จริง ๆ การที่เมื่อคืนเขาไม่ได้รวบหัวรวบหางพลอยฟ้าก็ถือว่าดี เพราะถ้าเขาทำแบบนั้นก็จะเป็นการเอาเปรียบเธอ เรียกง่าย ๆ ว่าฉวยโอกาส พอเขาไม่ทำพลอยฟ้าก็ยิ่งมองเขาในแง่ดี ยอมให้โอบ ให้กอด ให้หอมแก้ม ไม่ถือตัวเหมือนเมื่อก่อนอีก
ชายหนุ่มคิดว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม ที่เธอยอมเปิดโอกาสให้เขาเข้าถึงเนื้อถึงตัวบ้าง
ปราบทำตัวดี เอาอกเอาใจสารพัด จับมือเธอเดินเล่นตรงริมหาด สั่งอาหารทะเลสด ๆ รสชาติยอดเยี่ยมมาให้เธอรับประทาน ทำให้พลอยฟ้ารู้สึกมีความสุขมาก
“อุ๊ย!”
“น้องพลอยเป็นอะไรคะ”
“สะดุดอะไรไม่ทราบค่ะ ปวดเท้าจัง” เธอก้มมองก็เห็นว่าสะดุดเข้ากับเปลือกหอยแหลมคมบนชายหาด
“เลือดไหลด้วยครับ” เขานั่งยอง ๆ ก้มมองอย่างห่วงใย
“อุ๊ย! พี่ปราบทำอะไรคะ” เธอร้องอย่างตกใจเมื่อเขาอุ้มเธอขึ้น
“พี่จะพาไปทำแผลครับ ถ้าน้องพลอยเดินไปแบบนี้จะยิ่งเจ็บ เลือดจะยิ่งไหล” เขาอุ้มเธอพาไปยังบ้านพัก ก่อนที่จะล้างทำความสะอาดเท้าให้ ก่อนจะนำผ้ามาซับให้ตรงเท้า และทำแผลให้อย่างอ่อนโยน
พลอยฟ้ามองคู่หมั้นของตัวเองแล้วยิ้มกว้าง ปราบเป็นคนน่ารักและใส่ใจเธอเสมอ
ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะมีคู่หมั้นน่ารักและแสนดีขนาดนี้ เธอมีความสุขเหลือเกิน ที่ตัวเองโชคดีกว่าผู้หญิงหลายคนที่จะมีสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดีของลูก
“แผลไม่เยอะนะครับ แต่น่าจะเดินลำบากเพราะเจ็บ พี่ว่าต้องหาซื้อรองเท้าใหม่สำหรับเดินนะคะ แล้วก็ตอนนี้อย่างเพิ่งเดิน ให้พี่อุ้มดีกว่า”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ” เธอพูดอย่างเกรงใจ
“ห้ามปฏิเสธพี่นะคะ” ปราบรุกหนัก นอกจากครอบครองหัวใจของเธอแล้ว เขายังอยากครอบครองร่างกายของเธออีกด้วย และซื้อความไว้เนื้อเชื่อใจให้สำเร็จในทริปนี้
เป็นแบบนี้ที่ปราบคิดจริง ๆ เมื่อปราบดูแลเอาใจใส่พลอยฟ้าเป็นอย่างดี หญิงสาวก็ยิ่งเห็นความดีของปราบเข้าไปอีก เขาไม่ล่วงเกิน แม้จะมีโอกาส รู้จักหักห้ามใจ พาเธอไปส่งที่บ้านคุณยายโดยสวัสดิภาพและให้เธอหยุดงานจนกว่าเท้าจะหาย แม้เธอจะบอกว่าไม่เป็นไรเขาก็ทำเสียงดุบอกว่าจะลาหยุดงานให้เธอเอง
ปราบซื้อรองเท้าแตะคู่หลวมให้ใส่แทนรองเท้าหุ้มส้นเรียบร้อยที่เธอชอบใส่เพราะกลัวจะบีบเท้า
ความใส่ใจของเขามีมากกว่านั้นเพราะปราบมาเยี่ยมเธอเช้าเย็น เขามาฝากท้องโดยการรับประทานอาหารกับเธอ มาที่บ้านทีไรก็ซื้อของติดไม้ติดมือมาฝากเต็มไปหมด
ทุกวันนี้ปราบคือแขกคนสำคัญของบ้าน ที่สำคัญเขาทำให้ทุกคนตกหลุมรักและประทับใจเป็นอันมาก
ปราบคิดว่าจะจับพลอยฟ้ารวบหัวรวบหาง แต่ก็ยั้งๆ เอาไว้ ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม เขากำลังรอจังหวะอยู่
วันก่อนเขาได้ยินคุณยายเรียกหลานสาวคนเดียวไปพูดคุยเรื่องแต่งงานแต่งการ เพราะบิดามารดาของเขาก็มาคุยกับท่านว่าอีกไม่กี่วันพลอยฟ้าจะเรียนจบก็อยากให้แต่งงานแต่งการกันให้เรียบร้อย ชาวบ้านจะได้ไม่นินทาที่ไปมาหาสู่กันอยู่แบบนี้ แต่ไม่ทำอะไรเสียที
แต่ที่ทำให้เขาหูผึ่งได้ก็เพราะว่าคุณยายพูดกับหลานสาวว่าหากแต่งงานออกเรือนไป คุณยายจะมอบที่ดินให้พลอยฟ้า และที่ดินตรงนั้นก็เป็นที่ดินที่บิดาอยากได้นักหนา
เขาเคยถามว่าทำไมบิดาอยากได้ที่ดินตรงนั้นนัก ท่านตอบว่าที่ดินตรงนั้นทำเลดีและสวย มารดาของเขาอยากได้ แต่บิดาของพลอยฟ้ามาซื้อตัดหน้าไปเสียก่อน ทำให้ท่านรู้สึกเสียหน้าและเจ็บใจค่อนข้างมาก จึงเก็บความแค้นใจมาจนถึงทุกวันนี้
แม้บิดามารดาของเขากับพลอยฟ้าจะเป็นเพื่อนกัน แต่ก็ทำธุรกิจแข่งกัน ทำให้ไม่อยากน้อยหน้าอีกฝ่าย เขาคิดว่าพอบิดามารดาของพลอยฟ้าเสียชีวิตนั่นแหละ ท่านเลยตีตัวออกหากเพราะไม่อยากข้องเกี่ยวกับคนล้มละลาย แต่พอนึกถึงที่ดินที่อยากได้ ก็เลยวางแผนให้เขากลับไปตีสนิททวงสิทธิ์ในฐานะคู่หมั้น โดยท่านบอกว่าหากเขาสามารถทำให้ยายหลานคู่นั้นขายที่ดินผืนนั้นมาได้ เขาอยากได้อะไรท่านจะให้ทุกอย่าง ซึ่งรางวัลมันก็ล่อตาล่อใจเป็นอันมาก เขาจึงตอบตกลงในทันที
ตอนนี้พลอยฟ้าทั้งรักทั้งหลงเขา นอกจากได้จับมือยังได้กอด ได้หอมและล่าสุดได้จูบเธออย่างดูดดื่ม
ท่าทีเขินอายของเธอไม่ได้ทำให้เขานึกรำคาญแต่อย่างใด แต่มันไร้เดียงสา อ่อนหวาน เงอะงะจนน่าสอนให้เรียนรู้รสรักอันหวานฉ่ำ
“ตอกตรงนี้หรือคะ” คนที่ขลุกตัวอยู่แต่บ้านของคู่หมั้นทุกวัน ช่วยทำโน่นทำนี่ไม่หยุดมือ แม้กระทั่งทำสวนซึ่งเขาไม่เคยคิดจะทำมาก่อน
ปราบไม่รู้ตัวเลยว่าเขาตกหลุมรักสาวน้อยเข้าให้เสียแล้ว แต่ยังหลอกตัวเองว่าเป็นเพราะผลประโยชน์ ทั้ง ๆ ที่สายตาที่มองนั้นเปลี่ยนไปจากวันแรกๆ แค่ไหน
“ตรงนั้นละค่ะ” เธอให้เขาช่วยตอกตะปูเพื่อที่จะแขวนรูปถ่าย เป็นรูปถ่ายของเธอกับคุณยายและมีเขาอยู่ด้วย เขาอัดใส่กรอบมาให้ รูปนี้สวยสะดุดตา คนในภาพยิ้มให้กับกล้อง และเป็นวิวที่ด้านหนึ่งเห็นบ้านเรือนไทย ด้านหลังเป็นแม่น้ำที่อยู่ด้านหลัง และอีกด้านเป็นสวนดอกไม้
“เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย!” ปราบตกจากเก้าอี้ทำท่าจะล้มลง พลอยฟ้าตกใจ ลืมคิดไปว่าตัวเองนั้นตัวเล็กกว่าเขามาก ทำท่าจะเข้าไปรับ เขาก็เลยล้มลงมาทาบทับอยู่บนตัวเธอเต็ม ๆ
“โอ๊ย!” เธอร้องด้วยความเจ็บ เขาแค่จะแกล้งตกเก้าอี้ แล้วออดอ้อนว่าเจ็บให้เธอมาดูแล ไม่คิดว่าเธอจะเอาตัวมารับร่างเขาเอาไว้แบบนี้
“น้องพลอยเป็นอย่างไรบ้างคะ” สีหน้าเป็นห่วงเป็นใยของเขาทำให้เธอ รีบส่ายหน้าไปมา
“พลอยไม่เป็นอะไรค่ะ พี่ปราบล่ะคะเป็นอย่างไรบ้าง บาดเจ็บอะไรตรงไหนหรือเปล่าคะ”
“พี่ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ น้องพลอยเจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ” เขาดึงรั้งร่างของเธอขึ้นมานั่งประจันหน้า ก่อนจะได้ยินเสียงร้องของเธอ
“โอ๊ย!” เธอเจ็บที่ข้อศอกเพราะกระแทกกับพื้นเรือน
“เจ็บข้อศอกเหรอคะ ไหนพี่ดูซิ แดงเชียวครับ” เขาเป่าเบา ๆ คล้ายจะให้เธอคลายจากความเจ็บ
“พี่ปราบทำอะไรคะ”
“เป่าให้ไงครับ เพี้ยง ๆ หายเร็วๆ นะครับ” ประโยคของเขาทำให้เธออมยิ้ม
“อมยิ้มอะไรครับ”
“พี่ปราบนี่อ่อนโยนจังเลยนะคะ”
“กับพลอยเพียงคนเดียวเท่านั้นครับ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนที่จะไล้แก้มสาวของเธอไปมาเบาๆ ทั้งสองจ้องตากัน บรรยากาศพาไปหรือใจหวั่นไหว ปราบจึงก้มลงไปประทับจุมพิตริมฝีปากดูดดื่ม
เพราะเคยโดนเขาจูบมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ครั้งนี้เธอจึงใจกล้าจูบตอบเขาไปบ้างด้วยความวาบหวาม มือหนาของเขาเข้าเคล้นคลึงฟอนเฟ้นทรวงอกอวบอิ่ม แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้ทำอะไรกันต่อ เสียงกระแอมของคุณยายพิมพ์จันทร์ก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ฮะแฮ่ม” คุณยายยืนหน้าตึงอยู่อีกด้าน สีหน้าดุๆ ของท่านทำให้ทั้งสองต้องรีบผละออกจากกัน
“ตามยายไปคุยกันหน่อยซิ” คุณยายเดินไปนั่งรออยู่ตรงห้องนั่งเล่น ห้องนี้สามารถมองวิวทิวทัศน์ได้เกือบรอบบ้านเพราะเป็นระเบียงยื่นออกไปภายนอก ทำให้เห็นแม่น้ำ สวนดอกไม้ สนามหญ้า และรั้วหน้าบ้าน แขกไปใครมาก็สามารถชะโงกหน้าออกไปดูได้
“ยายอุตส่าห์ไว้ใจ ไม่คิดว่าเราจะล่วงเกินพลอยฟ้าขนาดนี้” คุณยายพูดเสียงดุ