5. โต้กลับ

1390 คำ
เนี่ยซวงพอรู้ว่าคืนนี้เขาไปฉลองกับอนุทั้งสองก็เข้านอนอย่างสบายอารมณ์ นางไม่ใช่คนงอนง้อผู้ชาย ในเมื่อพึ่งพาตัวเองได้ จะเอาหน้าตัวเองไปให้คนอื่นเหยียบทำไม ถึงยามบ่ายจะได้นอนเต็มตาแล้วก็ตามแต่พอหัวถึงหมอนก็หลับสนิทไป รู้สึกตัวอีกทีรอบกายมีแต่ความมืดมิด อบอวลไปด้วยกลิ่นสุรา ร่างกายของนางหนักอึ้ง ไรหนวดสากระคายไล้ผ่านซอกคออ่อนไหว "อื้อ! ออกไปนะ!" เนี่ยซวงผลักไสทั้งที่ยังไม่ลืมตา อะไรกันที่มารบกวนการนอนของนาง แมวที่บ้านนางขนแข็งขนาดนี้เลยหรอเนี่ย มือไม้ของเนี่ยซวงป่ายเปะไปทั่ว ได้ยินเสียงครางต่ำที่ข้างหู หญิงสาวตัวแข็งขึ้นมาทันที พลันนึกขึ้นได้ตัวเองไม่ได้อยู่ในโลกปัจจุบัน แต่ว่าคืนนี้แม่ทัพนั่นค้างกับอนุไม่ใช่หรือ ติ่งหูนุ่มถูกดูดกลืน นางถูกไล่จูบตั้งแต่หลังใบหูเรื่อยลงมาตามซอกคอ แม้สัมผัสของเขาจะชวนให้เคลิบเคลิ้มแต่เนี่ยซวงยังไม่ลืมว่าค่ำคืนที่ผ่านมานางทรมานมากเพียงใด "ท่านแม่ทัพ?" ซ่งฉีหลินขมวดคิ้ว แม้แต่คำเรียกขานก็ไม่อ่อนหวานสักนิด ลืมไปว่าเมื่อเช้าตัวเองเป็นคนชักสีหน้าตอนนางเรียกเขาว่าท่านพี่ เขาระดมจูบโดยไม่สนใจเจ้าของร่างที่เพิ่งรู้สึกตัวตื่น "คืนนี้มิใช่ท่านต้องค้างกับอี๋เหนียงทั้งสองหรือเจ้าคะ ท่านเมาแล้วมาผิดเรือนใช่หรือไม่" มาผิดเรือน? เรือนของนางตั้งอยู่โดดเดี่ยวห่างไกลถึงเพียงนี้ หากมิได้ตั้งใจมา เขาจะมาผิดเรือนได้อย่างไร เห็นได้ชัดว่านางจงใจผลักไส ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกไม่พอใจ ฟันคมจึงครูดกับผิวบางๆ ที่ซอกคออ่อนไหวจนนางสั่นสะท้าน เนี่ยซวงเห็นเขาไม่ยอมเจรจา รู้ดีว่าท่าทีแบบนี้คงไล่ไม่ไป จึงจงใจเอ่ยถึงบิดา "เมื่อคืนท่านก็ได้ทำตามสัญญากับท่านพ่อข้าแล้ว เนี่ยซวงไม่กล้ายึดท่านไว้คนเดียว คืนนี้ท่านไปฉลองกับอี๋เหนียงแต่กลับมาค้างกับข้าเช่นนี้ ผู้อื่นจะไม่คิดว่าข้าใจแคบหรอกหรือ" จากที่ไม่พอใจอยู่แล้วซ่งฉีหลินก็รู้สึกโกรธขึ้นมาจริงๆ หากนางไม่อยากร่วมหอกับเขาเพราะร่างกายยังบอบช้ำก็เพียงบอกเขามาตรงๆ ไม่ใช่อ้างชื่อพ่อตาที่เขานึกรังเกียจคนนี้ เขาไม่เพียงไม่รามือ ฟันคมยังขบกัดนาง มือสากหนาล้วงเข้ามาในเสื้อขยำอกอิ่ม หญิงสาวร้องอย่างตกใจ อย่างไรเสียนางก็ยังไม่คุ้นมือบุรุษ "เนี่ยซวง" น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำมีเสน่ห์ หากเขาเรียกนางด้วยความเสน่หา นางคงจะเคลิบเคลิ้มไปแล้ว ทว่าทุกถ้อยคำที่เขาเอ่ยกับนางกลับเชือดเฉือน "เจ้าคิดว่าข้ามาหาเจ้าเพราะความพิศวาทอย่างนั้นหรือ อนุทั้งสองยังมีโอกาสได้รับความโปรดปรานจากข้า ส่วนเจ้า บิดาเจ้าจะยกเจ้าให้ข้าด้วยฐานะใดก็ดี แต่สำหรับข้าแล้วเจ้าก็เป็นเพียงที่ปลดปล่อย ในจวนนี้ใครที่ตาไม่บอดย่อมมองออก" เนี่ยซวงโกรธจนตัวสั่น มือที่กำอกเสื้อเขาอยู่ขยุ้มจนแน่น เขาทำราวกับนางเป็นเพียงนางบำเรอมิใช่ภรรยา นางจะทดบัญชีแค้นนี้ไว้ก่อน ยั่วคนผู้นี้ให้โกรธไม่ใช่เรื่องดีกับตน มือบางค่อยๆ ปล่อยอกเสื้อเขา "อ้อ...เช่นนั้นก็เชิญท่านแม่ทัพตามสบาย" นางแสร้งกล่าวด้วยน้ำเสียงง่วงงุนแล้วทำท่าจะหลับต่อ ท่าทางดูใสซื่อบริสุทธิ์ยิ่งนัก แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาเห็นคิ้วตางดงามหลับพริ้ม ดูราวกับไม่ได้รับผลกระทบใดจากคำพูดเขา ซ่งฉีหลินกลับเป็นฝ่ายหงุดหงิด ทั้งยังรู้สึกว่าตนเองเป็นคนเลวที่ข่มเหงรังแกหญิงสาวไร้ทางสู้คนหนึ่ง ชายหนุ่มเคลื่อนกายลงจากเตียง สวมเสื้อผ้าในความมืดแล้วเดินออกจากห้องไป คล้อยหลังเขาเนี่ยซวงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เกือบไปแล้ว ร่างกายนางยังบอบช้ำ หากคืนนี้เขามีอะไรด้วยนางคงรับไม่ไหว จะจัดการกับคนผู้นี้ต้องใจเย็น หากนางปะทะกับเขาตรงๆ มีแต่จะพ่ายแพ้ นอกจากคนในเรือนเหลียนฟาง ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อคืนท่านแม่ทัพมาหาเนี่ยซวง ต่างก็นึกว่าเขาค้างกับจางอี๋เหนียง สมรสได้เพียงวันเดียวก็ไปค้างกับอนุ ฮูหยินน้อยต้องเป็นที่ไม่โปรดปรานถึงขั้นไหนกัน! วันนี้อาหารเช้าจึงยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม เสี่ยวถงยกถาดอาหารเข้ามาในห้องทั้งน้ำตา "จะรังแกกันเกินไปแล้ว! คุณหนูดูเอาเถิด อยู่ในคฤหาสน์ตระกูลเนี่ยท่านเคยต้องกินอาหารแบบนี้ที่ไหนกัน" มื้อเช้ามีเพียงข้าวต้มใส ดูไปแล้วเหมือนจงใจตักให้แต่น้ำข้าว กับข้าวก็มีเพียงผักดองและถั่วคั่วเกลือเรียบง่าย เนี่ยซวงยิ้มขันกับท่าทางของเสี่ยวถง "อย่าโมโหไปเลย มื้อเช้าข้าก็กินไม่เยอะอยู่แล้ว อีกอย่างข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าจะไม่ปล่อยให้ใครมารังแกพวกเจ้า" เสี่ยวซานมองนางอย่างเป็นห่วง "ฮูหยินน้อยเจ้าคะ เมื่อคืนท่านแม่ทัพได้มาหาท่านหรือไม่" เมื่อคืนท่านแม่ทัพมากลางดึก แต่เพียงครู่เดียวก็จากไป เสี่ยวซานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ ท่านแม่ทัพรังแกคุณหนูของนางหรือเปล่า "ไม่มีอะไรหรอก เขาแค่เดินหลงทางมา" เนี่ยซวงตอบยิ้มๆ ทำเอาเสี่ยวซานห่อเหี่ยวไปทันที เดิมทีต่อให้ท่านแม่ทัพยังมึนตึงกับคุณหนูอยู่บ้าง แต่หากแวะเวียนมาที่เรือนเหลียนฟางบ่อยๆ บ่าวไพร่สอพลอพวกนี้ย่อมไม่กล้าปฏิบัติต่อพวกนางไม่ดี ได้ยินเช่นนี้ดูท่าจะไม่มีหวังเสียแล้ว "จวนแม่ทัพมีชื่อเสียงหน้าตาต้องรักษา พวกเขาไม่กล้าปฏิบัติต่อพวกเราไม่ดีหรอก" นางกล่าวปลอบใจเด็กสาวทั้งสองคน พอกินข้าวเสร็จก็เรียกเสี่ยวถงมาสั่งงาน "เสี่ยวถง เจ้าเอาป้ายคำสั่งข้าออกไปจากจวน ไปติดต่อเหลาสุราชื่อดังในเมืองนี้ ให้จัดสุราอาหารครบสามมื้อเป็นเวลาเจ็ดวัน บอกว่าฮูหยินน้อยชื่นชอบอาหารของที่ร้าน จากนี้ไปจะอุดหนุนให้ส่งอาหารเข้ามาในจวนบ่อยๆ" เสี่ยวซานย่นคิ้ว "ฮูหยินน้อยเจ้าคะ ถึงแม้สินเดิมของท่านจะมีมากมาย แต่ใช้จ่ายเช่นนี้ก็สิ้นเปลืองโดยไม่สมควรนะเจ้าคะ ยิ่งท่านให้เสี่ยวถงไปติดต่อเหลาสุราชื่อดัง ในเมืองนี้ก็เห็นจะมีแต่หอเทียนฝู มื้อหนึ่งมิใช่ต้องสิ้นเปลืองเป็นร้อยตำลึงหรือเจ้าคะ" เนี่ยซวงยิ้ม สิ่งที่นางไม่เคยขาดก็คือเงิน จะใช้ไปมากสักหน่อย ประเดี๋ยวก็ได้กลับคืนมา นางไม่เคยทำการค้าขาดทุน! "ไม่หรอก ที่สั่งมาก็ไม่ต้องจ่าย ประเดี๋ยวก็จะมีคนออกให้เอง อ้อ! ตอนนี้ที่เรือนยังไม่มีบ่าวทำงานหนักใช่หรือไม่ พวกเจ้าคงต้องลำบากทำความสะอาดซักล้างด้วยตัวเอง เช่นนั้นเสี่ยวถงไปเหลาเทียนฝูแล้วก็แวะไปหานายหน้า บอกให้เขาป่าวประกาศว่าจวนแม่ทัพจะรับสาวใช้ ให้เขาคัดสรรบ่าวหญิงหน่วยก้านดีมาให้ข้าเลือกสักหน่อย ไม่ต้องเป็นสัญญาขายขาดก็ได้ ข้ายินดีจ่ายเบี้ยหวัดรายเดือน" เสี่ยวซานและเสี่ยวถงฟังแล้วก็ยังมีสีหน้างุนงง เหตุใดฮูหยินน้อยใช้วิธีสิ้นเปลืองแก้ปัญหาอย่างนี้เล่า เช่นนี้สินสมรสที่ได้มาจะมีอะไรเหลือ แต่สีหน้ามั่นใจของเจ้านายทำให้พวกนางไม่กล้าขัด เสี่ยวถงที่คล่องแคล่วจึงรับป้ายคำสั่งจากนาง ก่อนจะผละไป เนี่ยซวงยังไม่ลืมกำชับ "อย่าลืมบอกที่เหลาเทียนฝูว่าให้ส่งอาหารที่เรือนฮูหยินน้อย เจ้ายังไม่ต้องจ่ายค่าอาหาร บอกให้เขามาเก็บที่ข้า" "เจ้าค่ะ" เสี่ยวถงรับคำแล้วจึงจากไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม