ไหมแก้วยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ เมื่อถูกสายตาคมกริบของฐิติพัฒน์จ้องมองอยู่เกือบนาที เขามองหล่อน มองเหมือนกับกำลังสำรวจสินค้าไม่มีผิด
“มองฉันขนาดนี้ ก็เอาแป้งมาทาตัวฉันแล้วขัดๆ ถูๆ เลยก็ได้นะคะ เผื่อคุณจะได้เลขเด็ดไปแทงหวยงวดนี้” ไหมแก้วอดประชดไม่ได้ เพราะตัวเองยืนนิ่งเหมือนหุ่นมาสักพักแล้ว
ฐิติพัฒน์เลื่อนสายตาจากเสื้อผ้าของหล่อนขึ้นมาสบตากับหล่อนแทน แววตาของเขาไร้ความรู้สึกเหมือนเดิม
ตาบ้า...
ทำไมไม่แสดงความรู้สึกทางแววตาบ้างนะ ฉันจะได้รู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่
“ผมไม่เคยซื้อหวย”
“ฉันก็พอจะเดาได้ล่ะค่ะว่าคุณไม่เคยแทงหวยน่ะ ก็คนรวยๆ แบบคุณ น่าจะเล่นหุ้นมากกว่า ใช่ไหมล่ะคะ”
เขาไม่ตอบ แต่ลุกขึ้นยืน และพาร่างกายสูงตระหง่านเดินมาหยุดตรงหน้าของหล่อน
“ผมชักไม่เชื่อแล้วสิว่า คุณเป็นผู้หญิงเรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย และไม่พูดมาก”
“ฉัน...”
ไหมแก้วตาเบิกโพล่ง ก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง และกะพริบตาปริบๆ
“คือฉัน... ตื่นเต้นน่ะค่ะ สารสื่อประสาทบางอย่างในตัวก็เลยทำงานผิดพลาด นี่ฉันก็งงเหมือนกันนะคะว่าทำไมฉันพูดมากแบบนี้ ปกติฉันพูดแค่คำสองคำต่อชั่วโมงเองค่ะ”
เขาไม่ได้ตอบในทันที แต่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เสียก่อน ดวงตาของเขาจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของหล่อน
พระเจ้า...
มองใกล้ๆ แบบนี้ ผู้ชายคนนี้หล่อบาดใจเหลือเกิน
หล่อนพยายามจะไม่มองความหล่อของเขาแล้ว แต่ให้ตายเถอะ เขาหล่อจนหล่อนวิงเวียนเลยทีเดียวล่ะ
“คุณ... จะจูบฉันเหรอคะ” หล่อนถามตะกุกตะกักออกไป
“ผมไม่ทำอะไรสิ้นคิดแบบนั้นหรอกครับ”
แล้วเขาก็ยืดตัวตรง และเดินกลับไปนั่งบนเก้าอี้ตัวใหญ่เหมือนเดิม
อะไรนะ นี่เขาบอกว่าการจูบหล่อนคือเรื่องสิ้นคิดอย่างนั้นเหรอ
ไหมแก้วกำมือแน่น และถลาไปหยุดที่โต๊ะทำงานไม้โบราณของชายหนุ่ม
“คำพูดของคุณมันทำให้ความมั่นใจของฉันถดถอยลงมากเลยนะ ทำไมคะ ปากฉันมันแหว่งหรือยังไง”
“ไม่แหว่ง แต่ผมไม่ชอบ จบนะครับ”
เขาจบการสนทนาด้วยการคำพูดที่เย็นชา ก่อนจะกดปิดหน้าจอแล็ปท็อป จากนั้นก็คว้าเสื้อสูทและเดินไปที่ประตูห้อง
หล่อนยืนนิ่งเหมือนถูกสาปให้กลายเป็นหินกับท่าทางเฉยเมยของเขา
“ตาผีดิบ”
หล่อนด่าเบาๆ แต่เขากลับได้ยิน ไม่น่าเชื่อว่าจะหูดีขนาดนี้
ชายหนุ่มหยุดเดิน และเอี้ยวตัวกลับมามองหล่อน
“ถ้าคุณย่าไม่ชอบคุณ ผมจะยกเลิกสัญญา”
“ห๊า... ว่ายังไงนะ”
หล่อนเลิกตัวแข็ง และวิ่งเข้าไปหาเขา แต่คงเพราะความรีบร้อนทำให้หยุดเท้าไม่อยู่ ทำให้ร่างสาวถลาเข้าไปเกือบจะชนกับเรือนกายใหญ่โต แต่เขาเอานิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวดันหน้าอกของหล่อนหยุดเอาไว้ได้ทันเวลา
“คุณได้ยินทุกคำที่ผมพูดแล้วไม่ใช่หรือครับ”
“แต่... เราทำสัญญากันไปแล้ว”
“แสดงว่าคุณอ่านสัญญาไม่ละเอียด ไม่งั้นก็คงไม่ได้อ่านมันเลยสินะ”
เขาจ้องมองหล่อน ด้วยแววตาที่บอกให้รู้ว่าเขารู้ทันความคิดทุกอย่างของหล่อน
ไหมแก้วหน้าเสีย ความซีดเผือดมาเยือนสองแก้มในทันที
“เอ่อ... ฉันก็อ่านนะ แต่อ่านจะอ่านข้ามไปบ้าง”
“ผมไม่ชอบคุณ และถ้าคุณย่าไม่ชอบคุณด้วย สัญญาก็คือว่าสิ้นสุด”
“คุณไม่ชอบฉันเหรอคะ”
หล่อนเอานิ้วจี้หน้าอกตัวเอง และมองเขาตาโต
“ฉันไม่มีตรงไหนคะ ฉันเรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย หัวอ่อน เป็นคนจิตใจดี และฉันไม่ใช่คนพูดมากเลย”
“แต่เท่าที่เราได้คุยกัน คุณพูดมากกว่าผมเกือบร้อยเปอร์เซ็น”
“ฉัน...”
“ดังนั้นทางรอดเดียวของคุณก็คือ ทำยังไงก็ได้ให้คุณย่าของผมชอบคุณ”
ทำไมตาสุดหล่อนี่ถึงได้ใจร้ายใจดำ ใจอำมหิต แถมเย็นชาสุดๆ แบบนี้นะ
“ฉันจะทำให้ได้ คุณคอยดูเถอะ”
ฐิติพัฒน์ไม่ตอบ แต่เปิดประตูและเดินออกไปทันที
ไหมแก้วย่นจมูกใส่ ก่อนจะเดินตามออกไปด้วยอีกคน
“ไหม... เป็นไงบ้าง” รินรดารีบลุกจากโต๊ะทำงานมากระซิบถาม
“เจ้านายคนดีของเธอบ้าอำนาจมากๆ เลย นี่บอกว่าเขาไม่ชอบฉัน และถ้าคุณย่าของเขาไม่เอาฉันอีกคน สัญญาจะสิ้นสุดลงทันที”
“ว่า... ว่าไงนะ?” รินรดาหน้าซีดเผือดเมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อน
“แต่ฉันไม่ยอมแพ้หรอก ฉันจะทำให้คุณย่าของเขาทั้งรักทั้งหลงฉัน คอยดูสิ” ไหมแก้มพูดด้วยความมุ่งมั่น
“แก... ฉันเอาใจช่วยนะ”
“ขอบใจมากริน แกรอฟังข่าวดีก็แล้วกัน ฉันไปล่ะ”
รินรดามองตามร่างของเพื่อนรักที่วิ่งตามฐิติพัฒน์เข้าไปในลิฟต์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดวิตก
“ไหม... แกจะรอดไหมเนี้ย”
หญิงสาวเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด