ตอนที่ 10

1166 คำ
น้ำผึ้งมองตามสายตาคุณชาย เธอเห็นแทบทุกอย่าง ถึงอยากให้แก้วออกไปอยู่ด้านนอกเสียดีกว่า ตอนพบหน้ากันครั้งแรกไม่เคยนึกอิจฉาที่แก้วกัลยาสวยมาก แต่พอคราวนี้เธออิจฉามากเสียจนเก็บอาการไม่อยู่ เป็นใครก็ต้องสนใจแก้วกันทั้งนั้น หากเธอเป็นผู้ชายก็คงคิดไม่ต่างกันหรอก “ป๊าแล้วพี่ใหญ่ไปไหน”ชายหนุ่มถาม “อาใหญ่ไปทำสัญญาค้าข้าวกับบริษัทต่างชาติ” “เหรอครับ” “ตอนนี้บริษัทของป๊าขยายใหญ่แล้วนะ”เจ้าสัวหัวเราะ “ก็ดีสิครับ ผมจะได้มีเงินใช้เยอะๆ”ชายหนุ่มแกล้งเย้า “บริษัทมันเป็นของลื้ออยู่แล้วอาเล็ก อั้วตั้งใจจะยกให้ลื้อ” ชายหนุ่มชะงัก รู้ว่าพ่อรักเขามาก แต่พี่ใหญ่เป็นคนทุ่มเททุกอย่างเพื่อครอบครัว เกือบแปดปีข่าวแว่วมาพี่สาวละงานที่รักเพื่อมาทำงานในบริษัท ซึ่งพ่อหมายมั่นให้เขารับช่วงต่อ “ผมว่าพ่อยกให้พี่ใหญ่ดีกว่านะครับ” “ได้ยังไงคะเดฟ บริษัทต้องเป็นของคุณสิ!”ลิลลี่ผ่ากลางวงขึ้นมาทันที เมื่อคิดว่าคู่ควงจะเสียผลประโยชน์ ธัญจกรหันมองคู่ควงสีหน้าไม่พอใจ เจ้าสัวเหลียงถึงกับชะงักมือตักข้าว ตระหนกกับคำพูดของเพื่อนบุตรชาย ใครจะคิดว่าไร้มารยาทขนาดนี้ “คุณไม่ต้องออกความเห็นลิลลี่ ไม่อยากนั้นผมจะส่งคุณกลับอังกฤษ!” คนถูกตำหนิหุบปากฉับพลันแสดงท่าทางไม่พอใจ ก่อนหันไปสนใจอาหารตรงหน้าต่อ “ขอโทษนะครับป๊า เพื่อนผมไม่ค่อยรู้มารยาทคนไทยสักเท่าไหร่”เขาออกตัวแทน “ไม่เป็นไรหรอกช่างเถอะ” ทุกคนบนโต๊ะเลยพากันเงียบ บ่อยครั้งเขาเหลือบมองบิดาเม้มปากอยากพูดว่าท่านเปลี่ยนไปมาก แต่กลับไม่กล้า ดูอ่อนแรง ผิวพรรณไม่เปล่งปลั่งเหมือนก่อน คิดแล้วรู้สึกผิดพ่อคงคิดมากเรื่องเขาไม่น้อยเลยทีเดียว จบมื้ออาหารเจ้าสัวพูดคุยกับบุตรชายอีกพัก จันกวาดตามองหาแก้วแต่ไม่พบ “กรอง แก้วมันไปไหนของมันเจ้าสัวจะขึ้นนอนแล้ว!” “เดี๋ยวฉันไปตามให้”กรองกาญจ์อาสาทันที น้ำผึ้งตวัดสายตามองสีหน้าไม่พอใจ เธออยากเป็นคนดูแลเจ้าสัวแทนเสียแล้วในตอนนี้   กรองกาญจ์สาวเท้าเดินมาสวนด้านหลัง เห็นบุตรสาวนั่งอยู่บนหินก้อนใหญ่ เลยสาวเท้าเข้ามาหาแล้วจับไหล่บางไว้ แก้วกัลยาสะดุ้งหันมอง “แก้วไปดูแลเจ้าสัวได้แล้ว” “ท่านอิ่มแล้วเหรอแม่” “ใช่” ร่างบางลุกยืนถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ คนเป็นแม่เห็นถึงความผิดปกติ “เป็นอะไรหรือเปล่า แม่เห็นทำหน้าเหมือนคนไม่สบาย”กรองกาญจ์เอ่ยถามแล้วยกมือแตะหน้าผาก “เปล่าค่ะแม่ แค่รู้สึกเบื่อเท่านั้นเอง” “เบื่ออะไร คุณชายมาเจ้าสัวดีใจ คนในบ้านก็มีความสุขกันทั้งนั้น” เธออยากจะตอบเหลือเกินว่า เพราะคุณชายมานั้นแหละทำให้ไม่มีความสุข “จ้า เข้าใจแล้วค่ะแม่” ร่างบางเดินเคียงมารดาเข้ามาด้านใน และแล้วสายตาสองคู่สบกันอีกครั้ง แก้วกัลยารีบหลุบตามองพื้นแล้วก้าวมายืนขนาบข้างเจ้าสัวเพื่อคอยพยุง ธัญจกรจึงลุกจากโต๊ะแล้วจับแขนบิดาอีกฝั่ง “เดี๋ยวผมช่วยอีกแรงนะป๊า” “เออ... ดีๆ” เจ้าสัวแสดงทีท่าพอใจ แต่สำหรับเธอมันเหมือนช่วงเวลาแห่งความน่ากลัว สามคนก้าวสู้ชั้นบนจนถึงหน้าห้องนอน แก้วกัลยาพยุงท่านไว้ปล่อยให้คุณชายเปิดประตูห้อง จังหวะก้าว เจ้าสัวเหลียงเซจนดึงร่างเธอลงด้วย ชายหนุ่มอ้าแขนโอบรัดบิดาพร้อมกับร่างบางในคราวเดียวกันเพื่อไม่ให้ทั้งคู่ล้มลง เอวบางรู้สึกได้ถึงมือผ่าวร้อน ใบหน้าเรียวแดงซ่านขึ้นมา เธอพยายามเบี่ยงกายหนีแต่เหมือนอีกฝ่ายจะโอบกระชับดึงดันให้ออกไม่ได้ ดวงตาเรียวสวยช้อนมองเห็นสีหน้ากรุ่มกริ่มรอยยิ้มแฝงปริศนาส่งมา ร่างกายเหมือนถูกน้ำแข็งมันชาขึ้นมาอย่างกะทันหัน “ขอบใจอาเล็ก อั้วนึกว่าจะล้มทับอาแก้วเสียแล้ว”เจ้าสัวเหลียงหัวเราะเบาๆ ธัญจกรยอมคลายอ้อมแขน แล้วพยุงบิดาเข้าห้อง ไม่วายหันมามองหญิงสาวแล้วพยักหน้าให้เธอเข้ามาด้วย แก้วกัลยายืนชั่งใจ ไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นอีกแล้ว “อาแก้ว ลื้อเข้ามาด้วยสิ มาอ่านหนังสือให้อั้วฟังก่อน อาเล็กจะได้ฟังด้วย”ชายชราเอ่ยเรียก แล้วหันมาทางบุตรชาย “อาแก้วอ่านหนังสือเก่งมากเลยอาเล็ก อั้วอยากให้ลื้อฟังด้วย” “ครับป๊า ผมก็อยากฟังเหมือนกัน”เขาหันมองทางหญิงสาว ร่างท้วมนั่งลงบนเตียงแล้วเอนกายลงนอน ขณะที่แก้วกัลยาพับเพียบกับพื้นแล้วเปิดหนังสือขงจื้ออ่าน เสียงหวานเจื้อยแจ้วฟังแล้วสบายหู ชายหนุ่มยิ้มพรายจ้องมองใบหน้าสวยหวานราวกับต้องมนต์สะกด รู้สึกถูกชะตา จู่ๆ ความคิดหนึ่งก็แว๊บขึ้นมา เมื่อความต้องการครอบครองกำลังตีตื้น ไม่นานเจ้าสัวหลับเรียบร้อย คนอ่านจึงปิดหนังสือ สภาพการณ์เช่นนี้เธอไม่ควรอยู่ในห้องเดียวกับเขา มันอึดอัดเกินกว่าจะรับไหว พยายามไม่สบตาหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้แต่เหมือนว่าทุกอย่างไม่มีความหมาย เธอยังรู้สึกถึงการมองของอีกฝ่าย มันกดดันมาเหลือเกิน “แก้วขอตัวก่อนนะคะคุณชาย”บอกเขาแล้วลุกยืน วางหนังสือไว้บนโต๊ะไม้ข้างเตียง ชายหนุ่มชะงักลุกตามแล้วก้าวมาขวางหน้าเธอไว้ แก้วกัลยาผงะถอยหลังด้วยอาการตื่นตระหนก “อะไรกัน กลัวฉันมากเหรอ”เขาถามสีหน้าสดใส และดูเหมือนจะสนุกที่ได้แกล้ง “ปะ...เปล่าค่ะ” “แล้วทำไมต้องรีบถอยหนีด้วยล่ะ” “แก้วไม่ได้ถอยหนีค่ะ” “ไม่ถอยงั้นเหรอ?”เขายิ้มอย่างมีเลศนัย เห็นรอยยิ้มแล้วเธอชักกลัว ร่างสูงก้าวเท้าเข้ามาใกล้ แก้วกัลยารีบถอยหลังด้วยความตกใจ “ไหนว่าไม่ถอยไง” “คือว่า...”เธอปากสั่นพูดไม่ออก “ฉันน่ากลัวตรงไหนเหรอแก้ว ปกติมีแต่คนชอบเข้าใกล้ฉันนะ”ชายหนุ่มเลิ่กคิ้วถาม อยากออกไปจากห้องนี้ ทำไมคุณชายถึงได้น่ากลัวขนาดนี้ พบหน้ากันไม่กี่ชั่วโมงกลับแสดงท่าทีแปลกๆ ใส่เสียแล้ว “คุณชายไม่ได้น่ากลัวหรอกค่ะ แต่ว่าแก้วมีธุระต้องทำอีกเลยต้องรีบออกไป!”เธอพยายามหาข้อแก้ตัว ธัญจกรจ้องมองใบหน้าของเธอ สาวใช้บิดาชื่อแก้วทำให้ใจเขาเต้นแรงจนแทบทะลุออกนอกอก เหมือนเธอมีบางอย่างดึงดูดให้เขาเข้าหา แล้วท่าทางเหมือนคนกำลังกลัวแบบนี้ยิ่งสร้างความสนุกให้เขานัก “งั้นเหรอ ดูเธอขยันดีนะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม