บทที่4) ดอกฟ้ากับหมาวัด

1196 คำ
พิภูกำลังนอนดูดาวอยู่บนพื้นสนามหญ้าภายในบ้านเก่ากลางใหม่ของตนด้วยความรู้สึกว้าวุ่นที่กำลังรบกวนอยู่ข้างในจิตใจ "อยากเกิดมามีตังค์จัง" นับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่พิภูเอ่ยประโยคนี้ออกมาจากปาก ตั้งแต่เล็กจนโตเขาพึงพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีมาเสมอ เขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองขาดตกบกพร่องมาก่อนจนกระทั่งโลกใบนี้ได้โคจรให้เขามาเจอกับยังอร จึงทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองมีนั้นยังไม่มากพอที่จะทำให้เขาได้ควรคู่กับเธอ "ภูลูก..." พัชรพลที่กำลังจะมาตามลูกชายให้เข้านอนแล้วบังเอิญมาได้ยินประโยคนั้นจากปากของพิภูเข้าพอดี ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารลูกชายของตัวเอง "ภู เข้านอนได้แล้วลูก พรุ่งนี้วันจันทร์มีตลาดเช้านะลูก" คนเป็นพ่อกลืนก้อนขมขื่นลงคอก่อนจะร้องเรียกให้ลูกชายเข้านอนตามความตั้งใจเมื่อก่อนหน้านี้ "คะ...ครับคุณพ่อ" น้ำเสียงจากริมฝีปากหยักหนานั้นสั่นระริกด้วยความรู้สึกกลัวว่าพ่อนั้นจะได้ยินว่าเมื่อก่อนหน้าเขาได้พูดอะไรออกมาบ้าง พัชรพลมองตามหลังลูกชายที่เดินหายเข้าไปในห้องพร้อมด้วยใบหน้าเปื้อนด้วยหยดน้ำตาแห่งความรู้สึกขมขื่น ก็คงไม่มีพ่อแม่ที่ไหนที่อยากจะได้ยินลูกของตัวเองตัดพ้อถึงฐานะความเป็นอยู่ของทางบ้านหรอกจริงไหม "พ่อขอโทษนะภู พ่อขอโทษที่พ่อเกิดมาจน" บ้านที่เขาและครอบครัวใช้ซุกหัวนอนอยู่ในตอนนี้ก็เป็นแม่ของบังอรที่ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเขาเมื่อครั้งยังเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน ธุรกิจขายเสื้อผ้ามือสองที่กำลังไปได้ดีในตอนนี้ก็มีภรรยาของเขาที่เป็นเจ้าของมาตั้งแต่ต้น เขาไม่มีอะไรเลย เขามีแต่ตัว ที่มีมาได้ทุกวันนี้ก็เพราะภรรยาและเพื่อนสาวคนสนิทอย่างแม่ของของบังอรเท่านั้น "ร้องไห้ทำไมคะ" พนิดาพยุงร่างผอมแห้งของตัวเองเข้ามาหาสามีที่กำลังแอบนั่งร้องไห้ด้วยความเป็นห่วง "ร้องไห้ทำไมคะ คนดีของเพลง" พนิดารู้ดีว่ามีไม่กี่เหตุผลนักหรอกที่จะทำให้คนเข้มแข็งอย่างสามีของเธอนั้นหลั่งน้ำตา และในตอนนี้เธอก็รู้ดีด้วยว่าสามีของตัวเองกำลังรู้สึกอย่างไร "เพลงไม่อยากให้พัชโทษตัวเองนะคะ และเพลงเองก็ไม่เคยมองว่าพัชมีแต่ตัว เพราะสำหรับเพลงแล้วพัชมีทุกอย่าง พัชสมบูรณ์และพัชก็เพียบพร้อมในทุกๆอย่างสำหรับเพลงเสมอ และถึงแม้จะมีใครที่มองไม่เห็นในสิ่งที่พัชมีแต่เพลงมองเห็นสิ่งต่างๆเหล่านั้นในตัวพัชมาเสมอนะคะ เพลงรักพัชค่ะ" สองแขนที่เล็กลงอย่างเห็นได้ชัดสวมกอดเอวแกร่งของสามีก่อนจะประทับริมฝีปากลงบนหน้าอกด้านซ้ายของสามีเบาๆ "เพลงจุ๊บรักษาหัวใจให้พัชแล้วนะ อย่าแตกสลายไปมากกว่านี้เลยนะคะที่รัก เพลงใจจะขาด" "ขอบคุณครับ ฮึก..พัชรักเพลง" "เพลงเองก็รักพัชค่ะ ไปนอนกันดีกว่านะคะพรุ่งนี้เรามีตลาดเช้านะ" "ครับ" คฤหาสน์ศิวาพร "บังอร นั่นลูกกำลังจะไปไหนน่ะ" ชยพัทธ์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในสวนเรียกถามบุตรสาวที่ในวันนี้ตื่นเช้าในรอบทศวรรษ "ก็ไปเก็บค่าเช่าแผงในตลาดแทนคุณแม่ยังไงละคะคุณพ่อขา" บังอรขานรับพ่อสุดที่รักเสียงใสก่อนจะเดินตรงมาหาคุณพ่อที่ยังคงจ้องเขม็งเธออยู่ตรงที่เก้าอี้ตัวเดิม "นี่ลูกไม่สบาย หรือพ่อเองที่หูเพี้ยนไป นึกครึ้มอะไรขึ้นมาถึงจะออกไปเก็บค่าเช่าในตลาดตั้งแต่ฟ้าไม่ทันสว่างบังอร ปกติไม่บ่ายสามโมงลูกสาวของพ่อเคยลุกขึ้นมาจากเตียงที่ไหนกัน" ชยพัทธ์หรี่ตามองบุตรสาวแสนหวงของตัวเอฃอย่างจับพิรุจ หากแต่เขาก็พยายามอย่างหนักที่จะมองว่าสิ่งที่ลูกสาวกำลังกระทำนั้นนับได้ว่าเป็นเรื่องดีงาม แม้ข้างในใจลึกๆจะรู้สึกถึงลางสังหรณ์อะไรบางอย่างอยู่ก็ตาม.... "คุณพ่ออ่ะ บังอรงอนแล้ว ไม่คุยด้วยแล้ว" เพราะไม่อยากให้พ่อนั้นจับไต๋ได้ว่าตัวเองกำลังจะหนีไปหาพ่อค้าขายเสื้อผ้ามือสองที่มีโอกาสได้เจอกันเมื่อวันก่อน บังอรจึงทำท่าทีกระเง้ากระงอดและรีบปลีกตัวออกห่างจากผู้เป็นพ่ออย่างแนบเนียน "อ้าว... พ่อก็แค่แซวเล่นเองบังอร บังอรลูก" "ไอ้เต็งหนึ่ง" เมื่อแน่ใจว่ารถของลูกสาวออกตัวไปแล้วชยพัทธ์จึงหันไปเรียกมือขวาของตัวเองเพื่อทำการสั่งการณ์บางอย่าง "ครับนาย" "ตามคุณหนูบังอรไปแล้วระวังให้ดีอย่าให้เธอรู้ตัว ที่สำคัญคือรายงานกูทุกฝีก้าวการเดินของลูกสาวกู" "ครับนาย" ตลาดหงษ์สาศิโรคุณ "เอาน้ำส้มสองขวดจ้ะ" นิ้วเรียวสวยชี้ลงในถังสแตเลสที่บรรจุขวดน้ำผลไม้ขนาดพอรับประทานอยู่ด้านใน หลังจากที่พยายามคิดอยู่นานว่าจะซื้อน้ำอะไรไปฝากพ่อค้าขายเสื้อผ้ามือสองดีในที่สุดเธอก็เลือกเป็นน้ำส้ม "สามสิบบาทจ้ะ" "ไม่ต้องทอนจ้ะ" บังอรยื่นธนบัตรสีฟ้าให้กับแม่ค้าวัยสี่สิบกลางๆก่อนจะยื่นมือไปรับน้ำส้มที่ถูกจัดเอาไว้ในถุงเรียบร้อยแล้วมาจากมือของแม่ค้า "ขอบคุณจ้ะ" "ขอทางหน่อยจ้ะ" บังอรค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาในร้านขายเสื้อผ้ามือสองหลังคาสีชมพูหวานแหววอย่างระมัดระวัง ด้วยว่าวันนี้ในร้านนั้นมีเหล่าลูกค้าที่แน่นขนัดอยู่พอสมควรบังอรจึงกลัวว่าเธอจะนั้นจะเผลอไปเดินชนใครเข้านั่นเอง "พี่พิภูขาคิดถึงมีมี่หรือเปล่าคะ" "นังนั่นมันเป็นใครกัน" ดวงตากลมสวยเริ่มรีขวาง คิ้วสองข้างของนางก็เริ่มขมวดเข้าหากันอย่างรู้สึกไม่ค่อยพอใจที่พบว่ามีเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งชิงซื้อน้ำมาให้ชายหนุ่มตัดหน้าเธอไปเสียแล้ว "อ๋อ...เด็กคนนั้นเขามาตามจีบพี่ภูน่ะยัยอร" "ว้าย! ตาเถร" เพราะความตกใจที่จู่ๆก็มีเสียงปริศนาดังขึ้นมาจากทางด้านหลังจึงทำให้บังอรทุ่มน้ำส้มในมือลงพื้นไปอย่างลืมตัวจนมันหกกระฉอกออกมาจนหมดทั้งสองขวด "ยัยเพิร์ล! ฉันตกใจหมดเลย แล้วนี่แกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันเนี่ย!" เมื่อเห็นว่าใครคนนั้นคือเพื่อนสนิทที่บังเอิญเจอกันในกลุ่มคนโสดบังอรก็มีท่าทีสบายใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด "ฉันขายเสื้อผ้ามือสองแกลืมไปแล้วหรือไงยัยอร ไอ้การที่ฉันมาอยู่ที่นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่จริงไหม? แล้วผู้ชายที่แกกำลังจะซื้อน้ำส้มมาให้น่ะพี่ภู พี่ชายฉันเอง" "พี่ชาย!" โลกก็กลมเกิน 🤣🥰
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม