้แหละ แต่ส่วนมากนาบีก็จะเต้นTikTok หรือเปิดไอดอลเกาหลีดู"
"อ่อ... เพิร์ธกับนาบีนี่ดูสนิทกันจังเลยเนอะ ดูสนิทกว่าเพื่อนทุกคนด้วย"
"ใช่ ก็สนิทกันมาก"
"นาบีนี่สวยมากเลยเนอะ ลูกครึ่งเกาหลีนี่ดีแบบนี้นี่เอง" แล้วทำไมเธอถึงไม่ได้เป็นคนที่สนิทของเขาแบบนั้นบ้าง
"ก็ปกตินะ เหมือนผู้หญิงทั่วไป" เขาก็พูดไปแบบไม่คิดอะไร สำหรับเขาภูริชญาไม่ต้องสวยมากขนาดนั้นหรอก สวยแค่เท่านี้ก็พอแล้ว ไม่อยากให้เธอเป็นที่สนใจสำหรับคนอื่น
"จะปกติได้ไง นาบีสวยมากขนาดนั้น คนมาจีบเยอะด้วย"
"ไม่หรอก ผู้ชายพวกนั้นมันไม่จริงใจ"
"อือ แต่ฟ้าใสก็เชียร์อยู่คนนึงนะ นายอ่ะ ดูนายจะสนใจนาบีจริงๆ ก็เห็นตามจีบไม่หยุดเลย"
เอี๊ยดดดดด
"อุ้ย เพิร์ธ" เธอก็ต้องตกใจ เมื่ออยู่ๆ เขาเบรคกระทันหัน จนเธอหน้าแทบทิ่มคอนโซลแบบนี้
"อ่อ โทษทีนะฟ้าใส นี่เป็นอะไรหรือเปล่า ข้างหน้ามันเบรกกระทันหันอ่ะ เราไม่ทันมอง" เมื่อตื่นจากภวังค์ เขาก็รีบหันมาขอโทษเธอทันที ใจเขาไม่นิ่งเมื่อได้ยินอะไรที่ไม่เข้าหู
"ไม่เป็นไร ฟ้าใสไม่เป็นอะไร" เธอก็พูดพร้อมกับฝืนยิ้มให้เขา ก่อนที่เขาจะขับรถต่อ พร้อมกับสีหน้าที่บึ้งตึง
"โหไปหลงอยู่ป่าไหนมาเนี่ย" เมื่อทั้งสองคนมาถึง เพื่อนที่จอดรถรออยู่ ก็รีบถามอย่างไม่สบอารมณ์
"รถติด!"
"แล้วมึงเป็นไรเนี่ย"
"ไม่เป็น!"
"แล้วจะเข้าไปข้างในกันได้หรือยัง โซนวีไอพีใช่ไหม"
"เออ! รีบไป ก่อนที่เฮียกูจะมา"
"เหี้ย ไปกินรังต่อรังแตนอะไรมาอีกวะ" เพื่อนชายทั้งสองคนก็กระซิบกระซาบคุยกัน
ซึ่งคลับแห่งนี้ก็เป็นอีก 1 คลับของครอบครัวเขา ที่บริหารโดย 'เฮียพีท ภควัต' ที่ตอนนี้มีทั้งหมดถึง 10 ที่ ทั่วกรุงเทพฯ เฮียพีทเป็นพี่ชายสุดที่รักของเขา ที่เป็นคนดุมากและบ้าอำนาจที่สุด เรียกว่าเป็นมาเฟียผู้น่าเกรงขาม ถ้าใครได้เป็นศัตรู รับรองว่าต้องแหลกลาน ขนาดน้องชายอย่างเขายังรู้สึกกลัว