นิยายในชุด
1. ขายหัวใจให้ท่านประธาน
2. มลทินรัก CEO
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“มานี่เลย ตาอัษ ย่ามีเรื่องจะคุยด้วย”
คนที่เพิ่งเดินเข้ามาภายในบ้านถึงกับต้องชะงักเท้ากึก ใบหน้าที่เรียบเฉยไร้ความรู้สึกอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งเย็นชาจนหาสิ่งใดเทียบไม่ได้
เขาเดินเข้าไปหาคุณย่าของตัวเอง ก่อนจะหย่อนกายลงสั่งบนโซฟาตัวตรงกันข้ามกับท่าน ดวงตาคมกริบยังนิ่งเฉย
“นี่จะไม่ถามย่าหน่อยเหรอว่าย่ามีเรื่องอะไรจะคุยด้วย”
“ผมรู้อยู่แล้วครับ”
ฐิติพัฒน์ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ต่างจากใบหน้า
คนเป็นย่าถอนใจออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“เลิกทำตัวเป็นก้อนน้ำแข็งแบบนี้สักทีเถอะตาอัษ หัดทำตัวมีชีวิตชีวาบ้าง”
“ผมก็เป็นปกติของผมแบบนี้มาตั้งนานแล้วนี่ครับคุณย่า”
คนเป็นย่าถอนใจแล้วถอนใจอีก ก่อนจะส่ายหน้าไปมา
“ย่าทนไม่ไหวแล้ว ยังไงครั้งนี้ย่าก็จะไม่ยอมให้หลานปฏิเสธการแต่งงานอีกแล้ว”
“ผมเพิ่งอายุ 28 ยังมีเวลาแต่งงานอีกเยอะครับ”
“แต่ย่าอายุ 73 แล้ว ย่าจะมีเวลาอยู่กับหลานได้อีกกี่ปี แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาเสียเถอะ พ่อแม่ของหลานที่อยู่บนสวรรค์จะได้สบายใจ”
“ผมว่าคุณพ่อคุณแม่คงไม่ได้สนใจนี้หรอกมั้งครับ”
“เออ! ก็มีแต่ย่านี่แหละที่สนใจ นี่หลานจะพูดแบบนี้ใช่ไหมล่ะ”
คนแก่ทำหน้าแง่งอน จนฐิติพัฒน์จำต้องยอมอ่อนลง
“ผมขอเวลาอีกสักปีครับ”
“ย่าไม่รอแล้ว ย่ารอไม่ไหว”
“ผมว่าอีกแค่ปีเดียว ไม่เหนือบ่ากว่าแรงของคุณย่าหรอกครับ”
“แต่พักหลังๆ มานี่ย่ารู้สึกไม่ค่อยดีนัก ร่างกายแก่ลงเยอะ ไม่ค่อยแข็งแรง ถ้าหลานไม่เชื่อก็ไปถามหมอโจดูสิ” หญิงชราอ้างไปถึงแพทย์ประจำตัวของตนเอง
เมื่อถูกหยิบเรื่องสุขภาพมาข่มขู่อ้อมๆ ทำให้ฐิติพัฒน์ไม่อาจจะใจแข็งกับคุณย่าของตัวเองได้
“งั้นผมจะลองเอาไปคิดดูอีกครั้งนะครับ”
“ตาอัษ... ถือว่าย่าขอร้องล่ะ แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝานะ...”
ดวงตาของคุณย่าที่ทอดมองมานั้นช่างเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ จนทำให้เขาอดรู้สึกละสายใจไม่ได้ นี่เขาทำให้ผู้มีพระคุณที่อุ้มชูเลี้ยงดูมาทุกข์ร้อนใจได้มากมายถึงขนาดนี้เชียวหรือ
“ตกลงครับ”
“จริงเหรอตาอัษ”
หญิงชราแทบจะลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
“จริงครับ ผมจะแต่งงานตามที่คุณย่าต้องการ”
“ห้ามหลอกให้คนแก่ดีใจเก้อนะ”
คุณย่าดีใจขนาดนี้เลยเหรอ แค่เขายอมตกลงแต่งงานเท่านั้น
ฐิติพัฒน์ลอบถอนใจออกมา แม้การแต่งงานจะเป็นเรื่องที่เขาหลีกหนีมาตลอด แต่ตอนนี้คงหนีไม่ได้อีกแล้ว
“ถ้าผมตอบว่าตกลง ก็คือตกลงครับคุณย่า”
“งั้นย่าจะไปแม่สื่อ...”
“ผมจะหาเจ้าสาวเองครับ”
เขาแทรกขึ้นก่อนที่คุณย่าจะพูดจบประโยคเสียอีก
และเมื่อคุณย่าทำเหมือนจะไม่ยอม เขาจึงต้องย้ำความต้องการของตัวเองออกมาให้ชัดเจน
“ผมตกลงจะแต่งงานตามที่คุณย่าต้องการ แต่ผมจะต้องหาเจ้าสาวของผมเองครับ”
“รอให้หลานหาเอง เมื่อไหร่จะได้แต่งกันล่ะ” คุณย่าทำเสียงท้อแท้
“ผมขอเวลาสามวันครับ”
“ห๊า... สามวัน... หลานจะไปหาเจ้าสาวที่ไหน คงไม่ได้ไปชี้เลือกตามตู้กระจกมาหรอกนะ” คนเป็นย่าพูดติดตลกไม่ได้จริงจัง
“ผมไม่ทำอย่างนั้นหรอกครับ”
“หรือว่าพ่ออัษมีแฟนอยู่แล้ว”
ชายหนุ่มส่ายหน้าปฏิเสธ
“ผมไม่มีแฟน ไม่ได้คบหากับผู้หญิงคนไหน แต่ผมสามารถหาผู้หญิงดีๆ มาแต่งงานได้ภายในสามวันอย่างแน่นอนครับ”
แม้จะเป็นกังวลอยู่ แต่หญิงชราก็จำต้องยอมเชื่อในสิ่งที่หลานชายพูดออกมา
“ก็ได้ ย่าจะรอเจอหลานสะใภ้ก็แล้วกันนะ”
“ผมขึ้นห้องได้หรือยังครับคุณย่า”
“จ้ะ ไปเถอะ”
เมื่อคุณย่าอนุญาตแล้ว ฐิติพัฒน์ก็ลุกขึ้นและเดินออกไปเงียบๆ