EP.2 SLAVE TO LOVE ♥ ตอน NEW GM (General Manager)

1574 คำ
EP.2 SLAVE TO LOVE ♥ ตอน NEW GM (General Manager) - KINGSTON HOTEL - ณ โรงแรมคิงส์ตัน กรุงเทพมหานคร ปั่ก! ฝ่ามือหนากำหมัดแน่นทุบลงที่โต๊ะอาหารสุดหรู ทำเอาเหล่าพนักงานภายในห้องอาหารหรูสะดุ้งโหยงไปตาม ๆ กัน “รสชาติอาหาร...เอาไปเทให้หมายังไม่รู้เลยว่าหมาจะกินหรือเปล่า!” GM หนุ่มรูปหล่อลูกเสี้ยวไทย-อิตาลีตวาดลั่นห้องอาหาร พนักงานที่ยืนเข้าแถวเรียงรายอยู่ตรงหน้าก้มหน้าลงอย่างไม่กล้าสบตาของเขาเลยแม้แต่คนเดียว ทางด้านหัวหน้าเชฟห้องอาหารเองก็ถึงกับชะงักไปเลยเมื่อเห็น GM หนุ่มเทอาหารที่เพิ่งจะเสิร์ฟไปลงถังขยะทั้งหมด เคร้ง~ เขาวางกระแทกจานเปล่าลงบนโต๊ะอีกครั้ง คลินต์ขบกรามแน่นก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะ “อ้างตัวว่าเป็นมือต้น ๆ ของประเทศ...ทำอาหารได้อร่อยที่สุดแค่นี้งั้นเหรอ?” ริมฝีปากร้ายพูดแดกดันอย่างใส่อารมณ์ใส่หัวหน้าเชฟและมองเหล่าพนักงานในห้องอาหารด้วยแววตาดุ ๆ “นี่มันไม่ใช่แค่รสชาติที่แย่นะ...แต่วัตถุดิบที่ใช้ทำก็เกรดต่ำ อาหารพวกนี้มันคู่ควรสำหรับแขกที่เขายอมจ่ายแพง ๆ เพื่อนอนในโรงแรมหรูระดับห้าดาวแล้วเหรอ?” คลินต์ตวาดลั่นห้องถามไปอย่างตรงไปตรงมา เพราะเขาเองก็ทานอาหารภัตตาคารหรูมาโดยตลอด เขารู้ดีว่าอาหารที่รสชาติดี ๆ วัตถุดิบดี ๆ มันต้องรสชาติประมาณไหน “ผมขอโทษครับคุณคลินต์ ขอโทษนะครับ ๆ” หัวหน้าเชฟวัยกลางคนก้มหัวโค้งคำนำ GM หนุ่มคนใหม่หัวแทบจะติดพื้น “คำขอโทษฉันไม่ต้องการ...เอากองไว้ตรงนั้นแหละ!” ร่างสูงลุกขึ้นยืนพร้อมกับเดินไปประจันหน้ากับหัวหน้าเชฟทันที เนื่องจากโดยปกติแล้วห้องอาหารบุฟเฟต์ในตอนเช้าจะปิดให้บริการในเวลา 10 โมงตรง ตอนนี้จึงไม่มีลูกค้าท่านอื่น ๆ บรรยากาศในห้องเงียบสงัด พนักงานเกือบ 20 คนไม่มีใครกล้าพูดคุยหรือส่งเสียงดังใด ๆ ออกมาเลย เพราะพวกเขารู้สึกกลัวเกรง GM คนใหม่จนลนลานไปหมด หลังจากที่คลินต์ได้อ่านคอมเมนต์รีวิวโรงแรมต่าง ๆ ของบรรดาแขกที่เข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ผ่านทางเว็บไซต์ มันก็มีทั้งคอมเมนต์เชิงบวกและเชิงลบปะปนกันไป เชิงบวกส่วนใหญ่จะเป็นห้องพัก และบริการของแผนกสปา แต่คอมเมนต์ในเชิงลบล้วนแล้วแต่มาจากห้องอาหารทั้งสิ้น เขาจึงไม่นิ่งนอนใจที่จะเข้ามาสุ่มตรวจการทำงานที่นี่โดยไม่ได้บอกกับใครเอาไว้ล่วงหน้า พวกพนักงานจึงไม่รู้มาก่อนเลยว่าวันนี้ GM คนใหม่จะเข้ามาตรวจในวันนี้ คลินต์รวบรวมผลประกอบการและรีวิวแย่ ๆ เก็บเอาไว้ในแฟ้มเอกสารอ่านซ้ำไปซ้ำมาก่อนจะลงมาสำรวจด้วยตัวเองว่าทุกอย่างที่แขกคอมเมนต์มาเสีย ๆ หาย ๆ มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ห้องอาหารนี้มีการเบิกงบประมาณสูงถึง 3% เมื่อเทียบกับโรงแรมคิงส์ตันในสาขาอื่น ๆ แม้ว่ามันจะเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ไม่มากเท่าไร แต่ด้วยความเข้มงวดของ GM คนใหม่อย่างคลินต์เขาไม่คิดจะปล่อยผ่านแน่ ๆ ถ้าเบิกเงินเพิ่มแต่คุณภาพอาหารดีสมราคาเขาก็คงไม่โวยวายอะไร แต่พอมาเจอกับรสชาติอาหารของที่นี่แย่กว่าโรงแรมคิงส์ตันในสาขาอื่น ๆ ที่เขาไปตรวจทานมาก่อนหน้า จึงทำให้เขาโมโหมากจริง ๆ “อาหารแทบจะทุกอย่างในเลานจ์ ทั้งเย็น ทั้งจืดชืด ไม่มีอะไรอร่อยเลยสักอย่าง!” เขาเริ่มเดินสำรวจอาหารบุฟเฟต์ที่จัดเรียงรายเอาไว้อย่างสวยงาม แต่มันสวยแค่เวลามองจริง ๆ คลินต์กวาดสายตามองไปทั้งโต๊ะอาหาร “ถ้าไม่ติดว่าฉันต้องเสียเงินเพื่อซื้อเครื่องครัวชุดใหม่ ฉันคงถีบคว่ำไปแล้วทั้งโต๊ะนี้” เขาพูดอย่างเหลืออด “ห้องอาหารมีพนักงานตั้ง 20 คน ไม่มีใครคอยดูแล คอยเติมอาหารใหม่ คอยอุ่นอาหาร หรือสับเปลี่ยนเมนูในแต่ละวันให้แขกที่เข้าพักเลยเหรอ?” คลินต์ถามขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง “ข้าวต้มตอนเช้าของที่นี่...นึกว่าเอาน้ำล้างจานผสมข้าวมาให้กิน” สายตาคมกริบตวัดมองไปที่หัวหน้าเชฟที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเขาเท่าไรนัก “ถามจริง ๆ นี่ใช้มือหรือเท้าทำกันเหรอ?” คลินต์พูดใส่หน้าของเหล่าพนักงานอย่างไม่พอใจจนเก็บอาการแทบไม่อยู่เลยด้วยซ้ำ “หมูเมื่อวาน ค้างมาหลายคืนสินะ... เหม็นจนแทบจะอ้วก!” คลินต์ตักข้าวต้มหมูในหม้อขึ้นมามองพิจารณาอยู่พักใหญ่ โดยปกติแล้วถ้าเทียบกับโรงแรมสาขาอื่น ๆ ข้าวต้มจะเป็นตัวเลือกอาหารเช้าสำหรับแขกผู้เข้าพักมากที่สุด แต่ที่นี่เหลือเยอะจนเหมือนว่าไม่มีใครหลงมาตักไปทานเลยด้วยซ้ำไป “คือ...” หัวหน้าเชฟเหงื่อแตกพลั่ก ๆ อย่างไม่รู้จะอธิบายกับเขาอย่างไรดี “น่าแปลกที่หัวหน้าห้องอาหารขอเบิกเงินมากกว่าสาขาอื่น ๆ แต่กลับทำออกมาได้แย่ที่สุด โดนลูกค้าคอมเพลนประจานอยู่หน้าเว็บไซต์ของโรงแรม...เข้าไปอ่านกี่ทีก็อายจนฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว!” คลินต์ขึ้นเสียงดังลั่นจนพนักงานหน้าเสียกันไปเป็นแถบๆ “ทั้งเดือนมีเมนูบุฟเฟต์เดิมเมนูเดียว ไม่เปลี่ยนหรือเพิ่มเติมอะไรใหม่ ๆ เลย” ทายาทคนเดียวของเครือโรงแรม KINGSTON ยังคงวิพากษ์วิจารณ์ห้องอาหารต่ออย่างดุเดือด “แขกที่จองห้องพักสักหนึ่งสัปดาห์ขึ้นไปก็ต้องทนกินข้าวต้มมันทุกวัน ๆ ...ข้าวในคุกยังดีกว่าที่นี่เลยมั้ง!” เขาหยุดถามที่พนักงานเสิร์ฟผู้ชายคนหนึ่งพร้อมกับดึงโบสีแดงให้อยู่ตรงกลาง พร้อมกับจับสูทที่ยับ ๆ ให้เรียบตรงแบบเป๊ะ ๆ “ที่นี่...อาหารก็โคตรห่วย บริการก็โคตรแย่ และนี่การแต่งตัวยังมอซอดูแทบไม่ได้เลย” คลินต์พูดขึ้นและมองที่รูขาด ๆ ที่ชายเสื้อของพนักงานชายตรงหน้า “นี่พวกเธอบริการในโรงแรมหรูของฉันหรือบริการในสลัมกันแน่?” เขาพูดขึ้นพร้อมกับมองไปยังพนักงานทุกคนอย่างสำรวจเครื่องแต่งกาย จริง ๆ มันก็ไม่ได้แย่มาก แต่ถ้าเทียบกับความหรูหราของโรงแรมเขาแล้ว มันดูเก่าอยู่พอสมควรเลยเหมือนกัน “ขอโทษครับ ๆ” หัวหน้าเชฟไม่มีคำแก้ตัวใด ๆ นอกจากการขอโทษขอโพยอย่างเต็มที่ “หัวหน้าเชฟส่งจดหมายขอเบิกเงินมาตัดชุดยูนิฟอร์มใหม่เมื่อปลายปีก่อน!” คลินต์พูดต่ออย่างจดจำรายละเอียดได้ถี่ยิบ “แต่ชุดพนักงานยังเก่าจนขาด ซักจนหด สีซีดสนิท ถ้าจะให้พูดเลยก็คือขอทานข้างถนนยังดูดีกว่าอีกมั้ง” เขาบ่นร่ายยาวและส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้เลยจริง ๆ กับความห่วยแตกของคนในห้องนี้ “คือ...ทางห้องอาหารมีค่าใช้จ่ายเยอะนะครับ GM” หัวหน้าเชฟพูดขึ้นเบา ๆ อย่างเกร็งไปทั้งตัว “และที่ผมยังไม่ได้ตัดชุดยูนิฟอร์มให้กับพนักงาน เพราะผมก็ต้องค่อย ๆ แบ่งเงินที่เบิกมาไปซื้อพวกของใช้จำเป็นจริง ๆ ก่อน เช่นพวกจาน ชาม แก้วเหล้า แก้วไวน์” หัวหน้าเชฟรีบหาข้อชี้แจงเพื่อเอาตัวรอดในทันที “ที่พวกลูกค้ามักจะทำแตกอยู่บ่อย ๆ ผมเลยต้องซื้อมาเปลี่ยนใหม่อยู่เรื่อย ๆ” คำพูดของหัวหน้าเชฟทำให้บรรดาลูกน้องที่ยืนฟังอยู่ถึงกับขมวดคิ้วอย่างเก็บอาการไม่อยู่ “เงินที่เบิกมาเอาไปเป็นค่าจานแก้วที่แขกทำแตกเนี่ยนะ?” คลินต์ตวาดกลับไปอย่างเสียงสั่น “พนักงานที่นี่โง่กันทุกคนแบบนี้เลยเหรอ...แขกทำแตกแต่โรงแรมต้องรับผิดชอบจ่ายเอง?” คลินต์หันไปถามรองหัวหน้าเชฟด้วยแววตาที่กดดัน “เอ่อ...เรื่องที่หัวหน้าพูดมาไม่เป็นความจริงค่ะ GM” เธอรีบพูดความจริงทันทีเพราะกลัวว่าจะโดนคาดโทษไปด้วย “จานหรือแก้วต่าง ๆ ที่แตกส่วนใหญ่หากเกิดขึ้นจากแขกที่เข้าพัก เราจะชาร์จค่าเสียหายเป็นสองเท่าของราคาจริงเลย และเราก็ลงบิลค่าเสียหายรวมเข้าไว้ที่ห้องพักของแขกคนนั้นค่ะ” เธออธิบายต่ออย่างละเอียดยิบ ทำเอาหัวหน้าเชฟนิ่งไปอย่างไม่สามารถคิดหาข้อแก้ตัวได้ทัน “งั้นก็หมายความว่า หัวหน้าเชฟที่นี่ใช้อำนาจ ตำแหน่งของตัวเอง ยักยอกเงินที่เบิกมาของโรงแรมเข้ากระเป๋าตัวเองสินะ” คนตัวสูงเอ่ยถามขึ้นและจ้องมองไปที่หัวหน้าเชฟคนเก่าคนแก่ของทางโรงแรมนิ่ง ๆ “ผะ...ผม” ทางหัวหน้าเชฟเริ่มพูดจาติด ๆ ขัด ๆ อย่างคิดหาคำแก้ตัวไม่ได้อีก “ไม่ได้ทำนะครับ” ชายวัยกลางคนส่ายหน้าตอบอย่างเสียงสั่น “ฉันให้โอกาสตอบอีกครั้งหนึ่ง!” GM จอมโหดเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อของเขาอย่างหมดความอดทน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม